ชื่อเรื่องThe Platform
เรตติ้ง7.0
นักแสดงIvan Massagué,Antonia San Juan
จำนวนตอน1.34 ชั่วโมง

รีวิวหนัง The Platform Netflix

รีวิวหนัง The Platform Netflix ภาพยนตร์ที่จำลองสถานการณ์ในสังคมผ่านคุก การที่เราอยู่ในสังคมปัจจุบันบางครั้งมันก็ทำให้เรานั้นหูหนวกตาบอดได้เช่นเดียวกันบางคนไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าสถานการณ์สังคมที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้นมันเลวร้ายมากแค่ไหนเนื่องจากเราใช้ชีวิตอยู่ทุกวันด้วยความเคยชินบนโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและการแบ่งชนชั้นแท้จริงแล้วเต็มไปด้วยความโหดร้ายและความไม่เท่าเทียมมีภาพยนตร์อยู่หนึ่งเรื่องที่สามารถสะท้อนประเด็นดังกล่าวออกมาได้อย่างเจ็บแสบและตรงกับความเป็นจริงได้อย่างน่าเหลือเชื่อนั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง The Platform

ภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของคุกแห่งหนึ่งที่สามารถสะท้อนความเป็นอยู่ของพวกเราในปัจจุบันนี้ได้เป็นอย่างดีภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับที่มีความสามารถและอยู่ในวงการการสร้างโฆษณารวมไปถึงภาพยนตร์สั้นมาอย่างยาวนานนับ 15 ปีนั่นก็คือกลเดอร์กัซเตส-เออร์เดีย แต่ด้วยผลงานที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักเทียบเท่ากับภาพยนตร์เรื่องนี้เนื่องจากมันเป็นภาพยนตร์ที่สามารถทำให้เขานั้นได้คว้ารางวัลจากหลายเทศกาลไม่ว่าจะเป็น Toronto International Film Festival ที่จัดขึ้นในประเทศแคนาดาหรือเทศกาลในประเทศสเปนอย่าง Sitges-Catalonian International Film Festival

หลังจากนั้นมันก็เข้าตา netflix จนสุดท้ายก็ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาฉายแบบ Streaming ทั่วทั้งโลกในที่สุดและทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กลายเป็นที่รู้จักมากกว่าเดิมรวมไปถึงยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างเกี่ยวกับประเด็นที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการจะสื่ออีกด้วยมันเป็นภาพยนตร์ที่ผสมผสานบรรยากาศแบบโลกล่มสลายเข้ากับเรื่องราวแนวไซไฟสยองขวัญเป็นภาพยนตร์ที่สามารถสะท้อนภาพในสังคมปัจจุบันออกมาได้อย่างเห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้นจนทำให้ผู้รับชมหลายคนนั้นรู้สึกหดหูใจและคิดตามไปด้วยได้ตลอดการรับชมมันไม่ใช่ภาพยนตร์ที่จะทำให้คุณได้รับความสนุกสนานหรือความบันเทิง แต่อย่างใดนับชมจบแล้วอาจจะได้รสขมในปากได้อะไรไปคบคิดต่อ

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง The Platform

The Platform เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่าโกเร็งเขาตื่นขึ้นมาก่อนจะพบว่าตนเองนั้นนอนอยู่บนเตียงในห้องหนึ่งที่อีกฝั่งหนึ่งมีชายแก่ที่มีชื่อว่าตรีมากาซีเขาเต็มไปด้วยความสงสัย แต่หลังจากนั้นเราก็จะทราบว่าแท้จริงแล้วเขานั้นเป็นคนที่เต็มใจมาอยู่ในสถานที่แห่งนี้เนื่องจากหลังจากที่เขานั้นสามารถอยู่ในสถานที่แห่งนี้ได้ครบตามระยะเวลาที่กำหนดเขาจะได้รับใบประกาศ 1 ใบเขายินดีทำแม้ว่าจะแทบไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่นี้เลยแม้แต่น้อยพี่เขาเห็นในห้องลึกคับแคบก็คือหอคอยรับฟ้าที่มีการเขียนหมายเลขชั้นเอาไว้บนกำแพงหอคอยดังกล่าวเป็นหอคอยเรียบๆ

ที่ไม่มีการตกแต่งอะไรมีเพียงอ่างล้างหน้าไม่มีบันไดตรงกลางของอาคารจะมีช่องว่างที่เมื่อมองไปแล้วจะพบกับชั้นอีกหลายสิบชั้นเหมือนกับมันไม่มีที่สิ้นสุดหลังจากที่มีสัญญาณดังขึ้นมาก็จะมีแท่นพอดีกับช่องวางขึ้นมาพร้อมกับอาหารที่เรียงมาเต็มอาหารเหล่านี้เป็นอาหารที่ได้รับการปรุงจากพ่อครัวมากฝีมือที่อยู่ชั้นบนสุดหามีเพียงคนที่อยู่ชั้นบนเท่านั้นที่จะได้รับอาหารที่ดีคนที่อยู่ชั้นด้านล่างจะได้รับเศษอาหารที่เหลือต่อมาจากชั้นก่อนหน้ามันเป็นเศษอาหารที่เต็มไปด้วยความเลอะเทอะจนแทบจะไม่สามารถกินได้อย่างไรก็ตามเวลาในการรับประทานอาหารของแต่ละชั้นมีเวลาเพียงแค่ 2 นาที

และไม่สามารถเก็บอาหารไว้สำรองได้ไม่เช่นนั้นคุณภูมิภายในห้องจะร้อนจัดหรือเย็นจัดในทันทีแท้ที่จริงแล้วสถานที่แห่งนี้เป็นคุณสำหรับกักขังนักโทษหากนักโทษคนไหนที่สามารถอยู่ได้ไปจนครบตามกำหนดก็จะได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสระ แต่สำหรับชายหนุ่มอย่างโกเร็งแล้วเขาไม่ได้เป็นนักโทษ แต่อย่างใดและไม่ได้มีการบอกอีกด้วยว่าใบประกาศที่เขาจะได้นั้นคืออะไรกว่าเขาจะรับรู้สิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคุกใบนี้เวลาก็ผ่านไปเป็นระยะเวลานานถึง 3 เดือนแล้วโดยเฉพาะเงื่อนไขที่จะมีการสับเปลี่ยนคนขึ้นไปอยู่ในชั้นอื่นที่จะสั่งหรือสูงกว่าก็ได้ทำให้ความไว้วางใจกันของคนในห้องอาจเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือชายหนุ่มผู้นี้จะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง The Platform

The Platform เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญไซไฟภายใต้บรรยากาศโลกหลังล่มสลายสามารถนำเสนอไอเดียการจัดการมนุษย์ด้วยการแบ่งชนชั้นวรรณะทางสังคมได้เป็นอย่างดีสิ่งที่ต้องชมเลยคือการแฝงนัยยะมากมายให้เราได้มาตีความและขบคิดกันต่อไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องความเหลื่อมล้ำและความเท่าเทียมกันของคนในสังคมแถมยังใช้อาหารเป็นสัญลักษณ์ของโลกทุนนิยมและการบริโภคนิยมได้เป็นอย่างดีมีการตีความหมายเกี่ยวกับพระเจ้าได้อย่างกล้าหาญ

เป็นการผสมผสานกันระหว่างความเชื่อเกี่ยวกับศาสนาเนื่องจากมีการพูดถึงพระเจ้าอยู่เป็นประจำและเทคโนโลยีแปลกประหลาดที่ไม่ได้มีการอธิบาย แต่ทำให้เราคิดเองว่ามันคืออะไรกันแน่นักโทษที่อยู่ในเรือนจำดังกล่าวแต่ละคนจะได้รับของติดตัวมา 1 อย่างยิ่งของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไปและของเหล่านี้สามารถนำเอาไปตีความได้อีก แต่จุดด้อยของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีเช่นเดียวกัน

เนื่องจากเป็นภาพยนตร์แนวโหดเลือดสาดดังนั้นใครที่ไม่ชอบก็จะเกลียดไปเลยการนำเสนอตัวละครสามารถดึงด้านมืดและความสกปรกในจิตใจออกมาได้อย่างเจ็บแสบจนบางคนอาจจะรับไม่ได้และที่น่าเสียดายมากที่สุดก็คือในตอนท้ายค่อนข้างเร่งรีบในการเล่าเรื่องราวทำให้บางอย่างดูไม่สมเหตุสมผล

ตัวอย่างหนัง The Platform

รีวิว หนัง The Platform บางส่วนจาก beartai

ในเรือนจำแนวตั้งที่นักโทษชั้นบนได้อยู่ดีกินดี ขณะที่นักโทษชั้นล่างต้องอัตคัดขัดสน นักโทษชายอย่าง “โกเร็ง” (Iván Massagué) พยายามหาทางเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างความเท่าเทียมให้กับทุกคน

ผมว่าผมก็เป็นเหมือนหลาย ๆ ท่านนี่แหละครับที่พอได้ยินกิตติศัพท์ความแปลกของพล็อตหนังเรื่อง The Platform หรือในชื่อภาษาสเปนว่า El Hoyo (The Hole) แล้วก็เกิดความอยากดู เพราะมันเป็นพล็อตที่เด่นชนะหน้าหนัง ชนะทุกสิ่ง เอาจริง ๆ นักแสดงใครเล่นบ้างก็ยังไม่รู้ ใครกำกับก็ไม่รู้ ได้กี่ดาวก็ไม่รู้อีกนั่นแหละ แต่สนซะที่ไหนล่ะ อยากลองดูก่อน พอผมได้ยินว่าหนังเรื่องนี้จะเข้าฉายทาง Netflix คอหนังประหลาด ๆ อย่างผมก็เลยรู้สึกว่าอยากลองดูหนังเรื่องนี้บ้าง เรียกว่าพล็อตอย่างเดียวชนะทุกสิ่งจริง ๆ นี่คือภาพยนตร์สัญชาติสเปนฝีมือการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของ

Galder Gaztelu-Urrutia (กัลเดอร์ กัซเตลู อูร์รูเดีย) ครับ แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกแต่ประสบการณ์บอกเลยว่าไม่ไก่กา เพราะว่าเขานั้นมีประสบการณ์การทำหนังสั้น โฆษณา และเป็นโพรดิวเซอร์ภาพยนตร์มาก่อนหน้านี้แล้วตั้ง 15 ปี ซึ่งความคร่ำหวอดนี่แหละที่ส่งผลทำให้ในปีที่แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เดินทางไปคว้ารางวัลมามากมาย ทั้งรางวัลขวัญใจผู้ชม Midnight Madness จากเทศกาล Toronto International Film Festival ประเทศแคนาดา รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเทศกาล Sitges – Catalonian International Film Festival ประเทศสเปน แถมในเว็บมะเขือเทศเน่า Rotten Tomatoes ยังระบุว่าได้คะแนนมะเขือสดไปตั้ง 82% แน่ะ สำหรับการกำกับภาพยนตร์ครั้งแรก ถือว่าไม่ธรรมดา

สำหรับพล็อตของหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องของคุกนั่นแหละ จริงๆ มันก็ไม่ใช่คุกซะทีเดียวหรอกครับ มันเป็นสิ่งที่เรียกว่า “ศูนย์ดูแลตนเองแนวตั้ง” คืออารมณ์สถานดัดสันดานอะไรแบบนี้มากกว่า แต่ในตัวมันก็เป็นคุกดี ๆ นี่เอง จุดเริ่มต้นมันเริ่มจากพระเอกอย่าง “โกเร็ง” (Iván Massagué) นั้นพาตัวเองเข้ามายังคุกแนวตั้งแห่งนี้ เมื่อเขาตื่นมาก็พบว่าเขานั้นได้มาอยู่ที่ชั้น 48 ร่วมกับชายชราอย่าง “ตรีมากาซี” (Zorion Eguileor) โดยตรีมากาซีเข้าคุกแห่งนี้มานานหลายเดือนแล้ว เพราะว่าฆ่าคนโดยไม่เจตนา ส่วนโกเร็งนั้นต่างออกไป เพราะว่าตั้งใจที่จะเลือกเข้าคุกนี้มาด้วยตัวเอง

และคุณผู้อ่านย่อมรู้อยู่แล้วใช่มั้ยครั้บว่าคุกนี้ไม่ธรรมดา เพราะมันเป็นคุกแนวตั้งที่มีชั้นลดหลั่นกันลงไป ในแต่ละชั้นจะมีนักโทษอาศัยอยู่ 2 คน และวิธีการจัดการกับคุกนี้ก็คือการควบคุมด้วยอาหาร คือในแต่ละชั้นจะมีช่องบนเพดานและพื้น เพื่อให้แท่นวางอาหารเคลื่อนผ่านลงไป โดยในแท่นนั้นจะมีอาหารคาวหวาน ผลไม้หลากชนิดและเครื่องดื่มสารพัดอย่างวางไว้รวมกัน ในแต่ละวัน แท่นนี้จะค่อย ๆ เคลื่อนลงไปเพื่อส่งอาหารให้กับคนแต่ละชั้น นั่นก็แปลว่าคนที่ชั้นบน ๆ

จะได้มีโอกาสกินของดี ๆ เลือกกินได้อย่างใจ อาหารก็สดใหม่สะอาดปลอดภัย ส่วนคนชั้นล่างลงไปก็ต้องกินของเหลือ ๆ ต่อกันไปเรื่อย ๆ อันที่จริงแม้เราจะยังไม่รู้แต่แรกว่าคุกแนวตั้งนั้นมีกี่ชั้นกันแน่ แต่ที่ผมว่าน่าจะเดาได้แต่แรกคือ อาหารมักไปไม่ถึงชั้นล่าง ๆ หรอกครับ ยังไงก็มักจะถูกกินหมดก่อนตลอด และอย่าคิดจะกักตุนอาหารโดยเด็ดขาด เพราะว่าอุณหภูมิห้องขังจะเปลี่ยนไป อาจจะร้อนจนไหม้เกรียมหรือเย็นเยือกจนแข็งตาย

beartai

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *