ชื่อเรื่องAS WE SEE IT
เรตติ้ง8
นักแสดงRick Glassman,Sue Ann Pien
จำนวนตอน8 ตอน

รีวิวซีรีส์ AS WE SEE IT

รีวิวซีรีส์ AS WE SEE IT ซีรีส์แนว DRAMA COMEDY ที่สะท้อนความยากลำบากในการใช้ชีวิตของผู้ป่วยออทิสติก ปัจจุบันมีความพยายามในการตระหนักถึงอาการป่วยออทิสติกมากขึ้นกว่าเดิม สังคมเริ่มให้เกียรติและยอมรับผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น สังเกตเห็นได้ชัดเลยว่าในปัจจุบันมีซีรีส์หรือภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องที่หยิบยกนำเอาเรื่องราวการใช้ชีวิตของผู้ป่วยออทิสติกออกมาตีแผ่ให้เราได้เข้าใจพวกเขามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็น GOOD DOCTOR ที่ถูกสร้างออกมาถึง 3 สัญชาติด้วยกัน ATYPICAL ที่มีการฉายบน NETFLIX จำนวนกว่า 4 SEASON เป็นที่เรียบร้อยแล้ว MOVE TO HAVE ซีรีส์แนวดราม่าจากเกาหลีที่สร้างร่วมกับ NETFLIX หรือจะเป็น THE VICTIMS GAME จากไต้หวัน แต่อย่างไรก็ตามรายชื่อทั้งหมดที่กล่าวมานี้มักจะเล่าถึงเรื่องราวของผู้ป่วยออทิสติกที่มีความสามารถพิเศษมากกว่าคนปกติเป็นหลัก ทำให้เราจำภาพผิดว่าผู้ป่วยออทิสติกจะต้องมีอะไรที่เหนือกว่าคนธรรมดา มันจะเป็นความจริงแต่ก็เป็นส่วนน้อยเป็นอย่างมาก เพราะความสามารถเหล่านี้เกิดจากความหมกมุ่นในบางสิ่งบางอย่างมากกว่าคนปกติ แต่ในขณะเดียวกันเองมีผู้ป่วยออทิสติกอีกมากมายที่ไม่ได้มีความสามารถเหล่านั้นและพวกเขาต้องเผชิญกับการใช้ชีวิตที่ยากลำบากไม่แพ้ใคร 

AS WE SEE IT เป็นซีรีส์ที่ทำออกมาตีแผ่การใช้ชีวิตของผู้ป่วยออทิสติกที่เต็มไปด้วยความยากลำบาก พวกเขาเต็มไปด้วยปัญหาในการใช้ชีวิตมากมายเกินกว่าที่คนธรรมดาอย่างเราจะรับรู้ได้ มันเป็นซีรีส์ที่สามารถสะท้อนชีวิตของผู้ป่วยออทิสติกออกมาได้อย่างแท้จริง ดัดแปลงมาจากซีรีส์ต้นฉบับสัญชาติอิสราเอลที่ออกฉายตั้งแต่ปี 2018 บน HBO MAX ส่วนซีรีส์เรื่องนี้ออกฉายบน AMAZON PRIME สำหรับใครที่อยากสัมผัสและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของผู้ป่วยออทิสติกมากขึ้นเราขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด 

ซีรีส์ Prime Video แนะนํา เรื่อง AS WE SEE IT

เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง AS WE SEE IT

AS WE SEE IT เล่าถึงเรื่องราวของไวโอเล็ต แจ็ค และแฮริสัน เพื่อนร่วมห้องที่อยู่ในวัย 20 กว่าแถมยังเป็นออทิสติกอีกด้วย สาเหตุที่พวกเขาต้องมาอาศัยอยู่ร่วมกันเนื่องจากครอบครัวของทั้ง 3 คนต้องการที่จะฝึกฝนให้พวกเขามีพัฒนาการในด้านการใช้ชีวิตและสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองให้ได้มากที่สุด โดยมีผู้ดูแลที่คอยช่วยเหลือดูแลพัฒนาการอย่างใกล้ชิดอย่างแมนดี้

นอกจากพวกเขาจะต้องออกมาใช้ชีวิตตามลำพังแล้วพวกเขายังต้องพยายามหางานทำอีกด้วย ซึ่งมันไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อยที่จะมีนายจ้างให้โอกาสผู้ป่วยออทิสติกได้ทำงาน ดังนั้นเมื่อได้งานแล้วไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเขาต้องพยายามรักษางานที่มีเอาไว้ให้ได้ซึ่งมันก็เต็มไปด้วยความยากลำบาก ยังไม่รวมไปถึงการเข้าสังคม การหาเพื่อน การตกหลุมรัก การดำเนินชีวิตในโลกที่เต็มไปด้วยคนที่ไม่เข้าใจพวกเขาแถมยังต้องการจะหลีกเลี่ยงการเข้าเกี่ยวกับผู้ป่วยออทิสติกต่างหากเพราะมองว่าพวกเขาไม่ใช่คนปกติธรรมดาทั่วไป พวกเขาจึงต้องเผชิญกับอุปสรรคในการใช้ชีวิตบ้างไหมที่คนธรรมดาอย่างเราไม่เคยรับรู้มาก่อนอย่างแน่นอน

ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง AS WE SEE IT 

AS WE SEE IT เป็นซีรีส์ที่จะแบ่งเส้นเลือดโดยเล่าชีวิตของ 3 ตัวละครหลักที่ป่วยเป็นออทิสติกและอีก 1 ตัวละครหลักที่เป็นผู้ดูแล โดยแต่ละคนนั้นก็จะมีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไปทำให้มันค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เริ่มต้นที่แจ็ค เขาเป็นเด็กเนิร์ดที่ปัจจุบันทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ เขาพยายามรักษางานที่มีเอาไว้ให้ได้เนื่องจากเขามีกลุ่มอาการแอสเพอร์เกอร์ ทำให้เขาไม่รับรู้ถึงความรู้สึกของผู้อื่นและขาดอารมณ์ร่วม ไม่สามารถแสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาได้แบบตรงๆ ทำให้เขามักจะปากร้ายอยู่เสมอ แถมเขายังต้องมารับรู้อีกด้วยว่าพ่อกำลังป่วยเป็นมะเร็งอย่างร้ายแรง 

คนต่อมาคือแฮริสัน  เด็กหนุ่มบ้านรวยที่ไม่กล้าออกไปไหนตัวคนเดียวเนื่องจากมีรูปร่างอวบอ้วน เขาได้เจอกับเด็กชายที่อยู่ร่วมอพาร์ทเม้นท์เดียวกันและกลายมาเป็นเพื่อนกันในที่สุด มันทำให้เขาเริ่มมีความกล้ามากยิ่งขึ้นในการออกเดินทางสู่โลกภายนอก แต่คนมักมองว่าเขามีเจตนาร้ายกับเด็กแม้แต่แม่ของเด็กเช่นเดียวกัน และผู้ป่วยออทิสติกคนสุดท้ายคือไวโอเล็ต หญิงสาวอเมริกาเชื้อสายจีนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแสดงออกมากเกินกว่าปกติ เธอไม่สามารถควบคุมการแสดงออกหรือการพูดให้เหมือนกับปกติได้ เธอโหยหาการมีคนรักเป็นอย่างมากเพราะเชื่อว่ามันจะทำให้เธอกลับมาเป็นปกติ แต่มันกลับยิ่งทำให้เธอต้องเผชิญกับปัญหามากมาย

ส่วนข้อสุดท้ายคือผู้ดูแลอย่างแมนดี้ เธอเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยออทิสติกโดยเฉพาะโดยเข้ามาดูและปรับปรุงพัฒนาการให้แต่ละคนสามารถเข้าสู่สังคมได้ แต่การรับหน้าที่ดังกล่าวทำให้ความต้องการเรียนแพทย์ของเธอยิ่งห่างไกลออกไปเรื่อยๆ เพราะเธอไม่สามารถทิ้งพวกเขาได้เลยแม้แต่น้อย 

เราจะเห็นว่าตัวละครแต่ละตัวนั้นมีเสน่ห์และความน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เราเกิดความรู้สึกเอาใจช่วยว่าแต่ละคนจะสามารถดำเนินชีวิตไปในทิศทางไหนกันต่อไปได้บ้าง ความดีงามของซีรีส์เรื่องนี้คือการสะท้อนชีวิตจริงของผู้ป่วยออทิสติกออกมาได้แบบตรงไปตรงมา ไม่เป็นบวกหรือลบจนเกินไป มีนักแสดงที่เป็นผู้ป่วยออทิสติกจริงอยู่ด้วย ทำให้สามารถแสดงบทบาทออกมาได้อย่างสมจริงเป็นอย่างมาก สามารถเล่าถึงประเด็นปัญหาครอบครัวได้เป็นอย่างดี มุกตลกไม่ได้สร้างขึ้นมาโดยการใช้ออทิสติกเป็นเครื่องมือและมีความเป็นธรรมชาติเป็นอย่างมาก 

แต่อย่างไรก็ตามซีรีส์เรื่องนี้ยังคงมีจุดสังเกตเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นตัวละครผู้ดูแลอย่างแมนดี้ที่บทค่อนข้างดราม่าเกินความเป็นจริงไปมาก เรื่องราวที่เล่าค่อนข้างเรียบง่ายดังนั้นมันจึงอาจจะเหมาะสําหรับผู้ชมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ใครที่สนใจเกี่ยวกับผู้ป่วยออทิสติกน่าจะชื่นชอบซีรีส์เรื่องนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว รอยัลจีคลับ

ตัวอย่างซีรีส์ AS WE SEE IT

รีวิวซีรีส์ AS WE SEE IT บางส่วนจาก playinone

นี่คือซีรีส์ที่ซื่อตรงกับชีวิตความเป็นจริงของคนเป็นออทิสติกมากที่สุดที่เคยมีการสร้างกันมา เป็นซีรีส์สั้นๆ ตอนละ 30 นาทีที่สนุกแบบเรียบง่ายไปกับชีวิตของคนเป็นออทิสติกจริงๆ แต่ก็ทำให้ผู้ชมอินตามไปทุกการกระทำของพวกเขาด้วยองค์ประกอบทุกอย่างที่ลงตัวมากๆ ทั้งบทเนื้อเรื่อง นักแสดง ดนตรีประกอบ ชวนให้อินตามได้ง่ายๆ รับรองเลยว่าต้องมีทั้งเสียงหัวเราะกับน้ำตาระหว่างที่รับชมเรื่องนี้ครับ

AS WE SEE IT โลกใบใหญ่ในสายตาเรา ซีรีส์แนวดราม่าตลกของ Amazon prime เรื่องราวการใช้ชีวิตของคนออทิสติกที่ยากลำบากในมุมมองแสนพิเศษที่ทุกอย่างในชีวิตปกติของคนเรากลับกลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์แห่งชีวิตสำหรับพวกเขา

ซีรีส์เรื่องนี้รีเมคดัดแปลงมาจากต้นฉบับซีรีส์อิสราเอล On the Spectrum ปี 2018 ฉายบน HBO MAX แต่บ้านเราจะไม่มีในระบบของ HBO Go ให้ดูกัน ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตตัวละครที่เป็นออทิสติกเป็นหนังมีทำออกมามากมาย แต่สำหรับซีรีส์น้อยกว่ามากที่ค้นเจอของฝรั่งมีแค่ 2 เรื่องที่ตัวละครหลักเป็นออทิสติก The Good Doctor ที่มี 3 เวอร์ชั่นรีเมค ญี่ปุ่น เกาหลี อเมริกา กับ Atypical เอทิปปิคอล ที่ทาง Netflix สร้างมามี 4 ซีซั่นจบไปแล้ว และมี Move To Heaven ของ Netflix งานสร้างของเกาหลี กับ The Victims Game ของไต้หวัน โดยทุกเรื่องก็จะเป็นการขายความสามารถพิเศษที่เหนือกว่าคนปกติของคนเป็นออทิสติกเป็นหลัก จนอาจจะทำให้เราจดจำไปแล้วว่าคนเป็นออทิสติกนั้นต้องมีอะไรพิเศษกว่าคนธรรมดาทั่วไป

ซึ่งนั่นก็จริงแค่บางส่วน และอาจจะน้อยมากๆ เพราะความพิเศษนั้นเกิดจากความหมกหมุ่นสนใจบางสิ่งบางอย่างมากกว่าคนปกติมากกว่า หรืออาจจะมีบ้างที่สมองบางส่วนโดดเด่นจนทำให้จดจำอะไรได้มากกว่าคนปกติ ทำให้ภาพคนออทิสติกที่ออกมาดูว้าวน่าสนใจ โดยไม่ได้เน้นความเป็นจริงที่ว่าคนเป็นออทิสติกนั้นมีปัญหามากมายในชีวิตเกินกว่าที่คนปกติธรรมดาหรือแม้แต่ครอบครัวที่เลี้ยงเขามาเองจะเข้าใจ ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ AS WE SEE IT โลกใบใหญ่ในสายตาเรา นี่แหละคือเรื่องเดียวในตอนนี้ที่เน้นเล่าเรื่องราวเหล่านี้ให้เรามองเห็นและเข้าใจชีวิตของคนเป็นออทิสติกที่แท้จริงให้มากขึ้น

เรื่องราวแบ่งเป็นชีวิตของ 3 ตัวละครหลักกับอีก 1 ผู้ดูแล ซึ่งแต่ละคนก็จะมีเส้นเรื่องราวส่วนตัวกับอาการออทิสติกกันไปคนละแบบ แจ็ค (รับบทโดย Rick Glassman) หนุ่มเนิร์ดโปรแกรมเมอร์ที่พยายามรักษางานที่ทำไว้ให้ได้ เนื่องจากปัญหาคือเขาเป็นกลุ่มอาการแอสเพอร์เกอร์ อาการที่ไม่รับรู้ความรู้สึกคนอื่น ขาดอารมณ์ร่วม แสดงอารมณ์ตัวเองตรงๆ ออกมาไม่ได้ ทำให้เขาปากร้ายกับหัวหน้างานเวลามีปัญหาในโปรแกรมที่เขียนขึ้นมา แถมเขายังพึ่งมารับรู้ว่าพ่อเป็นมะเร็งขั้นร้ายแรง มีโอกาสรักษาไม่ได้ และต้องจากเขาไป พ่อจึงพยายามฝากฝังทำทุกอย่างให้แจ็คอยู่ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเขาก็รับรู้ความหายนี้ดี แต่การเปลี่ยนแปลงตัวเองให้อยู่ในสังคมปกติได้มันไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆ เลยกับคนเป็นแอสเพอร์เกอร์

แฮร์ริสัน (รับบทโดย Albert Rutecki) หนุ่มอ้วนบ้านรวย ผู้ซึ่งไม่กล้าออกไปจากอพาร์ทเมนท์ด้วยตัวเองคนเดียว เขาได้พบกับเด็กชายตัวน้อยร่วมอพาร์ทเมนต์ และสานสัมพันธ์กันจนทำให้เขากล้าเดินทางออกสู่โลกกว้าง แต่คนปกติกลับมองว่าเขาอาจจะมีเจตนาร้ายกับเด็ก แม้แต่แม่ของเด็กก็คิดเช่นนั้นจนกีดกันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ไวโอเล็ต (รับบทโดย Sue Ann Pien ) สาวอเมริกันเชื้อสายจีน ที่มีปัญหากับการแสดงออกล้นเกินปกติ

เธอไม่สามารถควบคุมการพูดและการแสดงออกเหมือนคนปกติได้ เธอโหยหาการมีแฟนเพื่ออยากให้ตัวเองเป็นคนปกติ จนกลายมาเป็นภัยร้ายกับตัวเธอ แม้เธอจะมีพี่ชายที่คอยปกป้องทุกอย่าง แต่ก็เหมือนกับการพยายามกักขังเธอไว้ไม่ให้มีอิสระกับชีวิต แมนดี้ (รับบทโดย Sosie Bacon) ผู้ดูแลบุคคลที่เป็นออทิสติกโดยเฉพาะ เธอรับหน้าที่ดูแลปรับปรุงพัฒนาการของทุกคนให้เข้าสังคมได้ แต่การที่เธอต้องมารับหน้าที่นี้ก็ทำให้ชีวิตส่วนตัวที่อยากเรียนแพทย์ห่างไกลขึ้นเรื่อยๆ เพราะเธอไม่อาจจะทิ้งพวกเขาลงได้

playinone

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *