รีวิวซีรีส์ RESIDENT EVIL

ชื่อเรื่องRESIDENT EVIL
เรตติ้ง5
นักแสดงElla Balinska,Tamara Smart,Siena Agudong,Adeline Rudolph
จำนวนตอน8 ตอน

รีวิวซีรีส์ RESIDENT EVIL

รีวิวซีรีส์ RESIDENT EVIL ซีรีส์จากเกมชื่อดังที่ดราม่าตั้งแต่แคสตัวละครออกฉายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว RESIDENT EVIL เป็นเกมที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยความสนุกสนานของรูปแบบเกมเพลย์รวมไปถึงเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและความสลับซับซ้อนจนสามารถต่อยอดไปได้เรื่อยๆ อย่างไร้ขีดจํากัด มันจึงกลายมาเป็นวัตถุดิบชั้นดีในการผลิตสื่อบันเทิงในรูปแบบอื่นไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ อนิเมชั่น หรือแม้แต่ซีรีส์ก็ตาม แต่ความน่าสนใจก็คือการนำเอาเกมเรื่องนี้มาสร้างเป็นรูปแบบคนแสดงกลับไม่ประสบความสำเร็จหรือได้รับกระแสตอบรับในแง่บวกจากบรรดาคนเล่นเกมเลยแม้แต่ครั้งเดียว แปลว่าภาพยนตร์เรื่อง RESIDENT EVIL ฉบับตำนานของมิลล่า โจโววิชจะประสบความสำเร็จแต่ก็เป็นเฉพาะในกลุ่มคนดูที่ไม่ได้เล่นเกมเท่านั้น

ดังนั้นจึงทำให้ซีรีส์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้อย่าง RESIDENT EVIL ที่ใช้ชื่อเดียวกับเกมแบบไม่มีผิดเพี้ยนจะมีดราม่ามาตั้งแต่การแคสตัวละคร เนื่องจากมีการนำเอาเรื่องราวภายในเกมมาดัดแปลงเป็นฉบับคนแสดงหลายคนจึงคาดหวังว่าซีรีส์จะมีความเคารพเกมต้นฉบับมากกว่านี้ แต่มันก็ไม่เป็นแบบนั้นแต่อย่างใด โดยเฉพาะตัวร้ายตลอดกาลอย่างอัลเบิร์ต เวสเกอร์ที่เดิมทีนั้นเป็นชายหนุ่มผิวขาวท่าทางน่าเกรงขามก็เปลี่ยนไปเป็นคนผิวดำ กลายเป็นดราม่าร้อนแรงไม่แพ้กับนางเงือกผิวสีของทางค่ายดิสนีย์เลยแม้แต่น้อย 

หนังซอมบี้ netflix

ประเด็นเรื่องการบิดเบือนอัตลักษณ์ของตัวละครก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แฟนเกมรู้สึกไม่พอใจแต่การพยายามเล่าเรื่องราวบิดเบือนจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงภายในเกมยิ่งทำให้คนที่เล่นเกมมาก่อนหรือคนที่รักเกมนี้มากๆ ต่างขมวดคิ้วไปตามๆ กัน เพราะหากวิเคราะห์ให้ดีเกมนี้ประสบความสำเร็จก็ด้วยเรื่องราวที่สมบูรณ์แบบอยู่แล้วจึงมีการนำเอามาสร้างเป็นซีรีส์ แต่ซีรีส์ดันเอาเรื่องราวที่ประสบความสำเร็จในเกมมาดัดแปลงเพื่อเข้าในแบบของตัวเองเสียอย่างนั้น ถึงอย่างไรก็ตามเราไม่สามารถสรุปได้ว่าซีรีส์เรื่องนี้มีความน่าสนใจหรือความสนุกสนานหรือไม่ ดังนั้นเราจึงจะพาทุกคนไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง RESIDENT EVIL

RESIDENT EVIL เป็นซีรีส์ที่จะพาเราเดินทางไปยังโลกอนาคตอันใกล้ในปี 2036 นี้ โลกของเราล่มสลายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซอมบี้ในเมืองนิวแรคคูนซิตี้เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา โดยซีรีส์จะแบ่งการเล่าเรื่องราวเป็น 2 ทำลายประกอบไปด้วยอนาคตและปัจจุบันพร้อมกันผ่านตัวละครหลักอย่างฝาแฝดอุ้มบุญของอัลเบิร์ตเวสเกอร์ตัวละครร้ายที่อยู่เบื้องหลังเกม RESIDENT EVIL มาตั้งแต่ภาค 1 จนถึงภาค 5 อย่างเจดและบิลลี่ 

ที่มาที่ไปของอัลเบิร์ต เวสเกอร์ที่เราไม่คุ้นตาเป็นอย่างไรต้องไปติดตามกันในซีรีส์เนื่องจากหากเปิดเผยแล้วรับรองว่าเสียอรรถรสอย่างแน่นอน แต่รูปแบบใหม่ของเขาก็เป็นการเปิดเรื่องราวใหม่ๆ เช่นเดียวกัน เขากลายมาเป็นพ่อลูก 2 ตั้งแต่วัยรุ่นและต้องแบกรับปัญหาของลูกที่เต็มไปด้วยความดื้อรั้น เราจึงจะได้เห็นบทบาทความเป็นพ่อที่รักลูกสาวอย่างแท้จริงและผลประโยชน์ที่เขาได้รับจากลูกสาวทั้งสองคนอีกด้วย 

ทั้ง 3 คนต้องเผชิญกับเหตุการณ์เลวร้ายอย่างการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสซอมบี้และต้องหาวิธีการเอาชีวิตรอดท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายและความอันตรายให้สำเร็จ สุดท้ายแล้วเรื่องราวของพวกเขาจะลงเอยอย่างไรเราคงต้องไปติดตามเอาใจช่วยกันต่อในซีรีส์ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง RESIDENT EVIL

RESIDENT EVIL เป็นซีรีส์ที่หากพูดถึงในฐานะของแฟนเกมที่ติดตามมาตั้งแต่ภาค 1 คงต้องบอกแบบตรงไปตรงมาว่าเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างออกทะเลไปไกลและบิดเบือนเหตุการณ์ภายในเกมไปไม่น้อยเลยทีเดียว มีความพยายามที่จะนำเสนอตัวละครอย่างอัลเบิร์ต เวสเกอร์ในมิติที่มีความเป็นมนุษย์มากกว่าเดิมแต่มันช่างขัดหูขัดตากับภาพลักษณ์ที่เราเห็นภายในเกมอย่างสิ้นเชิงจนทำให้รู้สึกอินได้ยากสำหรับคนที่เคยสัมผัสกับตัวละครนี้ภายในเกมมาก่อน ถึงอย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่าตัวละครมีในซีรีส์เองก็เต็มไปด้วยเสน่ห์และความน่าสนใจไม่น้อย เพียงแต่ว่ามันไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ภายในเกมอย่างถึงที่สุดก็เท่านั้น 

ส่วนตัวละครฝาแฝดลูกของเวสเกอร์ก็นับว่าเป็นตัวละครสำคัญที่น่าสนใจเพราะทั้งสองเป็นชนวนเหตุที่ก่อให้เกิดหายนะในเมืองตามสูตรสำเร็จของภาพยนตร์หรือเรื่องเล่าของ RESIDENT EVIL เพียงแต่เพิ่มเรื่องราวดราม่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องและปัญหาชีวิตวัยรุ่นเข้ามา แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือการใส่เนื้อหาวัยรุ่นเข้ามามากจนเกินไปในช่วงหลังของซีรีส์ เป็นการตกม้าตายที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลยเพราะคนที่มารับชมซีรีส์เรื่องนี้ต่างคาดหวังว่าจะได้เห็นฉากการเอาชีวิตรอดหรือการต่อสู้มากกว่าชีวิตเด็กมัธยม 

ในส่วนของฉากการต่อสู้ส่วนใหญ่แล้วจะไปอยู่ในส่วนของโลกอนาคตมากกว่าโดยเป็นการพยายามหาวิธีการกำจัดซอมบี้ที่มีจำนวนถึง 6,000 ล้านตัวทั่วโลกให้สำเร็จหรือไม่ก็หาทางให้มนุษย์ที่เอาชีวิตรอดมาได้อยู่กับฝูงซอมบี้เหล่านี้ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ก็นับว่าเป็นการฉีกการเล่าเรื่องราวที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย

สิ่งที่ดีงามมากที่สุดสำหรับซีรีส์เรื่องนี้คงจะเป็นการพยายามนำเอาสัตว์ประหลาดภายในเกมใส่เข้ามาให้เราได้เห็นตลอดทางไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เลื่อยยนต์ในภาค 4 ลิกเกอร์ ไทแรนท์ เนเมซิส หรือจระเข้ยักษ์ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการภาพที่แฟนเกมอยากเห็นได้เป็นอย่างดีแม้ว่างานภาพคอมพิวเตอร์กราฟิกจะทำออกมาได้ในระดับกลางๆ ก็ตาม 

ตัวอย่างซีรีส์ RESIDENT EVIL

รีวิว ซีรีส์ RESIDENT EVIL บางส่วนจาก beartai

‘Resident Evil’ หรือที่แฟนเกมรู้จักกันดีในชื่อ ‘Biohazard’ ถือเป็นหนังแฟรนไชส์จากวีดีโอเกมที่น่าจะประสบความสำเร็จที่สุดแฟรนไชส์หนึ่งจากหลักฐานเชิงประจักษ์ทั้งแฟรนไชส์หนัง 6 ภาคที่กุมบังเหียนกำกับและโปรดิวซ์โดย พอล ดับเบิลยู แอนเดอร์สัน (Paul W. Anderson) ควบคู่กับแสดงนำโดย มิลลา โยโววิช (Milla Jovovich) ภรรยาของเขาบวกกับเพิ่งผ่านตาไปกับฉบับภาพยนตร์รีบูตแฟรนไชส์อย่าง ‘Resident Evil Welcome to Raccoon City’ ที่ทำเสียงแตกเพราะแฟนเกมบางส่วนก็คลั่งไคล้ยกให้เป็นหนังที่ซื่อตรงจากเกมที่สุดแต่ก็ถูกสับเละจากนักวิจารณ์และคนดูเช่นเดิม

และการกลับมาอีกครั้งของแฟรนไชส์ ‘Resident Evil’ ภายใต้การอำนวยการสร้างโดยแพลตฟอร์มสตรีมมิงอย่างเน็ตฟลิกซ์ ก็ถือว่าไม่ได้เกินคาดเดาเพราะด้วยชื่อที่ขายได้บวกกับช่องทางที่เข้าถึงคนดูได้ง่ายกว่าเดิม โดยงานนี้เน็ตฟลิกซ์ดูจะมั่นใจระดับมั่นหน้ามั่นโหนกสร้างมันทั้งแอนิเมะซีรีส์ 4 ตอนจบอย่าง ‘Resident Evil Infinite Darkness’ ที่ยกให้ฝั่ง Capcom ของญี่ปุ่นคุมโปรเจกต์และปล่อยสตรีมมิงปีก่อนซึ่งผลตอบรับก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ และก็ถึงคราวไพ่ตายใบสุดท้ายที่น่าจะตัดสินชะตากรรมของแฟรนไชส์นี้ก็คือซีรีส์ที่กลับมาใช้ชื่อเรียบ ๆ ง่าย ๆ ว่า ‘Resident Evil’ และคุมงานสร้างโดย คอนแสตนตินฟิลม์ (Constantin Film) เจ้าของเดียวกับแฟรนไชส์หนังฉบับแอนเดอร์สัน

สำหรับเรื่องราวในซีรีส์จะตัดสลับเล่า 2 เหตุการณ์คือปี 2037 ที่ เจด เวสเกอร์ นักวิจัยสาวต้องจำจากลูกน้อยเพื่อเก็บข้อมูลเหล่าซอมบี้ที่เธอเรียกว่าพวกซีโร่ ซึ่งเป็นประชากรหลักของโลกถึง 6,000 ล้านคนเพื่อหาทางรักษาชีวิตมนุษย์ที่เหลือเพียง 15 ล้านคนให้รอดจากการติดเชื้อ และอีกไทม์ไลน์คือปี 2022 เรื่องราวในอดีตที่โลกรู้จักกับโควิด -19 กันดีแล้ว และทำให้บริษัทยาระดับยักษ์ใหญ่อย่างอัมเบรลลา คอร์ปอร์เรชัน ตัดสินใจจ้าง อัลเบิร์ต เวสเกอร์ และครอบครัวมาอยู่ในนิวแร็กคูน ซิตี้ แห่งใหม่และเขาได้พาลูกสาว 2 คนทั้ง เจด เวสเกอร์ และ บิลลี เวสเกอร์ มาอยู่ด้วย ซึ่งทั้งสองสาวก็เริ่มระแคะระคายว่าพ่อของพวกเขาอาจเป็นต้นเหตุของมหันตภัยล้างโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นก็เป็นได้

ทีนี้เราขอเข้าคำถามที่หลายคนน่าจะสงสัยคือ ‘Resident Evil’ ฉบับซีรีส์คราวนี้เล่าเรื่องซื่อสัตย์กับเกมไหม หรือมันออกทะเลมากแค่ไหน เล่าเรื่องสนุกไหม เราขอจำแนกประเด็นให้ทุกคนต้ดสินใจกันได้ง่ายขึ้นว่าควรเสียเวลาวันหยุดยาวนี้ดูมาราธอนมันเลย 8 ตอน (ซึ่งก็ใช้เวลาร่วม 8 ชั่วโมงเหมือนกัน) หรือไปหาอย่างอื่นทำกันดี?

สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับแฟนเกมของ ‘Resident Evil’ หรือ ‘Bio Hazard’ คือหนังฉบับไลฟ์แอ็กชันที่ไม่เคยซื่อสัตย์กับเรื่องราวในวีดีโอเกมจริง ๆ และหวยมันจะออกมาด้วยการหงายการ์ดจากผู้สร้างว่า ‘ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวีดีโอเกม’ สำหรับ ‘Resident Evil’ ฉบับซีรีส์นี้ก็ต้องบอกว่าไม่ต่างกันครับ คือเอาจริง ๆ ชื่อตัวละครที่ตรงกับวีดีโอเกมที่สุดคือ อัลเบิร์ต เวสเกอร์ ที่ได้ แลนซ์ เรดดิก (Lance Reddick) นักแสดงผิวสีที่แจ้งเกิดจากซีรีส์ลึกลับของ เจ เจ เอบรามส์ (J. J. Abrams) อย่าง ‘Fringe’ มารับบทนี้แบบค้านสายตาแฟนเกมสุด ๆ และแม้ในตอนหลัง ๆ ของซีรีส์เราจะได้เห็นลุคที่ใกล้เคียงกับวีดีโอเกมที่สุด แต่มันก็แลกมากับเหตุผลที่แถที่สุดแถมยังเละเทะออกทะเลไปมหาสมุทรอีกด้วยซ้ำ

และแน่นอนว่าพอตั้งหน้าว่าจะไม่ต้องซื่อสัตย์กับวีดีโอเกม 100% แล้วผู้สร้างก็ตะบี้ตะบันยัดกิมมิกจากเกมเข้ามาแบบไม่ที่มาที่ไป อย่างเซอร์เบอรัส (Cerberus) หรือ เจ้าหมาซอมบี้ที่เป็นจุดขายในหนังฉบับไลฟ์แอ็กชันภาคแรกก็มาในคราบฉากก็อปปี้จากหนัง ‘Jurassic Park’ ฉบับเด็กฝึกงานกำกับเพราะไร้ความระทึกใด ๆ มิหนำซ้ำมันยังยัดสัตว์ประหลาดหน้าตาประหลาด ๆ อย่าง ลิคเกอร์ (Licker) ก็แค่โผล่มาสร้างความระทึกเท่านั้นเอง นอกจากนี้ก็ยังมีกล่าวถึง ลิซา เทรเวอร์ (Lisa Travor) ตัวละครที่เคยโผล่มาใน ‘Resident Evil Welcome to Raccoon City’ แค่เพื่อให้เป็นหลักฐานว่า อัลเบิร์ต เวสเกอร์ เคยเกี่ยวพันกับเหตุสังหารหมู่ที่แร็กคูนซิตี้มาก่อน

โดยสรุปแล้วสำหรับแฟนเกมนี่ก็ยังไม่ใช่ Resident Evil ฉบับที่ซื่อตรงกับวีดีโอเกมที่สุดอยู่ดี

beartai

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *