รีวิวหนัง THE TERMINAL

ชื่อเรื่องTHE TERMINAL
เรตติ้ง7.5
นักแสดงTom Hanks,Catherine Zeta-Jones
จำนวนตอน2.08 ชั่วโมง

รีวิวหนัง THE TERMINAL

รีวิวหนัง THE TERMINAL ภาพยนตร์ที่จะทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนที่โชคร้ายเสมอไปท่ามกลางสภาวะโลกในตอนนี้มันคงไม่น่าแปลกใจอะไรหากทุกคนจะคิดว่าตนเองนั้นช่างโชคร้ายเหลือเกินที่เกิดมาอยู่ในยุคที่เต็มไปด้วยปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นสงคราม โรคระบาด หรือแม้แต่ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใครที่เกิดในประเทศไทยตั้งแต่ช่วงก่อนปี 40 ต้องเผชิญกับวิกฤตมากมายอย่างวิกฤตทางการเงินจนอดสงสัยไม่ได้ว่าหรือตนเองนั้นจะเป็นคนที่มาพร้อมกับโชคร้าย แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีใครบนโลกนี้ที่เกิดมาพร้อมกับความโชคร้ายเสมอไป บางทีโชคชะตาอาจจะเล่นตลกกับเราบ้าง แต่ในสถานการณ์วิกฤติมันก็ทำให้เราได้เข้าใจอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้นเช่นเดียวกัน 

หากคุณกำลังรู้สึกท้อแท้กับชีวิตหรือรู้สึกว่าตนเองเป็นคนที่โชคร้ายเหลือเกิน เราขอแนะนำภาพยนตร์เรื่อง THE TERMINAL ภาพยนตร์ของคนที่โชคร้ายที่สุดในโลกคนหนึ่งที่กลับเต็มไปด้วยเรื่องราวดีๆ มากมายในช่วงเวลาที่เขาต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์คับขัน มันกลายเป็นภาพยนตร์ขึ้นหิ้งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากออกฉายมาตั้งแต่ปี 2004 โดยผู้กำกับระดับตำนานอย่างสตีเวน สปีลเบิร์ก 

ต้องบอกก่อนว่ามันเป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวชีวิตของชายคนหนึ่งที่ไม่ได้มีฉากการต่อสู้ผาดโผน เรื่องราวที่เต็มไปด้วยความน่าลุ้นระทึก หรือแม้แต่ความรักสุดโรแมนติก แต่มันกลับทำให้เราได้เข้าใจถึงสัจธรรมของการใช้ชีวิตและคุณค่าที่จะมองเห็นสิ่งดีๆ ภายใต้ความโชคร้ายที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เราจึงอยากจะแนะนำให้คนที่กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิตได้ลองรับชมดูเพราะมันจะช่วยเพิ่มกำลังใจในการใช้ชีวิตของคุณต่อไปได้อย่างแน่นอน

หนังดีที่ควรดู

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE TERMINAL 

THE TERMINAL เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่าวิคเตอร์ ชายวัยกลางคนธรรมดาทั่วไปที่มาจากประเทศคาโคเชีย ประเทศแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางยุโรปซึ่งกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาสงครามกลางเมือง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้เขาตัดสินใจเดินทางลัดฟ้ามายังเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด เพราะเขานั้นต้องการที่จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อผู้ล่วงลับของเขาต่างหาก เขาสามารถลงจากเครื่องบินได้อย่างสวัสดิภาพแต่ในช่วงเวลานั้นกับเกิดเหตุปฏิวัติขึ้นในบ้านเกิดของเขา แต่เหตุการณ์ก็ยังไม่เลวร้ายเท่ากับที่สหรัฐอเมริกาได้มีการประกาศยกเลิกพาสปอร์ตของคนในประเทศของเขาทั้งหมด 

ทำให้เขานั้นเห็นอเมริกาอยู่เพียงแค่กระจกกั้นแต่ไม่สามารถออกจากสนามบินได้ ในขณะเดียวกันเองเขาก็ไม่สามารถขึ้นเครื่องบินกลับไปประเทศของตนเองได้เช่นเดียวกันเนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมือง ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องติดแหงกอยู่ในสนามบินภายในอาคารผู้โดยสารที่กำลังรอเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวที่เขาสามารถอาศัยอยู่ได้ในอเมริกาโดยไม่ผิดกฎหมาย 

เขาจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในอาคารผู้โดยสารจนกว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย เมื่อไหร่ก็ตามที่เหตุการณ์ในประเทศของเขากลับคืนสู่ภาวะปกติและสหรัฐอเมริกาประกาศยกเลิกการปิดกั้นพาสปอร์ตของคนจากประเทศบ้านเกิดของเขา เขาก็จะสามารถเข้าสู่เมืองนิวยอร์กได้ตามปกติอีกครั้ง แต่ใครจะรู้ว่าสถานการณ์ในประเทศคาโคเชียจะยืดเยื้อไปยาวนานสักเท่าไหร่ ทำให้เขานั้นต้องอาศัยอยู่ในอาคารผู้โดยสารแบบไม่รู้ชะตากรรม 

เหตุการณ์ยังไม่แย่เท่านั้นเพราะเจ้าหน้าที่ประจำสนามบินอย่างแฟรงค์ต้องการที่จะไล่เขาออกจากสนามบินที่ตนเองดูแลอยู่เนื่องจากวิคเตอร์อาจจะทำให้เขาต้องหลุดจากตำแหน่งที่ดูแลได้โดยเฉพาะหากเขาไม่สามารถควบคุมชายหนุ่มผู้ไม่สามารถเดินทางไปไหนได้เลยยกเว้นแต่อยู่ในอาคารโดยสารไปวันๆ ได้ 

แต่วิคเตอร์ก็ไม่ได้อาศัยอยู่ในอาคารผู้โดยสารแบบทิ้งไปวันๆ แต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่เขาไม่รู้ว่าจะได้ออกจากสถานที่แห่งนี้เมื่อไหร่เขาได้พบเจอกับผู้คนมากมายและมันก็กลายเป็นมิตรภาพที่ทำให้เขารู้ว่าโลกใบนี้ยังคงสวยงาม ไม่เพียงเท่านั้นเขายังได้พบเจอกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกตกหลุมรักเธออีกด้วย 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE TERMINAL 

THE TERMINAL เป็นภาพยนตร์เก่าที่ใช้ทุนสร้างเพียงแค่ 60 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นแต่กลับสามารถคว้ารายได้ทั่วโลกไปส่งถึง 219 ล้านเหรียญเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถคว้ารางวัลได้อีกมากมาย เพราะมันเป็นภาพยนตร์ที่สามารถสร้างความสนุกสนานให้กับผู้รับชมได้เป็นอย่างดีแม้ว่าจะเล่าเรื่องราววนเวียนอยู่เพียงแค่ในอาคารผู้โดยสารขาออกของสนามบินในนิวยอร์กเท่านั้น นอกจากนี้ยังแฝงข้อคิดอะไรเอาไว้มากมาย เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่โชคร้ายแต่กลับไม่ได้ย่อท้อต่อโชคชะตาของตนเองและใช้ชีวิตในแต่ละวันให้มีความสุขมากที่สุดเท่าที่ตนเองจะสามารถทำได้ และเราจะได้เห็นว่ามีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นมากมายท่ามกลางเรื่องเลวร้ายที่เขาต้องเผชิญ 

ยังไม่รวมไปถึงประเด็นเรื่องการเสียดสีสังคมเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติอีกด้วย โดยการให้ตัวละครเจ้าหน้าที่สนามบินที่เป็นชาวอเมริกาผิวขาวโดยแท้พยายามขับไล่คนที่ไม่ใช่คนผิวขาวหรือคนที่เป็นชาวอเมริกาออกจากประเทศของตนเอง นอกจากนี้บรรดาเพื่อนของตัวละครหลักของเรานั้นยังไม่ใช่ชาวอเมริกาแต่อย่างใด ไม่มีใครทราบอย่างแท้จริงว่าเป็นความต้องการของผู้กำกับที่จะสื่อถึงประเด็นดังกล่าวหรือเป็นเพียงแค่ความบังเอิญ แต่มันก็สามารถสะท้อนถึงสังคมในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี 

ตัวอย่างหนัง THE TERMINAL

รีวิว หนัง THE TERMINAL บางส่วนจาก movies.doodido

ถ้าในช่วงกักตัวนี้คุณยังหาหนังดีๆประทับใจดูไม่ได้ เราขอแนะนำหนังเรื่องนี้ให้กับคุณ The Terminal ด้วยรักและมิตรภาพ หนังที่มีความประทับใจ สร้างจากเรื่องจริงของ “เมอร์ฮัน คาริมี่ แนสเซรี่ Merhan Karimi Nasseri”

ภาพยนตร์เรื่อง The Terminal ด้วยรักและมิตรภาพ ออกฉายเมื่อปี 2004 หรือปี พ.ศ. 2547 ซึ่งได้สุดยอดผู้กำกับระดับตำนาน อย่าง สตีเว่น สปีลเบิร์ก มาทำการกำกับหนังเรื่องนี้หากพูดถึง สปีลเบิร์ก แล้ว ทุกคนต้องนึกถึงพระเอกคู่บุญของเขาอย่าง ทอม แฮงค์ ดารานำชายระดับฮอลลีวูดที่เพิ่งมีข่าวว่า หายจาก โรค COVID-19 ไปหมาดๆ ซึ่งในเรื่องนี้เขาก็ได้รับเล่นเป็นพระเอก และได้ประกบคู่กับนางเอกสุดสวยอย่าง แคทเธอรีน ซีต้า-โจนส์ นั่นเอง

The Terminal ด้วยรักและมิตรภาพ เป็นภาพยนตร์ แนว Comedy-Drama ที่ตัวเอกอย่าง วิกเตอร์ นาเวอร์สกี้ (ทอม แฮงค์) ชายวัยกลางคนชาวยุโรป เขาตั้งใจเดินทางมายังสนามบินเจ เอฟ เค ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อของเขา ซึ่งการมาสหรัฐอเมริกาของเขาในครั้งนี้ ได้เกิดเหตุการณ์ การปฏิวัติที่ประเทศคาร์โคเชียร์บ้านเกิดของเขา

แต่เหมือนเหตุการณ์จะยังเลวร้ายมากขึ้นไปอีก เมื่อ สหรัฐอเมริกา มีประกาศ ยกเลิกพาสสปอร์ตของคนประเทศ คาร์โคเชียร์ นั่นจึงทำให้เขาสารถเดินทางเข้าเมืองนิวยอร์กได้ หรือแม้กระทั่งเดินทางนั่งเครื่องบินกลับประเทศเขาเองก็ไม่ได้เช่นกัน จึงทำให้เขาต้องอาศัยอยู่ได้แต่ในอาคารสำหรับผู้โดยสารที่รอจะเปลี่ยนเครื่อง ซึ่งพื้นที่นี้ไม่ผิดกฎหมายของ อเมริกา จนกว่าที่เรื่องราวทุกอย่างในประเทศของเขาจะคลี่คลาย หรือ อเมริกาได้อนุญาติให้สถานะยอมรับพาสสปอร์ตแก่เขาอีกครั้ง หากดูจากเรื่องราวที่เล่ามาข้างต้นนั้น เรื่องราวของวิกเตอร์ นาเวอร์สกี้ นั้นอะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวสุดดราม่าสะเทือนใจผู้ชมกันสุดเลยก็ว่าได้ แต่ทว่า ตัวหนังกลับไม่ได้พาคนดูให้จมดิ่งหรือรู้สึกมืดมนกับเรื่องราวและเหตุการณ์ของเขาเลย เนื่องจากว่า วิกเตอร์ นาเวอร์สกี้ นั้นเขาเป็นคนที่มองโลดในแง่ดีสุดๆ ถึงขั้นที่ผู้ชมอาจจะถึงขั้นปวดหัวกับการคิดแง่บวกของเขาเลยก็ว่าได้

แต่เพราะการมองโลกในด้านบวกของเขา และการไม่จมทุกข์กับเหตุการณ์ร้ายทำให้ วิกเตอร์ ได้หาทางออกให้กับสถานการณ์อันเลวร้ายของเขา อีกทั้งเขายังได้พบมิตรภาพใหม่ๆ อย่าง กุ๊ปตาร์ ชายแก่ชาวอินเดียที่เป็นเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด, มัลรอย รปภ. ร่างใหญ่ผิวสีแต่ใจดี,  เอ็นริเก้ หนุ่มวัยรุ่น สเปนที่เป็นพนักงานขับรถขนอาหาร, ทอร์เรสต์ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสุดเข้ม พวกเขาได้เห็นความสามารถและการมองโลกในแง่ดีของ วิกเตอร์ พวกเขาจึงคอยช่วยเหลือ วิกเตอร์ทั้งในเรื่องต่างๆ เท่าที่ทำได้

แต่ทว่า แฟรงค์ ดิคสัน เจ้าหน้าที่ประจำสนามบิน เจเอฟเค  จะไม่เห็นด้วย เขาต้องการที่จะไล่วิกเตอร์ออกไปจากสนามบินที่เขาดูแลอยู่เนื่องจาก วิกเตอร์นั้นอาจทำให้เขาหลุดจากตำแหน่งและเขาไม่สามารถควบคุมคนอย่างวิกเตอร์ได้เลย

ตัวหนัง The Terminal นั้นใช้ทุนสร้าง 60ล้านเหรียญแต่กับกวาดรายได้จากทั่วโลกไปได้ถึง 219 ล้านเหรียญ ซึ่งมากมายมหาศาล อีกทั้งยังกวาดรางวัลอีกมากมาย อาทิเช่น รางวัลสมาคมผู้กำกับศิลป์ สาขาออกแบบงานสร้างยอดเยี่ยม เอมิเลีย วอเรนท์ หญิงสาว แอร์โฮสเตสแสนสวย ที่วิกเตอร์ได้ตกหลุมรัก เรียกได้ว่าเธอนั้นเป็นรักแรกของวิกเตอร์เลยก็ว่าได้ แต่บางอย่างเหมือนจะไม่เป็นใจให้กับรักของเขาและเธอเลยเสียเลย เพราะวิกเตอร์นั้นปิดปังความจริงกับเธอเรื่องที่เขาโดนกักตัวอยู่ที่สนามบิน อีกทั้งเธอนั้นต้องการจะหาใครซักคนที่จะลงหลักปักฐานและใช้ชีวิตรักที่มั่นคงทำให้ วิกเตอร์ต้องซ่อนความจริงเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดและพยายาม ทำทุกอย่างเพื่อให้เป็นเหมือนชายที่เธอได้วาดฝันไว้

movies.doodido

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *