ชื่อเรื่อง | My Name |
เรตติ้ง | 8.1 |
นักแสดง | So-hee Han,Ahn Bo-Hyun,Hee-soon Park |
จำนวนตอน | 8 ตอน |
รีวิวหนัง My Name Netflix
รีวิวหนัง My Name Netflix ซีรีส์เกาหลีแนวต่อสู้กระจาย ถ้าย้อนกลับไปซักประมาณ 10 ปีที่แล้วเราจะพบว่าซีรีส์เกาหลีส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเล่าถึงเรื่องราวความรักสุดโรแมนตึกหรือไม่ก็เรื่องราวสุดดราม่าที่จะทำให้เราต้องเสียน้ำตาอย่างแน่นอนเนื่องจากอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีนั้นมีความสามารถเป็นอย่างยิ่งในการบีบคั้นอารมณ์ผู้รับชมได้อย่างยอดเยี่ยมเพียงแต่ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ซีรีส์ส่วนใหญ่มักจะทำออกมาเล่าเรื่องราวแนวเดียวกันนั้นก็คือเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ต้องขอบคุณจรีย์เรื่อง Kingdom
ที่ปลุกกระแสความแปลกใหม่ให้กับวงการอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้จนทำให้เรานั้นได้มีโอกาสเห็นภาพยนตร์และซีรีย์แนวใหม่ออกมามากมายให้ได้รับชมเราจะเห็นว่าอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้มีความเปิดกว้างในการหยิบยกนำเอาเรื่องราวที่มีมากกว่าความรักและความตราม่ามาเล่ากันมากยิ่งขึ้นอย่างเช่นซีรีส์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้เป็นซีรีส์แนวต่อสู้กระจายที่ปกติแล้วเราไม่ค่อยจะได้เห็นในเกาหลีใต้เท่าไหร่นั่นก็คือซีรีส์เรื่อง My Name
ซีรีส์เรื่องนี้จะมีกลิ่นอายความเป็นซีรีส์แนวมาเฟียฮ่องกงต่อสู้กันแบบมืด ๆ ไล่ฟันกันแบบกระจุยกระจาย แต่อย่างไรตามซีรีส์เรื่องนี้ยังคงไม่ทิ้งความเป็นเอกลักษณ์ของเกาหลีใต้ไปนั่นก็คือยังมีการผสมผสานเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและความร้อนมากไว้อยู่ดีซึ่งเมื่อมาผสมผสานเข้ากับฉากการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความสนุกและความดุเดือดมันยิ่งทำให้องค์ประกอบโดยรวมของซีรีส์เรื่องนี้มีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง My Name
My Name เป็นซีรีส์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งที่มีชื่อว่าหากดูจากลักษณะภายนอกเธอนั้นก็เหมือนกับสาวห้าวปกติธรรมดาทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอมีเบื้องหลังอันดำมืดเนื่องจากเธอนั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกของแก๊งค้ายารายใหญ่ในเกาหลีใต้อย่างดงซอนแก๊งที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวพันกับการค้าขายยาเสพติดระดับประเทศเธอนั้นได้รับมอบหมายเข้าไปแฝงตัวเป็นไส้ศึกอยู่ภายในกรมตำรวจเพื่อสืบหาให้เจอว่าใครที่ฆ่าพ่อของเธอลงไปแล้วทำการปิดชีวิตของมันให้สำเร็จ
สิ่งที่ทำให้หญิงสาวผู้นี้กลายเป็นหญิงสาวที่เกิดจากการเสี้ยมสอนโดยหัวหน้าแก๊งมูจินเขามีความต้องการที่จะทำให้เธอนั้นกลายเป็นหญิงนักสู้ในโลกใต้ดินที่ไม่รู้สึกอะไรกับความเจ็บปวดรู้จักเพียง แต่การทำภารกิจและการแก้แค้นเท่านั้นการเดินทางล้างแค้นของเธอนั้นได้ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนเธอได้พบกับตำรวจสายสืบหนุ่มไฟแรงคนหนึ่งที่มีชื่อว่าพลโดเขาทำงานในหน่วยสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับยาเสพติดและได้รับมอบหมายให้มาเป็นคู่หูของเธอการที่ได้ร่วมงานกับตำรวจหนุ่มผู้นี้ทำให้หญิงสาวได้ค้นพบกับความจริงบางอย่างที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายยากเกินกว่าที่เธอจะรับมือได้คนเดียวสำเร็จและตำรวจหนุ่มผู้นี้ก็เปรียบเสมือนกับแสงสว่างสุดท้ายอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ในชีวิตเธอความจริงที่เธอพบนั้นคืออะไรและเธอจะตัดสินใจทำอย่างไรต่อไปต้องติดตามรับชมกันต่อในซีรีส์
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง My Name
My Name เป็นซีรีส์ที่ได้นักแสดงมากความสามารถที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้อย่างฮันโซฮีมารับบทนำหลายคนอาจติดภาพเมียน้อยของเธอจากซีรีส์ยอดนิยมอย่าง A World of Married couple หรือนักศึกษาสาวหน้าตาดีจากซีรีย์เรื่อง Nevertheless ในครั้งนี้เธอได้พลิกบทบาทเพื่อพิสูจน์ความสามารถในการเป็นนักแสดงรายการเป็นหญิงสาวนักสู้ที่เต็มไปด้วยความแค้นจนทำให้เธอนั้นยอมละทิ้งตัวตนเพื่อทุกอย่างในการสืบหาว่าใครที่ฆ่าพ่อของเธอ
เราจะไม่ได้เห็นเธอในภาพและหญิงสาวสุดสวยแสนบอบบาง แต่จะเป็นเธอในภาพลักษณ์ของหญิงนักสู้ที่เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผล องค์ประกอบโดยรวมของซีรีส์นั้นจะให้ความรู้สึกเหมือนกับซีรีส์มาเฟียฮ่องกงเทคนิคการถ่ายทำจะใช้ความมืดและแสงสว่างเล็กน้อยคล้ายกับซีรีส์แอ็คชั่นทั่วไป แต่สำหรับซีรีส์เรื่องนี้แล้วเหมือนมันกับแฝงสัญลักษณ์บางอย่างเข้ามาด้วยเนื่องจากเรื่องย่อได้มีการกล่าวว่าตำรวจหนุ่มที่เข้ามาเป็นคู่หูเธอนั้นเปรียบเสมือนกับแสงสว่างอันริบหรี่ของเธอ
ไม่เห็นมันจึงเป็นซีรีย์ล้างแค้นที่แทบจะไม่แตกต่างอะไรจากซีรีส์มาเฟีย แต่กลับเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความสามารถตามแบบฉบับรีจากเกาหลีใต้ด้วยความที่มันเป็นซีรีส์เพียงแค่ 8 ตอนจบเท่านั้นทำให้เรื่องราวที่เล่าค่อนข้างมีความกระชับฉับไว แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่มันเล่าเรื่องราวการต่อสู้ทำให้ก็มีบางครั้งเช่นเดียวกันที่จะมีจังหวะน่าเบื่อหรือเนื้อเรื่องหลวมจนไม่สมเหตุสมผลไปบ้าง แต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็ยังคงเป็นซีรีย์นั้นดีที่ทำให้เรานั้นอยากดูตั้งแต่ต้นจนจบรวดเดียวได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกันดังนั้นหากคุณอยากจะลองหาซีรีย์แนวใหม่รับชมดูหลังจากรับชมซีรีย์แนวโรแมนติกดราม่ามานักต่อนักแล้วเราขอแนะนำซีรีย์เรื่องนี้เลยรับรองว่ามันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังโดยเด็ดขาด