| ชื่อเรื่อง | THE TURNING |
| เรตติ้ง | 3.5 |
| นักแสดง | Mackenzie Davis,Brooklynn Prince |
| จำนวนตอน | 1.34 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง THE TURNING
รีวิวหนัง THE TURNING ภาพยนตร์ที่นำเอานวนิยายอายุนับร้อยปีมาเล่าใหม่อีกครั้ง ภาพยนตร์ที่หยิบยกนำเอานวนิยายมาดัดแปลงสร้างเป็นฉบับคนแสดงมีให้เราเห็นมากมายไม่ว่าจะเป็น HARRY POTTER THE HUNGER GAMES หรือแม้แต่ภาพยนตร์แนวสยองขวัญผลงานของสตีเฟน คิง บางเรื่องประสบความสำเร็จอย่างงดงามในขณะที่บางเรื่องกลับไปไม่ถึงฝั่งฝันเพราะการดัดแปลงเรื่องราวจากนวนิยายให้กลายมาเป็นภาพยนตร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย มันจึงไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างที่คาดหวังกันเอาไว้
เช่นเดียวกับที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง THE TURNING เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายในโรงภาพยนตร์ของอเมริกามาตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2020 ที่ผ่านมาก่อนจะนำเอาลงมาฉายให้เราได้รับชมบน NETFLIX กันแบบฟรีๆ แปลงมาจากนวนิยายสุดคลาสสิคผลงานของนักเขียนชื่อดังอย่างเฮนรี่ เจมส์ที่มีชื่อเรื่องว่า THE TURN OF THE SCREW
มันเป็นนวนิยายสุดคลาสสิคที่ถูกแต่งขึ้นมาตั้งแต่ในปี 1898 หรือเมื่อระยะเวลา 124 ปีที่แล้ว นับว่าเป็นนวนิยายแนวสยองขวัญขึ้นหิ้งที่มีความคลาสสิคในตัวเองเป็นอย่างมาก มันถูกนำเอามาปัดฝุ่นเพื่อเล่าใหม่อีกครั้งในรูปแบบของภาพยนตร์ แต่น่าเสียดายที่การนำเอานวนิยายเมื่อ 100 ปีที่แล้วมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในยุคนี้กลับมีเรื่องราวที่สามารถคาดเดาได้อย่างไม่ยากเย็น มีการนำเอาเรื่องราวประมาณนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายต่อหลายครั้งจนผู้รับชมภาพยนตร์ในยุคนี้รู้สึกเอียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับใครที่กำลังลังเลว่าจะรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ดีหรือไม่วันนี้เราจะพาทุกคนไปแนะนำให้รู้จักกับภาพยนตร์เรื่องนี้มากยิ่งขึ้นกัน
หนังแนะนำ หนังน่าดู THE TURNING
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE TURNING
THE TURNING เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่มีชื่อว่าเคท เธอประสบกับปัญหาทางการเงินทำให้ไม่มีรายได้มาใช้จ่ายในชีวิตส่วนตัว ด้วยเหตุนี้เธอจึงพยายามหางานทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองมีรายได้ให้สำเร็จ เธอตัดสินใจสมัครงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กในคฤหาสน์ขนาดใหญ่จนคล้ายกับราชวังในยุโรปยุคก่อน เมื่อเธอได้งานนี้เธอก็ต้องตกตะลึงกับสถานที่ทำงานเพราะมันมีห้องมากมายเปรียบเสมือนกับเขาวงกต
หลังจากที่เดินทางมาถึงพฤหัสบดีเธอก็ได้พบกับแม่บ้านที่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่เนื่องจากแม่บ้านผู้นี้ทำงานรับใช้ตระกูลดังกล่าวมาอย่างยาวนาน มันสั่งสมให้เธอกลายเป็นคนที่เจ้าระเบียบแถมยังชอบตามใจเด็กๆ ในคฤหาสน์อีกด้วย เคทได้พบเข้ากับเด็กหญิงผู้หนึ่งที่มีชื่อว่าฟลอร่า ภายนอกเธอเหมือนกับเด็กหญิงธรรมดาทั่วไปแต่เธอเป็นคนที่เงียบขรึมเป็นอย่างมาก ต่างจากพี่ชายของเธออย่างไมลส์ที่อารมณ์ร้อนและฉุนเฉียวตลอดเวลา แต่สิ่งที่แปลกไปมากกว่านั้นคือเธอรู้สึกได้ว่าสองพี่น้องคู่นี้น่าจะมีความลับบางอย่างที่ปกปิดเอาไว้ไม่ให้ใครรู้
หลังจากที่เธอทำงานในคฤหาสน์ดังกล่าวได้ไม่นานเธอก็เริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเงามืดที่เหมือนกับจะตามเธอไปทุกที่และมันยังคอยพยายามโจมตีเวลาเธอเผลออีกด้วย ฝันร้ายของเธอที่มองเห็นถึงอดีตที่น่าสะพรึงกลัวของคฤหัสถ์ดังกล่าว นอกจากนี้เหล่าเด็กทั้งหลายยังชอบแกล้งเธอได้อย่างน่าแปลกใจไม่ว่าจะเป็นการเอาหุ่นยนต์ลงสระว่ายน้ำเพื่อหลอกเธอว่ามีคนจมน้ำ ยิ่งเธอพยายามหาความจริงมากขึ้นเท่าไหร่เธอก็ยิ่งพบว่าความลับมีมากขึ้นเท่านั้น สุดท้ายแล้วเธอจะสามารถเอาชีวิตรอดจากการเลี้ยงเด็กในคฤหาสน์ปริศนานี้ได้หรือไม่ต้องรับชมต่อในภาพยนตร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE TURNING
THE TURNING เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญเลี้ยงเด็กที่มีให้รับชมมากมายหลายต่อหลายเรื่องก่อนหน้านี้มันจึงค่อนข้างน่าเสียดายที่ภาพยนตร์อุตส่าห์นำเอานวนิยายคลาสสิคขึ้นหิ้งมาดัดแปลงเป็นฉบับคนแสดงแต่มันจะมีภาพยนตร์แนวนี้ออกมาก่อนจนน่าเบื่อไปแล้ว ดังนั้นมันจึงไม่มีอะไรแปลกใหม่ที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้รับชมภาพยนตร์ในยุคปัจจุบันได้เลย นอกจากนี้มันยังเป็นการนำเอานวนิยายเก่านับร้อยปีมาดัดแปลงโดยไม่มีการผสมผสานความร่วมสมัยเข้าไปเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นทั้งบรรยากาศและการเล่าเรื่องมันจึงดูออกมาค่อนข้างเชยไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่สิ่งที่ช่วยให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูมีอะไรขึ้นมาบ้างก็คงจะเป็นการหักมุม ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากหักมุมที่ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว มันทำให้ผู้รับชมอยากจะย้อนกลับไปรับชมเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อีกสักรอบว่าความจริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับตัวนางเอกของภาพยนตร์กันแน่ เรื่องราวที่เราได้เห็นตั้งแต่ต้นนั้นสรุปแล้วคำตอบของคำถามของหมดคืออะไร เป็นภาพยนตร์ที่ทำให้เราได้คิดตามรวมไปถึงได้วิเคราะห์หลังจบได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว fa chai
หากคุณสังเกตดูให้ดีจะพบว่าภาพยนตร์มีความพยายามที่จะสับขาหลอกเราตั้งแต่เริ่มต้นอยู่แล้ว สำหรับคนที่อาจจะไม่ค่อยรับชมภาพยนตร์แนวนี้สักเท่าไหร่ก็คงจะรู้สึกตื่นเต้นและรู้สึกสนุกสนานไปกับมัน แต่มันจะไม่ได้ผลทันทีหากคุณเป็นคนที่รับชมภาพยนตร์แนวนี้มาแล้วนับต่อนะเพราะมันไม่ได้ต่างจากภาพยนตร์เรื่องอื่นสักเท่าไหร่และอาจทำให้ผู้รับชมรู้สึกว่ากำลังดูถูกสติปัญญาอยู่ก็เป็นได้เช่นเดียวกัน ความสนุกสนานและน่าตื่นเต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้จึงขึ้นอยู่กับว่าคุณเคยรับชมภาพยนตร์แนวนี้มาแล้วมากน้อยเท่าไหร่
ตัวอย่างหนัง THE TURNING
รีวิว หนัง THE TURNING บางส่วนจาก entertainment.trueid.net
คุณเคยโดนผีหลอกหลอนแบบซ้ำๆ ซากๆ หรือไม่ แน่นอนว่าคุณจะได้เจอประสบการณ์นี้สักครั้งในชีวิตกับหนังสยองขวัญ “The Turning” ที่อยากจะเชิญชวนให้ทุกได้มาสัมผัสกับความหลอนขนลุกซู่ในเรื่องนี้ เพราะนี่ถือหนังที่มีการเปิดประเด็นถกเถียงกันมากที่สุดของปี หลังจากที่หนังออกฉายไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คนดูต่างพากันเข้ามาวิเคราะห์วิจารณ์ทุกหนังเรื่องนี้ ที่เหมือนจะทิ้งคนดูเอาไว้กลางทางกับเครื่องหมายปรัศนี (?) ค้างเอาไว้ในหัว
The Turning ดัดแปลงมาจากนิยายเขย่าขวัญสุดคลาสสิกของ “เฮนรี เจมส์” อย่าง “The Turn of the Screw” ที่เคยตีพิมพ์ออกมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 120 ปี นำมาปัดฝุ่นเล่าเรื่องราวให้เข้ากับยุคสมัย ถึงแม้ว่าไทม์ไลน์ในหนังน่าจะเป็นช่วงยุค 80s หรือ 90s ก็ตาม โดยเล่าเรื่องราวของ เคท (แมคเคนซี เดวิส) สาวที่เข้ามาทำหน้าที่ดูแลเด็กๆ ตระกูลแฟร์ไชด์ ภายในคฤหาสน์หลังโต หลังจากที่พวกเขาได้สูญเสียครอบครัวไปแล้ว ฟลอรา (บรูกลิน พรินซ์) กับ ไมลส์ (ฟินน์ วูลฟ์ฮาร์ด) เป็นเด็กที่มีจะมีเงื่อนงำอะไรบางอย่างปิดซ่อนเอาไว้ แต่พวกเขาต้อนรับพี่เลี้่ยงคนใหม่ตามปกติ
แต่เมื่อเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ได้ไม่นาน เคท ก็เริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติหลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นที่สถานที่แห่งนี้ รวมทั้งการนอนหลับเห็นฝันร้ายแทบจะทุกคืน เป็นนิมิตที่เธอก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นเพียงคำฝัน หรือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เมื่อเสาะหาปริศนาไปเรื่อยๆ เธอก็ยิ่งพบว่ามีความลับอะไรบางอย่างที่ดูปกปิดเอาไว้ โดยที่เด็กๆ ทั้ง 2 ของตระกูล น่าจะทราบกันเป็นอย่างดี รวมทั้งการจากไปอย่างไม่ร่ำลาของพี่เลี้ยงคนเก่า เรื่องราวทั้งหมดประดังเข้ามาใส่เธอกับบรรยากาศสุดหลอนที่ทำเอานอนตาไม่หลับ
ต้องยอมรับเลยว่า The Turning ได้สร้างบรรยากาศความหลอนเอาไว้ในหนังได้เป็นอย่างดี แค่ฉากคฤหาสน์เก่าๆ น่าเกรงขามก็ทำให้ทุกอย่างดีสยดสยองกำลังดีไปหมด แต่นั่นอาจจะเป็นสิ่งดีเพียงข้อเดียวที่หาเจอในหนังเรื่องนี้ เพราะเมื่อใส่ทุกอย่างมารวมกันแล้ว ผลลัพธ์ที่ออกมาปรากฏว่าล้มเหลวไปทุกทาง หนังหลอนแบบไม่สุด ปมปริศนาหลวมไม่น่าเชื่อถือ เค้นอารมณ์ให้สะดุ้งแต่คนดูนั่งเบลอกับเนื้้อเรื่องไป กลายเป็นว่ามีคำถามอยู่ในหัวตลอดเวลา เป็นการดูหนังที่ไม่ได้รู้สึกเอ็นจอยสักเท่าไหร่ แต่มีคำถาม…อิหยังหว่า? ผุดขึ้นมาในหัวแทน
บอกจากสัตย์จริงก็คือ The Turning ได้เปิดเรื่องเริ่มต้นได้อย่างน่าสนใจ โทนต่างๆ คลุมเครือกำลังดี แต่พอผ่านมาได้สัก 15 นาทีแรกของหนัง ทุกอย่างเริ่มเละเทะปนเปกันไปหมด กลายเป็นบทหนังที่มีความคลิเช่ซ้ำๆ ที่เห็นมาจากหนังผีเชยๆ เมื่อ 10-20 ปีก่อนมาแล้ว พวกเดินตามหาเสียง หรือเดินเข้าไปในที่ที่ไม่ควรไป บทหนังยังทำให้ดูมีปริศนาซ่อนเอาไว้อยู่เรื่อยๆ ขมวดเข้าไปๆ แต่ลืมคลี่คลายออกมา ดำเนินไปแบบนี้ไปถึงฉากสุดท้าย กลายเป็นคำถามที่ยังเกิดขึ้นอยู่ในหัวคนดู อย่างน้อยก็รู้สึก “นี่เราดูอะไรไปนะ?”
entertainment.trueid.net