ชื่อเรื่อง | Below Zero Netflix |
เรตติ้ง | 6.2 |
นักแสดง | Javier Gutiérrez, Karra Elejalde, Luis Callejo |
จำนวนตอน | 1.46 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง Low Season สุขสันต์วันโสด
รีวิวหนัง Low Season สุขสันต์วันโสด ปิดปากแผลและได้เวลาเยียวยาหัวใจ ภาพยนตร์แนวโรแมนติดคอมเมดี้สำหรับคนอกหักที่เราไม่ควรพลาด สุขสันต์วันโสดภาพยนต์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ผลงานการกำกับการแสดงของ เป้ นฤบดีเวชกรร ผู้เคยฝากของผลงานการกำกับภาพยนต์เรื่อง สาระแนห้าวเป้ง สาระแนสิบล้อและ สาระแนเห็นผี ซึ่งได้หวนกับมาสร้างภาพยนต์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ในเรื่อง สุขสันต์วันโสด อีกหนึ่งเรื่อง มีทีมผู้เขียนบทถึง 7 คนด้วยกันใช้เวลาในการเรียงและเขียนบทเกือบ 3 ปีเพื่อให้ได้มาซึ่งภาพยนต์ที่สนุกและมีคุณภาพอย่างยิ่ง
โดยได้พระเอกของเรื่องเป็น มาริโอ้ เมาเร่อ ที่มารับบทหนุ่มนักเขียน ที่อกหักและมาตามหาแรงบันดาลใจในการเขียนบทของตัวเอง พ่วงด้วยนางเอกของเรา พลอย-พลอยไพลิน ตัวแทนวัยรุ่นยุค Millennials ซึ่งต้องบอกว่าได้ทุ่มสุดตัวสุดความสามารถในการแสดงเลยทีเดียว เสริมด้วยบทนักแสดงสมทบที่สร้างสีสันให้กับหนังให้มีความน่าสนใจมากขึ้นอย่าง โจ๊ค อัครินทร์, นิกกี้ ณฉัตร, โฟร์ ศกลรัตน์ และ อ้น ศรีพรรณ พอได้เห็นถึงทั้งนักแสดงนำและนักแสดงสมทบแล้วต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้ไม่ควรพลาด
เรื่องราวและการดำเนินเรื่องของภาพยนตร์เรื่อง สุขสันต์วันโสด
ภาพยนตร์เรื่อง สุขสันต์วันโสด จะเป็นการเล่าเรื่องราวของ หลิน หญิงสาวที่มีสัมผัสที่หก ที่ทำให้ตัวเธอนั้นสามารถมองเห็นผีมาตั้งแต่เด็ก หลักจากที่เธอนั้นเสียหลังเพราะเสียใจ อกหัก นั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอนั้นเดินทางไปที่กิ่วแม่ปาน จังหวัดเชียงใหม่เพื่อหวังที่จะรักษาบาดแผลในจิตใจของตัวเอง และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอนั้นเจอเจอกับพุธ หนุ่มนักเขียนบท ที่ได้เดินทางมาที่นี้เพื่อหาแรงบันดาลใจในการเขียนงานของตัวเอง จุดเริ่มต้นของการเดินทางไปด้วยกันของทั้งคู่เกิดจากหลินและพุธได้เดินทางไปพักที่พักที่ๆ เดียวกัน แต่หลินนั้นเห็นวิญญาณทำให้ตัวเธอนั้นไม่อยากจะพักอาศัยอยู่ที่นี่ต่อ ทำให้เธอขอเดินทางตามติดพุธไปด้วย ซึ่งพุธก็ได้พาหลินมาที่โอสเตย์แห่งหนึ่งทำให้เธอได้พบเจอ พี่โอมผู้เป็นเจ้าของโฮมสเตย์ อ้อม นุ่น วิทยา เหล่าคนโสดที่อกหัก ที่มารักษาบสาดแผลของใจที่รวมตัวกันอยู่ ทั้งหมดได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน พูดถึงเรื่องราวของความรักของกันและกัน จนวันหนึ่งพุธได้เดินทางไปหาพี่กะเร ชาวบ้านแถวนั้นเพื่อหาข้อมูลมาเขียนในบทความของตัวเองโดยไม่รู้ตัวเลยว่าพี่กะเรนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวความรักและความน่ารักของทั้งคู่ ความรักครั้งใหม่พร้อมกับการรักษาบาดแผลในใจให้กันก็ได้เริ่มต้นขึ้น
บทสรุปและความสนุกของภาพยนตร์เรื่อง สุขสันต์วันโสด
ต้องบอกเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นอีกหนึ่งแรงบันดานใจให้กับหลายๆคนที่กำลังอกหัก ว่าบางทีการที่เราต้องจมปลั๊กกับความทุกข์นั้นมันไม่ได้ช่วยอะไร บางทีการเดินทางตามหาสิ่งใหม่ๆ อาจจะทำให้เราได้เจอเรื่องราวหรือสิ่งที่ดีกว่าเป็นการเล่าเรื่องราวของคนอกหักแต่ละคนที่ไม่ซ้ำกัน การวิธีรักษาอาการอกหักของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน คนอกหักคือคนที่มีแผลในใจ ยิ่งเราเปิดมันดูมากเท่าไหร่ ยิ่งสร้างบาดแผลให้มันมากเท่านั้น หรือจะพูดให้ถูกคือ โฟกัสมันให้น้อยที่สุด ยอมรับ เข้าใจ ระบาย นั่นอาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดก็ว่าได้ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องสุขสันต์วันโสดนี้ถือว่าได้เลือกสถานที่การถ่ายทำ
โลเคชั้นได้น่าสนใจเป็นอย่างมาก ทำให้คนดูภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เพลิดเพลิดไปกับเรื่องราว และบทบาทของหนัง ยิ่งดูยิ่งทำให้รู้สึกสบายใจ เพราะด้วยธรรมชาติ แสง สีของภาพที่ถ่ายทำออกมาทำออกมาได้ชวนมองเป็นอย่างมากสร้างความเพลินใจความสนุกของบทละครที่มีความลื่นไหล ความสามารถการแสดงของนักแสดงที่ดึงคนดูอย่างเราเข้าไปร่วมในอารมณ์ของคนเศร้า แล้วได้เจอสิ่งใหม่ๆได้เป็นอย่างดีและเคมีความเข้ากันของพระเอกและนางเอกอย่าง
มาริโอและพลอยไพลินนั้นสามารถทำให้เราอมยิ้มตามๆกันไป ซึ่งต้องขอเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้คงเป็นภาพและบรรยากาศ ความสวยงามของธรรมชาตินั่นแหละ ฉากที่ถือได้ว่าเป็นฉากที่สร้างความน่ามองหน้าสนใจคงจะเป็นฉากที่นางเอกและพระเอกรถเสียกลางป่าทำให้ต้องไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ความเป็นพื้นบ้านอย่างแท้จริงซึ่งบอกเลยว่าใครได้ดูฉากนี้แล้วไม่หลงใหลเสน่ห์ของธรรมชาติและความสงบ ยิ่งหากใครที่ใช้ชีวิตในเมืองที่วุ่นวาย
และอยากจะหนีไปในที่ๆ สงบฉากนี้คงดึงดูเราได้เป็นอย่างดี และช่วงที่ได้มีการถ่ายทำหนังเรื่องนี้เป็นช่วง Low Season หรือช่วงหน้าฝน ตกบอกเลยว่าเราจะได้เห็นผืนป่าในช่วงที่สวยที่สุดเลยก็ว่าได้ ถือเป็นการขับเคลื่อนเรื่องราวขอเนื้อเรื่องที่ชวนทำให้เราติดตามและจดจ่อกับมันได้เป็นอย่างดีสอดแทรกความคิดในบทและเรื่องราวว่า การอกหักหรือความล้มเหลวในชีวิตมันไม่ใช่เรื่องที่แย่ เมื่อถึงเวลาเราก็ต้องเยียวยาและรักษาตัวเราเอง พาตัวเองไปในที่ใหม่ๆ บางทีเราอาจจะเจอกับผู้คนใหม่ๆ สถานที่ใหม่ๆที่ช่วยกอบกู้และเยียวยาบาดแผลในใจเราได้เป็นอย่างดี อยู่ที่ตัวเราจะกล้าพาตัวเองออกจากสถานที่เดิมๆ ไปสู้สถานที่ใหม่ๆ หรือเปล่า
ตัวอย่างหนัง Low Season สุขสันต์วันโสด
รีวิว หนัง Low Season สุขสันต์วันโสด จาก beartai
หลังเห็นผีจนได้เรื่องแถมโดนหักอกจากซุปตาร์คนดัง หลิน (พลอยไพลิน ตั้งประภาพร)เลยหอบใจพัง ๆ เดินทางขึ้นเหนือสู่ดอยกิ่วแม่ปานจุดเริ่มต้นสัมพันธ์รักที่เพิ่งจบลงไป และในระหว่างทางเธอก็ได้พบกับ พุทธ (มาริโอ้ เมาเร่อ) หนุ่มนักเขียนบทสุดกวนที่มาหาแรงบันดาลใจในการเขียนบทหนังผี โดยปลายทางของพุทธคือการไปหาพี่จเร (นาคร ศิลาชัย) ชายเห็นผีที่หลินสัมผัสได้ถึงความสยองลึก ๆ แถมพ่วงด้วยแก๊งใจพังแห่งโฮมสเตย์บนดอยทั้ง พี่โอม (โจ๊ก-อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ) เจ้าของโฮมสเตย์โคตรติสท์ พี่อ้อม (อ้น-ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) ผู้ช่วยดูแลพี่โอมที่หวังจะไม่โสดเพราะเธอมีใจให้เขา วิทยา (นิกกี้-ณฉัตร จันทพันธ์) หนุ่มปากมากที่หลงรัก นุ่น (โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร) สาวรุ่นพี่ขี้เมา เมื่อคนใจพังมารวมกันในช่วงหน้าโลว์ซีซัน ความฮาแบบพัง ๆ จึงบังเกิด
หลังทิ้งห่างผลงานในนามสาระแนทั้งหลาย เป้-นฤบดี เวชกรรม ก็กลับมาอีกครั้งกับ Low Season หนังรักตลกมีผีที่แอบมีแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงหน้าโลว์ซีซันที่บรรยากาศไม่ได้ด้อยไปกว่าหน้าไฮแต่อย่างใด ซึ่งจุดที่ดึงผมสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้นการนำพี่เปิ้ล นาคร กลับมาเจอกับ มาริโอ้ อีกครั้งนี่แหละ เพราะเคมีประหลาด ๆ ของทั้งคู่ใน สาระแนเห็นผี เคยทำให้คนดูหัวเราะกรามค้างมาแล้ว แต่กระนั้นในภาพรวมของ Low Season ก็ไม่ได้ไปทาง สาระแนเห็นผี เสียทีเดียวแม้จะมีองค์ประกอบคล้าย ๆ กัน แต่หนังก็เลือกจะไปในทางโรแมนติก และเรื่องราวที่มีจุดศูนย์กลางที่การรวมตัวคนอกหัก คนพัง ๆ
ซึ่งจุดเด่นที่สุดของบทหนังก็อยู่ที่การสร้างคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจมากกว่าเรื่องราวที่เดินไปอย่างมีทิศทางเพราะขณะที่การเล่าเรื่องของมันไม่อาจทำให้คนดูเอาใจช่วยหรือหาเหตุผลให้รักตัวละครนำทั้งสองได้แล้ว การใส่ซีนเห็นผียังดูไม่เข้าพวกและเพิ่มความน่ารำคาญให้หนังเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นหากใครคาดหวังจะได้ดูหนังรักจี๊ด ๆ ก็ยังคงไม่ตอบสนองนัก และพาร์ตโรแมนติกของหนังก็ไม่ทำงานอย่างที่คาดหวังเท่าไหร่ แต่หากหวังความฮาจากคาแรกเตอร์ประหลาด ๆ อันนี้เชื่อมือเป้ นฤบดี ได้เลย
ว่ากันตามตรงเลยคือคาแรกเตอร์นำของหนังอย่าง หลิน และ พุทธ นี่ก็คือสต็อกคาแรกเตอร์ (ลักษณะตัวละครที่เราคุ้นเคย เห็นซ้ำ ๆ) ที่หนังพยายามเติมความประหลาดเข้าไปทีละเล็ก ทีละน้อย เริ่มจากหลิน หญิงสาวใจพัง อกหัก อันนี้ไม่บอกก็รู้เลยว่าเป็นการดึงคาแรกเตอร์ส่วนหนึ่งมาจาก พลอยไพลิน เจ้าของเพจ พลอยเรียนจบแล้วทำอะไรต่อ? ที่เน้นคาแรกเตอร์สาวลุยแต่กำลังค้นหาตัวตนมาผสานกับความสามารถเห็นผี ที่ถือเป็นมุกเด็ดของเรื่อง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเสน่ห์สไตล์สาวแว่นของเธอช่วยกลบแอ็กติงที่ดูใหญ่โตและไม่ค่อยเข้าพวกได้แนบเนียนอยู่เหมือนกัน
ส่วนบทพุทธ ของมาริโอ้ เมาเร่อ ก็ถือเป็นการทดสอบคาแรกเตอร์ที่เป็น เดอะแบก ของหนังอย่างแท้จริง เพราะทุกฉากที่โอ้ปรากฎตัวคือหนังจะไม่มีจังหวะที่เอื่อยเฉื่อยแต่อย่างใดและยังพอจะเจือความโรแมนติกให้สาว ๆ ได้ฟินอยู่บ้าง ตรงข้ามกับฉากอกหักของหลินที่พลอยไพลินยังแสดงแบบไม่มีอินเนอร์อะไรนักเน้นร้องไห้เป็นหลักอย่างเดียว แต่ก็แอบเสียดายว่าหนังเองก็ยังใช้ความสามารถของนักแสดงคุณภาพอย่าง มาริโอ้ เมาเร่อ ได้ไม่คุ้มค่าเท่าใดนักเพราะหนังต้องไปให้เวลากับบรรดาตัวละครสมทบ อีกทั้งพาร์ตโรแมนติกของทั้งคู่ยังเริ่มง่ายจบง่ายแค่คนอกหักมาสปาร์กกันเฉย ๆ เราเลยไม่รู้สึกนำพาหรือลุ้นอยากให้ทั้งคู่รักกันเหมือนหนังรักเรื่องอื่น ๆ
โดยภาพรวมแล้ว Low Season สุขสันต์วันโสด ก็ถือเป็นงานเบาสมองดูสบายที่เราต้องไม่ไปจ้องจับผิดกับตรรกะหนังใด ๆ เลยถึงจะดูได้สนุก แม้หนัง 2 ชั่วโมงเรื่องนี้อาจจะยังมีพลอตไม่แข็งแรง แต่ด้วยเสน่ห์ของนักแสดงก็พอทำให้เราพร้อมเดินทางขึ้นดอยไปเจอผีกับพวกเขา จนบางทีดูหนังจบหลายคนอาจวางแผนเที่ยวเหนือสัมผัสความงามยามไร้ผู้คนพลุกพล่านกันหลังออกจากโรงเลยทีเดียว
beartai