ชื่อเรื่องMORBIUS
เรตติ้ง6.5
นักแสดงJared Leto,Adria Arjona
จำนวนตอน1.44 ชั่วโมง

รีวิวหนัง MORBIUS

รีวิวหนัง MORBIUS ภาพยนตร์จักรวาลแยกของ SPIDER VERSE ที่เล่าถึงเรื่องราวตัวร้ายที่คุณอาจไม่เคยรู้จัก สไปเดอร์แมนเป็นการ์ตูนคอมมิคที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทำให้มันมีการเขียนต่อออกมายาวนานติดต่อกันหลายปี แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องอยู่คู่กับการ์ตูนแนวซุปเปอร์ฮีโร่ก็คือตัวร้ายทั้งหลายนั่นเอง ตัวร้ายของการ์ตูนคอมมิคฝั่งมาร์เวลนั้นส่วนใหญ่แล้วหากพิจารณาให้ดีแล้วจะพบว่าพวกเขานั้นล้วนแล้วแต่มีภูมิหลังที่น่าสนใจด้วยกันทั้งนั้น หนึ่งในตัวร้ายของสไปเดอร์แมนที่ได้รับการสร้างภาพยนตร์ภาคแยกออกมาและประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนทำให้ผู้คนหลงรักไปทั่วทั้งโลกอย่าง VENOM ส่งผลให้ทางโซนี่ตัดสินใจที่จะสร้างภาพยนตร์แนวนี้ออกมาเพิ่ม จนกลายมาเป็นภาพยนตร์ที่เราจะพาทุกคนมาแนะนำในวันนี้นั่นก็คือ MORBIUS

เขาเป็นตัวละครร้ายในสไปเดอร์แมนที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูคุ้นตาสักเท่าไหร่เพราะไม่เคยปรากฏตัวในแบบภาพยนตร์มาก่อน ดังนั้นมันจึงเป็นชื่อที่ไม่มีใครคาดหวังว่าจะได้หยิบยกนำเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ภาคแยกแต่อย่างใด แต่ความจริงแล้วเขาเป็นตัวละครที่มีความน่าสนใจมากเลยทีเดียวแม้ว่าจะติดกลิ่นอายความเชยมาเล็กน้อยก็ตามแต่ก็ยังดูน่าสนใจอยู่ดี แถมคนที่มาแสดงก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นนักแสดงมากฝีมืออย่างจาเร็ด เลโต้ นักแสดงที่เคยฝากผลงานที่น่าผิดหวังสำหรับเจ้าตัวอย่างโจ๊กเกอร์มาก่อน 

ในครั้งนี้เขาต้องมาสวมบทบาทเป็นแวมไพร์คู่ปรับของสไปเดอร์แมนที่มาพร้อมกับบรรยากาศสุดเข้มข้นและเต็มไปด้วยความมืดมนแทบจะเป็นภาพยนตร์แนว DC อยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอายของความเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีประวัติน่าสนใจและน่าสงสารไม่แพ้ใครเลยทีเดียว การทำภาพยนตร์ภาคแยกออกมาอย่างนี้เชื่อได้เลยว่าผู้คนจำนวนมากจะต้องตกหลุมรักวายร้ายแวมไพร์ผู้นี้อย่างแน่นอน 

หนังใหม่ morbius แอนตี้-ฮีโร่ เรื่องล่าสุด

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง MORBIUS

MORBIUS เป็นภาพยนตร์ที่จะพาเราไปรับรู้เรื่องราวความเป็นมาของตัวร้ายจากสไปเดอร์แมนอย่างมอร์เบียส ชายผู้มีประวัติความเป็นมาน่าสงสารจนทำให้คุณอาจรู้สึกใจอ่อนเมื่อต้องเห็นเขาปรากฏตัวต่อสู้กับฮีโร่ที่คุณรัก เขามีชื่อว่าไมเคิล มอร์เบียส นักชีวเคมีที่มีความสามารถไม่แพ้กับใคร แต่เขากลับโชคร้ายที่ป่วยเป็นโรคเลือดหายากรักษาไม่หายทำให้เขาจึงต้องพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อที่จะรักษาให้ตัวเองกลับมาเป็นปกติให้สำเร็จ 

จนเขานั้นได้บังเอิญไปค้นพบวิธีการรักษาโดยใช้ค้างคาว แต่แทนที่มันจะรักษาเขาให้หายกลับมาเป็นคนปกติแต่มันกลับเพิ่มพลังให้เขานั้นมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมไม่เหมือนกับมนุษย์ทั่วไป นอกจากนี้มันยังช่วยให้เขาเป็นคนที่มีพลังวิเศษ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการที่เป็นแวมไพร์ที่กระหายการดื่มเลือดอยู่เป็นประจำ สุดท้ายแล้วขอจะสามารถต่อสู้กับพลังอำนาจที่เขามีอยู่ในตัวได้หรือไม่และมันจะเปลี่ยนให้เขากลายเป็นคนอย่างไร เราต้องไปติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง MORBIUS

MORBIUS ภาพยนตร์แนวตัวร้ายซุปเปอร์ฮีโร่ที่ทำออกมาค่อนข้างรอบช้า พ่อการเล่าเรื่องค่อนข้างช้าประกอบกับเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างเชยมันเลยทำให้ภาพยนตร์ออกมาค่อนข้างน่าผิดหวังสำหรับคนที่คาดหวังว่าจะได้รับชมอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจเหมือนกับตอนที่รับชมภาพยนตร์เรื่อง VENOM เป็นครั้งแรก 

สิ่งที่ดีงามและน่าสนใจมากที่สุดในเรื่องนี้จึงหนีไม่พ้นนักแสดงนำอย่างจาเร็ด เลโต้ที่ยังคงทุ่มเทให้กับบทบาทของตัวเองได้อย่างน่าทึ่งอยู่เสมอ เขาสามารถสวมบทบาทเป็นแวมไพร์วัยร้ายจากสไปเดอร์แมนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เป็นนักชีวเคมีธรรมดาที่ป่วยเป็นโรคเลือดเขาก็สามารถลดน้ำหนักจนดูเหมือนคนป่วยจริงได้ ตอนที่รักษาหายแล้วกลับมามีร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อก็สามารถทำออกมาได้อย่างไม่น่าผิดหวัง ในส่วนของการแสดงก็สามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม สิ่งที่น่าเสียดายสำหรับนักแสดงผู้นี้คงมีเพียงแค่อย่างเดียวก็คือเขาอาจจะไม่ถูกชะตากับภาพยนตร์แนวซุปเปอร์ฮีโร่หรือตัวร้ายสักเท่าไหร่นัก 

การเล่าเรื่องราวจะมีกลิ่นอายที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับ VENOM แต่ผสมผสานกลิ่นอายความเป็นภาพยนตร์แนวซุปเปอร์ฮีโร่ในยุค 2000 มีความพยายามเล่าเรื่องราวตัวร้ายให้เราได้ทำความรู้จักพวกเขามากยิ่งขึ้นกว่าเดิมว่ามีที่มาที่ไปน่าสงสารแค่ไหน เพราะเหตุใดพวกเขาจึงได้เปลี่ยนไปกลายเป็นตัวร้ายใน COMIC พวกเขาต้องเผชิญกับการสูญเสียอะไรมาแล้วบ้าง แต่น่าเสียดายที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีความ COMEDY เข้ามาผสมเลยแม้แต่น้อย ซึ่งก็ค่อนข้างเข้าใจได้เพราะว่ามันเป็นเรื่องราวที่มีความตึงเครียดอยู่ในตัวสูง แถมตัวละครยังเป็นแวมไพร์ให้มีอารมณ์ตลกคงไม่เข้ากันสักเท่าไหร่ ไฮโล

ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ภาพยนตร์ขาดสีสันไปไม่น้อยเลยทีเดียว โชคยังดีที่มีการผสมผสานความเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญเข้ามาทำให้เรื่องราวดูมิติมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยรวมแล้วถือว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่อยู่ในระดับมาตรฐาน ไม่ได้ออกมาแย่จนเกินไปแต่ก็ไม่ได้ออกมาดีถึงขั้นที่ผู้คนต่างก็ชื่นชมแต่อย่างใด แม้ว่ามันจะน่าเสียดายที่มีการหยิบนำเอาตัวละครที่น่าสนใจแถมยังได้นักแสดงชื่อดังมารับบทนำก็ตาม 

ตัวอย่างหนัง MORBIUS

รีวิว หนัง MORBIUS บางส่วนจาก beartai

เรียกได้ว่ารอบปีทีผ่านมานี้เป็นปีที่ดีดจัด ๆ ทั้งของ Sony และ Columbia Pictures ก็ว่าได้ครับ เพราะที่ผ่านมาในรอบไม่ถึงครึ่งปี กลับมีหนังจากจักรวาล Spider-Man ให้ได้ดูถึง 3 เรื่องแน่ะ ทั้งภาคต่อปีศาจวีนอมใน ‘Venom: Let There Be Carnage’ (2021) หนังปิดไตรภาคสไปเดอร์-แมนใน ‘Spider-Man : No Way Home’ (2021) ที่สร้างความกรี๊ดกร๊าดประทับใจคนดู จนกลายเป็นภาพยนตร์ที่กวาดรายได้สูงสุดในช่วงโควิด-19 ไปแล้ว ณ ตอนนี้

รวมทั้ง ‘Morbius’ (มอร์เบียส) เรืื่องนี้นี่แหละครับ ที่เลื่อนตารางฉายหนีพี่โควิด-19 มานานเกือบจะหนึ่งปี ในที่สุด โซนี่ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวฮีโรวายร้ายตัวใหม่ เจ้าของฉายา ‘แวมไพร์ที่มีชีวิต’ (The Living Vampire) ซึ่งจริง ๆ แล้ว มอร์เบียสเองเคยเกือบจะได้เป็นวายร้ายในภาพยนตร์ฮีโรครึ่งมนุษย์ครึ่งแวมไพร์ ‘Blade 2’ (2002) เวอร์ชันเฮีย ‘เวสลีย์ สไนปส์’ (Wesley Snipes) แล้วด้วยนะครับ แต่ว่าพอมีการเปลี่ยนตัวผู้กำกับกะทันหัน แวมไพร์ตนนี้ก็เลยถูกดองยาว ไม่ได้แจ้งเกิดบนแผ่นฟิล์มเสียที

จนมาถึงปีนี้แหละ ที่โซนี่เลือกหยิบฮีโรวายร้ายตัวนี้มาสร้างเพื่อสานต่อแนวทางแอนตีฮีโร (และผู้เขียนก็เดาเองว่า น่าจะเป็นการปลุกปั้นทีม Sinister Six 6 วายร้ายจักรวาลสไปเดอร์-แมน ในอนาคตแหง ๆ ) และได้ผู้กำกับที่เป็นแฟนการ์ตูน Marvel อย่าง ‘แดเนียล เอสปิโนซา’ (Daniel Espinosa) ที่เคยกำกับภาพยนตร์ ‘Life’ (2017) และ ‘Safe House’ (2012) มาร่วมกำกับภาพยนตร์ฮีโรแวมไพร์ตัวแรกของจักรวาลสไปเดอร์-แมนด้วย

เนื้อเรื่องว่าด้วยเรื่องของ ‘ดร.ไมเคิล มอร์เบียส’ (Jared Leto) นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการป่วยด้วยโรคเลือดมาตั้งแต่ยังเด็ก เขามีเป้าหมายที่จะค้นคว้าหาวิธีในการสร้างยาที่จะรักษาตัวเอง และเพื่อนร่วมโรคอย่าง ‘ไมโล / ลูเซียส คราวน์’ (Matt Smith) ให้หายจากโรคหายากนี้เสียที โดยมีนักวิทยาศาสตร์สาวคู่รักอย่าง ‘ดร. มาร์ทีน แบนครอฟตฺ์’ (Adria Arjona) เป็นผู้ช่วยเหลือ แต่ในระหว่างที่เขากำลังทำการรักษาโดยใช้ค้างคาว เขากลับพบว่าตัวเองกลายเป็นปีศาจแวมไพร์กระหายเลือด เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อควบคุมความบ้าคลั่งของตนเองให้จงได้

คือเอาจริง ๆ ก็ต้องยอมรับว่า เสียงวิจารณ์ในแง่ลบจากต่างประเทศต่อหนังเรื่องนี้มันช่างหนาหูเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะ 2 จุดที่นักรีวิวต่างประเทศส่วนใหญ่ที่รุมโจมตีหนังเรื่องนี้กันแบบสามัคคีก็คือ บทที่มีปัญหา กับซีจีงานหยาบ ผู้เขียนเองแม้จะพยายามปิดหูปิดตา และพยายามคิดว่า มันก็คงอีหรอบเดียวกับ Venom นั่นแหละ คือดูเอาแอ็กชันและตลกแบบกาว ๆ พอได้ จะหวังให้ Hype ประทับใจเหมือนสไปเดอร์-แมนที่ฉายปลายปีที่แล้วคงจะยากเกินฝันไปหน่อย

เอาอย่างแรกก่อนครับ เรื่องซีจี เอาจริงแล้วซีจีหนังเรื่องนี้ ผู้เขียนเองก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันงานหยาบอะไรถึงขนาดนั้นนะครับ เอาจริง ๆ ในแง่โปรดักชันโดยรวม ๆ ทั้งการถ่ายภาพ มุมกล้อง แม้ผู้เขียนเองจะแอบรำคาญออราม่วง ๆ ตอนที่มอร์เบียสกำลังแปลงกาย (ที่ผู้กำกับบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากโปเกมอน!) อยู่บ้างก็ตาม คือมันดูลายตาน่ะครับ ยิ่งออราออกมาเยอะยิ่งลายตาหนักเลย แต่ซีจี โปรดักชัน และฉากแอ็กชันโดยรวมก็ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานหนังฮีโรยุคนี้ ไม่ได้มีจุดไหนงานหยาบจนถึงขั้นทุเรศทุรัง

beartai

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *