| ชื่อเรื่อง | Below Zero Netflix |
| เรตติ้ง | 6.2 |
| นักแสดง | Javier Gutiérrez, Karra Elejalde, Luis Callejo |
| จำนวนตอน | 1.46 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง Mortal Kombat
รีวิวหนัง Mortal Kombat ภาพยนตร์จากเกมที่มาไม่ถูกเวลา เกมนั้นเป็นสื่อบันเทิงที่มอบความสนุกสนานให้กับเรามาหลายทศวรรษ โดยเฉพาะในช่วงยุค 90 ที่เกมนั้นเริ่มมีเนื้อเรื่องที่มีความเข้มข้นและความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ทำให้บางเกมนั้นผู้เล่นเล่นเพื่อเสพเรื่องราวภายในเกมกันเลยทีเดียว และด้วยเหตุนี้ทำให้มีเกมมากมายที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้นและความสลับซับซ้อนสูงถูกหยิบยกนำเอามาดัดแปลงและนำเสนอในรูปแบบภาพยนตร์นับครั้งไม่ถ้วน
เริ่มการตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง Resident Evil ที่หยิบยกนำเอาเกมในชื่อเดียวกันมาบอกเล่าในรูปแบบภาพยนตร์และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ภาพยนตร์เรื่อง Tomb Raider ที่ยกนำเอาเรื่องราวของนักผจญภัยสาวอย่างลาล่า ครอฟมาเล่า ภาพยนตร์อย่าง Silent Hill ลที่หยิบยกนำเอาเกมในชื่อเดียวกันมาเล่าในรูปแบบภาพยนตร์สยองขวัญได้เป็นอย่างดี หรือล่าสุดอย่างภาพยนตร์เรื่อง Monster Hunter ภาพยนตร์จากเกมที่เจอพิษ covid-19 เข้าไปจนทำให้รายได้ไม่สวยงามเท่าที่ควร
มีทั้งประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จแต่สุดท้ายแล้วผู้สร้างภาพยนตร์นั้นก็ยังคงไม่เข็ดหลาบกับการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยเหตุนี้ทำให้เรานั้นมีโอกาสได้เห็นเกม Mortal Kombat ในรูปแบบภาพยนตร์คนแสดงกันในที่สุด
แต่น่าเสียดายที่ภาพยนตร์ที่น่าสนใจเรื่องนี้แม้ว่ามันจะเต็มไปด้วยความสนุกแบบโหดมันฮา แต่เพราะว่ามันดันมาฉายตรงกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากอย่าง Godzilla vs Kong ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรและแน่นอนว่ามันจะส่งผลกระทบต่อรายได้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะสามารถสร้างภาคต่อได้หรือไม่
ดังนั้นหากใครที่ชื่นชอบเกมนี้และอยากจะเห็นมันในรูปแบบภาพยนตร์ที่สร้างภาคต่อออกมาเรื่อยๆ เหมือนกับ Resident Evil ก็ต้องเข้าไปรับชมในโรงภาพยนตร์เพื่อให้ยอดรายได้กระเตื้องขึ้นมาและส่งใจช่วยให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถทำรายได้ได้อย่างงดงาม
ไม่เช่นนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะต้องประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับภาพยนตร์ที่สร้างจากเกมซึ่งออกฉายก่อนหน้าไม่นานอย่าง Monster Hunter ที่รายได้ไม่สวยงามจนมีวี่แววว่าจะไม่สามารถสร้างภาคต่อออกมาได้ในที่สุด
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Mortal Kombat
Mortal Kombat จะเล่าถึงเรื่องราวตามแบบฉบับในวีดีโอเกมที่เราเคยเล่นกัน โดยพูดถึงนักสู้บนสังเวียนยอดนิยมอย่าง MMA เขาผู้นี้มีชื่อว่าโคล เขานั้นกลายมาเป็นนักสู้เนื่องจากต้องการจะใช้เงินเป็นจำนวนมาก แต่ตัวเขาเองนั้นไม่เคยรู้ตัวเลยว่าตนเองได้รับมรดกที่เต็มไปด้วยคุณค่าบางสิ่งบางอย่างมา
ในขณะเดียวกันนั้นเองจักรพรรดิของ Out World อย่างชาง ก็ได้มีการส่งนักรบที่เต็มไปด้วยความสามารถในการต่อสู้และความเก่งกาจอย่าง Sub Zero มาตามล่านักสู้คู่นี้เพื่อแย่งชิงมรดกที่เขาได้รับ ทำให้โคลรู้สึกตกใจและแปลกประหลาดใจเป็นอย่างมากกับการถูกตามล่าในครั้งนี้ และมันยังทำให้เขาได้ทราบถึงมรดกที่เขาได้รับมาอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องพยายามต่อสู้สุดความสามารถเพื่อหยุดการไล่ล่าของจักรพรรดิให้สำเร็จและต้องพยายามหาคำตอบถึงมรดกที่ตนเองได้มาว่ามันมีคุณค่าอย่างไร และเขาจะสามารถใช้มันได้หรือไม่ แต่การต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเดิมพันด้วยชีวิตของเขาเพียงเท่านั้น แต่มันยังเดิมพันด้วยสิ่งที่สูงค่ามากกว่านั้น จนมันกลายเป็นเกมการต่อสู้ที่มีเดิมพันที่สูงมากที่สุดในจักรวาล
สุดท้ายแล้วเขาจะสามารถหาคำตอบของคำถามทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ และเขาจะสามารถเอาตัวรอดจากการไล่ล่าของจักรพรรดิที่เต็มไปด้วยอำนาจได้สำเร็จหรือไม่ สามารถติดตามรับชมได้ในภาพยนตร์
สาเหตุที่คุณควรรับชมภาพยนตร์เรื่อง Mortal Kombat
Mortal Kombat เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเกมในชื่อเดียวกันที่มีชื่อเสียงโด่งดังและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เกมนี้เป็นเกมแนวต่อสู้บนเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีที่มีความโดดเด่นตรงที่ความรุนแรงและมันก็กลายเป็นเกมที่เป็นแพะรับบาปบ่อยครั้งได้แพ้กับเกม GTA ในฐานะของสาเหตุที่ทำให้เด็กและเยาวชนลุกขึ้นมาก่อเหตุความรุนแรง
แต่อย่างไรก็ตามเกมนี้ได้รับความนิยมทั้งในกลุ่มเด็กและเยาวชนไม่เว้นแม้กระทั่งในกลุ่มผู้ปกครอง ทำให้มันกลายเป็นอีกหนึ่งเกมที่ประสบความสำเร็จในระดับตำนาน เนื่องจากสามารถออกภาคต่อมาได้ถึง 11 ภาคและอยู่มาได้อย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1992
แม้ว่าจะนำเอาเรื่องราวในเกมมาเล่าในรูปแบบภาพยนตร์แต่ทางกลุ่มผู้สร้างนั้นก็ได้เคารพต้นฉบับด้วยการคงเสน่ห์ของเกมเอาไว้ได้อย่างครบถ้วนด้วยการนำเสนอแบบภาพยนตร์แอคชั่นสไตล์มาเชียลอาร์ตในยุค Jean-Claude Van Damme ซึ่งเข้ากับเรื่องราวและการต่อสู้ในภาพยนตร์เป็นอย่างมาก
ดังนั้นหากใครที่เป็นแฟนเกมอยู่แล้วล่ะก็การได้มารับชมภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณต้องกรี๊ดด้วยความฟินอย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นเรื่องราวยังผสมผสานมุกตลกเข้ามาได้อย่างกลมกล่อมและลงตัว ทำให้เรื่องราวมีความสนุกสนานและมีมิติมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
และด้วยความที่ภาพยนตร์นั้นมีความตั้งใจที่จะฉายในเรทอาร์อยู่แล้วทำให้พวกเขานั้นสามารถนำเสนองานภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ไม่มีกั๊ก โดยเฉพาะความรุนแรงและความโหดในการต่อสู้ ไม่เพียงเท่านั้นยังจัดเต็มฉากการต่อสู้ที่เราจะได้เห็นเลือดเนื้อกันแบบสดๆ ชวนคลื่นไส้อีกด้วย เรียกได้ว่าฉบับภาพยนตร์นั้นโหดไม่แพ้กับฉบับเต็มเลยแม้แต่น้อย
ตัวอย่างหนัง Mortal Kombat
รีวิว หนัง Mortal Kombat จาก Beartai
เกม ‘Mortal Kombat’ เป็นเกมคอมพิวเตอร์แนวต่อสู้ที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องความรุนแรง และถูกเพ่งเล็งในวาระที่เกิดคดีก่อความรุนแรงจากเยาวชนที่เล่นเกมมาเสมอ (เคียงคู่กับเกม GTA) แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าถึงผู้ปกครองรุ่นเก่าจะไม่ชื่นชอบมันอย่างไร ทว่าตัวเกมนี้ก็ได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ภาคแรกออกในปี 1992 จนปัจจุบันก็ออกมาถึง 11 ภาคเข้าไปแล้ว สำหรับคอหนังน่าจะจำได้จากการที่มันเคยทำมาเป็นหนังคนแสดงในปี 1995 ในชื่อ Mortal Kombat เป็นงานกำกับเรื่องแรก ๆ ของผู้กำกับ ‘Resident Evil’ (2002) อย่าง พอล ดับเบิลยู.เอส. แอนเดอร์สัน (Paul W.S. Anderson) โดยที่น่าจะติดตาชาวไทยคงเป็นฉากหลังของหนังที่มาถ่ายทำในไทยแทบทั้งเรื่อง ส่วนตัวยังจำดราม่าเรื่องชาวบ้านร้องเข้าตรวจสอบกองถ่ายทำลายโบราณสถานได้อยู่เลย (แน่นอนว่าเป็นเพียงฉากที่ทำจำลองของจริงจนแยกไม่ออก)
ซึ่งในฉบับหนังก็ยังคงดึงเสน่ห์แบบหนังบู๊มาเชียลอาร์ตยุค ฌอง-คล็อด แวน แดมม์ (Jean-Claude Van Damme) อย่าง ‘Kickboxer’ ปี 1989 (ซึ่งถ่ายในไทยด้วย) ออกมาได้อย่างสมจริงสมจัง บวกพลังเหนือมนุษย์แบบแฟนตาซีที่ทำให้หนังยิ่งดูสนุกขึ้น แต่หลังจาก ‘Mortal Kombat: Annihilation’ ภาคต่อในปี 1997 ที่เป็นผลงานเรื่องแรกของผู้กำกับ จอห์น อาร์. ลีโอเน็ตติ (John R. Leonetti) จากหนัง Annabelle (2014) หนังตระกูลต่อสู้ชุดนี้ก็เงียบหายไป โดยเสียงร่ำร้องที่สำคัญมาก ๆ คือควรมีหนังที่รุนแรงได้เรตสูง ๆ ให้สมกับความโหดของเกมได้แล้ว การมาของ Mortal Kombat (2021) จึงมีโจทย์สำคัญที่ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ของหนังอย่าง ไซมอน แมกควอยด์ (Simon McQuoid) ผู้กำกับหนังโฆษณาชาวออสเตรเลีย และชิมลางมากำกับหนังเรื่องแรก ต้องแบกรับความคาดหวังมหาศาลไปเต็ม ๆ และส่วนตัวก็ไม่ได้คาดหวังกับเนื้อเรื่องใด ๆ มากนัก ขอแค่ฉากต่อสู้สนุก ๆ มัน ๆ เท่านั้นก็พร้อมเทคะแนนให้แน่นอน
และต้องบอกว่าหลาย ๆ อย่างที่หนังประเคนให้มา น่าจะสะใจคอเกมพอสมควร ทั้งการต่อสู้มัน ๆ ยาว ๆ ฉากหลังที่เอามาจากตัวเกมหลายฉาก ตัวละครที่เลือกมาอัดกันกว่า 10 ตัว และแน่นอนท่าจบโหด ๆ เท่ ๆ ที่ถ้าเป็นแฟนเกมนี้ต้องกรี๊ดกร๊าดแน่ ๆ และหนังก็ใช้ความที่ตั้งใจให้ได้เรตอาร์ ได้อย่างดี ฉากเปิดเรื่องกับการเปิดตัวร้ายประจำภาคอย่าง ปี่หาน หรือ ซับซีโร่ นั้น เราลุ้นจนเกร็งไปหมดว่าพี่แกจะโหดขนาดไหน เพราะหนึ่งในเหยื่อที่หนังเปิดให้เชือดคือเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่งด้วย ทว่าน่าสนใจว่าแม้หนังจะไม่แคร์เรื่องเรต แต่ก็ยังอัดฉากโหด ๆ แบบชวนคลื่นไส้ตามตัวเกมมาน้อยกว่าที่คิด ทำให้มีความเป็นหนังต่อสู้ทั่วไป ที่นาน ๆ ทีจะมีฉากโหดอ้วกพุ่งสักครั้งหนึ่ง
และหนังก็เร่งเข้าเนื้อเรื่องความขัดแย้งระหว่างสองโลกแต่มาแบบเล่าหนังสือกลางเล่มคนดูไม่ทันอินก็โดนบังคับอ่านต่อเลยกลายเป็นความไม่ค่อยสนุกเต็มอารมณ์นัก ตัวแทนสายตาคนดูอย่าง โคล ยัง ก็ไม่ได้ทำหน้าที่พาคนดูไปรู้จักโลกของหนังได้ดีพอ เหตุผลหลาย ๆ อย่างก็ออกจะแถ ๆ จนทำลายความสมจริงไปเหมือนกัน อันนี้น่าจะโดนใจสาวกคอเกมที่พอรู้เรื่องราวมาบ้างมากกว่าผู้ชมหน้าใหม่ที่อาจรู้สึกเรื่องเดินไวแบบมั่ว ๆ
และแม้จะมีจุดให้ติงด้วยความเสียดายมากมาย ทว่าก็ยอมรับว่าหนังมีจุดดีจุดแข็งที่เพียงพอให้ไปรับชมอยู่ดีนั่นเอง ไม่ดีมากแต่ภาพสวย มุกฮามี แอ็กชันก็เยอะดี เรียกว่าเพลินใช้ได้เลย
Beartai