ชื่อเรื่อง | Bloodride |
เรตติ้ง | 6.4 |
นักแสดง | Dagny Backer Johnsen,Erlend Rødal Vikhagen,Benjamin Helstad |
จำนวนตอน | 6 ตอน |
รีวิวหนัง Bloodride Netflix
รีวิวหนัง Bloodride Netflix ซีรีส์ระทึกขวัญจบในตอนที่จะทำให้คุณใจเต้นตลอดการรับชม ปัจจุบันนี้การทำซีรีส์แบบจบในตอนนั้นได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสภาวะความเป็นอยู่ปัจจุบันของผู้รับชมสื่อบันเทิงนั้นอาจจะมีเวลาไม่มากพอกับการรับชมซีรีส์ที่มีความยาวแถม 1 ตอนนั้นยังกินเวลานานนับชั่วโมงอีกต่างหาก หากคุณเป็นคนที่ไม่มีเวลาแต่ก็อยากจะรับชมซีรีส์เรามีมาแนะนำนั่นก็คือซีรีส์เรื่อง Bloodride เป็นซีรีส์สัญชาตินอร์เวย์จบในตอนที่มาเพียงตอนละ 40 นาที รับชมได้ไม่ค้างคา แถมแต่ละเรื่องนั้นก็ยังมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวระทึกขวัญที่จะทำให้คุณรู้สึกใจเต้นไปตลอดการรับชม เราไม่แนะนำให้คุณรับชมก่อนนอนถึงแม้ว่ามันจะไม่มีความสยองขวัญสั่นประสาทเหมือนกับภาพยนตร์แนวสยองขวัญ แต่ความระทึกขวัญที่มันจะมอบให้นั้นจะทำให้คุณเหนื่อยเหมือนกับไปวิ่งรอบสนามฟุตบอลมา แม้ว่ามันจะเป็นซีรีส์ที่ไม่ได้มาในภาษาสากลอย่างภาษาอังกฤษ แต่เราก็อยากจะแนะนำให้คุณรับฟังเสียง Original เป็นภาษานอร์เวย์เจี้ยน เพราะมันจะทำให้คุณเข้าถึงอารมณ์และเรื่องราวของซีรีส์ได้มากยิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นซีรีส์ที่จบในตอน แต่แต่ละตอนนั้นก็จะมีจุดเชื่อมโยงที่สามารถผูกพันเรื่องราวเข้าหากันได้อย่างลงตัว มันจึงเป็นซีรีส์ที่คุณจะรับชมแบบจบเป็นตอนๆ ไปหรือจะรับชมแบบรวดเดียวจบก็ได้เช่นเดียวกัน หากคุณอยากจะสัมผัสกับความระทึกขวัญไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้โดยเด็ดขาด
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง Bloodride
Bloodride จะแบ่งเรื่องราวออกเป็นทั้งหมด 6 เส้นเรื่องด้วยกัน โดยจุดเริ่มต้นนั้นตัวละครทุกตัวในแต่ละเรื่องนั้นจะนั่งอยู่บนรถโดยสาร แต่ละคนนั้นดูมีความทุกข์แถมยังกำลังปิดบังบางอย่างเอาไว้อีกด้วย หากจะเล่าถึงตัวละครไหนหน้าจอก็จะฉายให้เห็นตัวละครนั้น หลังจากนั้นปุ่มสัญญาณเตือนที่คนขับรถก็จะกลายเป็นสีแดงแล้วพาให้ผู้รับชมไปรับรู้เรื่องราวของพวกเขา
เรื่องแรกจะเล่าถึงนิทานปรัมปราที่เล่าต่อๆ กันมาในหมู่บ้านที่ห่างไกล เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อมีครอบครัวหนึ่งเดินทางจากเมืองใหญ่มาอาศัยอยู่ในชนบทแห่งนี้เนื่องจากสภาวะทางการเงินของพวกเขาฝืดเคืองเต็มทน แต่การย้ายมาอยู่ในบ้านใหม่กลับไม่ศิวิไลเหมือนกับที่พวกเขาใฝ่ฝัน ผู้เป็นแม่เริ่มสังเกตเห็นว่าชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นมีพฤติกรรมแปลกประหลาดโดยเฉพาะพฤติกรรมกับสัตว์เลี้ยง และมันก็นำพามาสู่เรื่องราวที่ไม่มีใครคาดคิด
ต่อมาเป็นเรื่องราวของหนูหน้าตาดีที่มีชื่อว่าเอริค เขาเข้ารับการบำบัดทางจิตในโรงพยาบาลจิตเวชและพึ่งจะได้รับการปล่อยตัวออกมา คนที่มารับเขาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นพี่ชายเจ้าปัญหา 2 คน ถึงอย่างนั้นสามพี่น้องก็ยังคงรักกันดีและเดินทางไปพักผ่อนร่วมกันในกระท่อมเก่าของครอบครัว ระหว่างการเดินทางชายหนุ่มทั้งสามได้อนุญาตให้หญิงสาวแปลกหน้าคนหนึ่งเดินทางมาพร้อมกับเขา แต่หญิงสาวคนนี้กลับมาพร้อมกับปริศนาบางอย่าง
เรื่องราวที่ 3 จะเล่าถึงเด็กสาวมหาลัยอยากโอลิเวีย เธอนั้นรับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังถูพลังงานลึกลับบางอย่างตามล่าอยู่ แถมเธอยังต้องพบเจอกับปรากฏการณ์แปลกประหลาดมากมาย ดังนั้นเธอจึงต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดจากสิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จ
ต่อมาจะเล่าถึงเรื่องราวของเหล่า CEO และกลุ่มนักวิจัยที่ได้มีการรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน แต่หลังจากนั้นไม่นานผู้บริหารก็พบว่ายาต้นแบบได้อันตรธานไปจากตู้เซฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกคนที่อยู่ในงานเลี้ยงจึงถูกบังคับให้อยู่ในห้องทดลองที่สามารถปล่อยแก๊สพิษเข้าไปได้ตลอดเวลา ข้อแม้คือรหัสที่จะทำให้พวกเขาสามารถออกจากห้องนั้นได้คือรหัสของตู้เซฟ เกมไล่จับผู้ร้ายจึงได้เริ่มต้นขึ้น
เรื่องที่ 5 จะเล่าถึงครูคนใหม่ที่ได้เดินทางมาสอนในโรงเรียนชนบท แต่หลังจากย้ายมาเธอก็ได้ยินเสียงแปลกประหลาดที่เต็มไปด้วยความน่ากลัวเธอจึงพยายามค้นหาความจริงที่เกิดขึ้น แต่ยิ่งค้นหาความจริงมากแค่ไหนเธอก็ยิ่งค้นพบกับเรื่องราวสยองขวัญมากขึ้นเท่านั้น
สุดท้ายจะเล่าถึงเรื่องราวในสถานที่ทำงานซึ่งมีการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์กันอย่างสุดเหวี่ยง แต่แล้วกลับมีพนักงานบางส่วนที่ตั้งใจจะค้นหาความจริงเกี่ยวกับการจากไปของหนึ่งในพนักงาน ในขณะเดียวกันก็มีฆาตกรในชุดมาสคอตรูปช้างตามไล่เชือดทุกคนในงานเลี้ยง
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง Bloodride
Bloodride เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญที่สามารถสอดแทรกความสยองขวัญเข้ามาได้อย่างน่าตกอกตกใจ มันไม่ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการฆาตกรรมเท่านั้น แต่ยังเล่าไปถึงเรื่องราวลึกลับ ตำนานปรัมปรา สิ่งเหนือธรรมชาติที่ปกติแล้วมนุษย์ธรรมดาอย่างเราแทบจะสู้ไม่ได้ แม้ว่าบางตอนนั้นจะไม่ได้มีการเล่าเรื่องถึงความสยองขวัญแต่มันก็ทำให้เรารู้สึกกลัวจนนอนไม่หลับได้เช่นเดียวกัน
ความน่าสนใจของมันก็คือแต่ละตอนนั้นต่างก็มีความน่าสนใจและเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เป็นซีรีส์หนึ่งเรื่องที่ผสมผสานความสนุกสนานเอาไว้ได้มากมายหลากหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสยองขวัญและความรู้สึกระทึกไปตลอดการรับชม และยังเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการรับชมซีรีส์ตอนยาวเพราะเราสามารถรับชมความสนุกแบบครั้งละตอนได้โดยที่ไม่รู้สึกติดค้างอะไร
ตัวอย่างหนัง Bloodride
รีวิว หนัง Bloodride จาก beartai
ซีรีส์สยองขวัญประเภทจบในตอนจำนวน 6 ตอนที่ถูกนำมาร้อยเรียงผ่านเที่ยวโดยสารรถบัสมรณะที่ดูลึกลับเป็นปริศนา ก็เป็นงานซีรีส์ประเภทสยองขวัญที่ดูไม่ยากมากและเป็นที่นิยมในหลาย ๆ ชาติ เพราะจบในตอนและที่สำคัญมักนำเสนอพลอตที่แปลกประหลาดน่าติดตาม อย่างเช่นงานสยองคลาสสิกอย่าง Tales from the Crypt งานไซไฟสยองแบบ Black Mirror หรืออย่างในไทยก็มีอย่าง ยายกะลา ตากะลี เป็นต้น สำหรับซีรีส์ชุด Bloodride ก็เป็นคราววิสัยทัศน์ของทีมงานจากนอร์เวย์ที่ทำมาอวดสายตาชาวโลกผ่านทางเน็ตฟลิกซ์บ้าง
ว่าด้วยงานสร้างต้องยอมรับว่าทีมงานสร้างทั้งครีเอเตอร์ คนเขียนบท ผู้กำกับ ตลอดจนนักแสดง ก็เป็นชาวนอร์เวย์แบบที่ดูชื่อเราก็ไม่รู้จักผลงานก่อนหน้ามาก่อนเลย เป็นโอกาสดีอีกครั้งที่ได้ดูงานนอร์เวย์เพียว ๆ แบบนี้ โปรดักชันก็มีความก้ำกึ่งระหว่างงานหนังกับงานละคร แต่ให้ความรู้สึกหนักไปทางละครโทรทัศน์มากกว่า ทั้งมุมกล้อง เทคนิคการถ่ายทำ การแสดง และวิธีการเล่าเรื่อง มีฉากจำที่ติดตาจริง ๆ
ไม่มากนัก บางตอนทำได้ดีแต่บางตอนก็ดูดรอปลงไปเยอะทั้งที่มีผู้กำกับสับเปลี่ยนกันแค่ 2 คน ยิ่งฉากหักมุมที่เป็นจุดพิฆาตในหนังแนวนี้ก็ต้องบอกว่ายังไม่สุดเท่าไหร่ เหมือนน่าจะทำให้สะดุดใจมากกว่านี้ได้ ติดตามากกว่านี้ได้ แต่ก็ไปไม่ถึงอย่างน่าเสียดาย และอีกอย่างที่คาดหวังว่าน่าจะมีคำอธิบายมากขึ้นคือฉากในรถบัสที่เป็นอินโทรของทุกเรื่อง หวังเอาไว้ว่าพอถึงตอนสุดท้ายน่าจะมีเฉลยว่ารถบัสนี้คืออะไร แต่สุดท้ายก็จบไปแบบนั้นเลย
ในจำนวน 6 ตอน มีเรื่องที่น่าสนใจอย่างเช่น ตอนที่ 3 Bad Writer ว่าด้วยสาวมือสมัครเล่นที่เข้าเรียนคอร์สเขียนนิยายจากนักเขียนคนดัง ก่อนเธอจะพบความจริงว่าเธอกำลังถูกใครบางคนเขียนชีวิตเธออย่างจงใจ และเธอเองก็เขียนชีวิตผู้อื่นให้เป็นตามนิยายที่แต่งได้ สุดท้ายใครคือเจ้าของเรื่องราวนี้และคุมชีวิตของทุกตัวละครไว้กันแน่ต้องติดตามชม อีกตอนที่แนะนำคือ ตอนที่ 4 Lab Rats
ว่าด้วยบริษัทยาใหญ่ที่ค้นพบสูตรยาใหม่พร้อมจะทำการผลิตขาย คืนนั้นประธานบริษัทเชิญพนักงานคนสำคัญรวมถึงภรรยาของเขามาร่วมฉลอง ทว่าหลอดยาต้นแบบกลับหายไปและนำมาสู่การไล่หาคนร้ายแบบที่ไม่มีใครไว้ใจใครได้เลย ทั้ง 2 ตอนนี้แม้จะมีกลิ่นอายของงานอื่นอยู่บ้างแต่ฉากจบหมัดไม้ตายของเรื่องยังพอมีความรุนแรงกระแทกใจเราได้บ้าง
โดยรวมก็ต้องบอกว่าเป็นงานจากทีมงานนอร์เวย์ที่ยังไม่ค่อยคุ้นชื่อในเวทีนานาชาตินัก ตัวซีรีส์มีแก่นกลางว่าด้วยความสยองความตายและการหักมุม อันเป็นสูตรเรื่องสั้นสมัยใหม่ที่เข้าถึงคนดูได้ง่าย หลาย ๆ ตอนมีส่วนผสมของหนังหรืองานเขียนในแนวเดียวกันหลาย ๆ เรื่องมาผสมกลมกล่อมให้เป็นเนื้อใหม่ แม้จะชวนให้นึกถึงเรื่องนั้นนี้อยู่บ้าง แต่ก็มีรายละเอียดที่ทำให้มีเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ทั้งนี้เมื่อมองในฐานะคนที่ชื่นชอบหนังหรือเรื่องเล่าแนวสยองหักมุมแล้ว
ก็ยังไม่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นแปลกใจตรึงใจมากนัก เป็นความเพลิดเพลินแบบดูสนุกในตอนนั้น ๆ แล้วจบไป ไม่ได้คิดจะเอามาเล่าถกกับเพื่อนหรือแนะนำใครเป็นพิเศษ ถ้าเบื่อ ๆ ต้องกักตัว 14 วัน ดูได้จบในตอนไม่ค้างคา เสียเวลาไม่นานต่อตอนประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมงแล้วให้ความบันเทิงได้พอสมควร ก็แนะนำเลย
beartai