ชื่อเรื่อง | THE MAN FROM TORONTO |
เรตติ้ง | 6 |
นักแสดง | Kevin Hart,Woody Harrelson |
จำนวนตอน | 1.50 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง THE MAN FROM TORONTO
รีวิวหนัง THE MAN FROM TORONTO ภาพยนตร์แนวแอคชั่นคอมเมดี้ที่มีอะไรน่าสนใจมากกว่าคู่หูจอมป่วน
ปกติแล้วถ้าอยู่หัวออกมาว่าเป็นภาพยนตร์แนว ACTION COMEDY สิ่งที่เราจะต้องนึกถึงเลยก็คือคู่หูคู่ฮาสุดป่วนที่มีความสามารถในการต่อสู้แต่ก็ดันเป็นคนไม่เอาไหน ส่วนใหญ่แล้วเรื่องราวมักจะเต็มไปด้วยความวุ่นวายโกลาหลก่อนจะจบลงแบบฟลุ๊คๆ เหมือนมีดวงเสียอย่างนั้น เป็นสูตรสำเร็จของภาพยนตร์แนวนี้ที่รับชมทีไรก็สร้างความสนุกสนานให้กับเราได้ทุกที แต่อย่างไรก็ตามความเป็นสูตรสำเร็จน่าจะทำให้หลายคนรู้สึกเบื่อกับภาพยนตร์แนวนี้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
วันนี้เราจึงอยากจะพาทุกคนมาแนะนำภาพยนตร์แนว ACTION COMEDY ที่แม้ว่าจะเป็นแบบคู่หูสุดป่วนตามสูตรสำเร็จแต่ก็มีความแปลกใหม่น่าสนใจเช่นเดียวกันนั่นก็คือ THE MAN FROM TORONTO ภาพยนตร์ที่ฉายบน NETFLIX แต่ไม่ได้เป็น PROJECT ของทาง NETFLIX โดยตรงแต่อย่างใด เป็นผลงานของทางโคลัมเบียพิคเจอร์สที่ทุ่มทุนสร้างเป็นจำนวนกว่า 75 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว มีกำหนดการออกฉายในโรงภาพยนตร์ผ่าน SONY นับตั้งแต่ปี 2020 ที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ไม่ดีขึ้นสุดท้ายก็เลยต้องมาลงใน NETFLIX แทน
ด้วยความที่เป็นงาน PRODUCTION ระดับภาพยนตร์ฉายในโรงดังนั้นมันจึงยอมออกมายอดเยี่ยมอย่างแน่นอน แม้ว่าจะมีความเป็นสูตรสำเร็จบ้างแต่ก็สามารถทำออกมาได้พลิกล็อคไม่น้อยเลยทีเดียว สร้างความรู้สึกแปลกใหม่และน่าติดตามให้กับผู้รับชมได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับใครที่อยากจะหาภาพยนตร์รับชมสนุกๆ ในช่วงวันหยุดเราขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด
หนังคอมเมดี้ ฝรั่ง พากย์ไทย
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE MAN FROM TORONTO
THE MAN FROM TORONTO เป็นภาพยนตร์ที่จะเลิกถึงเรื่องราวของชายหนุ่มที่มีชื่อว่าแจ็คสัน เขาเป็นคนไม่เอาไหน ไม่ว่าจะพยายามทำอะไรก็ตามมันมักลงเอยด้วยความล้มเหลวอยู่เสมอ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงมีแฟนสาวที่แสนดีอยู่คนหนึ่ง และเขาก็ตั้งใจที่จะจัดงานฉลองวันเกิดที่ยิ่งใหญ่และดีที่สุดให้กับเธอเพื่อเป็นการตอบแทน
เขาได้ทำการจองกระท่อมแห่งหนึ่งผ่าน AIRBNB แอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมในการจองสถานที่พักจากผู้เป็นเจ้าของโดยตรงซึ่งจะมีราคาย่อมเยากว่าแถมยังมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก แต่แน่นอนว่ามันเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถไว้ใจได้เหมือนกับโรงแรมอย่างแน่นอน ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นเพราะความผิดพลาดเกิดจากความไม่เอาไหนของชายหนุ่มอีกแล้ว เพราะหมึกปริ้นโหมดทำให้ตัวเลขที่อยู่นั้นไม่ชัดเจน
เขาหลงทาง ไปผิดที่ผิดทางจนถึงสถานที่รับจ๊อบนักฆ่าระดับพระกาฬที่มีรหัสชื่อว่าใช้จากโตรอนโต โดยได้รับค่าจ้างเป็นจำนวนกว่า 2 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว และความซวยก็เกิดขึ้นเมื่อผู้ว่าจ้างนั้นคิดว่าเขาเป็นนักฆ่าเสียอย่างนั้น ทำให้สุดท้ายแล้วชายจากโตรอนโตตัวจริงเลยต้องใช้ให้เขาเป็นตัวแทนรับงานเพื่อปิดจ๊อบดังกล่าวให้สำเร็จ
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE MAN FROM TORONTO
THE MAN FROM TORONTO เป็นภาพยนตร์แนว ACTION COMEDY ที่ถือว่าผิดคาดไม่น้อยเลยทีเดียว แม้ว่าเรื่องราวจะเป็นสูตรสำเร็จเกี่ยวกับคู่หูที่ดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้ต้องมารับภารกิจใหญ่ร่วมกัน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สามารถสอดแทรกอะไรเข้ามาหลายอย่างที่สร้างความแปลกใหม่ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ มีอะไรดีๆ สอดแทรกอยู่มากมายที่ทำให้เรารู้สึกสนใจได้ไม่ยาก
เริ่มจากการที่ภาพยนตร์นั้นได้วางตัวเองให้เป็นภาพยนตร์แฟรนไชส์ภาคต่อแบบยาวเหยียดด้วยการสร้างโลกจักรวาลนักฆ่าขึ้นมาแบบจอห์น วิคเพียงแต่ว่าเป็นจอห์น วิคที่อ่อนสักหน่อย ไม่ได้เข้มข้นหรือดราม่าดุเดือดอะไรถึงขนาดนั้น นักฆ่าที่โผล่มาในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่มีรหัสลับว่าชายจากโตรอนโตนั้นความจริงแล้วไม่ได้มีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น แต่ยังมีนักฆ่าที่ใช้รหัสลับใกล้เคียงกันจากทุกเมืองทั่วทั้งโลกอีกด้วย เพียงแต่ว่าโตรอนโต้ในเรื่องนี้เป็นนักฆ่าที่ดูเก่าไปแล้วสำหรับนักฆ่าคนอื่นด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น เรียกได้ว่าไม่มีใครเขารับประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาเลยก็ว่าได้
ความสนุกของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือความไม่สมเหตุสมผลของมันและความพอเหมาะพอเจาะที่เกิดจากความซวยของตัวละครอย่างแจ็คสัน ชายที่ใช้ชีวิตปอกลอกแฟนไปวันๆ ดันมีคนเชื่อว่าเขาเป็นนักฆ่าเสียอย่างนั้นทั้งที่ดูจากภายนอกแล้วยังไงก็ไม่ใช่อย่างแน่นอน การเอาผู้ชายไม่เอาไหนมาสวมบทเป็นนักฆ่ามันจึงกลายเป็นความสนุกสนานที่มาพร้อมกับความไม่สมเหตุสมผลนั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้นภาพยนตร์ยังสามารถแถต่อไปได้เรื่อยๆ จนทำให้เราสามารถคล้อยตามได้เสียอย่างนั้นอีกด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่ดีงามสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือความเข้ากันได้เป็นอย่างดีของตัวละครทั้งสอง เควิน ฮาร์ทที่เป็นเดี่ยวไมโครโฟนชื่อดังอยู่แล้วนั้นมาพร้อมกับความตลกโดยธรรมชาติตามสายเลือด แต่พอมาประกบคู่กับนักแสดงชื่อดังอย่างวูดดี แฮร์เรลสันที่สวมบทบาทนักฆ่าได้อย่างสมจริงมันเลยกลายมาเป็นตลกหน้าตายที่สร้างความเฮฮาให้กับเราได้อย่างยอดเยี่ยม
โดยรวมแล้วถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีและน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวแม้ว่าจะมีแปะหน้าว่าเป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นคอมเมดี้สุดสำเร็จก็ตาม เคมีของนักแสดงนั้นสามารถเข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นภาพยนตร์ต้นทุนสูงที่มีงาน PRODUCTION ระดับเกรด A สามารถสร้างจักรวาลนักฆ่าบ้าๆ บอๆ ออกมาได้ดีและคาดว่าน่าจะทำต่อได้อีกยาว ฉากการต่อสู้ก็ใส่มาเยอะและสนุกสนาน สอดแทรกประเด็นครอบครัวเข้ามาได้อย่างกำลังพอดี สิ่งที่น่าเสียดายก็คือบทนักฆ่าที่ดูอ่อนจนเกินไปและความไม่สมเหตุสมผลนั่นเอง