ชื่อเรื่องTHE MATRIX RESURRECTIONS
เรตติ้ง6.5
นักแสดงKeanu Reeves,Carrie-Anne Moss
จำนวนตอน2.28

รีวิวหนัง THE MATRIX RESURRECTIONS

รีวิวหนัง THE MATRIX RESURRECTIONS การคืนชีพอีกครั้งของภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ไฟฟ้ายอดนิยมจากยุค 90 ในปี 1999 นั้นเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างยุค 90 สู่ยุค 2000 ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีมากมาย ในช่วงนั้นมนุษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่ให้ความสนใจกับการพัฒนามากยิ่งขึ้นของเทคโนโลยีเนื่องจากมันได้เริ่มเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเราทุกคนกันมากยิ่งขึ้น มันจึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ในช่วงนี้มักจะเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ไซไฟกันมากยิ่งขึ้นเพราะนอกจากมันจะเข้ากับยุคสมัยที่เริ่มมีการพัฒนาเทคโนโลยีมากขึ้นแล้วเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาแล้วยังช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์ภาพยนตร์ที่มีความสมจริงได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นภาพยนตร์THE MATRIX ที่ออกฉายในปี 1999 นั้นจึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเรียกได้ว่าดังเป็นพลุแตกกันเลยทีเดียวและส่งให้คีอานู รีฟส์กลายเป็นนักแสดงชื่อดังของฮอลลีวูดอีก 1 คน 

หลังจากนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้มีการสร้างภาคต่อออกมาเรื่อยๆตามแบบฉบับของภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แต่หลังจากนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ห่างหายไปเนื่องจากมีภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ไซไฟเลือกอื่นที่มีความทันสมัยและน่าสนใจเข้ามาแทนในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าฉากการเลือกแคปซูลสีน้ำเงินหรือสีแดง หรือการที่พระเอกของเราพยายามหลบกระสุนเป็นภาพจำที่ทำให้เรานั้นยังคงติดอยู่ในใจมาจนถึงทุกวันนี้แม้ว่าเวลาจะผ่านมาเกือบ 30 ปีแล้วก็ตาม ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้กลับมาอีกครั้งในภาคที่ 4 โดยใช้ชื่อว่า THE MATRIX RESURRECTIONS โดยมันเป็นภาพยนตร์ภาคต่อที่ห่างจากภาคแรกเป็นระยะเวลากว่าสองทศวรรษเลยทีเดียว สร้างด้วยความทะเยอทะยานที่ต้องการจะกลับมาคืนชีพอีกครั้งด้วยการปรับเรื่องราวและบทบาทให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นโดยใช้ดารานักแสดงหลักชุดเดิม

THE MATRIX ในภาคนี้ยังคงใช้นักแสดงชื่อดังอย่างคีอานู รีฟส์เหมือนเดิมหลังจากที่เขาประสบความสำเร็จอย่างงดงามอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่องจอห์นวิคและได้กลายมาเป็นนักแสดงทำเงินอีกครั้งอย่างสวยงาม หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมทิ้งไว้เป็นเวลากว่า 20 ปีกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะกลับมาอีกครั้งนั่นก็เป็นเพราะว่าการที่ผู้สร้างสองพี่น้องดันนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไปให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความสดใหม่และแตกต่างจากไตรภาคที่เคยจบได้อย่างลงตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจะพามาดูกันว่าความพยายามคืนชีพ THE MATRIX ในครั้งนี้จะเป็นปรากฏการณ์หรือหายนะกันแน่   

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE MATRIX RESURRECTIONS 

THE MATRIX RESURRECTIONS เป็นภาพยนตร์ที่จะยังคงเล่าเรื่องราววนเวียนอยู่กับการปล่อยตัวนีโอออกมาจากโลก THE MATRIX โดยจะเล่าถึงเรื่องราวของกลุ่มผู้ปกปล่อยใหม่ที่มีความพยายามจะปลุกมีโอให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้งและตามมาด้วยความพยายามในการช่วยเหลือ TRINITY เพิ่ม เรื่องราวที่เราสามารถพูดได้โดยที่จะไม่สบายเนื้อหาสำคัญนั้นมีเพียงเท่านี้ แต่โดยรวมแล้วภาพยนตร์นั้นจะมีการนำเอาภาพเก่ามาใส่ในเส้นเลือดหลักของภาพยนตร์ภาคใหม่นี้เป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว โดยจะย้อนเวลาไปแบบสั้นๆ ให้เรานั้นได้ย้อนไปถึงความทรงจำของภาพยนตร์เก่าที่กินระยะเวลามาแล้วกว่า 2 ทศวรรษ ไม่แน่ใจว่าทางผู้สร้างต้องการที่จะย้อนความหลังหรือต้องการที่จะนำเอาจุดขายเก่ามาขายใหม่อีกครั้ง มันทำให้เราได้เห็นฉากเลือกยา ฉากฝึกวิชา ฉากพูดคุยกับมอร์เฟียซและฉากอื่นๆอีกมากมายที่เราเคยได้เห็นในภาพยนตร์ยุคเก่า 

นอกจากฉากเหล่านี้ที่จะกลับมาแล้วยังมีฉากที่สมิธรั้วต่อยกำปั้น ฉากหลบกระสุนปืน ฉากหยุดกระสุนปืน ซึ่งมันไม่ได้มีปัญหาอะไรในการที่จะนำเอาฉากเหล่านี้กลับมาแต่ดูเหมือนว่าปัญหาจะเป็นฉากใหม่ที่เพิ่มเข้ามามากกว่า ดังนั้นเราจึงไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่าคุณจะชอบภาพยนตร์เรื่องนี้หรือไม่ แต่ถ้าคุณเป็นแฟนคลับภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่แล้วแล้วลังเลว่าควรจะกลับไปรับชมอีกรอบดีไหมหรือปล่อยให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นตำนานในความทรงจำเราขอแนะนำให้คุณลองอ่านรีวิวดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE MATRIX RESURRECTIONS 

THE MATRIX RESURRECTIONS  เป็นภาพยนตร์ที่เมื่อมีการเปิดตัวออกมาแล้วทำหลายคนรู้สึกคาดหวังเป็นอย่างมากเพราะในอดีตนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ระดับตำนานอย่างแท้จริง หลายคนคาดหวังว่ามันจะมีการดำเนินเรื่องราวไปในทิศทางใหม่ที่มีความสดใหม่มากยิ่งขึ้น แต่พอรับชมไปสักพักเราก็จะเริ่มรู้แล้วว่าการมีฉากย้อนอดีตมากจนเกินไปนั้นคือการนำเอาของเก่ามาขายใหม่ มันจึงค่อนข้างน่าผิดหวังไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับคนที่ต้องการจะเห็นอะไรใหม่ๆในภาพยนตร์จักรวาลนี้ แต่สำหรับใครที่คิดถึงวันวานเก่าๆ อยากจะกลับไปดูเรื่องราวแบบเดิมๆ อีกครั้งในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็คงจะชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่น้อยเช่นเดียวกัน ดังนั้นความชอบของภาพยนตร์เรื่องนี้จึงขึ้นอยู่กับว่าคุณรับชมมันด้วยจุดประสงค์ใดมากกว่า

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีจุดดีตรงที่ได้นักแสดงหลักแทบทุกตัวกลับมารับบทนำ มีฉากต่อสู้ให้เราได้เห็นเยอะ มีการปรับลุคมอร์เฟียซใหม่ให้ดูมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ทำให้เรานั้นได้เห็นโลกหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ภาค 3 ในส่วนของงานจ้างนั้นสามารถทำได้ดีตามมาตรฐาน แต่จุดด้อยของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีไม่น้อยเช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็นการที่เนื้อเรื่องหลักจะไม่ได้มีอะไรใหม่ๆ ให้เราได้รับชมเลย การนำเอาฉากเก่าให้เราดูเยอะจนเกินไปจนทำให้รู้สึกน่าเบื่อ การที่ใส่ฉากต่อสู้เข้ามาเยอะแต่ก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่น่าสนใจ โดยเฉพาะการต่อสู้แบบตัวต่อตัวนั้นยิ่งมีความโดดเด่นเข้าไปกันใหญ่ ไม่ได้มีการเชื่อมโยงเนื้อเรื่องเข้ากับปรัชญาที่ล้ำลึกเหมือนกับ 3 ภาคแรก ที่สำคัญคือเอ็นด์เครดิตไม่ได้มีความเชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องเลยแม้แต่น้อย

ตัวอย่างหนัง THE MATRIX RESURRECTIONS

รีวิว หนัง THE MATRIX RESURRECTIONS บางส่วนจาก beartai

ทิ้งห่าง ‘The Matrix’ ภาคแรกมาร่วม 22 ปีสำหรับภาคต่อของหนังที่มาปฏิวัติวงการภาพยนตร์ช่วงเข้ายุค 2000 แต่การกลับมาครั้งนี้ของ ‘The Matrix Resurrections’ หลังผ่านไป 2 ทศวรรษที่องค์ความรู้เรื่องเมตาเวิร์สที่เคยเป็นแค่จินตนาการกำลังเกิดขึ้นจริงและการใช้ชีวิตในโลกออนไลน์แบบในหนังภาคแรกก็ดูไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปดังนั้นมันจึงน่าสนใจว่าคราวนี้ ลานา วาชอว์สกี (Lana Wachowski) จะยังคิดค้นอะไรใหม่ ๆ ให้เราได้ว้าวอีกหรือเปล่า

หนังใช้เวลาช่วงแรกไปกับการแนะนำตัวละครใหม่อย่างบั๊กส์ (แสดงโดย เจสสิกา เฮนวิค Jessica Henwick) ที่ลักลอบแฮ็กเข้าสู่เดอะแมทริกซ์เพื่อดูเหตุการณ์ที่ทรินีตีหลบหนีเหล่าเอเจนต์และเธอก็ได้พบความจริงว่านีโอ (แสดงโดย คีอานู รีฟส์ Keanu Reeves) ยังมีชีวิตอยู่ โดยเขาใช้ชื่อโธมัส แอนเดอร์สัน นักออกแบบเกมเดอะแมทริกซ์ที่กำลังต้องเริ่มโปรเจกต์เกมภาค 4 จนกระทั่งเขาได้พบกับมอร์เฟียส (รับบทโดย ยายาห์ อับดุล-มาทีนที่ 2 Yahya Abdul-Mateen II) และบั๊กส์ที่พาเขากลับสู่โลกความจริงอีกครั้ง แต่ในเมื่อทรีนิตี (รับบทโดย แครี-แอนน์ มอสส์ Carrie-Anne Moss) ยังติดอยู่ในแมทริกซ์นีโอจำต้องออกรบอีกครั้งเพื่อปลดปล่อยคนรักของเขา

ก่อนอื่นเราคงต้องบอกกันตรง ๆ ล่ะนะครับว่าบทหนังของ ‘The Matrix Resurrections’ ไม่ได้เอาใจคนที่ไม่เคยดูหรือรู้จักกับโลกของ ‘The Matrix’ มาเลย เพราะมันเล่าเรื่องต่อจากหนังภาค 3 อย่าง ‘The Matrix Revolutions’ ที่ฉายไปตั้งแต่ปี 2003 ข้อมูลหลายอย่างทั้งเดอะแมทริกซ์คืออะไรหรือชุมชนไซออนคืออะไร เซนตินัลคืออะไร อันนี้คนดูต้องรู้อยู่แล้ว

แต่ในขณะเดียวกันสิ่งที่ไม่คิดว่าลานา วาชอว์สกีจะทำก็คือการเอาภาพฟุตเทจของหนังทั้ง 3 ภาคมาแทรกไปตลอดการดำเนินเรื่องเพื่อให้คนดูต่อติดว่าหนังกำลังจะเดินเรื่องเชื่อมโยงกับหนังภาคเก่า ๆ เพราะบทหนังที่ลานาไปลาก เดวิด มิตเชลล์ (David Mitchell) คนแต่งนิยาย ‘Cloud Atlas’ ที่เคยดัดแปลงบทหนังให้เธอ และยังมาร่วมงานกับอเล็กซานเดอร์ เฮมอน (Aleksandar Hemon) เขียนบท ‘Sense8’ ซีรีส์ดรามาเชื่อมจิตทาง Netflix มาเขียนบท ‘The Matrix Resurrections’ ภาคนี้ ซึ่งต้องบอกว่ามีแนวคิดหลายอย่างที่หนังกล้าหาญที่จะ “เล่น” ตัวเองและวิพากษ์ว่า ‘The Matrix’ คืออะไรกันแน่

นั่นเลยทำให้หนังครึ่งแรกเต็มไปด้วยบทสนทนาที่จะต้องปูทั้งอาชีพของนีโอที่เป็นคนออกแบบเกมและชีวิตใหม่ของทรินิตี รวมไปถึงที่มาของเหล่ากลุ่มกบฏใหม่ที่มีนีโอเป็นไอดอล รวมไปถึงที่มาของมอร์เฟียสคนใหม่ที่หนังให้ ยายาห์ อับดุล-มาทีนที่ 2 ล้อเลียนแอ็กติงของ ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น (Laurence Fishburne) อย่างคึกคะนองเลย ต้องเดินหน้าด้วยความเร็วเหมือนรถติดบนทางด่วนที่เห็นจุดหมายข้างหน้าไปไหนไม่ได้ แถมยังมีฟุตเทจหนังไตรภาคแรกมาตอกย้ำอีกว่าบทหนังที่พยายามคงไว้ทั้งปรัชญา ความเป็นแอ็กชันไซไฟ หรือฉากโชว์กังฟูยังไม่อาจเทียบเคียงกับหนัง 3 ภาคแรกได้เลย

และเช่นเดียวกันสิ่งที่หนังเพิ่มเข้ามาอย่างฉากการถกเถียงกันของทีมพัฒนาเกมที่มุ่งหาความหมายของเดอะแมทริกซ์ ก็ยิ่งทำให้คนที่ไม่เคยดูหนังสับสนเสียเปล่า ๆ และผม “กล้าสปอยล์” เลยว่าฉากหลังเอนด์เครดิตลานายังเลือกให้เราเสียเวลารอดูเครดิตยาว ๆ เพื่อฉากที่ไม่ได้มีประโยชน์ในการเล่าเรื่องนี้อีก ส่วนตัวเลยคิดว่าหากบทหนังสามารถแทรกแนวคิดใหม่ ๆ เข้าไปในเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกันกว่านี้น่าจะดูฉลาดกว่า เสียดายฝีมือทีมเขียนบทเปล่า ๆ

beartai

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *