รีวิวซีรีส์ MONEY HEIST KOREA

ชื่อเรื่องMONEY HEIST KOREA
เรตติ้ง5.5
นักแสดงPark Hae-soo,Jeon Jong-seo
จำนวนตอน12 ตอน

รีวิวซีรีส์ MONEY HEIST KOREA

รีวิวซีรีส์ MONEY HEIST KOREA เมื่อเกาหลีนำเอาซีรีส์สเปนมารีเมค ซีรีส์เกาหลีนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากมันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร มีความสมเหตุสมผลและสมจริงในแง่ของการนำเสนอไม่ว่าจะเป็นการแสดงหรือแม้แต่เรื่องราวก็ตาม นอกจากนี้ยังสามารถผสมผสานความดราม่าน้ำตาไหลเข้ามาได้อย่างแนบเนียนอีกด้วย ดังนั้นซีรีส์เกาหลีจึงได้รับความนิยมไปทั่วทั้งโลกโดยเฉพาะหลังจากที่มี NETFLIX ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ 

วงการอุตสาหกรรมเกาหลีได้ก้าวหน้าถึงขั้นที่สามารถสร้างภาพยนตร์หรือซีรีส์แนวซอมบี้ไปจนถึงแนวอวกาศได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่เราไม่ค่อยเห็นสักเท่าไหร่ก็คือการนำเอาภาพยนตร์หรือซีรีส์จากต่างชาติมารีเมคเป็นฉบับของตัวเอง อย่างไรก็ตามล่าสุดเราจะได้เห็นสิ่งนั้นแล้วนั่นก็คือซีรีส์เรื่อง MONEY HEIST: KOREA โดยในครั้งนี้เป็นการหยิบยกนำเอาซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามสัญชาติสเปนอย่าง MONEY HEIST ที่เล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการปล้นโรงกษาปณ์ที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและดุเดือด แถมยังเพิ่งจบไปได้ไม่นานอีกด้วยนำกลับมาสร้างในรูปแบบของตัวเองอีกครั้ง 

อย่างที่กล่าวไปว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก การที่เกาหลีนำเอากลับมาสร้างใหม่อีกครั้งมันจะกลายเป็นดาบสองคม หากพวกเขาไม่สามารถทำได้ดีมันก็จะกลายเป็นตราบาปในทันที หรือต่อให้สามารถทำได้ดีก็ยังจะถูกเปรียบเทียบอยู่ดี แต่ถึงอย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วก็ยังคงมีคนอยากจะเห็นซีรีส์เรื่องนี้ฉบับเกาหลีอยู่ดีเพราะที่ผ่านมาซีรีส์เกาหลีก็แทบจะไม่ทำให้เราผิดหวังอยู่แล้ว สำหรับใครที่สนใจวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับซีรีส์เรื่องนี้ให้มากขึ้นกัน 

ทรชนคนโลก

เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง MONEY HEIST: KOREA

MONEY HEIST: KOREA เป็นซีรีส์รีเมคที่ทำให้หลายคนอาจเข้าใจว่าการดำเนินเรื่องราวนั้นน่าจะเหมือนเดิมแบบถอดแบบกันออกมาเป๊ะๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วมีการปรับเปลี่ยนบริบทและการเล่าเรื่องให้เข้ากับวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ในเกาหลีใต้มากขึ้นกว่าเดิม แต่แกนเรื่องหลักนั้นจะยังคงเดิมเอาไว้นั่นก็คือโรงกษาปณ์ใหม่ของเกาหลีใต้ซึ่งเกิดจากการรวมชาติได้สำเร็จกำลังพยายามพิมพ์เงินรุ่นใหม่ออกมาเป็นจำนวนมาก โรงกษาปณ์ดังกล่าวตั้งอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่อยู่บริเวณรอยต่อของพรมแดนทั้งสองประเทศ 

มีคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการจะปล้นเงินแต่พวกเขาไม่ได้สนใจธนาคารธรรมดาทั่วไปเพราะมองว่ามีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด โรงกษาปณ์ที่ใช้ผลิตเงินจะมีระบบความปลอดภัยที่หย่อนยานกว่าและง่ายที่จะปล้นมากกว่าเยอะ เขาจึงได้รวมตัวกันในการทำภารกิจเสี่ยงตายระดับชาติเพื่อปล้นเงินออกมาให้สำเร็จ 

โดยหนึ่งในนั้นคือโตเกียว ผู้ลี้ภัยเกาหลีเหนือที่ผันตัวมาเป็นสาวกของศาสตราจารย์ที่ศรัทธาเขาอย่างเต็มหัวใจ ก่อนหน้านี้เธอต้องเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดในระบบทุนนิยมจนกระทั่งได้พบเข้ากับศาสตราจารย์ที่ช่วยเหลือเธอและให้เธอได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปล้นเงินจากโรงกษาปณ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ เธอมีความหวังว่าจะสามารถพลิกโลกที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรมที่เต็มไปด้วยคนรวยให้กลับมาอยู่ในร่องในรอยอีกครั้ง 

นอกจากเธอแล้วยังมีเบอร์ลินผู้นำแก๊งโจรในสนาม มอสโกอาชญากรหนุ่มที่ปล้นธนาคารรายแรกของเกาหลีใต้ด้วยการใช้อุโมงค์ใต้ดิน เดนเวอร์ชายหนุ่มอดีตนักสู้ข้างถนนและยังเป็นลูกชายของมอสโก ไนโรบีหญิงสาวนักต้มตุ๋นที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความสามารถในการปลอมแปลงธนบัตร ริโอแฮกเกอร์หนุ่มอัจฉริยะ เฮลซิงกิและออสโล 2 คู่หูแก๊งนักเลงที่ข้ามมาจากประเทศจีน 

ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง MONEY HEIST: KOREA

MONEY HEIST: KOREA ในซีซั่นแรกนั้นมีเพียงแค่ 6 ตอนเท่านั้น แม้ว่าแต่ละตอนจะมีความยาวเป็นชั่วโมงแต่ก็ยังไม่ยาวเท่าต้นฉบับเวอร์ชั่นสเปนที่มีจำนวนกว่า 13 ตอน แถมในเวอร์ชั่นสเปนยังเล่ายาวกว่าของเกาหลีอีกมาก ทางเกาหลีจึงต้องพยายามตัดหลายช่วงเวลาให้มีความกระชับมากขึ้นกว่าเดิม มันจึงเป็นการเล่าเรื่องแบบรวดเร็วโดยอาศัยพื้นฐานการรับชมของผู้รับชมที่เคยดูเวอร์ชั่นสเปนมาก่อนเป็นการปูเรื่องราวโดยที่ไม่ยืดเยื้อมากมาย ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกัน สำหรับใครที่เคยรับชมเวอร์ชั่นสเปนมาก่อนกว่าจะรู้สึกว่าเรื่องราวมีความกระชับดี แต่สำหรับคนที่มารับชมของเกาหลีเลยก็อาจจะรู้สึกไม่เข้าใจบางตัวละครได้เช่นเดียวกัน 

แน่นอนว่าเกาหลีไม่สามารถนำเอาเรื่องราวของฝั่งสเปนมาเล่าได้ทั้งหมดแบบเดียวกันเนื่องจากมีพื้นเพและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นแต่ละตัวละครหรือบางพฤติกรรมจึงถูกปรับเปลี่ยนไปให้มีความเหมาะสมและสมเหตุสมผลกับบริบทในประเทศเกาหลีใต้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ละตัวละครนั้นจะมีความพยายามเปลี่ยนแปลงให้แตกต่างจากต้นฉบับไม่เว้นแม้กระทั่งตัวศาสตราจารย์เองก็ตาม ดังนั้นแน่นอนว่ามันจึงมีความสดใหม่มากขึ้นกว่าเดิม แต่มันก็เกิดข้อเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นสเปนอยู่ดีสำหรับใครที่เคยรับชมมาก่อน 

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นซีรีส์ที่สามารถนำเอามาดัดแปลงเป็นบริบทของตัวเองได้ค่อนข้างดีแม้ว่าตัวละครจะมีความพยายามเปลี่ยนคาแรคเตอร์ซึ่งดูแล้วขัดหูขัดตาไปหน่อยก็ตาม แต่ก็ถือว่ายังคงสามารถเข้าใจได้ มีการเล่าเรื่องราวที่ค่อนข้างกระชับและรวดเร็ว มีการเปลี่ยนฉากสำคัญบางฉากที่อาจจะส่งผลต่อเรื่องราวในอนาคตที่แตกต่างออกไป ราชาถ้ำออกมาได้มีเสน่ห์ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็มีไม่น้อยเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการที่นักแสดงพยายามทำให้เหมือนกับต้นฉบับแต่ก็ไม่สามารถทำได้มีเสน่ห์เท่า ความสัมพันธ์ของศาสตราจารย์เปลี่ยนไปทำให้เขาไม่ได้ดูน่าเอาใจช่วยเหมือนกับเวอร์ชั่นสเปน มีการเพิ่มฉากการต่อสู้เข้ามาแต่กลับไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ ไม่มีเพลงประกอบที่สำคัญต่อเรื่องซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก

ตัวอย่างซีรีส์ MONEY HEIST KOREA

รีวิว ซีรีส์ THE UMBRELLA ACADEMY SS3 บางส่วนจาก beartai

‘Money Heist’ ที่เป็นต้นฉบับคือซีรีส์จากสเปนที่กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกผ่านการเผยแพร่ของเน็ตฟลิกซ์ ด้วยเวลาที่ออกอากาศยาวนับตั้งแต่ปี 2017 จนถึงตอนสุดท้ายในปี 2021 ด้วยจำนวน 5 ซีซัน 48 ตอน มีจุดเด่นเรื่องของบทที่มีความเหนือชั้น หักเหลี่ยม ซ้อนแผน การสร้างตัวละครที่มีมิติลุ่มลึกและมีเสน่ห์น่าติดตาม สามารถเฉลี่ยพื้นที่ให้แต่ละตัวละครเฉิดฉายและน่าจดจำได้อย่างดี รวมถึงโปรดักชันที่สมกับเป็นซีรีส์ระดับขายทั่วโลกราวกับจะให้เป็นความภูมิใจของสเปนเลยทีเดียว

ในปี 2020 เกาหลีก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวที่จะทำฉบับรีเมก และได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีว่าจะผลิตให้เน็ตฟลิกซ์จำนวน 12 ตอน โดยผู้กำกับ คิมฮงซอน (Kim Hong-sun) จากซีซันแรกของซีรีส์ ‘Voice’ (2017) และมือเขียนบทหน้าใหม่จากซีรีส์ ‘Psychopath Diary’ (2019-2020) อย่าง รยูยองแจ (Ryu Yong-Jae) ซึ่งดูเป็นการจับคู่ที่น่าสนใจสำหรับการรีเมกซีรีส์ดราม่าอาชญากรรมแอ็กชันธริลเลอร์ และหลังจากนั้นก็เริ่มประกาศรายชื่อนักแสดงที่จะมารับบทบาทโดยอิงจากชื่อตัวละครเดิมอย่างครบครัน โดยตัวเด่นหลัก ๆ ล้วนทำให้ผู้ชมต่างตื่นเต้นไม่เบา

ทั้ง โตเกียว ที่ได้ จอนจงซอ (Jeon Jong-seo) นักแสดงสาวฝีมือดีน่าจับตาที่แจ้งเกิดจากหนังรางวัลเรื่อง ‘Burning’ (2018) และฉายแววร้ายได้เลือดเย็นใน ‘The Call’ (2020) รูปหน้าที่โฉบเฉี่ยวทั้งน่ามองและยากคาดเดาจิตใจเธอนับเป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียว, ศาสตราจารย์ รับบทโดย ยูจีแท (Yoo Ji-Tae) สายฝีมือที่หลายคนจดจำเขาได้จากบทจอมวางแผนแสนเลือดเย็นใน ‘Oldboy’ (2003) ทำให้เขาดูเป็นตัวเลือกที่ดูเข้าไม่น้อย และ เบอร์ลิน รับบทโดย พัคแฮซู (Park Hae-soo) ที่โด่งดังกับซีรีส์แห่งปีอย่าง ‘Squid Game’ (2021) จากบทบาทล่าสุดนี้ที่เขาแสดงถึงด้านมืดและพลังกดดันจากตัวละครได้ดี ก็ทำให้เขามีเค้าความเป็นเบอร์ลินที่น่าสนใจ

ต้องบอกว่าส่วนตัวเป็นแฟนของซีรีส์ต้นฉบับ และรู้สึกว่าเป็นโจทย์ยากที่ทีมงานไม่ว่าใครจะมารีเมกเรื่องนี้ในช่วงเวลาที่ห่างจากต้นฉบับเพิ่งจบลงหลักเศษปี (และหากนับจากซีซันแรกซึ่งเป็นเรื่องราวที่นำมารีเมกก็ห่างราว 5 ปี) ที่ผู้ชมส่วนใหญ่ยังจำเรื่องราวและรายละเอียดต่าง ๆ ได้ดีพอสมควร และเมื่อดูก็พบว่าฉบับเกาหลีนั้นเคารพต้นฉบับจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันเพียงลองปรับเชปของการเล่าเรื่องนิดหน่อย แก้ไขฉากหลังและภูมิหลังของเรื่อง บางจุดรวบรัดให้กระชับ บางจุดก็ข้าม ๆ ไปบ้าง แต่การเดินเรื่องก็นับได้ว่าคือ ‘Money Heist’ เดิม ๆ นั่นเลย

หนำซ้ำเสน่ห์หรือความน่าติดตามก็กลับพบว่ายิ่งด้อยลงเสียอีก ด้วยความรวบรัดและไวมากในช่วงแรก ประกอบกับลีลาภาพและซีจีที่ดูเหมือนการ์ตูนในบางจุดจนเราไม่ค่อยรู้สึกว่านี่จะเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นจริงได้หากเกาหลี 2 ประเทศจะมารวมกันจริง ๆ ทั้งที่โทนของซีรีส์นี้เดิมวางพื้นให้รู้สึกว่าสมจริงและน่าจะเกิดขึ้นได้จริงมากกว่าแฟนซีอย่างที่เกาหลีเปิดหัว

อีกอย่างที่คิดว่าไม่ควรเป็นปัญหาแต่ก็กลายเป็นปัญหาคือ นักแสดงหลายคนทำให้การตีความตัวละครด้อยลง ในต้นฉบับเรารู้สึกถึงความอ่อนไหวเปราะบางภายใต้ความฉลาดของศาสตราจารย์ แต่ยูจีแทด้วยรูปลักษณ์ที่บึกบึนกว่า อัลวาโร มอร์เต (Álvaro Morte) เขาดูแข็งแกร่งเกินไป ยิ่งบทเปิดช่องให้เล่นความเปราะบางน้อยไปด้วยจนเแทบเห็นแต่ภาพด้านฉลาดเจ้าเล่ห์ ก็ยิ่งทำให้เราไม่ค่อยลุ้นเอาใจช่วยเขาเท่าใดนัก อันนี้คิดว่าพลาดที่การเตรียมตัวนักแสดงให้เข้าบทควรไปปรับรูปลักษณ์เขาให้เหมาะกว่านี้ หรืออาจมองว่าผู้กำกับเลือกวิธีการนำเสนอใหม่ที่แย่กว่าต้นฉบับมากไปหน่อย

beartai

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *