รีวิวหนัง OPERATION MINCEMEAT

รีวิวหนัง OPERATION MINCEMEAT

ชื่อเรื่องOPERATION MINCEMEAT
เรตติ้ง6.5
นักแสดงColin Firth
จำนวนตอน2.08 ชั่วโมง

รีวิวหนัง OPERATION MINCEMEAT

รีวิวหนัง OPERATION MINCEMEAT ภาพยนตร์ยุคสงครามเย็นผู้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้าง FAKE NEWS ในยุคที่สื่อออนไลน์ได้รับความนิยมเหมือนกันในปัจจุบัน ทำให้เราได้เห็นทั้งข่าวที่เป็นความจริงและ FAKE NEWS ซึ่งเป็นข่าวที่ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดเป็นจำนวนมาก เราจึงมีความสามารถในการใช้วิจารณญาณอย่างหนักหน่วงเพื่อพิจารณาว่าข่าวที่เราได้รับชมเข้าไปนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเรื่องโกหกกันแน่ แต่สำหรับคนในยุคสมัยก่อนที่การรับข่าวสารมาจากสื่อหลักที่น่าเชื่อถือ ทำให้เวลามีการปล่อย FAKE NEWS ออกมามักจะกลายเป็นที่เชื่อถือและฝังหัวคนในยุคนั้นมาจนถึงปัจจุบัน 

ยิ่งหากเป็นคนที่เติบโตขึ้นมาในยุคสงครามเย็นซึ่งเป็นยุคสงครามข่าวสารและการสะสมอาวุธแล้วยิ่งเต็มไปด้วย FAKE NEWS มากมาย มันอาจจะเป็นคำในเชิงลบแต่มันนับเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการปฏิบัติการสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมไปถึงในยุคสงครามเย็น แต่ที่เราพูดถึงเรื่องราวข่าวลวงในวันนี้เนื่องจากภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำเป็นภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการปล่อยข่าวลวงที่กลายเป็นจุดกำเนิดของความพ่ายแพ้ของฮิตเลอร์อย่างภาพยนตร์เรื่อง OPERATION MINCEMEAT

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาเราย้อนกลับไปในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ใช้แผนกลยุทธ์ในการปล่อยข่าวปลอมซึ่งกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของความพ่ายแพ้ให้กับกลุ่มอักษะในที่สุด แม้ว่ามันจะไม่ได้เล่าเรื่องราวการต่อสู้ในสงครามแนวหน้าแต่ก็เป็นการต่อสู้ด้วยสงครามข่าวสารของบรรดาสายลับที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจและความลุ้นระทึก ทำให้เรารู้สึกอยากติดตามว่าเรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไรได้อย่างยอดเยี่ยม 

หนังสงครามมันๆ

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง OPERATION MINCEMEAT

OPERATION MINCEMEAT เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าเรื่องราวในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก มันเป็นสิ่งที่สามารถพลิกสถานการณ์สงครามได้เลยทีเดียวเพราะหากเรามีข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามก็จะทราบว่ายุทธการรบเป็นอย่างไรและช่วยให้เราสามารถเตรียมตัวรับมือได้อย่างทันท่วงที ในขณะเดียวกันมันก็กลายมาเป็นกลยุทธ์ในการทำให้ศัตรูหลงเชื่อข่าวปลอมเช่นเดียวกัน หากสามารถบิดเบือนข้อมูลหรือหลอกให้ศัตรูสามารถหลงกลไปกับเขาปลอมที่ปล่อยไปได้ก็จะพาไปสู่ผลลัพธ์ที่ทำให้พวกเขากลายเป็นฝ่ายชนะได้อย่างง่ายดาย 

ด้วยเหตุนี้กองทัพอังกฤษจึงต้องการที่จะพลิกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสท่ามกลางสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด พวกเขาได้ทำการวางแผนที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการที่ข้อมูลรั่วไหลออกไปยังฝั่งศัตรูโดยศัตรูนั้นค้นพบจากศพของทหาร พวกเขาจึงได้เกิดความคิดในการสร้างศพทหารที่ตายแล้วขึ้นมาเป็นการส่งข่าวปลอมไปยังฝ่ายศัตรูเพื่อเป็นการรักษาทหารฝ่ายอังกฤษเป็นจำนวนมากกว่า 1 แสนคนรวมไปถึงประชาชนในประเทศให้รอดพ้นจากสงครามในครั้งนี้ให้สำเร็จ

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง OPERATION MINCEMEAT

OPERATION MINCEMEAT เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็จริงแต่อย่างที่เราบอกไปว่ามันจะเน้นเรื่องสงครามข้อมูลข่าวสารมากกว่าสงครามแนวหน้าที่เต็มไปด้วยการต่อสู้ยิงแหลกแจกกระสุน ดังนั้นมันจึงเป็นภาพยนตร์แนวสงครามพี่อาจจะไม่ได้มีฉากต่อสู้ให้คุณได้เห็นมากมาย แต่คุณจะได้สนุกสนานและลุ้นระทึกไปกับการปฏิบัติการทางข้อมูลและการสื่อสาร ช่วยให้เราเห็นได้ว่าสายลับในยุคนั้นทำงานอย่างไร พวกเขามีกลยุทธ์อย่างไรที่จะสามารถเอาชนะเยอรมันที่ในตอนนั้นมีความแข็งแกร่งเกินกว่าจะต้านทานได้สำเร็จ 

สิ่งที่ต้องยอมรับก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องได้ดีเท่าที่ควร แถมในบางช่วงก็มีจังหวะยืดยาดจนน่าเบื่ออีกต่างหาก แต่เมื่อเราสามารถรับชมได้จนจบเราจะค้นพบว่าองค์ประกอบในการเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่ใส่เข้ามานั้นสามารถสร้างความกลมกล่อมให้กับภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี แถมในช่วงครึ่งหลังก็สามารถเร่งเครื่องทำให้เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความเข้มข้นได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นฉากการต่อสู้เลยแต่ก็สามารถเข้าถึงบรรยากาศในช่วงสงครามได้อย่างลึกซึ้ง

ถือว่าเป็นผลงานที่ทำได้ในระดับมาตรฐานของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่อาจจะไม่ได้มีอะไรที่เป็นจุดเด่นหรือมีความหวือหวามากมาย แต่ก็สามารถสร้างความสนุกสนานให้กับภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี นักแสดงแต่ละคนสามารถประคองภาพยนตร์เอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมและช่วยยกระดับภาพยนตร์ให้กลายเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจได้สำเร็จ 

และสิ่งที่น่าสนใจสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้อีกหนึ่งอย่างก็คือแม้ว่ามันจะเป็นภาพยนตร์แนวสงครามข้อมูลที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและความลุ้นระทึก แต่ภาพยนตร์ก็ได้มีการสอดแทรกอารมณ์ขันและมุขตลกเข้ามาในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แม้ว่าบางช่วงมันจะดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่แต่มันก็กลายเป็นตลกร้ายที่สร้างความกลมกล่อมให้กับภาพยนตร์โดยรวมได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว 

แต่สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีจุดหมองก็คือการใส่ประเด็นศึกชิงนางท่ามกลางสภาวะสงครามเข้าไป ซึ่งความรักโรแมนติกท่ามกลางสงครามสายลับนั้นถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจแต่ด้วยบรรยากาศของภาพยนตร์ที่นำเสนอแบบตึงเครียดแล้วสอดแทรกประเด็นความรักสามเส้าเข้ามามันเลยดูประดักประเดื่ออย่างที่ไม่ควรจะเป็น 

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นภาพยนตร์แนวสงครามข้อมูลข่าวสารและปฏิบัติการสายลับที่ทำออกมาได้อยู่ในระดับมาตรฐาน แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบอะไรมากมายแต่ก็สามารถเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ในอีกหนึ่งมุมมองออกมาได้ดีเลยทีเดียว 

ตัวอย่างหนัง OPERATION MINCEMEAT

รีวิว หนัง OPERATION MINCEMEAT บางส่วนจาก trueid

หนังใหม่ รีวิวหนัง วิจารณ์หนัง Operation Mincemeat พลิกแผนรบลวงโลก ถึงแม้คำว่า “เฟคนิวส์” ในยุคปัจจุบันกลายเป็นคำศัพท์ที่มีนัยยะเชิงลบไปเสียแล้ว แต่คำคำนี้กลับเคยเป็นหนึ่งในกลยุทธของปฏิบัติการเชิงสงครามในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาก่อน และเป็นแผนที่เคยจุดประกายความพ่ายแพ้ของฮิตเลอร์เสียด้วย นั่นจึงกลายมาเป็นการตีแผ่เรื่องราวในหนัง “Operation Mincemeat พลิกแผนรบลวงโลก” หน้าฉากการรบด้วยข้อมูลเชิงสายลับสุดแยบยล ที่แทบจะหาจารึกประวัติศาสตร์อ่านไม่ได้เสียด้วยซ้ำ เพราะนี่คือปฏิบัติการลับ ๆ ที่โลกแทบจะไม่รู้จัก

Operation Mincemeat พลิกแผนรบลวงโลก เล่าเรื่องราวในสงครามที่ “ข้อมูล” คือสิ่งสำคัญที่มีชัยเหนือกว่ายุทธการรบ เพียงแค่บิดเบือนหรือหลอกล่ออีกฝ่ายให้หลงกล ก็อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ของการเป็นผู้ชนะได้อย่างไม่ยากเย็น ทำให้งานนี้ทางกองทัพอังกฤษจึงต้องพลิกวิกฤตภายใต้สถานการณ์ที่กำลังคุกรุ่นให้เป็นโอกาส โดยการวางแผนที่ได้แรงบันดาลใจมาจากข้อมูลรั่วไหล ซึ่งหลุดไปยังฝั่งศัตรูจากศพของทหารที่มีข้อมูลการรบติดตัวอยู่ พวกเขาจึงผุดความคิดสร้าง “ศพทหาร” ที่ตายขึ้นมา เพื่อส่งข่าวปลอมที่อาจจะรักษาชีวิตของทหารอังกฤษกว่า 1 แสนนายและประชาชนทั้งประเทศให้รอดพ้นจากสงครามอันโหดร้ายนี้

แก่นแท้ของหนังเรื่องนี้เป็นหนังสงครามก็จริง แต่หากว่าคุณจะมองหาฉากรบและฉากต่อสู้ระเบิดตู้มตามอลังการบนจอ หนังเรื่องนี้คงจะไม่สามารถตอบโจทย์ของคุณเช่นนั้นได้ เพราะ Operation Mincemeat เป็นหนังดราม่าสงครามในรูปแบบเชิงปฏิบัติการทางข้อมูลและสื่อสารเป็นหลัง เจาะเข้าสู่วงในของกลุ่มปฏิบัติการลับของกองทัพอังกฤษและสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาพที่หนังปูทางออกมานั้น จึงกลายเป็นการระดมสมองและเจาะข้อมูลอย่างมีชั้นเชิงของแต่ตัวละคร

ก็ต้องการรับว่า Operation Mincemeat อาจะไม่ใช่หนังสงครามเชิงข้อมูลที่เล่าเรื่องได้ดีอะไรเลย หนังออกชวนน่าเบื่อในบางช่วงไปเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อองค์ประกอบของเรื่องราวทุกส่วนที่นำมาใส่ผสมอยู่ในหม้อเดียวกันแล้ว จังหวะในช่วงครึ่งหลังของหนังก็นับว่าเป็นช่วงที่เข้มข้นและสนุกคล้อยตามท้องเรื่องไปได้ง่าย ๆ เป็นหนังสงครามที่ไม่ได้มีฉากสงครามอะไร แต่สามารถสร้างอารมณ์ร่วมและกินใจได้ในระดับหนึ่ง

งานกำกับของ “จอห์น แมดเดน” (จาก Shakespeare in Love) ก็ถือว่าได้ตามมาตรฐาน ไม่มีอะไรที่ทำให้หวือหวาอะไรนัก จุดเด่นของหนังเรื่องนี้ก็ต้องยกให้กับทีมนักแสดงชั้นเยี่ยมจากทั่วฟ้าเมืองผู้ดีเขาเลย “โคลิน เฟิร์ธ” กับ “แมทธิว แม็กฟาเดียน” เป็น 2 หนุ่มที่ช่วยกันประคับประคองหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้อยู่หมัด การแสดงและการโอบอุ้มของพวกเขาช่วยยกระดับให้กับหนังได้ดี จากที่ค่อนข้างจืดชืดค่อยดูมีอะไร

แม้จะเป็นหนังสงครามข้อมูลแน่น ๆ แต่ Operation Mincemeat ก็พยายามที่จะใส่มุกตลกและอารมณ์ขันเข้ามาในหนัง แต่โดยส่วนใหญ่แล้วกลายเป็นจุดที่ทำให้ดูไม่เข้ากับพวกไปสักหน่อย บางครั้งก็ให้ความรู้สึกเหมือนว่าใส่เข้ามาแบบไม่รู้จักมารยาทอะไรทำนองนั้น แต่ก็ยังไม่ใช้องค์ประกอบที่ฉุดตัวหนังดิ่งลงไปสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมาเจอพล็อตศึกชิงนางในหนังสงครามเข้าไป ยอมรับเลยว่า…จุดนี้ทำให้รู้สึกยิ่งไม่เข้าพวกและโดดเด้งแปลกจากทิศทางของหนังไปพอสมควร

นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งจุดที่หนังหยอดใส่เข้ามาเป็นกิมมิกและอีสเตอร์เอ้ก ที่คนดูจะต้องรู้สึกว่า “เข้าใจทำเนอะ” กับการหยอดเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่้เชื่อมโยงไปสู่ตำนานสายลับของอังกฤษ อย่าง เจมส์ บอนด์ 007 ที่ในหนังสงครามเรื่องนี้เป็นเหมือนช่วยทำหน้าที่เป็นสารตั้งต้นให้กับการริเริ่มโครงการปั้นสายลับเบอร์สวยออกมา ที่ผู้ชมน่าจะเพลิดเพลินกับข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ถูกแทรกเข้ามา

เอาเป็นว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น Operation Mincemeat พลิกแผนรบลวงโลก ก็จัดได้ว่าเป็นหนังสงครามเชิงข้อมูลปฏิบัติการที่ถ่ายทอดและทำออกมาได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง อาจจะค่อนข้างห่างไกลความสมบูรณ์แบบ หนังเต็มไปด้วยข้อมูลที่พยายามกระชับแล้ว แต่ก็สามารถกระชับได้เป็นความยาว 2 ชั่วโมงเช่นนี้ นี่คือเรื่องราวในสงครามที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักนัก หนังเรื่องนี้จึงเหมือนมาเปิดประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์อีกมุมมอง แม้ว่าบทหนังและการเล่าเรื่องจะยังไม่ได้ดีนัก แต่พล็อตตลบตะแลงนับว่าเป็นตัวเชื่อมที่สนุก และทีมนักแสดงเรื่องนี้ยังต้องยกนิ้วให้อยู่

trueid

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *