รีวิวหนัง THIRTEEN LIVES

ชื่อเรื่องTHIRTEEN LIVES
เรตติ้ง8
นักแสดงViggo Mortensen,Colin Farrell,Joel Edgerton
จำนวนตอน2.27 ชั่วโมง

รีวิวหนัง THIRTEEN LIVES

รีวิวหนัง THIRTEEN LIVES ภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ถ่ายทอดเหตุการณ์ช่วยชีวิต 13 หมูป่าออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้วเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อทีมนักฟุตบอลเด็กจำนวน 13 คนประกอบไปด้วยนักฟุตบอลเด็กจำนวน 12 คนและโค้ชที่เป็นผู้ใหญ่อีก 1 คน เดินทางไปเที่ยวในถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย ในช่วงเวลานั้นมีฝนตกหนักทำให้น้ำไหลทะลักเข้ามาในถ้ำอย่างรวดเร็ว พวกเขาจึงต้องพยายามเอาชีวิตรอดด้วยการเดินลึกเข้าไปในถ้ำเพื่อหาที่สูงให้สำเร็จ หลังจากที่ผู้คนทราบถึงการหายตัวไปของคนกลุ่มนี้ก็ได้มีการระดมกำลังออกช่วยเหลือในทันที เป็นการร่วมมือกันของหลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือความช่วยเหลือจากต่างประเทศเองก็ตาม เป็นเหตุการณ์ที่ผู้คนทั่วทั้งโลกต่างจับตามอง และที่ดีไปมากกว่านั้นก็คือทั้ง 13 ชีวิตสามารถเอาชีวิตรอดออกมาจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้สำเร็จผ่านความช่วยเหลือของนักดำน้ำกู้ภัยที่มีฝีมือยอดเยี่ยมมากที่สุดในโลก 

เหตุการณ์ดังกล่าวสำหรับคนไทยนั้นจึงเป็นสิ่งที่ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นอีกต่อไปแล้วเพราะมันจบไปนานแล้วแถมยังมีสารคดีออกมามากมายให้เราได้รับชมกัน แต่อย่างไรก็ตามล่าสุดได้มีการเปิดตัวภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูดที่หยิบยกนำเอาเหตุการณ์ดังกล่าวไปสร้างออกมาในชื่อ THIRTEEN LIVES เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีสตูดิโอภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่จากฝั่งฮอลลีวูดหยิบยกนำเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราไปถ่ายทอดออกมาในรูปแบบภาพยนตร์ แถมยังได้ผู้กำกับระดับตำนานอย่างรอน ฮาเวิร์ดมาดูแลงานสร้างทั้งหมดอีกด้วย 

amazon prime หนังน่าดู

ถึงอย่างไรก็ตามเราก็ยังอยากให้ทุกคนได้ลองรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ดีเพราะทีมงานสามารถสร้างออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก แม้ว่าเราจะรู้เหตุการณ์เหล่านี้แล้วตั้งแต่ต้นจนจบ แต่การได้รับชมภาพเหตุการณ์ที่จำลองสถานการณ์จริงขึ้นมานั้นก็น่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเลยทีเดียว แถมภาพยนตร์ยังสามารถเล่าออกมาได้อย่างน่าประทับใจอีกต่างหาก สำหรับใครที่สนใจ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับภาพยนตร์เรื่องนี้ให้มากขึ้นกันเรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THIRTEEN LIVES

THIRTEEN LIVES เป็นภาพยนตร์ที่เล่ามาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา ในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติยอดนิยมอย่างถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย มีเด็กกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นทีมฟุตบอลพร้อมกับโค้ชทั้งหมด 13 ชีวิตหายตัวไปในถ้ำดังกล่าว เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจนทำให้น้ำหลากปิดทางเข้าออกถ้ำทั้งหมดที่มี ไม่มีใครทราบชะตากรรมของพวกเขาและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะสามารถเอาชีวิตรอดต่อไปได้อีกนานแค่ไหน ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้มีผู้รอดชีวิตเหลืออยู่หรือไม่ด้วยซ้ำไปแต่ทุกคนก็ระดมกำลังกันไปช่วยเหลือพวกเขาอย่างสุดความสามารถ 

ปฏิบัติการกู้ภัยในครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติกว่า 17 ประเทศที่ได้ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือตลอดระยะเวลาปฏิบัติการถึง 17 วันนับตั้งแต่วันเกิดเหตุ แต่ละวันดำเนินไปด้วยความกดดันของทีมกู้ภัย แม้ว่าพวกเขาแต่ละคนจะมีความสามารถระดับหาตัวจับยากในโลกก็ตาม แต่สถานการณ์ไม่เป็นใจเลยแม้แต่น้อยเพราะตลอดระยะเวลา 17 วันเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย การปฏิบัติภารกิจของพวกเขานั้นเป็นอย่างไรภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาเราไปติดตามอย่างใกล้ชิดกัน และนี่คือความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THIRTEEN LIVES

THIRTEEN LIVES ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ถ้ำหลวง 13 หมูป่านั้นเป็นสิ่งที่ไม่ได้สร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้รับชมชาวไทยอีกต่อไปแล้วเพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนั่งดูเรื่องเดิมซ้ำๆ ตลอดระยะ 17 วันที่มีการกู้ภัยเราติดตามข่าวกันอย่างใกล้ชิดผ่านไลฟ์สดแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนหน้านี้ก็มีทั้งภาพยนตร์และสารคดีที่ถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับทีมผู้สร้างว่าจะเล่าเรื่องราวออกมาอย่างไรให้น่าสนใจและไม่ซ้ำซากจำเจ เพราะเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทิศทางการเล่าเรื่องได้แต่อย่างใด 

ดังนั้นแน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะยังคงฉายเหตุการณ์เดิมให้เราได้รับชมเพียงแต่ว่าผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นระดับตำนานเขาจึงมีความสามารถในการพลิกแพลงรูปแบบการเล่าเรื่องราวให้ผู้รับชมสามารถรู้สึกตามกับตัวละครได้มากขึ้นกว่าเดิมและรู้สึกตื้นตันใจกับการช่วยเหลือที่เป็นการระดมคนทั่วทั้งโลกมารวมกัน ในช่วงครึ่งแรกภาพยนตร์จะเล่าค่อนข้างกระชับฉับไวเพื่อเน้นประเด็นที่การปฏิบัติการกู้ภัยมากกว่า การเล่าเรื่องที่แท้จริงจึงอยู่ในช่วงครึ่งหลังที่สามารถตีแผ่มุมมองของเหล่าทีมกู้ภัยที่ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือในถ้ำหลวงอย่างยากลำบากแทน และสิ่งที่น่าสนใจก็คือเราแทบจะไม่เคยเห็นการเล่าเรื่องราวหรือการถ่ายทำที่เจาะลึกถึงประเด็นนี้มาก่อน 

ด้วยเทคนิคการสร้างระดับฮอลลีวูดทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถไว้ใจได้เลยว่าพวกเขาจะสามารถทำออกมาได้อย่างสมจริงแน่นอน แม้ว่าในช่วงแรกจะค่อนข้างชัดเจนว่ามีความพยายามในการเซ็ตฉากให้ดูเหมือนเมืองไทยมากจนเกินไปเพราะไม่ได้ถ่ายทำในสถานที่จริง แต่หลังจากเรื่องราวเริ่มเข้าที่แล้วสิ่งที่เรารู้สึกขัดใจในตอนแรกก็หมดไปเพราะมีองค์ประกอบอื่นเข้ามาทดแทนได้อย่างลงตัว 

โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี ไม่ใช่สารคดีจ๋าเหมือนกับที่เราเคยรับชมผ่านทาง NETFLIX แต่ออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์สารคดีที่เน้นความบันเทิงมากกว่าการถ่ายทอดเหตุการณ์จริงแบบตรงไปตรงมา 100 เปอร์เซ็น กลิ่นอายที่แตกต่างจากสื่อเจ้าอื่นที่นำเอาเรื่องนี้ไปถ่ายทอดซึ่งทำให้เรามียังสามารถรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างสนุกสนานแม้ว่าจะรับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดมาแล้วก็ตาม


ตัวอย่างหนัง THIRTEEN LIVES

รีวิว หนัง THIRTEEN LIVES บางส่วนจาก beartai

แม้ผ่านมา 4 ปีที่นั้นแต่เหตุการณ์หยุดโลกอย่างภารกิจช่วยเหลือเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าและโค้ชเอกรวม 13 คนออกจากถ้ำหลวงก็ได้กลายเป็นเรื่องราวสุดเหลือเชื่อที่เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ต่างหาทางนำมาบอกเล่าในแบบของตนเองโดยมี ‘The Cave นางนอน’ หนังไทยฝรั่งกำกับของ ทอม วอลเลอร์ (Tom Waller) ผู้กำกับที่ผลิตหนังไทยอย่างต่อเนื่องบอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของทีมดำน้ำต่างชาติในภารกิจนี้ออกฉายพร้อมดราม่ารอบสื่อที่ท่านอดีตผู้ว่าวอล์กเอาต์และต่อว่าหนังอย่างรุนแรง ออกฉายนำร่องไปก่อนแล้วในปี 2019 และในปีนี้ ‘Thirteen Lives’ อีกหนึ่งหนังจากเหตุการณ์นี้ก็ได้ฤกษ์ฉายทางสตรีมมิงน้องใหม่อย่าง Prime Video ในวันนี้

หากเทียบกับ ‘The Cave นางนอน’ แล้วสิ่งที่ ‘Thirteen Lives’ ใช้เป็นโครงเรื่องก็มีบางส่วนที่ทาบทับกันสนิททั้งเรื่องของนักดำน้ำอังกฤษที่หนังเรื่องแรกใช้เป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่อง โดยเฉพาะนักดำน้ำชื่อคริส ที่มีในหนังทั้ง 2 เรื่อง แต่สิ่งที่ ‘Thirteen Lives’ ดูจะก้าวข้ามกับดักเรื่องเล่าจากความจริงคือการที่หนังมุ่งนำเสนอ ‘อารมณ์’ ตัวละครเป็นศูนย์กลาง แม้กระทั่งฉากเปิดเรื่องที่แม้จะมีฉากเตะฟุตบอล ฉากจอดจักรยานหน้าถ้ำแล้วเดินเข้าไปเหมือนกัน แต่หนังก็ทำให้เห็นความเป็น “มนุษย์” มากกว่าความเป็น “บุคคลในข่าว” แบบในหนังเรื่องแรก

และเมื่อหนังได้นำเสนอตัวละครฝั่งไทยอย่าง นายณรงศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายขณะนั้นและทีมงานบางส่วนอย่างทีมวิศวกรน้ำที่มีส่วนช่วยในการผันน้ำออกจากถ้ำไปแล้ว การที่หนังไปโฟกัสตัวละครนักดำน้ำในถ้ำอย่าง ริค และ จอห์น พร้อมปูสถานะที่ต่างกันเมื่อฝ่ายแรกคือหนุ่มโสดที่ประกาศตัวว่าไม่ได้ชอบเด็กด้วยซ้ำกับฝ่ายหลังที่เป็นพ่อที่มีลูกชายพร้อมแนวคิดที่แทบจะต่างกันโดยสิ้นเชิงก็สร้างความดรามาติกให้เรื่องราวที่ถูกห่อหุ้มด้วยข้อมูลข่าวสารที่คนทั้งโลกรู้อยู่แล้วได้อย่างลงตัว

รวมถึงการใช้บริการนักแสดงระดับเอลิสต์อย่าง วิกโก มอร์เทนเซน (Viggo Mortensen) และ โคลิน ฟาเรลล์ (Colin Farell)มาแสดงเป็นริคและจอห์นนี่แหละครับคือการดึงให้หนังสามารถโน้มน้าวอารมณ์ผู้ชมได้โดยไม่ลืมที่จะกล่าวถึงบริบทแวดล้อมทั้งภารกิจผันน้ำที่เอาความเสียสละของชาวนาในพื้นที่มาสร้างอารมณ์ดราม่าชวนน้ำตาซึมให้หนังได้อย่างลงตัว หรือกระทั่งภารกิจของจ่าแซมที่ได้เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ มารับบทบาทสำคัญก็เป็นการให้เกียรติกับความเสียสละของวีรบุรุษได้แบบที่คนไทยเองก็ไม่มองว่าหนังไปโปรต่างขาติเหมือน ‘The Cave นางนอน’ ได้อย่างหมดจดงดงาม

ซึ่งในภาพรวมนอกจากบทหนังที่ถูกเขียนอย่างรัดกุมโดย วิลเลียม นิโคลสัน (William Nicholson) ที่เล่าเรื่องราวได้รอบด้านและเปี่ยมอารมณ์แล้ว การได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง รอน ฮาวเวิร์ด (Ron Howard) ที่เชี่ยวชาญการทำหนังจากเรื่องจริงมาตั้งแต่ ‘Apollo 13’ ในปี 1995 ซึ่งกับ ‘Thirteen Lives’ โฮเวิร์ดก็ยังโชว์ฝีมือได้จัดจ้านผสานดราม่าผสมกับข้อมูลจริงได้อย่างลงตัวมาก ๆ และที่สำคัญมากคือโฮเวิร์ดใส่หัวใจแบบคนไทยลงไปในเรื่องราวด้วยเลยทำให้ภาพรวมของหนังไม่ได้เนยนมเสียจนกลบความกลมกล่อมและมีรสชาติแบบไทย ๆ เสียทีเดียว

beartai

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *