รีวิวซีรีส์ AS THE CROW FLIES

รีวิวซีรีส์ AS THE CROW FLIES

ชื่อเรื่องAS THE CROW FLIES
เรตติ้ง6
นักแสดงBirce Akalay
จำนวนตอน8 ตอน

รีวิวซีรีส์ AS THE CROW FLIES

รีวิวซีรีส์ AS THE CROW FLIES ซีรีส์แนวดราม่าสงครามวงการข่าวของคนต่าง GEN เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยประสบปัญหาการทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานมาไม่มากก็น้อย ส่วนใหญ่แล้วมักเกิดจากการที่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับคนที่มีอายุต่างกันค่อนข้างมากหรืออยู่ต่าง GENERATION กัน การเติบโตและการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงนั้นจะทำให้แต่ละคนมีวิธีคิดและความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป มันจึงค่อนข้างยากที่จะทำให้คนต่างเจนสามารถทำงานอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข อาจมีทะเลาะกันบ้างไม่มากก็น้อย คน GEN ใหม่เมื่อเข้าไปทำงานก็ไฟแรงอยากจะปรับปรุงระบบการทำงานให้ดีขึ้นแต่ก็มักจะถูกขัดขวางอยู่เสมอ 

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่ประสบปัญหาดังกล่าวเราขอแนะนำซีรีส์จากตุรกีเรื่อง AS THE CROW FLIES เป็นซีรีส์แนวดราม่าสงครามที่เกิดขึ้นในวงการข่าวของคนทำงานที่เกิดมาในต่าง GENERATION กัน การที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกันจึงกลายมาเป็นความขัดแย้งและปะทุกลายเป็นสงครามระหว่างคนทำงานข่าว 2 คน 

ไม่เพียงเท่านั้นซีรีส์เรื่องนี้ยังสอดแทรกประเด็นในยุคปัจจุบันเข้ามาเอาไว้มากมาย สำหรับใครที่เคยเผชิญปัญหาเกี่ยวกับการทำงานมาก่อนจะต้องรู้สึกตามกับซีรีส์เรื่องนี้ได้ไม่ยากอย่างแน่นอน เป็นการต่อสู้กันระหว่างคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าอย่างแท้จริง ซึ่งความสนุกมันอยู่ตรงที่คนรุ่นใหม่นั้นจะมีความรู้สมัยใหม่มากกว่า มีความยืดหยุ่นและการพลิกแพลงสถานการณ์ได้ดี แต่ด้อยประสบการณ์ ในขณะที่คนรุ่นเก่าแม้ว่าอาจจะไม่ได้ยืดหยุ่นเท่ากับคนรุ่นใหม่แต่ก็เต็มไปด้วยประสบการณ์การทำงานและรู้ว่าอะไรที่ควรทำไม่ควรทำ ซึ่งมันก็ทำให้เกิดข้อเสียอย่างการยึดติดเช่นเดียวกัน วันนี้เราจะพาไปดูกันซีรีส์เรื่องนี้จะมีความน่าสนใจอย่างไร

ซีรีส์ตุรกี

เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง AS THE CROW FLIES

AS THE CROW FLIES เป็นซีรีส์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีอัสลี เธอนั้นเป็นนักศึกษานิเทศศาสตร์สื่อสารมวลชนที่เพิ่งจบมาได้ไม่นาน ตอนนี้กำลังก้าวหน้าทางอาชีพเป็นอย่างดีเนื่องจากเธอได้รับโอกาสในการขึ้นมาแทนนักข่าวอย่างลาเลที่รับผิดชอบรายการข่าวแบบขุดคุ้ยบอกเล่าความจริงที่เต็มไปด้วยความหนักหน่วงเหมือนถามตรงๆ กับจอมขวัญ 

แต่การมาแทนในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการมาแทนอย่างถาวรแต่อย่างใด เธอต้องเผชิญกับปัญหาการทำงานมากมายไม่ว่าจะเป็นระบบการทำงานเดิมที่ไม่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน การยึดติดของคนยุคเก่า ความพยายามของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการจะขึ้นมายึดครองตำแหน่งที่สูงขึ้นกว่าเดิมให้สำเร็จ ในขณะที่คนรุ่นเก่าเองก็ต้องการที่จะยึดตำแหน่งของตัวเองเอาไว้เช่นเดียวกัน มันจึงกลายเป็นการสะท้อนปัญหาดราม่าในวงการทำงานออกมาได้อย่างเข้มข้นถึงใจ 

ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง AS THE CROW FLIES

AS THE CROW FLIES เป็นซีรีส์ที่นำเอาประเด็นปัญหาดราม่าในที่ทำงานออกมาตีแผ่แบบหมดจด โดยเฉพาะเรื่องราวความขัดแย้งกันระหว่างคนต่าง GENERATION ที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน การยึดครองอำนาจและตำแหน่งในที่ทำงานจนทำให้เกิดเป็นการฟาดฟันกันขึ้นมา 

มันสามารถสะท้อนปัญหาความอยากได้อยากมีในสังคมออกมาได้เป็นอย่างดี สำหรับคนรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างที่จะเติบโตอย่างรวดเร็วและกลุ่มอำนาจเอาไว้ในมือเพื่อที่พวกเขาจะได้สามารถเปลี่ยนแปลงระบบเดิมๆ ให้การทำงานมีความทันสมัยและเข้ากับยุคมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้หลายคนพร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการแม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ดีก็ตามแต่วิธีการดูเหมือนว่าอาจจะไม่ถูกต้องสักเท่าไหร่ 

และสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความเข้มข้นดราม่ามากขึ้นกว่าเดิมก็คือสื่อ SOCIAL MEDIA เป็นสิ่งที่คนสามารถใช้สำหรับการสร้างภาพเพื่อให้คนที่เข้ามารับชมเชื่อในสิ่งที่ต้องการจะนำเสนอได้ มันจึงเป็นการฟาดฟันกันที่ค่อนข้างสนุกสนานเนื่องจากคนรุ่นเก่าก็ใช้สื่อสาธารณะอย่างรายการโทรทัศน์โจมตีอีกฝ่าย ในขณะที่คนรุ่นใหม่เลือกใช้สื่อโซเชียลมีเดียที่สามารถเข้าถึงคนกลุ่มใหม่ได้เป็นจำนวนมากและรวดเร็วกว่าในการโจมตีคนรุ่นเก่าเช่นเดียวกัน 

ตัวละครหลักของเรามีความสามารถในการใช้ SOCIAL MEDIA ในการปั่นข่าวเพื่อเล่นงานคนในโลกโซเชียลโดยใช้จิตวิทยามาช่วย เกิดเป็นกระแสกดดันโจมตีไปยังพนักงานรุ่นเก่าที่เป็นนักข่าวสุดแสนจะตรงไปตรงมาและเต็มไปด้วยจรรยาบรรณ ดังนั้นมันจึงเกิดความขัดแย้งกันอย่างหนักสำหรับผู้คนในโลกออนไลน์ มันเลยทำให้ผู้รับชมอย่างเราอดลุ้นไปไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วสงครามครั้งนี้ใครที่จะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะได้สำเร็จกันแน่ 

ความน่าสนใจอีก 1 อย่างในการนำเสนอก็คือการมีผู้บรรยายบอกเล่าเรื่องราวในลักษณะสารคดี เปรียบเทียบพนักงานรุ่นเก่าว่าเป็นคนที่มีอำนาจเปรียบเสมือนกับจ่าฝูงที่ครองตำแหน่งมาอย่างยาวนาน ส่วนพนักงานรุ่นใหม่ก็เปรียบเสมือนกับอีกาที่พยายามหาโอกาสในการโจมตีจ่าฝูงมีจุดที่พวกมันไม่ทันสังเกตเห็น สามารถถ่ายทอดบุคลิกภาพและพฤติกรรมของแต่ละตัวละครผ่านการเปรียบเทียบชีวิตสัตว์ป่าออกมาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว 

ไม่เพียงเท่านั้นแม้ว่ามันจะเป็นซีรีส์แนวดราม่าแต่การเล่าเรื่องก็ไม่ได้ยืดยาดหรือเชื่องช้าแต่อย่างใด มีความกระชับฉับไวและสร้างความลุ้นให้กับผู้รับชมได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือความไม่สมจริงในการโกหกเล่าเรื่องดราม่านำเสนอให้ผู้คนเชื่อง่ายจนเกินไป แถมยังเป็นการถ่ายทอดทัศนคติเชิงลบกับคนรุ่นใหม่แบบเต็มๆ อีกด้วย 

ตัวอย่างซีรีส์ AS THE CROW FLIES

รีวิว ซีรีส์ AS THE CROW FLIES บางส่วนจาก playinone

ซีรีส์แนวคนรุ่นใหม่ VS คนรุ่นเก่าที่ใช้เรื่องราวในวงการข่าวมาเป็นแบ็คกราวด์หลักของเรื่อง ตัวเรื่องเน้นดราม่าปั่นสร้างเรื่องผ่านโซเชียลมีเดียของตัวเอก ซึ่งก็ดูได้เพลินๆ ระดับหนึ่ง มีความคล้ายตัวเอกในซีรีส์ แอนนามายาลวง อยู่ไม่น้อย ซึ่งถ้าคนชอบแนวตัวเอกปั่นสร้างเรื่องร้ายๆ ดูโรคจิตๆ แบบนี้ก็ดูได้ แต่ก็ต้องบอกว่าการปั่นในเรื่องดูอ่อนไปไม่ค่อยน่าเชื่อว่าหลงกลนางกันไปได้อย่างไร

As The Crow Flies ดั่งอีกาโผบิน ซีรีส์ตุรกี Netflix แนวดราม่าในวงการข่าว 8 ตอนจบที่เล่าเรื่องราวของ “อัสลึ” สาวนิเทศศาสตร์สื่อสารมวลชนที่จบมาใหม่ และต้องการก้าวขึ้นแทนนักข่าวสาว “ลาเล” ที่ทำรายการขุดคุ้ยข่าวบอกเล่าความจริงอย่างหนักแน่น อัสลึจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อยึดตำแหน่งนี้จากเธอ ซีรีส์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของคนรุ่นใหม่ที่มีปัญหากับ GEN เก่า ในที่นี้คือปัญหากับ GEN X ที่ยึดครองตำแหน่งหน้าที่การงานดีๆ ไว้จากฐานรากที่ปูมานาน และไม่ปล่อยให้คนรุ่นใหม่ก้าวขึ้นมาแทนที่พวกเขาได้ง่ายๆ เรื่องราวจึงมาในรูปแบบการสะท้อนปัญหาความอยากได้อยากมีหน้าตาในสังคม มีชื่อเสียงเงินทองไวๆ ของคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะทำอะไรก็ได้เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นความฝัน แม้จะดูอคติไปบ้างแต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง ตามที่เห็นเป็นข่าวการหลอกลวงสร้างภาพเศรษฐีอายุน้อยๆ อยู่บ่อยๆ ในยุคนี้

ซึ่งการที่ยุคนี้สามารถทำเรื่องอย่างนี้ได้ไวก็เป็นเพราะอำนาจของโซเชียลมีเดียที่คนใช้สามารถสร้างภาพหลอกตาคนได้ ในเรื่องนี้จึงเป็นการเล่าเรื่องแบบการปะทะกันของ 2 GEN ผ่านสื่อยุคเก่ากับใหม่ ในที่นี้คือโซเชียลมีเดีย VS รายการโทรทัศน์ ซึ่งตัวเอกอัสลึคือเด็กสาวรุ่นใหม่ทีทำช่ำชองการใช้โซเชียลมีเดียสร้างภาพปั่นข่าวชี้นำเล่นงานทางจิตวิทยากับคนในโลกโซเชียล เพื่อให้เกิดกระแสกดดันโจมตีไปยังตัวเอกลาเลที่เป็นนักข่าวรุ่นเก่าที่ตรงไปตรงมากับจรรยาบรรณ ทุกอย่างต้องนำเสนอบนข้อเท็จจริง มีหลักฐานประจักษ์ชัดถึงนำมาใช้ในรายการ ซึ่งบางครั้งก็ต้องขัดแย้งกับกระแสผู้คนในโลกโซเชียลอย่างหนัก ซึ่งนี่คือพ้อยท์หลักของเรื่องนี้ที่นำเสนอการใช้สื่อ 2 แบบต่อสู้กันไปมา แล้วให้ผู้ชมอย่างเราติดตามดูว่าผลลัพธ์สุดท้ายในแต่ละเคสเป็นยังไง และวิธีการของอัสลึจะทำให้เธอไต่เต้าขึ้นไปยังตำแหน่งที่ลาเลอยู่ได้หรือไม่

ตัวเรื่องยังนำเสนอโดยการใช้เสียงผู้บรรยายบอกเล่าเรื่องนี้แบบสารคดีสัตว์ป่า โดยเปรียบให้ลาเลกับผู้มีอำนาจในสถานีเป็นเหมือนสิงโตจ่าฝูงที่ครองตำแหน่งกันมานาน แล้วให้อัสลึเป็นอีกาที่มองหาโอกาสโจมตีสิงโตจากจุดที่มันมองไม่เห็น โดยใช้สถานการณ์ในเรื่องบอกเล่าการกระทำต่างๆ ของสิงโตที่เป็นเจ้าป่า รวมถึงถอดลักษณะนิสัยของสิงโตมาเทียบกับลาเล ในทำนองยิ่งสูงยิ่งหนาวสิงโตจ่าฝูงดูเหมือนมีอำนาจมากเป็นเจ้าป่า แต่ก็กลายเป็นชีวิตที่เสี่ยงอันตรายที่พลาดไม่ได้สักเรื่องด้วยเช่นกัน

ซีรีส์ยังนำเสนอแบ็คกราวน์ชีวิตของทีมงานข่าวที่เติบโตไต่เต้ากันขึ้นมาจนมีบทบาท และก็มีอดีตความรัก การทรยศหักหลัง ซึ่งกลายมาเป็นส่วนเสริมเรื่องราวการชิงอำนาจในสถานี กลายมาเป็นข่าวซุบซิบผ่านโซเชียลมีเดียที่ทำให้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้เป็นที่สนใจของผู้คน และมีผลกระทบไปถึงหน้าที่การงานจริงด้วยเช่นกัน

playinone

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *