| ชื่อเรื่อง | THE UNFORGIVABLE |
| เรตติ้ง | 7.2 |
| นักแสดง | Sandra Bullock,Jon Bernthal |
| จำนวนตอน | 1.52 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง THE UNFORGIVABLE Netflix
รีวิวหนัง THE UNFORGIVABLE Netflix ภาพยนตร์ดราม่าที่ได้แซนดร้า บูลล็อคออกมาแบบทั้งเรื่อง แม้ว่าภาพยนตร์แนวดราม่านั้นจะไม่ใช่ภาพยนตร์ในกระแสที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในวงกว้าง แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าภาพยนตร์แนวนี้ส่วนใหญ่แล้วจะมาในลักษณะของภาพยนตร์แนวล่ารางวัลที่เน้นเล่าเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและปริศนามากมาย เน้นการนำเสนองานภาพที่มีความสวยงามและสามารถตีความได้หลากหลาย ดังนั้นแน่นอนว่านักแสดงในภาพยนตร์แนวนี้จะต้องเป็นนักแสดงมากความสามารถที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตนเองออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและสมจริงมากที่สุด
อย่างเช่นภาพยนตร์ดราม่าที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือ THE UNFORGIVABLE เป็นภาพยนตร์ดราม่าอังกฤษที่ได้รับการดัดแปลงมาจากมินิซีรีส์ชื่อเดียวกันที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามหลังจากออกอากาศเมื่อปี 2009 มีคนเข้ารับชมเป็นจำนวนกว่า 7 ล้านคนและยังกวาดรางวัลได้อีกมากมายเลยทีเดียว ในครั้งนี้ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวกำกับโดยผู้กำกับหญิงชาวเยอรมันอย่าง NORA FINGSCHEIDT และได้นักเขียนบทที่เคยฝากผลงานชื่อดังเอาไว้มากมายอย่างปีเตอร์ เคร็ก นักเขียนบทของภาพยนตร์เรื่อง THE HUNGER GAMES BAD BOYS FOR LIFE THE BATMAN และ TOP GUN MAVERICK และที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็คือนักแสดงนำหน้าความสามารถอย่างแซนดร้า บูลล็อคที่เคยฝากผลงานในภาพยนตร์ ORIGINAL ของ NETFLIX อย่าง BIRD SONG และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับเลยว่าด้วยความที่มันเป็นภาพยนตร์แนวดราม่าดังนั้นมันจึงมีความยากในระดับหนึ่งเลยทีเดียว มันจึงกลายเป็นภาพยนตร์ที่มีทั้งจุดเด่นและจุดด้อยที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกันเป็นอย่างมากจนยากจะตัดสิน หากใครที่ชอบก็จะชอบไปเลยแต่ใครที่ไม่ชอบก็จะไม่ชอบไปเลยเช่นเดียวกัน
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE UNFORGIVABLE
THE UNFORGIVABLE เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ต้องกลายมาเป็นนักโทษจากความผิดพลาดในอดีต เธอก็คือรูธหญิงสาวที่ต้องติดคุกเป็นระยะเวลากว่า 20 ปีด้วยข้อหาการฆาตกรรมตำรวจ หลังพ้นโทษมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเธอได้ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งด้วยการหางานทำเพื่อเลี้ยงปากท้องของตัวเอง แต่เธอก็ไม่อาจมีความผิดในอดีตได้ผลทำให้สังคมต่างก็ประณามเธอในฐานะฆาตกร ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจปิดบังความจริงเกี่ยวกับตัวเธอไม่ให้คนรอบตัวได้รับรู้เพื่อที่ตัวเองนั้นจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ในขณะเดียวกันเองเธอยังต้องออกตามหาน้องสาวที่อายุห่างจากเธอเป็นเวลากว่า 20 ปีนั่นก็คือแคทเธอรีน หญิงสาวที่ถูกอุปการะไปอยู่กับครอบครัวเศรษฐีที่ต้องการกีดกันพี่สาวไม่ให้เข้าใกล้เป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้เธอจึงต้องใช้ชีวิตแบบล้มลุกคลุกคลานจนกระทั่งเธอได้พบกับครอบครัวทนายความที่ย้ายมาอยู่ในบ้านหลังเก่าของครอบครัวเธอ ครอบครัวนี้เต็มไปด้วยอคติและกีดกันเธอไม่แพ้กันโดยเฉพาะคุณนายในบ้าน ด้วยเหตุนี้เธอจึงลืมนึกถึงอดีตเกี่ยวกับเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นจะทำให้เธอและน้องสาวไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกต่อไป เธอได้ขอร้องให้ทนายความคนดังกล่าวติดต่อน้องสาวให้เธอ แต่ในขณะที่ชีวิตของเธอเริ่มลงตัวมากยิ่งขึ้น ความหลังที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและประวัติศาสตร์เก่าๆ ก็ได้ตามมาหลอกหลอนเธออีกครั้ง ยังไม่รวมไปถึงตราบาปที่เธอถูกประนามและความลับที่เธอเก็บซ่อนเอาไว้ มันได้กลายมาเป็นเงาติดตามตัวเธอและเริ่มคุกคามชีวิตเธอมากยิ่งขึ้น เรื่องราวของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE UNFORGIVABLE
THE UNFORGIVABLE เป็นภาพยนตร์แนวดราม่าที่ความจริงแล้วหากอ่านจากเรื่องย่อมันค่อนข้างที่จะมีเส้นเรื่องชัดเจน แต่พอมาเล่ามันกลับกระจัดกระจายน่าสับสน ศูนย์กลางของภาพยนตร์ไม่ได้มีเพียงค่าตัวละครหลักเท่านั้นแต่ยังมีตัวละครที่เข้ามาเกี่ยวข้องอีกมากมาย มันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสียที่นำเอาซีรีส์ที่มีความยาวมาดัดแปลงให้กลายเป็นภาพยนตร์ที่สั้นลง
จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือเป็นการเล่าเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงความยากลำบากของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของคนที่เคยกระทำความผิดจนต้องถูกคุมขังในเรือนจำมาก่อน นักแสดงอย่างแซนดร้า บูลล็อคที่สามารถทำผลงานได้ดีเช่นเคยแม้ว่าบทของเธอนั้นจะไม่ส่งเสริมเธอเท่าที่ควรก็ตาม ทีมนักแสดงแต่ละคนนั้นสามารถแสดงบทบาทของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม มีการสอดแทรกประเด็นทางสังคมที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก สุดท้ายก็สามารถเชื่อมเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความสะเปะสะปะยุ่งเหยิงให้กลับมาลงตัวลงล็อคได้อีกครั้ง
ส่วนจุดด้อยของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือการเล่าเรื่องราวในช่วงแรกค่อนข้างไวจนเกินไปทำให้น่าสับสนและไม่มีความน่าสนใจ ตัวละครหลายตัวที่ไม่ควรให้ความสำคัญแต่ภาพยนตร์ก็ยังมีความพยายามที่จะนำเสนอพวกเขาอยู่อย่างนั้น บทบาทและเรื่องราวค่อนข้างธรรมดาไม่มีอะไรที่น่าสนใจ บางช่วงเล่าเรื่องราวช้าจนน่าเบื่อ ไม่ได้มีการขยี้ปมให้ดีเท่าที่ควรจนสุดท้ายแล้วไปไม่สุดสักทาง ดังนั้นเราจึงไม่สามารถสรุปได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ที่ดีสำหรับการรับชมของทุกคนหรือไม่เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับรสนิยมความชอบแบบล้วนๆ เลยทีเดียว ดังนั้นขอแนะนำว่าหากคุณไม่ได้ชอบภาพยนตร์ดราม่าอยู่แล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อาจจะไม่ถูกจริตคุณเท่าไหร่แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบภาพยนตร์ดราม่าก็อาจจะรับชมได้จนจบและอาจจะรู้สึกชอบมาขึ้นมาก็ได้เช่นเดียวกัน
ตัวอย่างหนัง THE UNFORGIVABLE
รีวิว หนัง THE UNFORGIVABLE บางส่วนจาก beartai
นี่คือผลงานล่าสุดของ แซนดร้า บูลล็อก (Sandra Bullock) เว้นช่วงจาก Bird Box ผลงานเรื่องก่อนหน้าที่สตรีมมิงทาง Netflix เช่นกันเมื่อปี 2018 และเป็นหนังที่สร้างสถิติใหม่ด้วยจำนวนผู้รับชมพ้นหลัก 45 ล้านภายใน 7 วัน แต่เมื่อบูลล็อกกลับมาครั้งนี้กลับมาแบบเงียบ ๆ ไม่มีการโปรโมตใด ๆ จากทาง Netflix เลย อาจจะด้วยเหตุที่ว่ารอบนี้เธอมาในแบบดราม่าเนื้อหาหนัก ๆ อาจจะขายยากอยู่สักหน่อย
The Unforgivable ดัดแปลงมาจาก Unforgiven มินิซีรีส์ 3 ตอนจบของอังกฤษเมื่อปี 2009 แล้ว เกรแฮม คิง (Graham King) ผู้อำนวยการสร้างก็ซื้อสิทธิ์มารีเมกในเวอร์ชันอเมริกันตั้งแต่ปี 2010 หมายมั่นให้ แองเจลีนา โจลี (Angelina Jolie) มารับบทนำ ถึงขนาดกำชับให้ผู้เขียนบทภาพยนตร์ดัดแปลงบทให้เหมาะสมกับเธอ แต่โจลี่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับโปรเจกต์นี้แต่อย่างใด ผ่านไป 9 ปี โปรเจกต์นี้เปลี่ยนมือผู้กำกับและนักแสดงนำมากมาย จนมาลงเอยเป็น แซนดร้า บูลล็อก ในปี 2019 และได้ นอรา ฟิงไชดต์ (Nora Fingscheidt) ผู้กำกับหญิงที่สร้างชื่อมาจาก Systemsprenger ผลงานก่อนหน้าของเธอที่กวาดรางวัลมามากมาย
หนังเล่าเรื่องราวตั้งแต่วันแรกที่ รูธ สเลเตอร์ ก้าวออกจากเรือนจำ หลังถูกจองจำมา 20 ปี ในข้อหาสังหารนายอำเภอด้วยปืนลูกซอง จากเหตุการชุลมุนที่บ้านของเธอ สืบเนื่องจากเหตุที่แม่ของเธอเสียชีวิตในขณะที่คลอดแคธี่ น้องสาวของเธอ พ่อของรูธมีปัญหาหนี้สินรุงรัง นำบ้านไปจำนองแล้วไม่สามารถผ่อนจ่ายได้ จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย รูธที่ต้องดูแลน้องสาวตัวน้อยวัย 5 ขวบ และยังไม่สามารถหางานทำเพื่อผ่อนจ่ายบ้านได้ ธนาคารจึงส่งเจ้าหน้าที่มาขับไล่พี่น้องคู่นี้ออกจากบ้าน โดยมีนายอำเภอมาทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัย เธอประกาศกร้าวว่าเธอมีปืน ใครอย่าได้ย่างกรายเข้ามาในบ้านของเธอ แต่นายอำเภอที่เป็นคนพื้นที่คุ้นเคยบ้านนี้จึงแอบเข้าทางห้องใต้ดิน ผลก็คือนายอำเภอถูกยิงด้วยปืนลูกซองตายคาที่
หนังเล่าเรื่องตัดสลับไปหาหลายเหตุการณ์ ทั้งอดีตและปัจจุบัน โดยสอดแทรกเรื่องราวของแคธี่ที่ไปมีชีวิตที่อบอุ่นกับครอบครัวใหม่ที่มีพ่อแม่และเอมิลี่น้องสาวที่รักเธอเหมือนพี่สาวจริง ๆ หนังใช้วิธีตัดสลับไปมาแบบนี้แทบทั้งเรื่อง ปล่อยให้สมองคนดูทำหน้าที่ปะติดปะต่อเรื่องราวเอาเอง ว่าใครเป็นใครเกี่ยวข้องกันอย่างไร หนังมาในบรรยากาศดราม่าหนักหนาสุด ๆ ด้วยภาพลักษณ์ของบูลล็อกที่มาแบบซีเรียสจริงจัง หน้าตาแบบสาวบ้าน ๆ อมทุกข์ไร้รอยยิ้ม เป็นพี่สาวที่ระทมทุกข์มาตลอด 20 ปีกับความคิดถึงและเป็นห่วงน้องสาว ที่เธอเลี้ยงมาเหมือนลูกตัวเองและไม่รู้ชะตากรรมว่าเป็นตายร้ายดีเยี่ยงไร ทำให้เราเข้าใจได้ว่าจากนี้นี่คือเรื่องราวของพี่สาวที่ตามหาน้องสาว จนกระทั่งหนังเริ่มแนะนำตัว สตีฟ และ คีธ วีแลน สองพี่น้องที่เป็นลูกของนายอำเภอ ที่โตมาในฐานะเด็กกำพร้าพ่อ เลยผูกพยาบาทกับรูธและต้องการล้างแค้นเธอ จุดนี้ล่ะที่ทำให้หนังมีดีกรีความดุเดือดเข้มข้น ชวนติดตามมากขึ้น
beartai