รีวิวหนัง CARTER

ชื่อเรื่องCARTER
เรตติ้ง6.5
นักแสดงJoo Won
จำนวนตอน2.12 ชั่วโมง

รีวิวหนัง CARTER

รีวิวหนัง CARTER เป็นภาพยนตร์แนวต่อสู้ที่มีความโดดเด่นตรงที่การถ่ายทำแบบ REAL TIME ดังนั้นผู้รับชมจะรู้สึกเหมือนกับตัวเองได้หลุดเข้าไปอยู่ในภาพยนตร์ด้วยเนื่องจากช่วงเวลาในภาพยนตร์นั้นตรงกับช่วงเวลาจริงที่เรารับชม เป็นการทำให้ผู้รับชมได้ดำเนินเรื่องราวไปพร้อมกับตัวละครซึ่งเมื่อรวมเข้ากับการใส่ฉากการต่อสู้เข้ามาแบบจัดเต็มทุกวินาทีมันจึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสนุกสนานตลอดทั้งการรับชม

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการใช้อุปกรณ์การถ่ายทำที่จัดเต็มและมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก หากเข้าไปดูในโรงภาพยนตร์แบบ 4D คงจะสนุกสนานไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อมันเป็นภาพยนตร์บน NETFLIX ที่คนส่วนใหญ่นิยมรับชมผ่านทางเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ แท็บเล็ต หรือหน้าจอขนาดเล็กอย่างโทรศัพท์มันจึงค่อนข้างเวียนหัวเล็กน้อยและไปไม่สุดอย่างที่ควรจะเป็น จังหวะภาพสั่นกล้องหมุนมีค่อนข้างมาก สำหรับใครที่เป็น MOTION FIX เราขอแนะนำว่าให้ข้ามภาพยนตร์เรื่องนี้ไปก่อนน่าจะดีกว่าเพราะอาจจะทำให้คุณรู้สึกเวียนหัวจนอาจจะต้องการอาเจียนได้ 

หนัง netflix แนะนํา 2022 พากย์ไทย

แต่ในส่วนที่ต้องชื่นชมเลยก็คือฉากการต่อสู้ที่จัดหนักจัดเต็ม สมกับเป็นภาพยนตร์แนวต่อสู้ที่ไม่มีอะไรมาผสมปนเปเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นสำหรับใครที่ชอบรับชมการต่อสู้เราจึงอยากจะแนะนำให้คุณได้ลองรับชมดู เพราะเปิดฉากมาเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้นก็จัดเต็มการต่อสู้จนเลือดสาดทะลักหน้าจอกันเลยทีเดียว ไม่ปูดราม่ายืดเยื้อวุ่นวาย ไม่ใส่ประเด็นความสัมพันธ์ของตัวละครเข้ามาให้ยุ่งยาก ตัดจบทุกอย่างด้วยการทำให้ตัวละครของเราความจำเสื่อมและให้เรามุ่งประเด็นไปที่การต่อสู้รวมไปถึงการไขปริศนาแบบตรงๆ ไม่อ้อมค้อม

 ถึงอย่างไรก็ตามต้องขอเตือนเอาไว้ก่อนว่าฉากการต่อสู้ภายในภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างโหดแบบเลือดสาด ดังนั้นสำหรับใครที่กลัวเลือดหรือไม่ค่อยถูกกับภาพที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายรุนแรงเท่าไหร่อาจจะต้องผ่านไปก่อนไม่เช่นนั้นคุณอาจจะรู้สึกไม่ดีได้ และด้วยความที่มันขายฉากการต่อสู้ตลอดเวลา มันจะมีบางส่วนที่ทำออกมาเพื่อเพิ่มความสนุกสนานแต่กลับดูไม่สมเหตุสมผลมากจนเกินไป อย่างเช่นการกระโดดลงจากเครื่องบิน การต่อสู้มาอย่างโชกโชนแต่กลับแทบจะไม่มีแผลเลย และที่สำคัญคือมีการจบแบบทิ้งปริศนาเอาไว้ไม่เคลียร์สักเท่าไหร่ซึ่งไม่แน่ใจว่าผู้กำกับต้องการจะต่อภาค 2 หรือไม่ ทำให้ผู้รับชมรู้สึกค้างคา 

ภาพยนตร์แนวต่อสู้สุดมันสัญชาติเกาหลีจาก NETFLIX ปกติแล้วหากพูดถึงภาพยนตร์แนวต่อสู้หลายคนอาจจะไม่ได้นึกถึงภาพยนตร์จากฝั่งเกาหลีสักเท่าไหร่เนื่องจากมองว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในเกาหลีนั้นจะถนัดการทำภาพยนตร์แนวดราม่าหรือภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้มากกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วก็มีภาพยนตร์เกาหลีแนวต่อสู้หลายเรื่องเลยทีเดียวที่สามารถทำออกมาได้ดีและมีความสนุกสนาน ไม่ได้ติดกับดักความเป็นสูตรสำเร็จจนน่าเบื่อแต่อย่างใด อย่างเช่นที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง CARTER 

CARTER เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายบน NETFLIX เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา มาพร้อมกับการต่อสู้แบบจัดเต็มพร้อมกับเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเข้มข้น ไม่ได้ใส่ดราม่าเข้ามามากมายจนทำให้รสชาติของการต่อสู้ขาดหายไปแต่อย่างใด หากคุณเป็นคนที่ชอบการรับชมฉากการต่อสู้รับรองเลยว่าตลอด 132 นาทีคุณจะเต็มอิ่มกับการต่อสู้แบบถึงขีดสุดอย่างแน่นอน 

ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เจ้าพ่อผู้กำกับภาพยนตร์แนวต่อสู้ชื่อดังอย่างจองบยองกิล ชายผู้มีผลงานภาพยนตร์แนวต่อสู้ออกมาให้เราได้รับชมมากมาย จุดเด่นส่วนใหญ่คือการถ่ายทำแบบ REAL TIME ให้เรารู้สึกเหมือนกับได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกของภาพยนตร์ ได้ดำเนินเรื่องราวไปพร้อมกับตัวละครมันจึงทำให้ผู้รับชมอย่างเรารู้สึกอินไปกับความรู้สึกของตัวละครได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เมื่อรวมเข้ากับฉากการต่อสู้แบบจัดเต็มจนแทบจะไม่มีเวลาให้พักหายใจทำให้มันสามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้รับชมอย่างเราได้เป็นอย่างดี ภาพยนตร์เรื่องนี้จะออกมาเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง CARTER 

CARTER เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ฟื้นขึ้นมาภายในห้องของโรงแรมที่เขาไม่รู้จัก เขาพยายามตั้งสติก่อนจะพบว่าความทรงจำของตัวเองทั้งหมดหายไปอย่างสิ้นเชิง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชื่อของตัวเองคืออะไร และเพราะอะไรเขาจึงมาหมดสติอยู่ในห้องแห่งนี้ แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงมาจากเครื่องที่ฝังอยู่ภายในหูบอกว่าตัวของเขานั้นมีชื่อว่าคาร์เตอร์ 

เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นแต่เขากลับถูกเจ้าหน้าที่ CIA บุกเข้ามาภายในห้องเพื่อจับกุมตนเอง ทำให้เขาต้องพยายามหนีเอาชีวิตรอดออกจากสถานที่แห่งนี้โดยเร็วอย่างไม่มีทางเลือก ระหว่างทางที่เขาพยายามค้นหาคำตอบและหลีกหนีการจับกุมนั้นเขาก็ได้ค้นพบพ่อกับปริศนามากมายเกี่ยวกับภารกิจเสี่ยงตายที่เขาจะต้องทำ ไม่เพียงเท่านั้นยังมีคนจากทางอเมริกาถูกส่งมาตามล่าตัวเขาโดยเฉพาะ แต่นั่นยังไม่แย่เท่ากับการที่มีทั้งคนจากทางเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือพยายามจะจับกุมตัวเขาด้วยเช่นเดียวกัน 

ปัญหายังไม่จบแต่เพียงเท่านั้นเพราะเขาได้รับรู้ว่าตนเองได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับไวรัสที่ทำให้ผู้คนมีสติคุ้มคลั่ง ภารกิจเสี่ยงตายของเขาตามที่ได้ยินจากเครื่องในหูบอกว่าเขาจะต้องพาเด็กสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่าฮานาที่มีเลือดที่สามารถนำเอาไปใช้รักษาเชื้อไวรัสปริศนาดังกล่าวได้ส่งให้กับประเทศเกาหลีเหนือให้ทัน ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน เขาจะสามารถทำภารกิจนี้ได้สำเร็จหรือไม่และความเป็นจริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เราต้องไปติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์ ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง CARTER 

ตัวอย่างหนัง CARTER

รีวิว หนัง CARTER บางส่วนจาก beartai

หากจะว่ากันถึงคอนเทนต์ที่เป็นจุดขายของ Netflix ในปัจจุบันคงหนีไม่พ้นคอนเทนต์ซีรีส์เกาหลีที่แทบจะสลับเรื่องกันขึ้นอันดับ 1 คอนเทนต์สุดฮิต จะมีเพียงภาพยนตร์เรื่องยาวนี่แหละที่ยังไม่มีโอกาสติดอันดับกับเขา ซึ่งผลงานล่าสุดอย่าง ‘Carter’ หนังแอ็กชันลองเทคกล้องส่ายที่บู๊มันแบบ ‘John Wick’ มีซอมบี้อาละวาดแบบ ‘Kingdom’ และกล้องส่ายตามติดแบบ ‘Hardcore Henry’ ผสานพลอตแบบยืม ๆ ‘Jason Bourne’ นิด ๆ กำลังจะมาอาละวาดพร้อมดาราแม่เหล็กอย่างจูวอน จากซีรีส์ฮิตอย่าง ‘Good Doctor’ มาวาดลวดลายบู๊สุดมัน

โดยเรื่องราวจะเริ่มต้นขึ้นเมื่ออยู่ดี ๆ คาร์เตอร์ ชายความจำเสื่อมตื่นขึ้นมาในห้องโรงแรมก่อนซีไอเอจะบุกเข้ามาเพื่อจับกุมจนเขาต้องหนีตายพร้อมกับต้องสืบหาความจริงว่าตัวเองเป็นใคร ในขณะเดียวกันเขายังต้องหนีการจับกุมทั้งจากซีไอเอและทางการเกาหลี รวมถึงการต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับเหตุโรคระบาดที่ทำให้คนคลุ้มคลั่งและลุกขึ้นมาฆ่าคนอย่างเลือดเย็นซึ่งทางรักษามีเพียงเลือดของลูกสาวนักวิทยาศาสตร์ที่ทางเกาหลีเหนือต้องการตัวและมันอาจเป็นใบเบิกทางสำหรับคาร์เตอร์

หากยังไม่พูดถึงเรื่องราวหรือความสมเหตุสมผลของบท ‘Carter’ ก็คืองานโชว์เทคนิคการถ่ายทำแบบลองเทคในหนังแอ็กชันที่เรียกได้ว่าเป็นการปล่อยของช็อง บย็อง-กิล ผู้กำกับหนังแอ็กชันที่มีฐานจากงานสตันท์แมนมาก่อนคล้าย แชด สตาเฮลสกี้ (Chad Stahelski) ผู้กำกับ ‘John Wick’ เลยและมีหนัง ‘The Villainess’ หนังแอ็กชันสุดระห่ำที่พลอตแอบคล้ายกับ ‘La Femme Nikita’ อัดอดรีนาลีนซึ่ง บย็อง-กิล ก็โชว์เทคนิกลองเทคในการถ่ายทำหลายฉาก

ทีนี้พอมาถึง ‘Carter’ ยอมรับเลยว่านี่คือหนังที่ถูกออกแบบมาให้บย็อง-กิล กำกับโดยเฉพาะ เนื่องจากพล็อตสายลับความจำเสื่อมก็เอื้อเหลือเกินให้การดำเนินเรื่องเหมือนเรากำลังเล่นวิดีโอเกมและไอเทมที่คนดูจะได้คือข้อมูลเพิ่มเติมของตัวละครที่เรารู้จักเพียงแค่ชื่อคาร์เตอร์ แต่เหมือนบย็อง-กิลจะหนักมือไปหน่อยเพราะแค่ซีนแอ็กชันซีนแรกเขาก็เล่นมุมกล้องลองเทคสุดฉวัดเฉวียนถ่ายทั้งโดรนทั้งสเตดี้แคมและกล้องรถบังคับแบบไม่กลัวคนดูคลื่นไส้คืนสารอาหารสู่ธรณีเลยทีเดียว

ซึ่งแน่นอนเลยว่าคำเตือนแรกของเราคือใครไม่ถูกโรคกับหนังที่กล้องส่ายไปส่ายมา ‘Carter’ น่าจะเป็นหนังที่คุณต้องหลีกเลี่ยงหรือใครจะทดลองก็ขอให้ผ่าน 15 นาทีแรกของหนังไปให้ได้ก่อน ใช่แล้วครับ…คือหนังถ่ายลองเทคและมูฟเมนต์กล้องก็ส่ายไปส่ายมาทั้งเรื่องจริง ๆ แต่ก็มีข้อสังเกตอยู่เหมือนกันว่าการที่หนังใช้เทคนิกเยอะ ใช้กล้องที่หลากหลายผสานการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกมาช่วยในการตัดต่อก็ทำให้ “รอยต่อ” ของแต่ละช็อตเห็นได้ชัดอยู่เหมือนกัน ไม่ได้แนบเนียนเปี่ยมศิลปะแบบหนังอย่าง ‘1917’ หรือ ‘The Revenant’ ที่ซ่อนช็อตด้วยการถ่ายทิลต์กล้องถ่ายท้องฟ้าหรือหลบหลังวัตถุแต่ก็เหมือน ‘Carter’ จะชัดเจนในแนวทางภาพแบบวีดีโอเกมของมันอยู่นะครับ

ส่วนฉากแอ็กชันในหนังก็ต้องยอมรับว่า บย็อง-กิล ก็ยังยึดติดกับช็อตซิกเนเจอร์อย่างการพุ่งตัวชนกระจกและช็อตต่อสู้บนหลังมอเตอร์ไซค์ที่แทบจะลอกจาก ‘The Villainess’ ของตัวเองมาเยอะเหมือนกัน แม้คราวนี้สเกลฉากแอ็กชันจะใหญ่โตขึ้นมีการเดินทางข้ามประเทศ มีมูฟเมนต์ของตัวละครในช่วงเวลากลางวันแต่ลูกเล่นในซีนแอ็กชันต่าง ๆ ก็ไม่ได้เป็นของใหม่สำหรับคอหนังแอ็กชันทั้งฉากดวลกระสุนในที่แคบ ฉากบู๊บนท้องฟ้าหลังเครื่องบินระเบิด หรือมุกหนังผจญภัยยุคสปีลเบิร์กอย่างฉากเดินข้ามเขาด้วยบันไดไม้ใกล้พัง

ซึ่งในภาพรวมของคุณภาพงานกำกับและถ่ายทำฉากแอ็กชันเราก็คงยังพอให้คะแนน บย็อง-กิลด้วยเกรดสูงลิ่วได้เพราะมันก็ตื่นตาตื่นใจและโหดสะใจดีแท้ เพียงแต่องค์ประกอบที่หนังเรื่องหนึ่งจะเป็นหนังดีและดูสนุกได้คงพึ่งฉากแอ็กชันอย่างเดียวไม่ได้แต่จำเป็นต้องมีบทภาพยนตร์ที่แข็งแรง ซึ่ง ‘Carter’ ไม่ได้เข้าข่ายงานที่ขายบทภาพยนตร์ที่รัดกุมและแข็งแรงหรอกครับ เราเลยเห็นหนังสร้างปมขึ้นมาแล้วทิ้งมันไปดื้อ ๆ เพื่อหาทางพาเราไปเจอบิ๊กบอสจนอดอีหยังวะไม่ได้

beartai

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *