| ชื่อเรื่อง | Sex Education |
| เรตติ้ง | 8.3 |
| นักแสดง | Asa Butterfield,Emma Mackey,Ncuti Gatwa |
| จำนวนตอน | 25 ตอน |
รีวิวหนัง Sex Education Netflix
รีวิวหนัง Sex Education Netflix ที่กระตุกต่อมจริยธรรมของหลายคนในไทย ประเทศไทยนั้นเป็นเมืองพุทธที่ยังไม่ได้มีความเปิดกว้างในการพูดเกี่ยวกับเรื่องของเพศมากมายขนาดนั้นเวลาที่มีสื่อออกมาพูดถึงเรื่องนี้โดยตรงก็จะทำให้หลายคนรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม แต่ในความเป็นจริงแล้วเรื่องเกี่ยวกับเพศและเพศศึกษานั้นเป็นสิ่งที่ควรจะสามารถพูดกันได้อย่างเปิดเผยและแพร่หลายวิจัยหลายชิ้นบอกว่าการให้เด็กและวัยรุ่นได้เรียนรู้เกี่ยวกับเพศศึกษาอย่างตรงไปตรงมาจะช่วยแก้ไขปัญหาทางเพศได้มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นการติดโรคทางเพศสัมพันธ์หรือการตั้งครรภ์โดยที่ไม่พร้อม แต่ถึงอย่างไรก็ตามสุดท้ายประเทศไทยก็ยังคงมีด่านิยมในการพูดเกี่ยวกับเรื่องเพศเหมือนเดิมอยู่ดีจนกระทั่งมีซีรีส์เรื่องหนึ่งที่ออกฉายบน Netflix และมีการโฆษณาเป็นป้ายบิลบอร์ดขนาดใหญ่ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวนั้นก็คือซีรีส์เรื่อง Sex Education พอมีคำว่า Sex อยู่ในชื่อเรื่องก็ทำให้หลายคนรู้สึกไม่ค่อยดีกับซีรีส์เรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ความจริงหาเปิดใจรับชมดูจะพบว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องเซ็กส์ แต่อย่างใดไม่เพียงเท่านั้นมันยังสามารถให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องทางเพศได้เป็นอย่างดีโดยที่ทำให้ผู้รับชมไม่ได้รู้สึกเขินอาย
แต่อย่างใดอีกด้วยด้วยความที่ซียของมันค่อนข้างล่อแหลมทำในช่วงแรกที่ปล่อยตัวออกมามันค่อนข้างจะกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเลยทีเดียวโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใหญ่ แต่หลังจากที่ Netflix ได้ทำการฉายจนจบเรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้วทุกคนก็ได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความพยายามในการเล่าเรื่องเซ็กส์ให้สามารถย่อยง่ายและพูดได้ในวงกว้างของซีรีส์เรื่องนี้มันกลายเป็นซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทั้งในไทยและต่างประเทศจนสามารถสร้างภาคต่อออกมาได้ถึงปัจจุบันก็มีแล้วทั้งหมด 3 Season ด้วยกันเรื่องราวในจีรีเรื่องนี้จะเป็นอย่างไรวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับมันให้มากยิ่งขึ้นกัน
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง Sex Education
SEX Education เป็นซีรีส์ที่จะพาคุณไปรับรู้เรื่องราวของเด็กหนุ่มขั้นมัธยมปลายคนหนึ่งที่มีชื่อว่าโอทิสเขาเป็นเด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลยแม้แต่น้อย แต่ความจริงแล้วเขามีปัญหาภายในที่ไม่ใช่ทุกคนจะรู้นั่นก็คือการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง แต่โชคดีที่แม่ของเขานั้นเป็นนักบำบัดเรื่องเพศแถมยังเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องเพศอีกด้วยด้วยเหตุนี้เด็กหนุ่มจึงได้ซึมซับความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศมาตั้งแต่สมัยที่เขายังเป็นเด็กอย่างไม่รู้สึกเขินอาย
แต่อย่างใดแต่ละวันของเขาก็ดำเนินไปตามปกติธรรมดาทั่วไปจนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ได้บังเอิญไปให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ให้กราบเด็กนักเรียนหัวโจกที่เป็นลูกของอาจารย์ใหญ่คนหนึ่งเธอนั้นเป็นสาวสุดเปรี้ยวที่หลายคนเรียกเธอด้วยนายาไม่น่าสังว่าจอมกัดจำอย่างไวลีย์ แต่หลังจากปรึกษาไปมาเด็กสาวก็เห็นแววและโอกาสที่จะสามารถหาเงินได้ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้ชักชวนเด็กหนุ่มให้ทำการเปิดตลินิกเพื่อรับปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับเพศกับเด็กภายในโรงเรียนแบบลับๆเพื่อหาเงินด้วยตัวเอง แต่การเปิดตลินิกให้บริการรับปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องเพศก็ทำให้พวกเขาได้พบเจอกับเรื่องราวมากมายที่ทำให้เข้าใจสิ่งรอบตัวมากยิ่งขึ้น
ในภาคที่ 2 นั้นจะเล่าเรื่องราวต่อจากในภาคแรกเลยเรื่องราวจะเริ่มขึ้นในช่วงเปิดเทอมใหม่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและปัญหามากมายเราจะได้เห็นตัวละครหลักของเรื่องที่มีความโดดเด่นในภาคแรกอีกครั้งที่มาพร้อมกับความเข้มข้นและดราม่ามากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องความล้มพันธ์เรื่องครอบครัวและที่สำคัญคือเรื่องเซ็กส์ไม่เพียงเท่านั้นแม่ของโอทิสที่เป็นนักบำบัดเกี่ยวกับเพศที่เข้ามามีบทบาทในการให้ความรู้เกี่ยวกับเพศศึกษาภายในโรงเรียนของลูกชายตนเองอีกด้วยเป็นการเล่าเรื่องราวในเซลล์ที่มีความใหญ่มากยิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง Sex Education
Sex Education ไม่ได้เป็นซีรีส์แนวอีโรติกอซีรีส์แนวลามา แต่อย่างใดไม่เพียงเท่านั้นมันยังเป็นซีรีส์ที่สามารถสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์และความสัมพันธ์เข้ามาได้อย่างกำลังพอดีสามารถอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายมันจะเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับวัยรุ่นที่กำลังเริ่มมีความรักและความสัมพันธ์การได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้พวกเขานั้นสามารถป้องกันตัวเองเป็นอย่างดีอย่างไรก็ตามการมีความรู้ก็ย่อมดีกว่าการไม่มีความรู้อยู่แล้ว
ไม่ต้องกังวลไปว่าซีรีส์จะทำการยัดเยียดข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเพศสัมพันธ์และความรักเข้ามาจนทำให้ผู้รับชมอย่างเรารู้สึกอึดอัดเพราะเรื่องราวภายในซีรีส์เรื่องนี้นั้นจะเต็มไปด้วยความสนุกสนานมากมายไม่ว่าจะเป็นความรักมิตรภาพระหว่างเพื่อนความสนุกสนานและมุกตลกที่ใส่เข้ามาแบบไม่หยุดหย่อนเรื่องราวสามารถสะท้อนปัญหาเรื่องเพศของเด็กวัยรุ่นหรือแม้แต่คนทั่วไปได้เป็นอย่างดีและตรงไปตรงมาเป็นอย่างมาก
หลายฉากหลายตอนที่ทำให้เรารับชมแล้วรู้สึกว่าช่วงชีวิตหนึ่งของเราก็เคยต้องเผชิญกับเหตุการณ์คล้ายกับตัวละครในเรื่องเช่นเดียวกันซึ่งมันช่วยให้เรารู้สึกอินไปกับเรื่องราวได้ง่ายมากยิ่งขึ้นไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถสอดแทรกครามคราม่าเข้ามาได้อย่างกำลังพอดีอีกด้วย
ตัวอย่างหนัง Sex Education
รีวิว หนัง Sex Education บางส่วนจาก beartai
Sex Education คือซีรีส์จากอังกฤษของ Netflix ที่ประสบความสำเร็จอย่างดงามในซีซันแรกจนได้ไปต่อ และการกลับมาในครั้งนี้ เนื้อหานั้นเข้มข้นและมีความดรามามากกว่าเดิม โดยทันทีที่ลงใน Netflix ก็ปลุกกระแส #นอนเช้า และ #รวดเดียวจบ กลับมาอีกครั้ง แล้วถ้าถามว่ามันน่าติดตามขนาดต้องดูรวดเดียวจบเลยไหม ส่วนตัวก็ต้องตอบตามจริงว่า “ไม่” แต่ถ้าใครไหวก็ซัดไปเลยค่ะ
ป.ล. ผู้เขียนเองถึงจะตอบว่า “ไม่” แต่ก็ดูรวดเดียวจบเหมือนกันค่ะ (ฮา)
มีการสอดแทรกเนื้อหาหนัก ๆ มาอย่างชาญฉลาด ผ่านความสัมพันธ์และการกระทำของตัวละคร โดยทุก ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นในเรื่องมีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน ทำให้ตัวละครมีความสมจริงมากขึ้น ดูมีเลือดเนื้อ ดูเข้าถึงได้ง่าย และในซีซันนี้ที่ต้องขอชื่นชม ผู้เขียนบทอย่าง ลอรี นันน์ ที่มีการกระจายบทอย่างดี ซึ่งนอกจากจะทำให้ทุกตัวละครไม่หล่นหายแล้ว ยังมีพื้นที่ให้ตัวละครใหม่ ๆ ได้ออกมาสร้างสีสันให้กับเนื้อเรื่องได้เข้มข้นมากยิ่งขึ้นด้วย
Sex Education ซีซัน 2 เปิดเรื่องด้วยปัญหาความล้าหลังของหลักสูตรวิชาเพศศึกษาที่สอนกันอยู่ในโรงเรียนมัธยมศึกษามัวร์เดล จนนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ภายในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น กามโรค สุขภาวะทางเพศ เป็นต้น โดยการกระทำต่าง ๆ ของตัวละครภายในเรื่องล้วนสะท้อนให้เห็นว่าการเรียนรู้วิชาเพศศึกษาที่ถูกต้องนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะหลักสูตรที่ควรถูกเขียนด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่ความเขินอายในเรื่องเพศ
โอทิส มิลเบิร์น (เอซา บัตเตอร์ฟีลด์) ถึงคราวต้องกลับมาเปิด ‘คลินิก’ อีกครั้ง เมื่อโรคหนองในเทียมเกิดระบาดในโรงเรียน โดยนักเรียนทุกคน ไม่เว้นแม้แต่อาจารย์ ก็ยังต้องการคำแนะนำจากเขา ในขณะที่ธุรกิจเหมือนจะไปได้สวย จีน มิลเบิร์น (จิลเลียน แอนเดอร์สัน) แม่ของโอทิสและนักบำบัดเรื่องเซ็กซ์ ก็ได้ก้าวเข้ามาสู่โรงเรียนเพื่อช่วยปรับปรุงหลักสูตรวิชาเพศศึกษาให้ทันสมัยมากขึ้น (ใครจะไปคิดว่าแม่ของคุณจะมาสอนเรื่องเซ็กซ์ในโรงเรียน!)
แค่ปัญหานี้อย่างเดียว เราก็จะได้เห็นการแสดงอันเข้มข้นของ เอซา บัตเตอร์ฟีลด์ ที่ต้องฟาดฟันกับ จิลเลียน แอนเดอร์สัน ในการแสดงออกถึงความว้าวุ่นของการเป็นวัยรุ่นที่ต้องการการยอมรับ และผู้ปกครองที่ต้องการให้ความช่วยเหลือลูก ๆ อย่างใกล้ชิด ไหนจะต้องผสมโรงกับการที่แม่มีแฟนใหม่ที่เป็นพ่อของแฟนเขาเองอีก! (โอ๊ย มันจะวุ่นวายไปไหน) ในซีซันนี้ เราจึงได้เห็นบทบาทของโอทิสที่ใจร้อนมากขึ้น แสดงออกทางอารมณ์มากขึ้น จนท้ายที่สุดแล้ว เราทุกคนก็จะได้ค้นพบว่า ตัวของโอทิสเองก็มีปัญหาอะไรบางอย่างเหมือนกัน
เมฟ ไวลีย์ (เอ็มมา แมคคีย์) สาวเท่ผมสีชมพูที่กลับมาขโมยหัวใจของเราอีกครั้ง (ที่คราวนี้มาในลุคผมสีธรรมชาติ) โดยเธอยอมร่วมตกลงทำ ‘คลินิก’ กับโอทิสอีกครั้ง แม้จะทำไปโดยไม่เต็มใจนัก (แต่ก็เพื่อเงินเท่านั้นนะ!) ซึ่งตรงจุดนี้สามารถสัมผัสได้ว่าเมฟของเรายังคง #MoveOn เป็นวงกลมอยู่นั่นเอง ส่วนจะวนเป็นวงกลมนานแค่ไหนนั้น ต้องติดตามในซีรีส์ค่ะ เพราะคราวนี้โอทิสนั้นมีแฟนสาวอยู่แล้วคือ โอลา นิมแมน (แพทริเซีย แอลลิสัน) นั่นเอง แถมดูสวีตกันหวานเจี๊ยบเลยด้วยค่ะ!
นอกเหนือจากเรื่องราวความรักของสาวเมฟแล้ว ในซีซันนี้เราจะได้เข้าถึงความเจ็บปวดจากการถูกทอดทิ้งของเมฟมากขึ้น ซึ่งบทบาทของเธอจะมีความดรามาอย่างเข้มข้นจากปัญหาครอบครัวที่แตกร้าว ปัญหายาเสพติด สภาพแวดล้อมของชุมชน จนนำไปสู่การกดดันตัวเองว่าเราไม่ดีพอสำหรับโลกใบนี้ จนเกือบทำให้เธอพลาดโอกาสสำคัญในชีวิต
beartai