ชื่อเรื่อง | HE’S EXPECTIN |
เรตติ้ง | 6 |
นักแสดง | Takumi Saitoh |
จำนวนตอน | 8 ตอน |
รีวิวซีรีส์ HE’S EXPECTIN
รีวิวซีรีส์ HE’S EXPECTIN ซีรีส์โลกสมมุติที่จะตอบคำถามว่าจะเป็นอย่างไรหากผู้ชายเป็นฝ่ายท้อง ธรรมชาติแบ่งสรรปันส่วนให้มนุษย์เพศชายและเพศหญิงมีหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป โดยสรีระที่แตกต่างกันทำให้พวกเราสามารถแบ่งหน้าที่กันได้อย่างชัดเจนมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามทั้งสองเพศก็ไม่ได้มีความเท่าเทียมกันในแง่ของการอยู่อาศัยในสังคมแต่อย่างใด ผู้หญิงยังคงมีความเสียเปรียบในหลายด้าน ความจริงเราเพิ่งจะได้ความเท่าเทียมมาส่วนหนึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยซ้ำไป การเกิดมาเป็นผู้หญิงนั้นจะมีความยากลำบากติดตัวมามากมายไม่ว่าจะเป็นการเป็นประจําเดือน การต้องเผชิญกับความสวิงของฮอร์โมนที่ทำให้อารมณ์แปรปรวน ยังไม่รวมไปถึงการตั้งท้องที่ต้องใช้เวลายาวนานถึง 9 เดือนแถมยังต้องเป็นคนคลอดออกมาซึ่งเป็นความเจ็บปวดที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
ดังนั้นในแง่ของสรีระแล้วความเท่าเทียมกันระหว่างเพศชายและหญิงจึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก สิ่งที่เราสามารถทำได้คือการเคารพความเป็นตัวตนของกันและกันเท่านั้น แต่ลองจินตนาการดูว่าจะเป็นอย่างไรหากโลกใบนี้ผู้ชายก็สามารถตั้งท้องได้ หากคุณอยากรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรเราขอแนะนำซีรีส์เรื่อง HE’S EXPECTINมันเป็นซีรีส์แนวโลกสมมุติที่เล่าถึงเรื่องราวว่าจะเป็นอย่างไรหากผู้ชายสามารถตั้งท้องได้แบบเป็นปกติโดยที่ไม่มีคำอธิบายใดมาบอกให้เราได้รับรู้เลยว่าเพราะเหตุใดผู้ใช้จึงตั้งท้องขึ้นมามาบอกให้เราได้รับรู้เลยว่าเพราะเหตุใดผู้ชายจึงตั้งท้องขึ้นมา
หากคุณรู้ว่ามันคือซีรีส์สัญชาติอะไรคุณจะไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อยเกี่ยวกับความแปลกประหลาดของมัน เพราะมันคือซีรีส์ญี่ปุ่นนั่นเอง เป็นซีรีส์ที่ต้องยอมรับเลยว่ามีเนื้อหาที่น่าสนใจและแหวกแนวไม่น้อย ออกฉายบน NETFLIX มีจำนวนทั้งสิ้น 8 ตอนจบ สำหรับใครที่อยากรู้คำตอบก็สามารถเข้าไปหาคำตอบได้แล้วบน NETFLIX
ซีรีส์ netflix แนะนํา
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง HE’S EXPECTIN
HE’S EXPECTIN เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของหนุ่มเพลย์บอยผู้รักอิสระอย่างหมดหัวใจแต่เพราะใบหน้าที่หล่อเหลาทำให้มีสาวๆ มาติดเขาเป็นจำนวนมากนั่นก็คือเคนทาโร่ เขาทำงานอยู่ในวงการโฆษณาที่กำลังไปได้อย่างงดงามเลยทีเดียว ทุกอย่างที่เขาวางแผนเอาไว้ล้วนแล้วแต่เป็นไปตามความต้องการ ทุกอย่างดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรมาขวางกั้นความฝันของเขาได้สำเร็จ แต่แล้วในวันหนึ่งก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น
หนุ่มเพลย์บอยผู้รับอิสระกลับตั้งท้องขึ้นมาแบบที่ไม่มีใครคาดฝัน เขาพยายามนึกย้อนกลับไปว่าเป็นลูกของใครก่อนจะนึกออกว่าน่าจะเป็นความสัมพันธ์ของเขากับนักเขียนที่มีชื่อว่าอากิเซโตะ การตั้งท้องขึ้นมาแบบไม่คาดฝันทำให้ชีวิตที่กำลังไปได้ดีของเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายและมันก็เริ่มไม่เป็นไปตามแผนของเขาอีกต่อไป
เขาต้องเผชิญกับความยากลำบากในการตั้งท้องไม่ว่าจะเป็นความรับผิดชอบที่จะตามมาหรือแม้แต่ความยากลำบากในแง่ของการขยับเขยื้อนร่างกายก็ตาม สุดท้ายแล้วคุณพ่อเพลย์บอยรักอิสระคู่นี้จะลงเอยด้วยเรื่องราวอย่างไรต้องไปติดตามรับชมกันต่อในซีรีส์
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง HE’S EXPECTIN
HE’S EXPECTIN เป็นซีรีส์โลกสมมุติที่อาจจะเล่าเรื่องราวที่สุดแสนจะแปลกประหลาดแต่หากคุณรู้ที่มาที่ไปแล้วจะไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อยเพราะมันอยากแปลงมาจากการ์ตูนมังงะจากค่ายโคดันชะนั่นเอง เป็นการ์ตูนที่ตีพิมพ์มาตั้งแต่ในปี 2019 เราแนวสมมุติที่ไม่มีการอ้างอิงทฤษฎีหรือหลักทางวิทยาศาสตร์เลยเกี่ยวกับการที่ผู้ชายสามารถตั้งท้องขึ้นมาได้ตามปกติ ดังนั้นแน่นอนว่าจะรับชมซีรีส์เรื่องนี้สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือการตัดเหตุและผลรวมไปถึงหลักการทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเพศที่เคยเรียนมาทั้งหมดออกไป
แกนหลักของเรื่องราวคือการเล่าถึงความยากลำบากในการตั้งท้องให้ผู้ชายได้รับรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงในความเป็นจริงแล้วเวลาตั้งท้องพวกเธอต้องเผชิญกับความยากลำบากอะไรบ้าง ซึ่งซีรีส์ก็สามารถใส่รายละเอียดที่เกิดขึ้นจริงเข้ามาได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้เราสามารถเห็นพัฒนาการในการตั้งท้องในแต่ละช่วงเดือนได้อย่างชัดเจนและเข้าใจ แต่พอเปลี่ยนให้ผู้ชายมาตั้งท้องแทนผู้หญิงมันทำให้หลายอย่างดูมีความยากลำบากมากขึ้นกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกายที่มักจะทำสำหรับผู้หญิง หรือแม้แต่สองคนที่มองว่าการที่ผู้ชายตั้งท้องเป็นเรื่องแปลกประหลาดที่รับไม่ได้ เปรียบเทียบแล้วคล้ายกับการที่เป็นเกย์
นั่นก็เป็นเพราะว่าในสังคมจารีตญี่ปุ่นความหลากหลายทางเพศยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเปิดกว้างแบบที่ควรจะเป็นแต่อย่างใด เรื่องราวจะเล่าคู่กันไประหว่างพัฒนาการในการตั้งท้องและปัญหาสารพัดที่ถาโถมเข้ามาให้พวกเขาต้องรับมือ การใช้ชีวิตที่ยากลำบาก รวมไปถึงปัญหาครอบครัวเนื่องจากเขาไม่ได้คบกับแม่เหล็กเป็นแฟนแต่อย่างใด ในขณะที่ผู้หญิงก็ต้องเผชิญกับปัญหาเหมือนกับผู้ชายที่อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นพ่อคน และลงเอยเหมือนกับที่เราเห็นตามสังคมชายเป็นใหญ่นั่นก็คือรับดูแลลูกแต่ไม่แต่งงานกับแม่
แต่ไม่ต้องกังวลไปว่าซีรีส์เรื่องนี้จะเต็มไปด้วยความอึดอัดและความตึงเครียดตลอดการรับชม เพราะทีมงานสามารถสอดแทรกความตลกความผ่อนคลายเข้ามาได้เป็นอย่างดี ผสมผสานกับความดราม่าเล็กๆ ให้เรื่องราวดูมีอะไรมากขึ้นได้อย่างยอดเยี่ยม บรรยากาศจึงไม่ได้หมดของเสียจนเกินไป โดยรวมแล้วถือว่าสามารถทำออกมาได้ค่อนข้างดีเพียงแต่ว่าในช่วงแรกเราต้องฝืนสักหน่อยให้ชินไปกับเรื่องราว หลังจากนั้นมันก็จะสนุกมากขึ้นจนคุณไม่รู้ตัว