ชื่อเรื่อง | THE TAKEDOWN |
เรตติ้ง | 6 |
นักแสดง | Omar Sy,Izia Higelin |
จำนวนตอน | 1.59 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง THE TAKEDOWN
รีวิวหนัง THE TAKEDOWN ภาพยนตร์แนว ACTION COMEDY สูตรสำเร็จที่น่าสนใจ เรื่องราวแนวสูตรสำเร็จทั้งหลายอาจจะเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ของหลายคนที่ชื่นชอบการรับชมสื่อบันเทิงที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่หรือไอเดียที่น่าสนใจมากกว่าการทำสิ่งที่ออกมายังไงก็ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนเพราะผู้คนชื่นชอบ แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่สุดสำเร็จมันเป็นสิ่งที่ผู้คนชื่นชอบอยู่แล้ว ดังนั้นมันจึงยังคงสามารถขายได้มาจนถึงในตอนนี้ อย่างเช่นเรื่องราวแนว ACTION COMEDY สุดสำเร็จที่เล่าถึงนายตำรวจคู่หู 2 คนที่ออกไปทำภารกิจสุดฮาด้วยกันเหมือนกับที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง THE TAKEDOWN
แม้ว่ามันจะมีคำว่าสูตรสำเร็จแบบบนหน้าโปสเตอร์แต่อย่างไรก็ตามเราอยากให้ทุกคนลองเปิดใจรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ดู เพราะถึงแม้ว่ามันจะมีความเป็นสูตรสำเร็จก็ตามแต่มันก็สามารถสร้างความสนุกสนานให้กับเราได้เช่นเดียวกัน เป็นการเล่าเรื่องราวสูตรสำเร็จออกมาได้อย่างไม่น่าเกลียดเลยแม้แต่น้อย ทุกอย่างดูโอเค องค์ประกอบโดยรวมยอดเยี่ยม แม้ว่ามันจะเป็นภาพยนตร์จากฝรั่งเศสที่บางอย่างเราอาจจะไม่เข้าใจไปบ้างแต่ก็ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจไม่น้อย
โดยเฉพาะสำหรับใครที่เคยรับชมภาพยนตร์เรื่อง ON THE OTHER SIDE OF THE TRACK ที่ออกฉายเมื่อปี 2012 ที่ผ่านมาเราขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดภาพยนตร์เรื่องนี้โดยเด็ดขาดเพราะมันเป็นภาพยนตร์ภาคต่อของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวนั่นเอง แต่ในครั้งนี้จะมาในรูปแบบของต่อสู้ตลกที่เล่าถึงเรื่องราวของคู่หูตำรวจที่มีสีผิวต่างกันจากปารีสที่ต้องออกมาทำภารกิจเล็กๆ แต่มันดันลุกลามกลายเป็นภารกิจใหญ่โตระดับประเทศเสียอย่างนั้น
สำหรับใครที่ไม่ได้รับชมภาพยนตร์ภาคแรกไม่ต้องตกใจไปเพราะภาคแรกไม่ได้มีการออกฉายในประเทศไทยแถมยังไม่มีให้ดูใน NETFLIX อีกต่างหาก แต่เราก็สามารถรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ได้โดยที่ไม่มีปัญหาที่เป็นนัยสำคัญ อาจมีช่วงแรกที่อาจจะรู้สึกงงหรือไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลไป สามารถรับชมอย่างสบายใจได้เลย
หนัง netflix แนะนํา 2022
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE TAKEDOWN
THE TAKEDOWN เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวของสองคู่หูตำรวจต่างสีผิวประกอบไปด้วยอุสมานและฟรองซัว ทั้งสองได้กลับมาโคจรพบกันอีกครั้งหลังจากที่แยกจากการไปใช้ชีวิตของตนเองหลังจากภาพยนตร์ภาคแรกจบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การเจอกันในครั้งนี้เริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เพราะมีคดีผู้เสียชีวิตเป็นศพขาดครึ่งตัว ทั้งสองคนได้บังเอิญไปเจอคนละส่วนทำให้พวกเขาต้องกลับมาจับมือกันสืบสวนคดีดังกล่าวให้กระจ่างอีกครั้งหนึ่ง
แต่แล้วมันก็เกิดเรื่องขึ้นเมื่อทั้งสองต่างสิทธิ์ในการสืบคดีศพครึ่งตัวเพราะแต่ละครึ่งก็อยู่กับแต่ละฝ่าย ไม่เพียงเท่านั้นนายตำรวจผิวสียังต้องเผชิญกับปัญหาการเหยียดสีผิวที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสอีกด้วย ยังไม่รวมไปถึงปัญหาการเมืองท้องถิ่นที่ลุกลามจนใหญ่โตไปถึงระดับชาติโดยเฉพาะนโยบายที่ไม่ต้อนรับผู้อพยพจากฝ่ายขวาซึ่งเป็นประเด็นที่มีอยู่จริงในฝรั่งเศส เรื่องราวของพวกเขาจะลงเอยอย่างไรเราต้องไปติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE TAKEDOWN
THE TAKEDOWN เป็นภาพยนตร์ที่อาจจะหลอกให้คุณตายใจด้วยคำว่าภาพยนตร์แนว ACTION COMEDY สุดสำเร็จ แต่ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าเนื้อเรื่องเรียกได้ว่าเข้มข้นและโหดเอาการเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะฉากการผ่าศพในช่วงแรกเป็นอะไรที่ชวนอ้วกเป็นอย่างมาก ไม่มีการเซ็นเซอร์หรือแม้แต่การแพนกล้องหนีแต่อย่างใด หลังจากนั้นเราก็จะได้เห็นฉากที่เต็มไปด้วยความรุนแรงมากมาย มุกตลกสุดโหดที่ไม่เหมาะสำหรับเด็กเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นใครที่ตั้งใจจะรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ร่วมกับครอบครัวเราขอแนะนำให้ปิดไปได้เลย
เพราะนอกจากมันจะมีฉากโหดมากมายยังมีฉากโป๊เปลือยเป็นจำนวนมากอีกด้วย อย่างเช่นฉากที่ตัวละครหลักต้องไปสอบปากคำนักระบำเปลือยในบาร์แห่งหนึ่งและเธอก็เปิดนมให้เขาดูตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับภาพยนตร์ฝรั่งเศสที่มักจะมีฉากแบบนี้เป็นปกติให้เราได้เห็นกัน
ส่วนที่ต้องชื่นชมเลยคือฉากแอ็คชั่นที่สามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ว่าจะมีกลิ่นอายความ COMEDY แต่ก็ไม่ได้ทิ้งความดุดันในฉากการต่อสู้แต่อย่างใด เราจะได้เห็นฉากการต่อสู้และการไล่ล่าไล่ระดับตั้งแต่เบาไปหนักได้อย่างยอดเยี่ยม นายตำรวจทั้งสองคนสามารถแบ่งฝั่งเป็นบู๊และบุ๋นได้อย่างลงตัว ทุกอย่างมันจึงออกมากลมกล่อมเป็นอย่างมาก
ไม่เพียงเท่านั้นภาพยนตร์ยังใส่เรื่องราวความรักกุ๊กกิ๊กระหว่างพระเอกกับตำรวจสาวที่อยู่ในเมืองชนบทเข้ามาอีกด้วย เป็นการแย่งกันจีบสาวของเพื่อนที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและตลกโปกฮา และที่ดีงามไปมากกว่านั้นก็คือตำรวจสาวที่ใส่เข้ามาไม่ได้มีเอาไว้เพียงแค่ให้ผู้ชายมาจีบแต่เธอเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญต่อเนื่องเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน
โดยรวมถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่สามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการใส่ประเด็นที่เกิดขึ้นจริงในสังคมอย่างประเด็นการเหยียดเชื้อชาติหรือการเมืองท้องถิ่น อำนาจใต้ดิน สามารถหยิบปัญหาในสังคมออกมาเล่าได้อย่างเจ็บแสบผ่านมุกตลกที่เต็มไปด้วยความโหด ฉากต่อสู้ทำได้ดี ฉากโหดก็ออกมายอดเยี่ยม แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่มันเป็นภาพยนตร์ฝรั่งเศสดังนั้นบางมุกตลกเราอาจจะไม่เข้าใจสักเท่าไหร่