ชื่อเรื่องTHE AFTERPARTY
เรตติ้ง7.5
นักแสดงTiffany Haddish,Dave Franco
จำนวนตอน8 ตอน

รีวิวซีรีส์ THE AFTERPARTY

รีวิวซีรีส์ THE AFTERPARTY ซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนที่มาพร้อมกับความฮาเต็มพิกัด ปกติแล้วเรื่องราวแนวสืบสวนสอบสวนก็มักจะมาด้วยความคลุมเครือ บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความมืดมน ปริศนาลึกลับมากมายที่รอการค้นหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่และสาเหตุที่แท้จริงของเรื่องราวดังกล่าวเกิดจากอะไร ด้วยคดีที่มักจะเต็มไปด้วยการสูญเสียไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือชีวิตก็ตามทำให้บรรยากาศภายในซีรีส์แนวนี้ส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีการตลกโปกฮาสักเท่าไหร่ แต่มักจะเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความกดดันมากกว่า 

แต่ไม่ใช่กับซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนที่เราจะพาทุกคนมาแนะนำในวันนี้เพราะมันมาพร้อมกับความฮาแบบเต็มพิกัดนั่นก็คือซีรีส์เรื่อง THE AFTERPARTY เป็นซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนคอมเมดี้ที่มาพร้อมกับบรรยากาศงานปาร์ตี้สุดวายป่วง ออกฉายทาง APPLE TV+ จำนวนทั้งสิ้น 8 ตอนจบ เล่าถึงเรื่องราวการสืบคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงคืนสู่เหย้าของตัวละครที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายมากมาย 

มันดูเป็นซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนที่เต็มไปด้วยความสนุกและความตลกที่ไม่น่าจะจริงจังอะไรมากมาย แต่ในความเป็นจริงแล้วในส่วนของการสืบสวนสอบสวนถือว่าสามารถทำออกมาได้ดีและมีรายละเอียดในทุกฉากทุกตอน สำหรับใครที่ชื่นชอบเรื่องราวแนวสืบสวนสอบสวนหากรับชมแล้วคุณจะยังคงได้กลิ่นอายของการสืบสวนสอบสวนเหมือนกับเรื่องอื่นเพียงแต่มีความตลกผสมผสานเข้ามาได้อย่างลงตัวเท่านั้น มันจึงเป็นซีรีส์ที่สามารถทำได้ดีทั้งในแง่ของการสืบสวนสอบสวนและในแง่ของการสอดแทรกมุขตลกเข้ามา เราขอแนะนำว่าหากใครมี APPLE TV+ ไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องนี้โดยเด็ดขาด 

ซีรีส์ APPLE TV+

เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง THE AFTERPARTY 

THE AFTERPARTY เป็นเรื่องราวที่จะเล่าถึงกลุ่มเพื่อนเก่าสมัยเรียนไฮสคูลที่เคยเรียนอยู่ด้วยกันตอนยังเป็นเด็กได้นัดรวมตัวกันมาปาร์ตี้สุดเหวี่ยงอย่างสนุกสนานในงานคืนสู่เหย้ากันอีกครั้ง การพบปะสังสรรค์กันในครั้งนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานและบรรยากาศที่อบอุ่นเนื่องจากแต่ละคนนั้นต่างก็แยกย้ายไปใช้ชีวิต กว่าจะได้กลับมาเจอกันอีกทีต่างคนต่างก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ บรรยากาศควรที่จะเต็มไปด้วยความสนุกสนานแต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น 

นักร้องนักแสดงดังที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนไฮสคูลดังกล่าวได้เสียชีวิตลงไปอย่างเป็นปริศนา โดยหลักฐานทั้งหมดได้พุ่งตรงไปยังหนุ่มผิวสีคนหนึ่งที่อยู่ในห้องเป็นคนสุดท้ายกับเหยื่อและห้องนั้นยังเป็นห้องเกิดเหตุอีกด้วยนั่นก็คือชายที่มีชื่ออนิกนั่นเอง 

แต่เพราะว่าเขาเป็นคนบริสุทธิ์ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้เพื่อนทุกคนเข้าใจว่าเขานั้นไม่ได้เป็นฆาตกรลงมือฆ่านักร้องนักแสดงชื่อดังแต่อย่างใด นอกจากนี้ความวุ่นวายก็เพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อเพื่อนสาวสมัยเรียนที่เขาแอบชอบมาโดยตลอดก็มาในงานเลี้ยงรุ่นในครั้งนี้ด้วย นอกจากจะต้องเอาตัวรอดจากการเป็นฆาตกรในคดีฆาตกรรมแล้วเขายังต้องพยายามหาวิธีการสานสัมพันธ์กับเพื่อนในวัยเด็กที่ตัวเองเคยชื่นชอบอีกต่างหาก สุดท้ายแล้วเรื่องราวของเขาจะเป็นอย่างไรต้องติดตามรับชมกันต่อในซีรีส์

ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง THE AFTERPARTY 

THE AFTERPARTY เป็นซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนที่ผสมผสานความสนุกสนานและความตลกเข้ามาได้อย่างลงตัวไม่แพ้ใครเลยทีเดียว แต่มันไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ไม่ได้เน้นความจริงจังเอาแต่สนุกสนานแต่อย่างใด หากสังเกตดูให้ดีคุณจะพบว่ารายละเอียดในแต่ละตอนของซีรีส์เรื่องนี้มีการสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมเข้ามามากมาย แม้ว่าจะน่าเสียดายที่ความตลกไปกลบความน่าสนใจของปริศนาเหล่านั้นแต่ก็ถือว่าทีมงานสามารถให้ความสำคัญของทั้งส่วนการสืบสวนสอบสวนและส่วนของความสนุกสนานออกมาได้อย่างกำลังพอดี

ในแต่ละตอนของซีรีส์จะเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในงานปาร์ตี้ของแต่ละคนโดยเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครทั้งหมด 7 คนจากทั้งหมด 8 ตอน และโดยตอนสุดท้ายจะเป็นการสรุปเรื่องราวทั้งหมดและเฉลยให้เราได้รู้ว่าความจริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่โดยพาเราย้อนกลับมาดูภาพว่าใครมีอะไรน่าสงสัยหรือมีพิรุธตรงไหนบ้าง ซึ่งถือว่าเป็นการเฉลยเรื่องราวที่ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว

ถ้าเปรียบซีรีส์เรื่องนี้เหมือนจิ๊กซอว์มันก็คงจะเป็นจิ๊กซอว์ที่สามารถต่อกันได้เมียเหมือนกับภาพที่ไม่เคยถูกตัดออกมาเป็นจิ๊กซอเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าจะค่อนข้างน่าเสียดายที่การถ่ายทำในลักษณะแหวกแนวอาจจะทำให้หลายคนรู้สึกว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่สนุกสนานเท่าที่ควร แต่มันก็เป็นซีรีส์ที่มอบรสชาติแปลกใหม่ให้กับแนวสืบสวนสอบสวนได้ดี แต่ละตอนล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เส้นเลือดเกี่ยวกับความรักโรแมนติกก็ทำออกมาได้น่าสนใจ เป็นซีรีส์ที่จบเลยในซีซั่นเดียวไม่มีค้างคา

แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือการแหวกแนวมากเกินไปทำให้หากใครที่ชอบก็จะชอบไปเลยแต่ใครที่ไม่ชอบก็จะไม่ชอบไปเลยเช่นเดียวกัน เพราะถ้ามันไม่สามารถเสริมอรรถรสในการรับชมให้กับคุณได้มันก็จะกลายเป็นสิ่งที่ทำลายอรรถรสในการรับชมทันที ตัวละครในซีรีส์มีเป็นจำนวนมากแต่มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ถูกหยิบยกนำเอามาเล่า ทำให้ตัวละครที่เหลือดูเป็นตัวละครส่วนเกินที่น่ารำคาญหูรำคาญตา บาคาร่า จีคลับ

ตัวอย่างซีรีส์ THE AFTERPARTY

รีวิว ซีรีส์ THE AFTERPARTY บางส่วนจาก playinone

ซีรีส์สืบสวนแบบดูตลกๆ ขำนิดๆ ตลอดเรื่อง แต่ก็จริงจังกับการไขคดีในตอนท้ายแบบเชื่อมต่อจิ๊กซอว์ทั้งหมดได้เนียนมาก แต่บางตอนทำออกมาฉีกแนวไปหน่อยจนดูไม่สนุก แต่โดยรวมถือว่าเป็นซีรีส์สืบสวนสั้นๆ 8 ตอนจบที่โอเคเลยครับ The Afterparty ซีรีส์ตลกสืบสวนของ Apple TV+ 8 ตอนจบ ที่เล่าเรื่องราวการสืบคดีฆาตกรรมในงานเลี้ยงคืนสู่เหย้าของเหล่าตัวละครสุดวายป่วงกันทุกคน

ซีรีส์สืบสวนที่ดูเหมือนแนวตลกไม่จริงจัง แต่ความจริงเป็นซีรีส์ที่จริงจังกับรายละเอียดทุกอย่างในแต่ละตอนมาก แต่ด้วยความตลกของเรื่องทำให้หลายๆ อย่างที่นำเสนอออกมาถูกมองข้ามไป ซึ่งแอบน่าเสียดายมากที่เรื่องพยายามจะตลกแหวกแนวกันทุกตอนจนเกินไปหน่อย ซึ่งในเรื่องนี้จะแบ่งเวลาให้แต่ละตอนเป็นการเล่าเรื่องในงานปาร์ตี้ของแต่ละคนผ่านตัวละคร 7 คน จากทั้งหมด 8 ตอน ตอนสุดท้ายจะเป็นตอนเฉลยเรื่องราวทั้งหมด โดยหยิบจับจากเรื่องเล่าทั้ง 7 ตอนมาย้อนให้ดูว่าใครมีพิรุธตรงไหน และใครที่เล่าเรื่องโกหกให้ตำรวจนักสืบฟัง ซึ่งพอเฉลยในตอนท้ายเราถึงรู้ว่าทุกตอนที่เล่ามาทั้งหมดเกี่ยวข้องกันทุกจุดจริงๆ แบบที่สามารถย้อนไปดูต่อฉากจับผิดตามได้เลย ซึ่งจุดนี้คือความเจ๋งของเรื่องที่คิดมาดี มีบทเฉลยที่ลงตัว อธิบายได้ทุกอย่าง พร้อมกับจบคดีในตัวเลยไม่มีค้างต่อไปซีซั่นต่อไป

แต่สิ่งที่เรื่องนี้มีปัญหานิดๆ ก็คือการที่พยายามทำให้เรื่องดูแหวกแนวในบางตอนมากไปหน่อย อย่างตอนของเพื่อนซี้อนิกที่ฝันอยากเป็นนักร้อง คำให้การของเขาก็กลายเป็นการเล่าเรื่องแบบหนังเพลงไป คืออยู่ๆ เรื่องก็ตัดให้ทั้งตอนเป็นหนังเพลงไปเลย ซึ่งจะว่าครีเอทให้สนุกมันก็พอได้ แต่คือพอดูๆ ไปมันกลายเป็นมีแต่น้ำมากไปหน่อย เพราะเสียเวลาไปกับฉากร้องเพลงเหมือนเรามานั่งดูฉากเต้นในหนังอินเดียติดๆ กันอะไรแบบนั้น หรืออีกตอนที่เป็นนางเอกของเรื่องเล่าโดยตัดเรื่องเป็นการ์ตูนอนิเมชั่น คือเราเข้าใจว่าคนสร้างอยากครีเอทให้แต่ละตอนมีแนวการนำเสนอแปลกใหม่

แต่คือมันแปลกเกินไป แล้วก็ไม่สนุกอีกต่างหาก ยิ่งพอตัดอารมณ์จากการเล่าเรื่องปกติกลับไปอนิเมชั่นหยาบๆ ยิ่งทำให้รู้สึกว่ากลายเป็นตอนที่แย่แบบไม่รู้จะดูไปทำไมเลย ซึ่งอะไรแบบนี้แหละที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ดูมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ถ้าตัดพวกตอนแปลกๆ แบบนี้ไป ตอนที่เล่าเรื่องราวตามปกติก็ถือว่าทำได้ดีเลย ตอนดูเราอาจจะแค่เพลินๆ กับตลกบ้างพอสมควร แต่พอตอนจบที่เรื่องราวทุกฉากสำคัญหมดทำให้เรื่องราวพวกนี้ดูเจ๋งขึ้นมาทันที เพราะเป็นคนดูเองที่ไม่ทันคิดตามทั้งๆ ที่เรื่องแทบจะเฉลยแบบจะๆ ให้เห็นตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าใครคือคนร้าย

ตัวเรื่องมีเส้นเรื่องรองเป็นความรักของอนิกกับโซอี้ ซึ่งเขากลับมางานนี้เพื่อพบเธอโดยเฉพาะ หลังรู้ว่าเธอหย่าจากสามีที่เป็นอดีตหัวโจกแกล้งเขาไปแล้ว แต่ก็ไม่หย่าขาดจากกัน เส้นเรื่องรองนี้กลับทำได้สนุกกว่าตอนสืบสวนซะอีก เพราะเรื่องราวมันสลับซับซ้อนจากการที่ใครๆ ก็หมายตาโซอี้ในงานนี้แบบเดียวกับอนิก แล้วก็กลายเป็นศึกชิงนางอีรุงตุงนังที่สนุกมาก โดยแอบมีฉากโรแมนติกเล็กๆ แทรกอยู่ด้วย ซึ่งคนดูก็ต้องลุ้นแหละว่าอนิกจะแก้ข้อกล่าวหาตัวเองได้พร้อมกับสานรักกับโซอี้ได้ด้วยรึเปล่า ซึ่งเป็นบทสรุปสุดท้ายของเรื่องราวต่อจากการไขคดีนี้ด้วย

ในเรื่องยังถ่ายทอดอารมณ์ของงานปาร์ตี้คืนสู่เหย้าได้เป็นอย่างดี ตัวเรื่องทำให้เห็นว่าการกลับมาพบกันของเพื่อนวัยเรียนเป็นอย่างไรในทุกแง่มุม ทั้งหัวโจกในอดีต เด็กที่ถูกแกล้ง สาวป๊อบประจำโรงเรียน ก๊วนเด็กเนิร์ด เป็นแนวเรื่องการกลับเคลียร์ปัญหาที่ค้างคาไว้สมัยอดีต ซึ่งเรื่องก็สละเวลาให้ 1 ตอนมีฉากย้อนอดีตไปยังสมัยพวกนี้เป็นเด็ก แต่ก็ใช้ตัวแสดงตอนโตนี่แหละไปแต่งตัวเป็นเด็กสมัยนั้น ซึ่งก็ทำให้ตอนนี้มันกลายเป็นตอนตลกแบบเก๋ๆ เหมือนเด็กโข่งกันทุกคน นอกจากนี้แล้วเรื่องยังพยายามเล่นธีมงานปาร์ตี้ทั้งเรื่องด้วย โดยที่เกิดเหตุเป็นปาร์ตี้ต่อจากปาร์ตี้งานคืนสู่เหย้า แล้วก็ยังมีปาร์ตี้ย้อนอดีตเรียนจากตอนนี้ด้วย ซึ่งก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการไขคดีในปัจจุบันด้วย

สรุป The Afterparty สนุกและดีไหม ดูเพลินๆ สนุกพอสมควร จะติดก็ตรงบางตอนที่ทำออกมาฉีกแนวไปหน่อย โดยรวมถือว่าเป็นซีรีส์สืบสวนสั้นๆ 8 ตอนจบที่โอเคเลยครับ

playinone

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *