รีวิวหนัง HUSTLE

รีวิวหนัง HUSTLE

ชื่อเรื่องHUSTLE
เรตติ้ง7.5
นักแสดงAdam Sandler,Juancho Hernangomez
จำนวนตอน1.57 ชั่วโมง

รีวิวหนัง HUSTLE

รีวิวหนัง HUSTLE ภาพยนตร์แนวดราม่ากีฬาที่ทำออกมาแบบสูตรสำเร็จ ภาพยนตร์แบบสูตรสำเร็จมากเป็นภาพยนตร์ที่ถูกปรามาสว่าไม่สนุกหรือไม่สามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้รับชมได้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะทำออกมาสักกี่เรื่องต่อกี่เรื่องมันก็มักจะประสบความสำเร็จอยู่เสมอนั่นก็เป็นเพราะมันเป็นภาพยนตร์สูตรสำเร็จที่คิดมาแล้วว่าผู้รับชมจะต้องชอบและสามารถย่อยง่าย เหมาะสำหรับคนที่ชอบรับชมภาพยนตร์แบบสบายๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ถึงเดาเรื่องได้แล้วก็ยังสามารถสนุกสนานกับมันไปได้เหมือนเดิม

และหากคุณไม่ติดเกี่ยวกับความเป็นภาพยนตร์สูตรสำเร็จสักเท่าไหร่เราขอแนะนำภาพยนตร์เรื่อง HUSTLE เป็นภาพยนตร์แนวดราม่ากีฬาจากทาง NETFLIX ที่เล่าถึงเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่พยายามทำตามความฝันในการขึ้นมาเป็นนักบาส NBA ให้สำเร็จ

สำหรับใครที่มีเรื่องกีฬาแล้วกังวลว่าภาพยนตร์จะเล่าเกี่ยวกับการเล่นกีฬามากจนเกินไปทำให้มันไม่สนุกสนานขอบอกเลยว่าไม่ต้องกังวลเพราะภาพยนตร์ไม่ได้เน้นหนักในเรื่องการเล่นในสนามถึงขนาดนั้น แต่จะเน้นเล่าถึงตัวนักกีฬามากกว่าว่าเขาเป็นมาอย่างไรและมีพรสวรรค์แบบไหน เส้นทางการเป็นนักกีฬา NBA ของเขานั้นดำเนินไปอย่างไรมากกว่าที่จะบอกว่าในสนามเขามีความสามารถมากแค่ไหนหรือมีการเล่นเกมอย่างไร 

ซึ่งข้อเสียที่เราสามารถบอกได้ตรงนี้เลยก็คือด้วยความที่มันเป็นภาพยนตร์แนวดราม่ากีฬาแต่ไม่ได้เน้นการฉายเรื่องราวในสนามสักเท่าไหร่ก็อาจจะทำให้คนที่ชื่นชอบการแข่งบาสเกตบอล NBA ที่หวังว่าจะได้เห็นฉากการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความดุเดือดเลือดพล่านก็อาจจะผิดหวังได้เช่นเดียวกัน 

หนังบาส netflix

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง HUSTLE

HUSTLE เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวของชายหนุ่มวัยกลางคนผู้หนึ่งที่มีชื่อว่าสแตนลี ในอดีตเขาเคยเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลที่มีฝีมือไม่แพ้ใครและเต็มไปด้วยพรสวรรค์ เขากำลังไปได้ดีในอนาคตการเป็นนักกีฬาของตัวเอง แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเขาต้องประสบอุบัติเหตุทำให้ไม่สามารถกลับไปเล่นกีฬาที่ตัวเองรักได้เหมือนเก่า ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะแขวนรองเท้าแล้วหันมาเป็นโค้ชแทน โดยมีความหวังใหม่ว่าในสักวันหนึ่งจะได้เป็นโค้ชของ NBA ให้สำเร็จ 

แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายเช่นนั้นเพราะเวลาผ่านไปจนเขาอายุกว่า 50 ปีก็ยังไม่สามารถสานฝันของตัวเองให้สำเร็จแต่อย่างใด จนกระทั่งในวันหนึ่งเขาได้พบกับชายหนุ่มจากสเปนที่มีชื่อครูซอายุ 22 ปี เด็กหนุ่มคนนี้เล่นบาสเป็นงานอดิเรกเพื่อหาเงินจากการพนันเท่านั้น ส่วนอาชีพหลักของเขาคือการเป็นกรรมกรก่อสร้างหาเลี้ยงชีพไปวันๆ ด้วยความยากจน 

ดังนั้นสแตนลีที่เป็นแมวมองจึงคาดหวังว่าเขาจะสามารถปั้นเด็กหนุ่มโนเนมผู้นี้ที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ในการเล่นบาสเกตบอลให้กลายมาเป็นนักกีฬาในการแข่งขัน NBA ให้สำเร็จและช่วยให้เขามีชื่อเสียงขึ้นมา ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะช่วยให้เขาได้รับบทบาทเป็นโค้ช NBA ตามความฝันในที่สุด 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง HUSTLE

HUSTLE เป็นภาพยนตร์ที่เน้นเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวนักกีฬามากกว่าการเล่นในสนาม ดังนั้นหากใครที่คาดหวังว่าจะได้เห็นฉากการแข่งขันบาสเกตบอลในสนาม NBA ที่เต็มไปด้วยความดุเดือดขอบอกตรงนี้เลยว่าผิดหวังแน่นอน แต่หากคุณเป็นคนที่ชอบประเด็นดราม่าและวิถีชีวิตว่าการที่คนคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จได้อย่างไรรับรองว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน 

ประเด็นที่ภาพยนตร์ใส่มาแล้วมีความน่าสนใจก็คือการควบคุมอารมณ์ของนักกีฬา อย่างที่เรามักจะเห็นว่าการแข่งขันกีฬาบางครั้งก็มักจะมีการวางมวยกันเกิดขึ้นเนื่องจากนักกีฬาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ และตัวละครหลักผู้เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของเราก็มีอดีตที่เคยทำร้ายร่างกายผู้อื่นมาก่อนแล้วต้องการที่จะกลับตัวใหม่ แต่มันกลับกลายเป็นว่าคู่ต่อสู้ดันเอาประเด็นดังกล่าวมายุเขาในสนามเสียอย่างนั้น มันเลยทำให้เรารู้สึกลุ้นไปกับเขาว่าเขาจะสามารถเอาชนะใจตัวเองได้สำเร็จหรือไม่

ดังนั้นฉากในสนามที่เราจะเห็นจึงเป็นการเล่นสงครามประสาทระหว่างนักบาสมากกว่าการโชว์ฝีมือที่เต็มไปด้วยความยอดเยี่ยมเนื่องจากภาพยนตร์เปิดมาตั้งแต่แรกแล้วว่าตัวละครนี้มีความสามารถระดับพรสวรรค์ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเล่นกีฬาที่สามารถเข้าถึงทุกคนได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่เฉพาะคนที่ชื่นชอบการแข่งขันกีฬาเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น 

นอกจากนี้ยังมีการใส่ประเด็นดราม่าครอบครัวของทั้ง 2 ตัวละครหลักเข้ามาเอาไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นตัวโค้ชที่มีลูกสาวแต่เราไม่มีพรสวรรค์ด้านกีฬาเหมือนกับพ่อเลยแม้แต่น้อย การที่ตัวเขาต้องตกงานและต้องมาพยายามผลักดันเด็กหนุ่มคนหนึ่งจนทำให้มีปัญหากับครอบครัว ในขณะที่ตัวเด็กหนุ่มเองก็มีประเด็นเกี่ยวกับการห่างหายจากลูกสาวเนื่องจากเมียเก่าทิ้งลูกไป การเดินทางมายังอเมริกาจึงทำให้เขาต้องห่างจากลูกสาวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะประเด็นเหล่านี้มีการใส่เข้ามาเพียงแค่เล็กน้อยไม่ได้ออกมาขยี้อะไรมากมายจนน่ารำคาญ 

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นภาพยนตร์แนวดราม่ากีฬาที่ทำออกมาได้ค่อนข้างแปลกใหม่ไม่น้อยเลยทีเดียวแม้ว่าจะมีความเป็นสูตรสำเร็จก็ตาม คนที่ไม่ได้ติดตามการแข่งขันกีฬา NBA ก็สามารถรับชมได้ แต่หากคุณเป็นแฟนกันแข่งขันอยู่แล้วรับรองว่าคุณจะได้พบเจอกับนักแสดงรับเชิญที่ทำให้คุณต้องตื่นเต้นอย่างแน่นอน 

ตัวอย่างหนัง HUSTLE

รีวิว หนัง HUSTLE บางส่วนจาก beartai

บอกก่อนเลยว่า ก่อนชม Hustle ผู้เขียนไม่รู้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่เลือกดูก็เพราะว่าหนังเข้าชาร์ต Netflix ในไทยอันดับ 3 แล้วมีชื่อ อดัม แซนด์เลอร์ (Adam Sandler) ที่มาในโหมดดราม่าจริงจัง ตามหลัง Uncut Gems (2019) ที่ได้เสียงชื่นชมไปพอควร แซนด์เลอร์เป็นนักแสดงฮอลลีวูดแถวหน้าอีกคน ที่ระยะหลังนี้มาฝากฝีฝากไข้ไว้กับ Netflix บริษัท Happy Madison ของเขาต้องสร้างหนังป้อนให้กับ Netflix ทุกปี นับตั้งแต่ The Week Of (2018), Murder Mystery (2019), Hubie Halloween (2020) แล้วก็ตามมาด้วย Hustle เรื่องนี้ล่ะ

รอบนี้ แซนด์เลอร์รับบทเป็น สแตนลีย์ ซูการ์แมน (Stanley Sugarman) อดีตนักกีฬาบาสเก็ตบอลอาชีพ ที่หลังเลิกเล่นอาชีพก็มาเป็นพนักงานประจำให้กับทีม Philadelphia 76ers ในตำแหน่งแมวมอง หนังใช้เวลาช่วงต้นเรื่องปูทางให้เราเห็นชีวิตการทำงานของซูการ์แมน ที่ต้องเดินทางไปทั่วโลกแทบไมได้หยุดพัก เพื่อเสาะหานักเล่นหน้าใหม่มีพรสวรรค์มาเข้าทีม จนเขาบังเอิญมาพบกับ โบ ครูซ ที่กำลังเล่นสตรีทบาสอยู่ในสนามเล็ก ๆ ในสเปน รับบทโดย ฮวนโช เฮอร์นาโกเมซ (Juancho Hernangomez) นักบาสเก็ตบอลตัวจริงแห่งทีม Utah Jazz

ซูการ์แมนมั่นอกมั่นใจเหลือเกินว่าเขาเจอช้างเผือกตัวจริงแล้ว พาตัวครูซบินไปฟิลาเดเฟียทันที เพื่อนำเสนอกับทีม แต่พอดีกับที่ วินซ์ เมอร์ริก ลูกชายเจ้าของทีม Philadelphia 76ers ขึ้นรับตำแหน่งผู้บริหารแทนพ่อผู้ล่วงลับ รับบทโดย เบน ฟอสเตอร์ (Ben Foster) ซึ่งวินซ์เองก็ไม่ชอบหน้าซูการ์แมนอยู่แล้วเป็นทุนเดิม จึงปฏิเสธที่จะรับครูซเข้าทีม ทำให้ซูการ์แมนเกิดโทสะ ประกาศลาออกจากทีม Philadelphia 76ers กลายเป็นว่าจากนาทีนี้เขาและครูซต่างต้องฝากชีวิตไว้ซึ่งกันและกัน ซูการ์แมนต้องพยายามทุกวิถีทางดันครูซให้เป็นซูเปอร์สตาร์ แล้วขอให้ทีมไหนก็ได้ใน NBA รับครูซเข้าเป็นสมาชิกทีม หนังใช้เวลาพอสมควรเลยล่ะ กว่าจะถึงจุดแตกหัก ที่ทำให้เส้นเรื่องหลังจากวิกฤตนี้ ชวนให้น่าติดตามขึ้นมาก

พอเรื่องราวมาแนวนี้ เริ่มคุ้น ๆ กันไหมล่ะครับ แมวมองออกจากบริษัทยักษ์ใหญ่กลายมาเป็นเอเยนต์จำเป็น ต้องฝากความหวังไว้กับนักกีฬารองบ่อนเพียงคนเดียว ที่ไม่มีใครรู้จัก นี่มัน Jerry Maguire ชัด ๆ แต่เปลี่ยนจากเบสบอลมาเป็นบาสเก็ตบอลแทน จุดหมายปลายทางของเรื่องก็พอเดา ๆ ได้ล่ะ แต่เรื่องราวระหว่างทางนั้นหนังก็เล่าได้น่าสนใจ กับการใส่อุปสรรคต่าง ๆ นานามากลั่นแกล้งซูการ์แมนและครูซ เราก็ตามลุ้นกันไปว่าสุดท้ายคู่นี้จะพบแสงสว่างปลายอุโมงค์กันด้วยวิธีใด

หนังใส่ตัวร้ายมาทำหน้าที่อุปสรรคพอสมควร โดยเฉพาะ เคอร์มิต วิลล์ นักบาสเก็ตบอลดาวรุ่งที่เป็นคู่แข่งตัวฉกาจของครูซ เขาพยายามที่จะข่มรัศมีของครูซเพื่อไม่ให้มาเบียดบังตัวเองที่กำลังเป็นที่สนใจของแมวมองจากทีมใหญ่ใน NBA แอนโธนี เอ็ดเวิร์ด (Anthony Edwards) อีกหนึ่งนักบาสอาชีพตัวจริงจากทีม Minnesota Timberwolves มารับบทเป็น เคอร์มิต วิลล์ และทำหน้าที่ตัวร้ายได้สัมฤทธิ์ผล คือร้ายแบบมิติเดียวเลย ร้ายมาตั้งแต่บ้าน ร้ายจนคนดูเกลียดได้จริง อีกรายคือ วินซ์ เมอร์ริก ก็ถือว่าเป็นบทถนัดของ เบน ฟอสเตอร์ รายนี้เป็นคู่ปรับของซูการ์แมน เป็นวายร้ายแบบจอมบงการ ใช้อิทธิพลเครือข่ายสกัดกั้นแผนปั้นดาวรุ่งของซูการ์แมน เสียดายที่บทเลือกที่จะหาทางยุติบทบาทของเมอร์ริกแบบตัดฉับง่ายเกินไป เหมือนแบบว่า เอาอย่างนี้แล้วกัน แค่นี้ล่ะ พอแล้ว

beartai

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *