ชื่อเรื่อง Below Zero Netflix
เรตติ้ง6.2
นักแสดง Javier GutiérrezKarra ElejaldeLuis Callejo
จำนวนตอน 1.46 ชั่วโมง

รีวิว หนังไทย มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง (2019)

รีวิว หนังไทย มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง (2019) ต้องบอกก่อนเลยว่าเราเป็นคนหนึ่งที่ดูหนังไทยน้อยมาก ช่วงหลังหลายปีมานี้ ซึ่งจริง ๆ ก็มีหนังหลายเรื่องที่ดี ไม่ใช่ทุกเรื่องจะแย่เหมือนกันหมด และหนังที่เราหยิบยกมาให้ดูกันวันนี้ก็คือ มิสเตอร์ดื้อ เป็นผลงานกำกับของ เค – ไชยณรงค์ แต้มพงษ์ โดยหนังจะเล่าเรื่องราวของสาวสวยวัยใสซื่อ หลิน (เก้า – สุภัสสรา ธนชาต) ที่มักจะมีเด็กผู้ชายจากในโรงเรียน ตามจีบอยู่เสมอ แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นน่ะสิคะ เพราะมีเจ้าดื้อ (นน – ชานน สันตินธรกุล ) หลานชายของหลิน ที่หวงพี่สาวมากจนกันท่าผู้ชายทุกคนที่เข้ามาจีบน้า ซึ่งก็คงแปลกใจกันใช่ไหมคะว่า ทำไมเจ้าดื้อมันถึงทำตัวหวงน้ามันได้ขนาดนั้น ถ้าเทียบตามหลักความจริง มันก็ดูผิดปกติกว่าญาติทั่วไป พล็อตของเรื่องจะอยู่ประมาณนี้แหละค่ะ

โดยส่วนตัวเราหลังจากดูจบแล้ว บอกได้เลยว่าเป็นหนังรัก ที่ดูแล้วไม่เลี่ยน หรือดูแล้วชวนน่าเบื่อจนเกินไป เป็นหนังที่เรียกได้ว่าสนุก และตลกมาก ๆ มุกตลกของหนังเรื่องนี้จับต้องได้ง่าย ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดี ทั้งบทพูด ภาพ ตัวละคร องค์ประกอบต่าง ๆ รอบข้าง รวมไปถึงเทคนิคในการนำเสนอออกมา มันทำให้เราขำทั้งหมดเลยค่ะ

ในส่วนของนักแสดงนั้น เราประทับใจมาก ๆ ค่ะ เพราะตัวเอกทั้ง 2 อย่างเก้า และนนท์ แสดงออกมาได้เลิศมาก ๆ เราเป็นติ่งของเก้าด้วย บอกได้คำเดียวว่าใจละลายจริง ๆ แสดงออกมาดูเป็นธรรมชาติ และน่ารักสุด ๆ ส่วนพระเอกอย่างนน ชานน ก็ทำให้เราประทับใจเช่นเดียวกันค่ะ เป็นตัวละครที่ผู้กำกับต้องการให้มีนิสัยทะเล้น กวน ๆ สีหน้าและอารมณ์ ที่เขาแสดงออกมานั้น ทำออกมาได้ดีมากเลย เพราะมันดูไม่ง่ายเลยค่ะ ที่จะสามารถส่งอารมณ์ผ่านสีหน้าของตัวละคร และทำให้คนดูเคลิ้มได้มากขนาดนี้ ยังมีนักแสดงรับเชิญอีกหลายคนที่มาช่วยเพิ่มสีสันให้กับการหนังเรื่องนี้ อย่างพี่โจ๊ก โซคูล ที่มีฉากไม่บ่อยเท่าไหร่ แต่ออกมาทีไรเป็นต้องขำท้องแข็งทุกที

ในช่วงท้ายของเรื่อง จะเป็นการคลี่คลายเนื้อเรื่องที่ปูไว้ตั้งแต่แรก เป็นการจบที่ทำออกได้เจ๋งมาก เพราะหนังไทยบางเรื่องจะชอบจบแบบหักมุม หรือหักดิบไปเลย โดยรวมแล้ว เราขอแนะนำหนังเรื่องนี้เลยว่าต้องไปตามดูจริง ๆ ไม่ได้อวยใด ๆ เลยค่ะ ชอบจริง ๆ ใครที่กำลังเจอปัญหาอะไรเครียด ๆ อยู่ดูหนังเรื่องนี้อาจจะสามารถช่วยผ่อนคลายได้ แต่เตือนไว้ก่อนว่าหนังก็มีฉากดราม่าเล็ก ๆ น้อย แถมยังเป็นหนังรักแนวที่ไม่ค่อยหาดูได้เท่าไหร่อีกด้วย

ตัวอย่างหนัง มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง (2019)

รีวิว หนัง มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง (2019) จาก beartai

ผลงานจากค่าย รฤก ที่มีโต้โผใหญ่อย่าง ยอร์ช ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์ ดูแล แม้ผลงานฝีมือของยอร์ชโดยตรงจะนานมาแล้ว แต่ผลงานของค่ายเองก็ยังไม่ห่างหายเลิกราจากวงการหนังไทย และยังผลิตหนังอารมณ์ดีออกมาสู่ตลาดสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะ แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า หรือ สุดเขตเสลดเป็ด และล่าสุดที่เพิ่งออกโรงไปไม่นานอย่าง ไบค์แมนศักรินทร์ตูดหมึก ด้วย

ดูผลงานก็พอจับทางได้เลยว่า มิสเตอร์ดื้อ กันท่าเหรียญทอง หนังเรื่องล่าสุดจะมาแบบเอาฮาเน้นตัวละคร เน้นพลอต เน้นสถานการณ์มากขนาดไหน และคงเป็นแนวซิตคอมที่แฝงดราม่าเรื่องราวความสัมพันธ์ ผ่านคนแปลก ๆ อีกเช่นเคย

ซึ่งในครั้งนี้ คนแปลก ๆ ของเรื่องก็คือ ดื้อ (นน – ชานน สันตินธรกุล ) เด็กที่หวงน้าสาวอย่าง หลิน (เก้า – สุภัสสรา ธนชาต) เกินปกติมนุษย์ ในขณะที่ฝั่งคนที่มาจีบน้าก็ทะยานความแปลกได้สูสีกับดื้อสุด ๆ เพราะได้ดาราหน้าทะเล้นอย่าง พี่แมน (โจ๊ก โซคูล – กรภพ จันทร์เจริญ)

มาติดหนึบเกาะแกะไม่เลิกทีเดียว และก็ไม่ใช่แค่พี่แมนเท่านั้นเพราะยังมีทั้งหมอหนุ่มสุดเพียบพร้อมที่น้าหลินแอบปลื้ม ตลอดจน เกม (บลู – พงศ์ทิวัตถ์ ตั้งวันเจริญ) เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่มาติดใจน้าสาวของดื้อจนออกนอกหน้าเข้าไปอีก

หนังจึงออกมาแบบไม่สุดไม่อิ่มเท่าไร ส่วนที่ชอบของหนัง คือ ความฮานั่นล่ะ ฉากฮาแบบฮาเกิ้นฮาหัวสั่นท้องคัดท้องแข็งมีแน่นอน แป้กมีมั้ยก็มีล่ะ ธรรมดาหนังตลก แต่อันที่ฮามันก็ฮาจริง ๆ ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าปัจจัยสำคัญในความฮาทั้งหลายที่เกิดขึ้นมาจากความสามารถเฉพาะตัวของนักแสดงอย่าง

โจ๊ก โซคูล และ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ล้วน ๆ ที่ฮาจากสถานการณ์แบบซิตคอมนั้นก็มีส่วน แต่มันฮามากขึ้นเพราะสองคนนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับจริง ๆ การแสดงของนักแสดงต่าง ๆ ก็ต้องบอกว่าทำได้ไม่น่าเกลียด

บทจะไม่ได้ส่งไม่ได้ช่วยเลย แต่พวกเขาก็เอาตัวรอดในฉากที่ต้องชี้ขาดคะแนนให้ตัวเองได้ดี ไม่ว่าจะ นน เก้า ตลอดจนนักแสดงสมทบทั้งหลาย ฉากที่พีคทางอารมณ์จนเราพลิกผลให้ นน สอบผ่านเอาตัวรอดได้จากเรื่องนี้คือฉากที่สนามบินในช่วงท้ายของหนัง ฉากนี้ฉากเดียวจริง ๆ

ที่รู้สึกว่าตัวละครนี้มีชีวิต เพราะตลอดเรื่องมันเล่นอยู่มิติเดียวแบบไร้เหตุผลด้วยสิ ในขณะที่เก้าเองก็พยายามช่วยหนัง ใส่พลังจนล้านซีน จากหวังดีลายเป็นส่งผลเสียไปแทน แต่สิ่งที่ชดเชยให้เธอสอบผ่านสบาย ๆ คือเสน่ห์ที่ฉายแสงมาก ๆ ของเธอ

ส่วนที่ไม่ชอบเท่าไหร่ของหนัง มีตั้งแต่จังหวะการเล่นมุกตลกต่าง ๆ ที่เหมือนจับนักแสดงใส่ฉากเอาบทใส่ปาก ไม่ได้สนใจการปรับจูนเคมีนักแสดงให้เข้าขาพอดีกัน กลายเป็นต่างคนต่างเล่น ต่างคนต่างล้น จนคุมจังหวะไม่ได้ แล้วก็ต้องอาศัยฉากอินเสิร์ตมาปรับจังหวะช่วยเอา ซึ่งก็กลายเป็นว่าการตัดต่อไม่เป็นธรรมชาติดูขาด ๆ เกิน ๆ ไปหมดแทนด้วย ตรงนี้จึงเป็นจุดที่สงสารนักแสดงเก่ง ๆ หลายคนพอสมควร เพราะบทไม่ส่งไม่ช่วยไม่ว่า การกำกับการแสดงยังไม่ส่งเสริมอีก

ตรงนี้ยังสะท้อนไปเรื่องที่เกริ่นไปก่อนด้วยว่าหนังวางโครงไว้แบบไม่ได้สนใจว่าระหว่างทางหนังกระทำอะไรไปแล้วบ้าง ยังคงควรจบหรือพลิกแบบที่วางแผนไว้เดิมหรือไม่ เพราะมันไม่รอกราฟอารมณ์ใด ๆ เมื่อถึงเวลาตามบทมันก็จะเศร้าจะซึ้ง (โดยที่คนดูอาจยังไม่รู้สึก) ซ้ำไม่พอ เมื่อถึงเวลาสมควรมันก็หักอารมณ์เปลี่ยนความคิดตัวละครแบบไม่ต้องให้ที่มาที่ไปมากพออย่างที่ควรเป็น มันเลยเป็นโครงที่วางแบบคร่าว ๆ

แล้วหัวใจของหนังจริง ๆ ก็กลับหัวกลับหางไปเป็นเรื่องฉากตลกมุกตลกทั้งหลายเสียแทน คือถ้าคุณมาเพื่อเสพความตลกขบขันไม่สนอีร้าค้าอีรมใด ๆ ในเนื้อเรื่อง มันตอบโจทย์คุณมาก แต่ถ้าคุณเป็นพวกหงุดหงิดง่ายกับความไม่สมเหตุสมผลของเนื้อเรื่อง การเล่าแบบขอไปที เล่าแบบอยากเล่าอะไรก็เล่า แล้วล่ะก็ ให้มันตลกบันเทิงยังไงคุณก็จะตะหงิดใจ คาใจไปตลอดเรื่องจนไม่เอ็นจอยเท่าที่ควร

ที่สำคัญที่สุดที่เป็นจุดอ่อนของหนังในเรื่องนี้ ก็คือเรื่องแรงจูงใจเป้าหมายของพระเอกที่ไม่มีฐานอะไรเลย จนเราไม่เข้าใจพระเอก แม้ในตอนท้ายจะพยายามยัดสถานการณ์ให้เข้าตามพลอตแบบโคตรไม่เนียนมาช่วย กระนั้นเราก็ยังรู้สึกว่าไม่อาจอินไปกับความคิดของพระเอกได้เลย และที่หนักกว่านั้นคือความคิดอ่านของนางเอกในตอนจบของหนังนั่นล่ะ อะไรของพวกคุณ งงว้อย

beartai

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *