รีวิวหนัง THE GRAY MAN

ชื่อเรื่องTHE GRAY MAN
เรตติ้ง7
นักแสดงRyan Gosling,Chris Evans
จำนวนตอน2.02 ชั่วโมง

รีวิวหนัง THE GRAY MAN

รีวิวหนัง THE GRAY MAN เป็นภาพยนตร์ที่ในตอนแรกนั้นถูกวางแผนเอาไว้ว่าจะได้สร้างเป็นภาพยนตร์แฟรนไชส์ภาคต่อหากินกันไปแบบยาวๆ เนื่องจากภาพแรกได้นักแสดงชื่อดังมาสวมบทบาทซึ่งน่าจะเรียกความสนใจให้กับบรรดาแฟนคลับได้เป็นอย่างดี และผู้กำกับเองก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่ยังเป็นสองพี่น้องฝีมือดีอย่างรุสโซ่อีกด้วย มันจึงควรที่จะออกมายอดเยี่ยมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะฉบับนวนิยายเองก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนยอดขายถล่มทลาย แต่กลับกลายเป็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ดันมีปัญหาตั้งแต่ภาคแรกอย่างน่าเสียดาย ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่นวนิยายค่อนข้างเก่าทำให้เนื้อเรื่องออกมาเชย มีความเป็นภาพยนตร์นักฆ่าสูตรสำเร็จที่ไม่มีอะไรน่าสนใจหรือแปลกใหม่พอจะดึงดูดผู้รับชมในยุคปัจจุบัน 

แต่ที่น่าเสียดายไปมากกว่านั้นก็คือภาพยนตร์เรื่องนี้แทบจะไม่มีอะไรที่ออกไปนอกกรอบเพื่อความน่าสนใจเลยแม้แต่น้อยและยังไม่มีจุดหักมุมที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นอีกด้วย กลายเป็นภาพยนตร์แนวสายลับที่มีดีเพียงแค่ฉากต่อสู้บางตอนนอกนั้นก็ดำเนินเรื่องราวแบบเส้นตรงทื่อๆ เสียอย่างนั้น สำหรับคนที่รับชมภาพยนตร์แนวสายลับมาเยอะพอมารับชมภาพยนตร์เรื่องนี้มันจึงทำให้รู้สึกเบื่อได้ไม่ยากเพราะเราสามารถเดาตอนต่อไปได้อย่างง่ายดาย

หนัง netflix แนะนํา 2022 พากย์ไทย

สิ่งที่พอจะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูสนุกมากขึ้นก็คือฉากการต่อสู้ที่มีความเล่นใหญ่โดยการถ่ายในกรุงปราก ประเทศสาธารณรัฐเช็กในช่วงกลางเรื่องซึ่งสามารถทำออกมาได้อย่างโดดเด่นและใหญ่โตสมการรอคอย แต่นอกจากนั้นฉากไคลแม็กซ์ก็ไม่ได้มีอะไรให้น่าพูดถึงหรือน่าสนใจเท่าที่ควร และนอกจากนี้มันยังมีอะไรไม่สมเหตุสมผลอีกหลายอย่างที่เกิดขึ้นในฉากการต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นการถูกระดมยิงจากเหล่านักฆ่าที่ถูกส่งมาในเมืองแบบสะเปะสะปะไม่สนว่าใครจะตาย ขอเพียงแค่ค่าพระเอกได้ก็พอ ยังไม่รวมไปถึงฉากการไล่ล่าบนรถรางกลางเมืองที่ทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถ้าเป็นนักฆ่าจากหน่วยงานรัฐบาลจริงก็คงจะไม่ทำงานโจ่งแจ้งถึงขนาดนี้

ภาพยนตร์จาก NETFLIX ที่ท่าดีแต่ทีเหลว ตั้งแต่ NETFLIX ก้าวขึ้นมากลายเป็นบริษัท STREAMING ยักษ์ใหญ่ของโลกพวกเขาก็สามารถกวาดรายได้ไปเป็นจำนวนมหาศาลและเริ่มเบิกทางสู่ธุรกิจใหม่ที่เติบโตมากขึ้นกว่าเดิม จากปกติที่มักจะซื้อลิขสิทธิ์สื่อชื่อดังในแต่ละประเทศมาออกฉายบนแพลตฟอร์มของตัวเองพวกเขาก็เริ่มผลิตสื่อเป็นของตัวเองมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ ภาพยนตร์ หรือแม้แต่อนิเมชั่นก็ตาม บางเรื่องสามารถทำออกมาได้อย่างน่าสนใจและน่าประทับใจเป็นอย่างมาก ในขณะที่บางเรื่องกลับทำออกมาได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ จนตอนนี้ภาพยนตร์ ORIGINAL จากทาง NETFLIX เริ่มกลายเป็นสัญลักษณ์ของภาพยนตร์แนว MASS แต่ตกมาตรฐานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างมากโดยเฉพาะภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้อย่าง THE GRAY MAN ภาพยนตร์ที่ได้ผู้กำกับชื่อดังอย่างพี่น้องรุสโซมานั่งแท่นกำกับด้วยตัวเอง แถมนักแสดงนำนั้นยังได้นักแสดงชื่อดังระดับฮอลลีวูดอย่างไรอัน กรอสลิ่งและคริส อีแวนส์รับบทนำอีกด้วย แต่ทั้งหมดทั้งมวลของภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมีดีเพียงแค่ฉากการต่อสู้ใหญ่แถวกลางเรื่องเท่านั้น นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่น่าสนใจหรือน่าดึงดูดมากพอที่จะทำให้ผู้รับชมรู้สึกอยากจะดูต่อเลยแม้แต่น้อย 

สุดท้ายแล้วมันจึงกลายเป็นเพียงแค่ภาพยนตร์สายลับสูตรสำเร็จที่ทำออกมาเหมือนกับรีบส่งการบ้าน ไม่มีอะไรที่หักมุมหรือพลิกแพลงเลยแม้แต่น้อยแถมยังดูเชยสุดๆ อีกด้วย ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่มันดัดแปลงมาจากนวนิยายเก่าที่ออกมาให้เราอ่านเมื่อ 18 ปีที่แล้ว เลยทำให้บรรยากาศภายในภาพยนตร์ดูเฉยไปด้วย แต่ทั้งที่ได้นักแสดงนำหน้าฝีมือลงไปถือผู้กำกับมือดีมาแบกภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งเรื่อง การที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาน่าผิดหวังจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย สำหรับใครที่สนใจวันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีเรื่องราวอย่างไรและคู่ควรแก่การรับชมหรือไม่กัน เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE GRAY MAN 

THE GRAY MAN เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของอดีตเจ้าหน้าที่ CIA คนหนึ่งที่มีชื่อว่าคอร์ท เจนทรี่ ปัจจุบันเขาเป็นที่รู้จักในฐานะของชายล่องหนในชื่อเซียร่าซิกซ์ ที่มาของชื่อเนื่องจากเขาเป็นนักฆ่ารับหมายเลข 6 ในโครงการลับของรัฐบาลภายใต้การดึงตัวของอดีตหัวหน้าเขามาจากเรือนจำกลางเพื่อนร่วมงานด้วยกัน

 เขาเป็นนักฆ่าฝีมือดีที่เก่งที่สุดในโครงการก็ว่าได้ แต่ในวันหนึ่งเขาดันได้รับภารกิจให้ไปสังหารนักฆ่าในโครงการเดียวกันรวมไปถึงผู้ควบคุมโครงการดังกล่าวที่มีความลับปกปิดอยู่ เขาจึงต้องการที่จะค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับโครงการลับดังกล่าวกันแน่ แต่ความสอดรู้สอดเห็นกลับทำให้เขาถูกทีมนักฆ่าคนอื่นไล่ล่าโดยอัตโนมัติ 

สถานการณ์ในตอนนี้พลิกผันจากผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาถูกจับตามองจากทุกแห่งบนโลกใบนี้จากการสั่งการของอดีตเพื่อนร่วมงาน CIA อย่างลอยด์ แฮนเซ่นที่พยายามจะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเขาให้สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตามโชคดีที่ยังมีเจ้าหน้าที่มิแรนด้าคอยให้ความช่วยเหลือเขาอยู่ตลอดเมื่อเขาต้องการ เขาจึงต้องพยายามสืบหาความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้สำเร็จพร้อมทั้งหลบหนีการไล่ล่าของบรรดานักฆ่ามากฝีมือ แล้วยังต้องช่วยเหลือผู้มีพระคุณในอดีตของตนเองอีกด้วย ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE GRAY MAN 

ตัวอย่างหนัง THE GRAY MAN

รีวิว หนัง THE GRAY MAN บางส่วนจาก trueid

รีวิว The Gray Man (ล่องหนฆ่า) หนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ที่เต็มไปด้วยนักแสดงชื่อดัง แอ็คชั่นจัดเต็มเน้นความบันเทิง บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะติดตามเรื่องราวของ Six (Ryan Gosling) นักฆ่าล่องหนที่ทำงานให้กับ CIA เขาเป็นอดีตนักโทษที่ถูกใช้ให้ทำงานเพื่อแลกกับอิสระภาพ เขาทำงานให้กับหน่วยงานมาเป็นเวลานาน จนในวันหนึ่ง เขาได้รับภารกิจให้สังหารชายปริศนาคนหนึ่ง และก่อนที่เขาจะสังหาร ชายคนนั้นก็ได้บอกความลับที่อยู่เบื้องหลังของหน่วยงานเขา พร้อมกับให้หลักฐานสำคัญไว้กับเขา ด้วยเหตุนี้ ทำให้เขาถูกตั้งค่าหัว และถูกผู้มีอำนาจส่งนักฆ่าจากทั่วโลกเพื่อไล่ตามเขา โดยนักฆ่าเหล่านั้น นำทีมโดย Lloyd Hansen (Chris Evans) นักฆ่ารับจ้างสุดโรคจิตที่สนใจเพียงแค่ผลลัพธ์ ต่อให้มีคนบริสุทธิ์โดนลูกหลงเขาก็ไม่สน สุดท้ายแล้ว Six จะสามารถหนีรอดจากการไล่ล่าครั้งนี้ได้หรือไม่ ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง The Gray Man (ล่องหนฆ่า) ดูได้แล้ววันนี้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflix

บอกก่อนเลยว่า ก่อนได้ดูผมตั้งความหวังกับเรื่องนี้ไว้พอสมควร ตั้งความหวังตั้งแต่เห็นชื่อผู้กำกับ และเหล่านักแสดงในเรื่องที่มีแต่คนดังๆ ทั้งนั้น แต่เมื่อได้ดูจริงๆ กลับกลายเป็นว่าแอบผิดหวังเล็กน้อย เอาหล่ะ มาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่า อย่างแรกเลยคือเรื่องบท บทของเรื่องนี้ธรรมดามาก ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน พล็อตหลักคือไล่ล่ากันทั้งเรื่อง เน้นแอ็คชั่นหนักๆ และค่อยๆ เฉลยความจริงออกมาทีละนิดในระหว่างทาง และด้วยความที่บทมันไม่มีอะไรมาก เลยรู้สึกว่าไม่ได้น่าติดตามอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเบื่อนะครับ ดูได้เรื่อยๆ เพลินๆ แค่หนังดูนักแสดงและฉากแอ็คชั่นก็คุ้มแล้ว ส่วนด้านการดำเนินเรื่อง ถือว่าทำได้ดีอยู่ระดับหนึ่ง เล่าเรื่องไว กระชับ เข้าใจง่าย เอาง่ายๆ คือสูตรสำเร็จของหนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์เลย คอหนังแอ็คชั่นน่าจะหลงรักเรื่องนี้ได้ไม่ยาก

ต่อมาด้านการแสดง อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ ว่าเรื่องนี้เต็มไปด้วยนักแสดงมากฝีมือ แต่กลายเป็นว่ามันแอบรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อย พระเอกอย่าง Ryan Gosling ก็แสดงได้ดีนะ ฉากแอ็คชั่นก็เท่ดี แต่ส่วนตัวผมรู้สึกว่าตัวละครมันขาดเสน่ห์ไปนิดนึง ไม่ได้น่าจดจำมากเท่าไหร่ ส่วน Chris Evans ที่รับบทเป็นวายร้าย ผมก็มองว่ามันยังไม่ถึง เขาไม่ได้ดูร้ายหรือโรคจิตจนน่ากลัวอย่างที่คาดไว้ ส่วนตัวผมมองว่าตอนเขาแสดงเป็นตัวร้ายใน Knives Out (2019) นั้นออกมาดีกว่าเรื่องนี้ ตอนนั้นดูมีเสน่มากกว่าและน่าจดจำมากกว่า เรื่องนี้แค่ดูเป็นคนบ้าๆ แต่ไม่ได้ดูน่าเกรงขามหรือน่ากลัวเท่าไหร่ มาต่อกันที่คนที่ผมชอบบ้าง นั่นคือ Ana de Armas เรื่องนี้เธอได้บู๊แบบจัดเต็มเลย หลังจากที่เธอเคยโชว์ฉากแอ็คชั่นมาแล้วใน No Time to Die (2021) มาเรื่องนี้เธอมีบทเยอะขึ้นมาก และก็แสดงได้ดีด้วย สวยเหมือนเดิม ส่วนคนอื่นๆ ที่เหลือก็แสดงได้ดีกันทุกคน ในด้านการแสดงไม่มีอะไรจะติมากนัก โดยรวมคือทุกคนทำได้ดีตามมาตรฐานทั่วไป

trueid

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *