ชื่อเรื่อง | Below Zero Netflix |
เรตติ้ง | 6.2 |
นักแสดง | Javier Gutiérrez, Karra Elejalde, Luis Callejo |
จำนวนตอน | 1.46 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง Oxygen netflix
รีวิวหนัง Oxygen netflix ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญโลเคชั่นเดียว ภาพยนตร์โลเคชั่นเดียวเป็นภาพยนตร์ต้นทุนต่ำที่หากทำได้ดีก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างงดงาม และมีภาพยนตร์โลเคชั่นเดียวมากมายที่กลายเป็นตำนานในเวลาต่อมา ความดีงามของการใช้ฉากเดียวในการถ่ายทำภาพยนตร์ตลอดทั้งเรื่องคือความกดดันที่ผู้รับชมจะได้รับเนื่องจากตัวละครไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ต้องติดอยู่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง
เช่นเดียวกับภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำกันนั่นก็คือภาพยนตร์บน netflix เรื่อง oxygen เป็นภาพยนตร์ใหม่ที่เพิ่งออกฉายในปี 2021 นี้ เล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ติดอยู่ในแคปซูลประหลาดและมีเวลานับถอยหลังเหลือเพียงแค่ 90 นาทีเท่านั้น สิ่งที่เราจะได้เห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นความพยายามเอาตัวรอดของหญิงสาวที่ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ไม่รู้ถึงสิ่งที่เธอกำลังอยู่ข้างใน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอนั้นเข้ามาอยู่ในนี้ได้อย่างไร
ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงจะเต็มไปด้วยความกดดันที่ทำให้ผู้รับชมนั้นรู้สึกระทึกและพยายามเอาใจช่วยเธอให้สามารถเอาตัวรอดจากแคปซูลให้ได้สำเร็จทันเวลา ใครที่เคยรับชมภาพยนตร์แนวนี้มาก่อนน่าจะพอทราบกันดีว่านอกจากที่ตัวละครจะไม่สามารถออกไปได้ง่ายๆ แล้ว
โอกาสที่ภาพยนตร์จะจบแบบ Happy Ending และ Sad Ending นั้นมีแทบจะเท่ากัน สำหรับใครที่ไม่ชอบภาพยนตร์ที่จบแบบตัวละครตายหรือไม่ประสบความสำเร็จอาจจะต้องเผื่อใจเอาไว้เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีโอกาสสูงที่จะจบแบบตัวละครไม่ประสบความสำเร็จ แต่มันก็เป็นเสน่ห์ของภาพยนตร์แนวนี้อีกหนึ่งอย่างที่ทำให้ผู้รับชมนั้นอยากจะรู้ว่าสรุปแล้วตอนจบตัวละครเอกของเราจะรอดหรือไม่
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง oxygen
oxygen เล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่หมดสติไป หลังจากฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนั้นนอนอยู่ในแคปซูลตลาดที่มีอะไรมากมายที่เธอไม่รู้จัก มีแผงหน้าจอมากมายที่แสดงถึงสถานะร่างกายของเธอ บนร่างกายของเธอก็มีสายระโยงระยางอะไรไม่รู้เต็มไปหมด เธอไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าสถานที่นี้คืออะไรหรือแม้แต่สิ่งที่แสดงอยู่บนหน้าจอคืออะไรกันแน่
เธออาจจะป่วยแล้วหมดสติไป หรืออาจมีใครจับตัวเธอมาทำการทดลองอะไรบางอย่าง เธอไม่รู้เลยแม้แต่น้อยเพราะเธอจำไม่ได้ ความทรงจำของเธอหายไปจนหมดสิ้นไม่เหลือแม้กระทั่งชื่อของตัวเอง แม้ว่าจะอยู่ตามลำพังแต่โชคดีที่มีระบบ AI ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองการทำงานทางการแพทย์ที่มีชื่อว่ามิโล คอยตอบในสิ่งที่เธออยากรู้ และมันยังเป็นเครื่องมือที่คอยดูแลอุปกรณ์ที่ติดอยู่ตามตัวของเธออีกด้วย
แต่อุปสรรคยังไม่หมดเพียงเท่านั้นเพราะเธอได้รู้ว่าออกซิเจนภายในแคปซูลที่เธออยู่นั้นเหลือเพียงแค่ 35 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเธอนั้นจะอยู่ได้แค่อีก 90 นาทีเท่านั้น ทำให้เธอต้องรีบรื้อฟื้นความจำให้สำเร็จและพยายามทุกวิถีทางที่จะเอาตัวรอดไปให้ได้
หลังจากพูดคุยกับ AI เธอก็รู้ว่าเธอนั้นสามารถติดต่อกับคนข้างนอกได้ เธอจึงขอให้มันติดต่อตำรวจเพื่อตามหาว่าเธออยู่ที่ไหน แต่อุ่นใจได้ไม่นานเธอก็เริ่มสงสัยว่าเบื้องหลังเหตุการณ์นี้คืออะไรกันแน่ เพราะตัวเธอเองนั้นก็ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรเธอจึงคิดว่ามันอาจจะเป็นการลักพาตัวมาเพื่อทดลองบางอย่างหรือเป็นกลุ่มคนที่มีทฤษฎีสมคบคิด
ในยามที่เธอฟุ้งซ่านภาพในความทรงจำก็จะเกิดขึ้นมาจนทำให้เธอต้องตั้งคำถามไม่หยุด ยิ่งเธอคุ้มคลั่งมากขึ้นเท่าไหร่ปริมาณออกซิเจนก็ยิ่งหมดลงอย่างรวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น ทำให้เธอต้องพยายามคิดและค้นหาวิธีการที่จะออกจากสถานที่แห่งนี้ให้สำเร็จให้ได้ สุดท้ายแล้วชะตากรรมของหญิงสาวจะเป็นอย่างไร สามารถติดตามรับชมได้ในภาพยนตร์
ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่อง oxygen
oxygen เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญผสมผสานกับไซไฟ ดูแล้วอาจจะไม่มีพิษมีภัยอะไรแต่ความจริงแล้วภายในภาพยนตร์เรื่องนี้มีบางฉากที่ Trigger ได้เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นการสอดแทงหรือการดึงเข็ม ฉากน่าหวาดเสียว ฉากอยู่ในที่แคบตลอดทั้งเรื่อง และยังมีฉากการทดลองกับหนูทดลองที่ค่อนข้างรุนแรงและน่าสงสารเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากใครที่ไม่สามารถรับชมฉากพวกนี้ได้ขอแนะนำให้ข้ามภาพยนตร์เรื่องนี้ไป
แต่สำหรับใครที่โอเคเราขอบอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีกลิ่นอายภาพยนตร์เรื่อง Buried แทบจะ 90% เพราะตัวละครหลักถูกขังอยู่ในที่แคบในสภาพนอนเหมือนกัน วิธีการเอาตัวรอดก็น้อยพอๆ กัน เพียงแต่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเพิ่มความกดดันเข้ามาด้วยการทำให้ความทรงจำของตัวละครเอกหายไป แต่ตัวบทก็ไม่ได้โหดร้ายจนเกินไปด้วยการให้ความหวังตัวละครเป็นระยะ ให้เรารู้สึกยังอยากเอาใจช่วยและไม่หมดหวังกับเธอ
ระหว่างการรับชมรับชมจะได้รับข้อมูลมากมายพร้อมกับตัวละคร ทำให้เรานั้นมีการคิดตามว่าข้อมูลเหล่านั้นจับต้นชนปลายแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่ แต่ขอบอกเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาคุณไปไกลมากกว่าที่คุณคิดไว้อย่างแน่นอน เป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่หักมุมได้อย่างยอดเยี่ยมจนคุณไม่ควรอ่านสปอยล์โดยเด็ดขาดเพราะมันจะทำให้เรื่องทั้งหมดไม่สนุกทันที
ตัวอย่างหนัง Oxygen netflix
รีวิว หนัง Oxygen netflix จาก playinone
หนังจำกัดพื้นที่ติดอยู่ในแคปซูลต้องหาทางออกให้ได้ก่อนอากาศจะหมดลง ฟังดูพล็อตคล้ายๆ หนังเก่าในอดีตเรื่อง Buried (2010) ที่ติดอยู่ในโลงถูกฝังทั้งเป็น แต่สำหรับเรื่องนี้ไปไกลกว่านั้นมากด้วยการเป็นหนังไซไฟเต็มขั้น จากฝีมือของ Christie LeBlanc ผู้เขียนบทหน้าใหม่เป็นหนังเรื่องแรกของเธอ และส่งต่อให้ผู้กำกับแนวสยองขวัญทุนต่ำชื่อดัง อเล็กซานเดอ อาจา ที่มีผลงานอย่าง The Hills Have Eyes (ชื่อไทยโชคดีที่ตายก่อน), Piranha 3D, Crawl คลานขย้ำ หนังจระเข้กินคนที่ติดอยู่ในเมืองที่พายุโหมกระหน่ำจนน้ำท่วม และเรื่องนี้ก็เป็นผลงานกำกับเรื่องต่อมา ซึ่งไอเดียของอ็อกซิเจนที่เล่นกับพื้นที่จำกัดก็เหมาะเจาะกับสไตล์งานของผู้กำกับคนนี้เป็นอย่างดี แต่ก็ทำให้ความคาดหวังจากแฟนหนังสยองขวัญผิดหวังไปด้วย เมื่อหนังเรื่องนี้คือแนวไซไฟจริงจังมากกว่าแนวระทึกขวัญจากหน้าหนังหรือพล็อตที่ถูกวางเอาไว้เป็นอย่างมาก
ช่วงชั่วโมงแรกของเรื่องเต็มไปด้วยปริศนา มากกว่าแนวระทึกขวัญ ตั้งแต่การตื่นของนางเอกที่แปลกประหลาด นางเอกเป็นใคร ใครที่จับนางเอกมาใส่ในแคปซูล ยุคสมัยที่นางเอกอยู่คือช่วงไหน ตำรวจที่นางเอกติดต่อคือใครกันแน่ และความทรงจำกับคนรักและการทดลองทางวิทยาศาสตร์กับหนูที่แวบเข้ามาเรื่อยๆ คืออะไรกันแน่ ทั้งหมดนี้อาจจะทำให้คนดูสับสนงุนงงจับต้นชนปลายเรื่องไม่ถูก และอาจจะรู้สึกว่าเหมือนเดาแนวทางหนังได้ ดูไม่ได้แปลกใหม่สักเท่าไหร่ ยิ่งคนดูหนังสไตล์นี้มาด้วยยิ่งทำให้พยายามเดาเรื่องให้ได้ก่อนเฉลยด้วย จนครบชั่วโมงแรกก็มาถึงช่วงเฉลยความลับสำคัญของเรื่อง ซึ่งจากนี้ไปนี่คือหนังแนวไซไฟจริงจังเข้มข้น ถึงเนื้อหาอาจจะไม่ได้สดใหม่ แต่พอนำมารวมกับพล็อตการติดในที่จำกัด ทำให้เรื่องหลังจากนี้ดูเข้าใจเป็นเหตุเป็นผลหายงงทันที แต่ตัวเรื่องก็เหลือเวลาอีกเกินครึ่งชั่วโมง ซึ่งทำให้เห็นเลยเนื้อเรื่องหลังจากนี้ยังมีอะไรเล่าอีกมาก
หลังจากเรื่องเคลียร์ปมใหญ่สุดไป ช่วงท้ายนี่คือการเอาตัวรอดจากที่จำกัดจริงๆ ไม่ใช่ช่วงที่มาเน้นปริศนาอะไรมากมายแบบตอนแรก ตัวหนังก็เหมือนได้เวลาใส่ฉากระทึกขวัญเข้ามาสักที จากตอนแรกที่แทบไม่มีเลย อันเป็นจุดบอดที่สุดของเรื่องจากความเข้าใจผิดในสไตล์ผู้กำกับ อเล็กซานเดอ อาจา กับหน้าหนังตัวอย่างที่ตัดมาเป็นแนวระทึกขวัญมากกว่าไซไฟ แต่เราก็เข้าใจได้ว่าถ้าจะขายเรื่องนี้ให้คนดูก็ต้องเน้นแบบนี้แหละ ซึ่งการมาของฉากระทึกขวัญช่วงหลังถือว่าโอเคเลยกับไอเดียสิ่งของน่ากลัวที่มีอยู่ในแคปซูลนั้น รวมถึงฉากแหวะนิดๆ อย่างการทำร้ายตัวเองเพื่อแลกกับการรอดชีวิต แต่อย่าพึ่งไปคาดหวังว่าจะเป็น Saw หรือโหดเลือดสาดอะไรขนาดนั้นนะครับ เพราะหนังเรื่องนี้ยังคงต้องรักษาธีมไซไฟไว้เต็มที่ เพราะส่วนนี้คือบทสรุปจบของเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างลงตัว อาจจะรู้สึกดีเกินไปด้วยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น (ที่จริงผู้เขียนไม่ชอบตอนจบแบบนี้สักเท่าไหร่ อยากให้จบลงแบบปลายเปิดทิ้งเรื่องราวไว้คิดต่อมากกว่า)
นี่เป็นหนังที่บทเต็มไปด้วยการครีเอทไอเดียสดใหม่ ไม่ใช่หนังทุนต่ำ แม้จะดูเป็นแนวอย่างนั้น เรื่องราวชวนงงกับชวนว้าวไปพร้อมกัน ไม่แปลกใจเลยที่คะแนนเรื่องนี้ถึงพุ่งมากในสื่อต่างประเทศ เอาว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
playinone