รีวิวหนัง THE WITCH: PART 2 – THE OTHER ONE

ชื่อเรื่องTHE WITCH: PART 2 – THE OTHER ONE
เรตติ้ง6.5
นักแสดงCynthia
จำนวนตอน2.17 ชั่วโมง

รีวิวหนัง THE WITCH: PART 2 – THE OTHER ONE

รีวิวหนัง THE WITCH: PART 2 – THE OTHER ONE ภาพยนตร์สยองขวัญภาคต่อที่เสน่ห์หายไป สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์บางเรื่องที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามตัดสินใจที่จะไม่สร้างภาคต่อออกมานั่นก็คืออาถรรพ์ภาพยนตร์ภาคต่อที่ทำออกมาแล้วจะไม่ดีหรือไม่ประสบความสำเร็จเหมือนเดิม บางครั้งอะไรที่ประสบความสำเร็จแล้วหรือดีอยู่แล้วการทิ้งไว้ให้เป็นตำนานก็ดูเหมือนกับว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการดังทุรังสร้างภาคต่อออกมาแต่ไม่ประสบความสำเร็จและกลายเป็นจุดด่างพร้อยในที่สุด 

หากยังจำกันได้ดีหลายปีที่แล้วมีภาพยนตร์แนวต่อสู้ระทึกขวัญจากเกาหลีใต้ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามอย่าง THE WITCH ในปีนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบของภาพยนตร์ภาคต่อชื่อว่า THE WITCH: PART 2 – THE OTHER ONE และที่น่าเสียดายก็คือเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่โดนอาถรรพ์ภาคต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากทำออกมาได้ค่อนข้างดีแต่เสน่ห์เดิมๆ ที่เคยมีกับหายไปแทบจะสิ้นเชิง 

ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังใส่ฉากความเขย่าขวัญผสมผสานกับการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความน่าสยดสยองเข้ามาได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่น่าสนใจเท่าเดิมเกิดจากการเล่าเรื่องราวแบบสูตรสำเร็จจนทำให้เสน่ห์แบบเดิมๆ หายไปจนแทบจะหมดสิ้น แม้ว่าทีมงานพยายามที่จะยกระดับและปั้นให้ภาพยนตร์ THE WITCH กลายเป็นแฟนชายที่ประสบความสำเร็จในวงการภาพยนตร์เกาหลีใต้ แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้นแต่อย่างใด อะไรที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนภาคแรก ไปดูกัน เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE WITCH: PART 2 – THE OTHER ONE

หนังสยอองขวัญ

THE WITCH: PART 2 – THE OTHER ONE เป็นภาพยนตร์ที่เลิกถึงเรื่องราวของเด็กสาวคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาภายในห้องทดลองขนาดใหญ่โดยที่เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลย เธอเต็มไปด้วยความสับสนและความหวาดกลัวจึงได้พยายามที่จะหลบหนีออกมาจากห้องทดลองดังกล่าว และมันก็ทำให้เธอนั้นได้พบเข้ากับคยองฮี คนที่พยายามปกป้องเธอให้รอดพ้นจากเหล่าแก๊งอาชญากรรมให้สำเร็จ 

แต่แล้วเธอเองก็ต้องเผชิญหน้ากับเหล่าแก๊งอาชญากรด้วยตนเอง เธอหวาดกลัวเป็นอย่างมากแต่เธอกลับสามารถเอาชนะพวกเขาได้อย่างน่าทึ่ง เธอค้นพบว่าตนเองนั้นเต็มไปด้วยพละกำลังมหาศาลที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถต่อกรกับเธอได้อย่างแน่นอน ในขณะเดียวกันเองก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ตามไล่ล่าเธออยู่เช่นเดียวกันโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรผู้คนจึงอยากได้ตัวเธอถึงขนาดนั้น และตัวเธอเป็นใครกันแน่ ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE WITCH: PART 2 – THE OTHER ONE

THE WITCH: PART 2 – THE OTHER ONE เป็นภาพยนตร์ที่กล่าวมาสานต่อโปรเจคที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่อง THE WITNESS ได้รับกระแสตอบรับออกมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว การกลับมาในครั้งนี้จึงเป็นการเล่าเรื่องราวที่ขยายออกไปให้มีสเกลใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม และดำเนินเรื่องราวต่อจากเหตุการณ์ในภาคแรกที่ปูเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่ความพยายามยังออกมาได้ไม่ดีพอสักเท่าไหร่ 

ความโชคดีในโชคร้ายคือผู้กำกับอย่างพัคจุนฮยอง ผู้กำกับภาพยนตร์ตั้งแต่ภาคแรกได้กลับมสานต่อโปรเจคดังกล่าวอีกครั้งทำให้เขารู้จักภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างดีว่ามีองค์ประกอบและทิศทางการเล่าเรื่องอย่างไร ดังนั้นภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องนี้จึงยังคงแนวคิดความดิบเถื่อนและความโหดผสมผสานกับวิทยาศาสตร์ไซไฟเข้ามาได้เป็นอย่างดีเหมือนเดิม องค์ประกอบและการสร้างสรรค์งานภาพออกมายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายเมื่อดูองค์ประกอบโดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้กลับขาดเสน่ห์ต่างจากภาคแรกโดยสิ้นเชิง 

แม้ว่าจะมีความพยายามขยายเรื่องราวจากภาคแรกให้ใหญ่โตมากขึ้นโดยมีการสร้างจุดเชื่อมโยงเอาไว้ในระดับหนึ่ง แต่การดำเนินเรื่องราวกับทำออกมาแบบสูตรสำเร็จจนเกินไป ตลอดระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมงของภาพยนตร์แทบจะไม่ได้บอกถึงรายละเอียดความเป็นมาเชิงลึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือแม้แต่ตัวละครเลยแม้แต่น้อย มีแต่การหยอดปริศนาเอาไว้ให้เรารู้สึกอยากรู้อยากเห็น แต่สิ่งที่ออกมาก็คือมันไปไม่สุดสักทาง 

สิ่งที่น่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือมีกลิ่นอายของภาพยนตร์แนว X-MEN จากทางฝั่งของฮอลลีวูดอยู่ไม่น้อย มีการผสมผสานความสยองขวัญตามแบบฉบับของภาพยนตร์เอเชียเข้าไปได้ดี ให้ความรู้สึกเหมือนกับกำลังรับชมเรื่องราวของมนุษย์กลายพันธุ์ในโทนสยองขวัญแทน แต่ภาพยนตร์กลับทำออกมาได้ค่อนข้างนิ่งและเงียบจนน่าเบื่อไปสักหน่อย 

ส่วนของนักแสดงหน้าใหม่ที่มีโอกาสได้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างชินชิอาที่สามารถเอาชนะนักแสดงนับพันในรอบออดิชั่นได้สำเร็จ น่าเสียดายที่บทบาทของเธอนั้นยังไม่ได้โดดเด่นเท่าที่ควรและบทก็ไม่ได้ส่งเธอสักเท่าไหร่ การแสดงหรือแม้แต่อินเนอร์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังทำออกมาได้ระดับกลางๆ พอภาพยนตร์ไม่ได้ส่องแสงให้กับเธอมากพอทำให้เธอนั้นแทบจะจมหายไปกับเรื่อง ดังนั้นถึงแม้ว่ารูปแบบการแสดงของเธอจะมีความน่าสนใจแต่เธอก็ยังไม่ได้รับโอกาสในการฉายแสงเท่าที่ควร 

โดยภาพรวมแล้วถือว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่สานต่อเรื่องราวจากหนังภาคแรกเอาไว้ได้ดีในระดับหนึ่งแต่ก็ยังเป็นหนังสำเร็จรูปที่เหมือนกับรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบไม่มีผิดเพี้ยน อิ่มท้องแต่ไม่ได้อร่อยเทียบเท่ากับอาหารสดแต่อย่างใด ขาดเสน่ห์ในหลายองค์ประกอบอย่างน่าเสียดาย เนื้อหามีความน่าสนใจแต่ไม่ได้ทำให้ผู้รับชมรู้สึกมีอารมณ์ร่วมได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น เป็นภาพยนตร์ 2 ชั่วโมงที่ค่อนข้างแห้งแล้งแต่ก็ยังเต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจและความสะใจในฉากการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความดิบเถื่อน 

ตัวอย่างหนัง THE WITCH: PART 2 – THE OTHER ONE

รีวิว หนัง THE WITCH: PART 2 – THE OTHER ONE บางส่วนจาก trueid

The Witch: Part 2 The Other One แม่มดหน้าใหม่ที่มือสังหารต่างเกรงกลัวได้หลุดออกมาแล้วนะ ! กลับมาแล้วนะกับภาพยนตร์ที่ทุกคนรอคอยกันมานานแสนนานเรื่อง The Witch โดยภาคนี้จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแม่มดคนใหม่ที่มีความเกี่ยวข้องกับจายุนแม่มดในภาคที่ 1 ซึ่งมันส์บู๊สุดแหลกไม่แพ้กัน เนื้อเรื่องจะเป็นยังไงก็ไปอ่านกันเลยค่า มีแม่มดคนหนึ่ง รับบทโดย ชินซีอา รอดตายจากเหตุการณ์บุกโจมตีที่ห้องแล็ปมนุษย์ทดลองแห่งหนึ่งชื่อ อาร์ควัน พวกที่เป็นมือสังหารรู้เข้าก็ไม่พอใจ ก็สั่งให้ไปไล่ล่าแม่มดตนนั้นทันทีเพราะกลัวว่าจะควบคุมไม่ได้ เพราะเธอเป็นแม่มดที่มีพลังจิตเป็นอาวุธสังหารและเก่งที่สุดไม่มีใครเทียบได้ ตัดภาพมาที่ด้านแม่มดหลังจากที่เดินออกมาข้างนอกก็ได้พบกับ “คยองฮี” โดยบังเอิญและเข้าไปรักษาพร้อมกับอยู่บ้านของคยองฮี น้องชายคยองฮีชื่อ “แดกิล” โดยหารู้ไม่ว่า ภัยร้ายกำลังจะเข้ามาเยือนในไม่ช้า มันหมายจะปลิดชีพพวกเธออย่างไร้ความปราณี

ชินซีอา รับบทเป็น แม่มดสาวผู้ทรงพลัง: น้องรับบทเป็นแม่มดที่ดูใสซื่อแต่โหดกว่าแม่มดคนอื่น ๆ หลายเท่าเลย ซึ่งน้องก็จะมีพลังจิตที่ใช้เป็นอาวุธเอาไว้สังหารคนที่จะเข้ามาทำลายน้องค่ะ ขอบอกเลยว่าน้องมีพลังหลากหลายแนวมาก พักอึนบิน รับบทเป็น คยองฮี: เป็นคนที่เจอกับแม่มดที่รับบทโดย ชินซีอา โดยบังเอิญ ด้วยความที่แม่มดคนนี้ทำให้คยองฮีรอดชีวิตจากสถานการณ์อันตรายได้ คยองฮีเลยดูแลเธอเป็นการตอบแทนแล้วก็ให้อยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายดี โดยที่ไม่รู้เลยว่าแม่มดที่เธอกำลังดูแลอยู่เป็นตัวอันตราย ที่จะนำภัยร้ายต่าง ๆ มาหาเธอ ไม่จำเป็นต้องดูมาก่อนก็ได้นะ เพราะว่าไม่ได้เป็นภาคต่อจากภาคที่ 1 ในภาคนี้ตัวเรื่องจะเน้นเล่าเรื่องราวของแม่มดสาวผู้ทรงพลังที่รับบทโดย ชินซีอา เป็นหลักเลย เป็นเรื่องของตัวละครใหม่ ซึ่งตอนจบเหมือนเรื่องปูให้มีภาคที่ 3 เลยค่ะ แต่ส่วนตัวเราแนะนำให้ดูภาคที่ 1 ก่อนดีกว่า จะได้ไม่งงกับความเป็นมาของเรื่องราวที่เกิดขึ้น รวมไปถึงตัวละครเก่า ๆ จากภาคที่ 1

อันนี้เราขอเขียนแบบรวบ ๆ ไม่สปอยล์นะคะ ในช่วงต้น ๆ แม่มดที่รับบทโดย ชินซีอา เราขอเรียกน้องว่านางเอกนะคะ คือน้องก็จะได้ไปอยู่กับคยองฮีและน้องของคยองฮีที่ชื่อแดกิลด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่ในระหว่างนี้นางเอกของเรากับคยองฮีแล้วก็แดกิลก็จะเจอแต่อุปสรรคต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการบู๊ขึ้นมาแล้วมันก็จะหนักขึ้นเรื่อย ๆ เลยค่ะ เริ่มเข้มข้นขึ้น ความน่าสนใจคือนางเอกก็จะเริ่มเจอพรสรรค์ของตัวเองทีละอย่าง ๆ แล้วก็โหดขึ้นเรื่อย ๆ ประมาณนี้ค่ะ ขอบอกเลยว่าในท้ายเรื่องคือพีคมากก ถ้าคุณอยากรู้คำตอบว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงมาไล่ล่าพวกนางเอกกันก็ต้องไปหาคำตอบกันในโรงหนังนะคะ

ความสนุก : ส่วนตัวเราว่าสนุกตรงที่มีฉากบู๊ที่สุดแล้วค่ะ เมามันส์มาก นางเอกคือเก่งเวอร์ไม่มีใครมาต้านทานได้ ใด ๆ ก็คือการตัดต่อคือตัดดีมาก ลูกเล่นก็เยอะเลยทำให้ตอนที่บู๊กันดูแปลกใหม่ ดูมีอะไรมากขึ้น ด้วย CG เอฟเฟคต่าง ๆ ทั้งตื่นเต้น ลุ้นระทึกตามเลย

บรรยากาศในหนัง : บรรยากาศในหนังส่วนใหญ่ก็จะเป็นแนวบู๊ค่ะ มีแบบฟีลผ่อนคลายบ้างได้ออกไปใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ๆ ในสถานที่ต่าง ๆ มีบรรยากาศโรแมนติกบ้าง ดราม่าบ้างค่ะ

ตัวละครที่ชอบ : ชินซีอา รับบทเป็น แม่มดสาวผู้ทรงพลัง เป็นตัวละครที่มีสเน่ห์ดีค่ะ ยิ้มน่ารัก ดูใส ๆ ไม่โหด ไร้เดียงสา แต่พอถึงโหมดโหดเท่านั้นแหล่ะน้องดูเลือดเย็นมากแล้วก็ชอบในความเก่งของน้องค่ะ คือน้องเก่งเวอร์ ไม่มีใครสู้กับน้องแล้วชนะเลย

trueid

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *