ชื่อเรื่องThe Father Who Moves Mountains
เรตติ้ง5.5
นักแสดงAdrian Titieni
จำนวนตอน1.48 ชั่วโมง

รีวิวหนัง The Father Who Moves Mountains Netflix

รีวิวหนัง The Father Who Moves Mountains Netflix ภาพยนตร์ดราม่าระทึกขวัญแนวครอบครัวที่จะทำให้คุณหากต้องหลั่งน้ำตา ปกติแล้วในภาพยนตร์แนวระทึกขวัญนั้นมักจะมาในลักษณะของภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยความเสียวสยองหรือการได้ล่าที่เต็มไปด้วยความระทึกอาจมีบ้างที่ผสมผสานเรื่องราวสุดดราม่าเข้ามา แต่ก็ไม่ได้ใช้เป็นแกนหลักของเรื่อง แต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตามมีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งบน Netflix ที่ได้นำเอาเรื่องราวสุดดราม่าครอบครัวที่จะทำให้คุณต้องหลั่งน้ำตามาผสมผสานเข้ากับภาพยนตร์แนวระทึกขวัญช่วยชีวิตนั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง The Father Who Moves Mountains

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผสมผสานความเป็นภาพยนตร์ยอดนิยมหลากหลายรูปแบบเอาไว้ในเรื่องเดียวไม่ว่าจะเป็นการเป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญช่วยชีวิตภาพยนตร์แนวดราม่าครอบครัวภาพยนตร์แนวเอาชีวิตรอดจากภูเขาน้ำแข็งสุดอันตรายทุกอย่างได้รวมกันเอาไว้ในเรื่องเดียวแถมยังสามารถผสมผสานกันได้อย่างกลมกล่อมกำลังลงตัวทำให้ถึงแม้ว่ามันจะเป็นภาพยนตร์ที่อยากจะไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร แต่เราก็อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ลองชมดูภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณได้รู้ว่าแท้จริงแล้วท่ามกลางสภาพภูมิอากาศ

และภูมิประเทศที่เป็นไปด้วยความอันตรายความยากลำบากอย่างภูเขาน้ำแข็งสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้อันตรายไปมากกว่าจิตใจอันดำมืดของมนุษย์ที่ต้องการจะเอาตัวรอดให้สำเร็จมันเป็นภาพยนตร์คุณภาพที่ครั้งหนึ่งเคยเข้าร่วมการประกวดเทศกาล Shanghai International Film Festival ในปี 2021 มาก่อนเลยทีเดียวได้รับคำวิจารณ์จากเหล่านักวิจารณ์ในแง่บวกอย่างล้นหลามก่อนที่ Netflix จะซื้อมาฉายในเวลาต่อมา

เรื่องราวภายในภาพยนตร์เรื่อง The Father Who Moves Mountains

The Father Who Moves Mountains จะเล่าถึงเรื่องราวของชายที่มีชื่อว่ามีขาอานในอดีตนั้นเขาเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานข่าวกรองของโรมาเนียปัจจุบันเขาเป็นสามีและว่าที่คุณพ่อกับภรรยาที่กำลังตั้งท้องที่มีชื่อว่าพอลล่าพวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขและรอคอยวันที่ลูกจะลืมตาเกิดมาบนโลกใบนี้ชีวิตของเขานั้นเต็มไปด้วยความสุขในทุกๆวันจนกระทั่งวันหนึ่งข่าวร้ายก็เดินทางมาถึงบ้านของเขาตำรวจท้องถิ่นได้มาแจ้งเขากับตัวว่าลูกชายที่เกิดกับภรรยาเก่าของเขาที่มีชื่อว่าตอดมินนั้นได้ออกเดินทางท่องเที่ยวบนภูเขาหิมะพร้อมกับแฟนสาวเพื่อนเขาเที่ยวชมทัศนียภาพอันสวยงามได้หายตัวไปอย่างลึกลับ

ไม่มีใครค้นเจอหรือไม่มีใครสามารถติดต่อได้เลยแม้แต่คนเดียวแม้ว่าเขาและลูกนั้นจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แถมแทบจะไม่เคยได้คุยหรือติดต่อกันมาเป็นเวลายาวนานหลายปี แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจละทิ้งครอบครัวที่เต็มไปด้วยความสุขรวมไปถึงเงินทองเพื่อออกตามหาลูกชายที่หายตัวไปเพราะหวังว่าตัวเองนั้นจะได้ทำหน้าที่เป็นพ่อที่ดีสักครั้งให้กับลูกชายคนนี้ แต่การตัดสินใจช่วยเหลือลูกชายกับภรรยาเก่าก็ทำให้เขานั้นได้พบเจอกับภรรยาเก่าที่ปัจจุบันนี้มีสภาพเป็นคนวิกลจริตหลังจากที่ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันมาเป็นระยะเวลาหลายปีเธอมาเพื่อขอร้องให้เขานั้นช่วยเหลือลูกของพวกเขาด้วย

เหตุนี้ขายหนุ่มจึงต้องร่วมมือกับนักปีนเขามืออาชีพเพื่อออกตามหาลูกชายที่หายตัวไป แต่ภารกิจในครั้งนี้ไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อยเพราะพวกเขาต้องเดินทางขึ้นไปบนภูเขาสูงที่เต็มไปด้วยหิมะอันหนาวเหน็บและระดับออกซิเจนที่ค่อยๆลดลงเต็มที่การเดินทางท่ามกลางสภาวะอากาศและภูมิประเทศที่เลวร้ายได้ทำให้ความสัมพันธ์ของคนภายในทีมเริ่มสั่นคลอนมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เพียงเท่านั้นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของมีขาและคอสมินเองก็ยังได้รับผลกระทบจากความเลวร้ายของภูเขาน้ำแข็งที่กลายมาเป็นบทพิสูจน์ความเป็นพ่อของชายหนุ่มอีกด้วยการเดินทางไปช่วยเหลือลูกครั้งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตามรับชมกันในภาพยนตร์

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง The Father Who Moves Mountains

The Father Who Moves Mountains เป็นภาพยนตร์ที่ใช้โลเคชั่นสุดโหดร้ายทั้งสภาพพื้นที่และสภาพอากาศมันกลายเป็นสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความอันตรายและความกดดันที่จะทำให้มนุษย์แสดงออกถึงด้านมืดของแต่ละคนออกมาอย่างไม่สามารถปกปิดได้แต่ละช่วงของการเล่าเรื่องนั้นจะเป็นไปด้วยความหวังและความสิ้นหวังตัดสลับกันไปแม้ว่ามีบางช่วงที่เรื่องราวค่อนข้างจะเล่าช้าและสงบนิ่ง แต่มันกลับเต็มไปด้วยพลังของนักแสดงและสภาพแวดล้อมรอบข้างหนึ่งในความดีงามของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ

ดนตรีประกอบที่ช่วยให้ผู้รับชมสามารถเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้มากยิ่งขึ้นตัวละครแต่ละตัวนั้นก็เต็มไปด้วยความน่าสนใจมีความเป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยมิติอารมณ์มากมายมีปมภายในจิตใจเป็นของตัวเองที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละคนไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถสะท้อนปัญหาสังคมได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะปัญหาในครอบครัวและการจัดการกับชีวิตการรับมือกับความจริงที่ยากจะทำได้ แต่อย่างไรก็ตามจุดด้อยของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีเช่นเดียวกันนั่นก็คือมันเป็นภาพยนตร์แนวช่วยเหลือสูตรสำเร็จที่วิธีการขั้นตอนในการดำเนินเรื่องค่อนข้างจะเดาได้ง่ายแม้ว่าจะไม่ได้นำเสนอความลึกแบบเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย แต่ก็ยังเป็นสูตรสำเร็จอยู่ดีมีบางช่วงที่เน้นการเร้าอารมณ์มากเกินไปจนทำให้ภาพยนตร์ค่อนข้างน่าเบื่อเช่นเดียวกัน

ตัวอย่างหนัง The Father Who Moves Mountains

รีวิว หนัง The Father Who Moves Mountains บางส่วนจาก playinone

The Father Who Moves Mountains ภูเขามิอาจขวางกั้น (ชื่อภาษาโรมาเนีย: Tata mută munții) ภาพยนตร์ดราม่าสัญชาติโรมาเนีย-สวีเดนที่บอกเล่าบรรยากาศอันหนาวเหน็บและเยือกเย็นบนภูเขาหิมะที่สูงชันและอันตรายซึ่งแทนความมืดมิดในใจของมนุษย์ที่ต้องต่อสู้กับอุปสรรคเพื่อไปให้ถึงแสงสว่างโดยเนื้อเรื่องที่บีบคั้นอารมณ์และสะเทือนใจ กับภารกิจไร้หวังของอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองที่เสี่ยงเดิมพันทุกสิ่งเพื่อช่วยเหลือลูกชายของภรรยาเก่าที่มีปัญหากับเขาก่อนจะหายตัวอย่างลึกลับระหว่างการปีนเขาจนคนเชื่อว่าเขาน่าจะตายแล้ว ท่ามกลางสภาพอากาศที่โหดร้ายของหิมะและความจริงอันเจ็บปวดของชายคนนี้ก็ค่อย ๆ เผยออกมาโดยมีภูเขาเป็นตัวกระตุ้น โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เข้าร่วมการประกวดใน Shanghai International Film Festival ครั้งที่ 24 ปี 2021 เมื่อเดือนมิถุนายน และได้รับคำวิจารณ์จากนักวิจารณ์ในแง่บวก ก่อนที่หนังจะถูกซื้อมาฉายในเน็ตฟลิกซ์ มีแค่ซับไทยและซาวด์แทร็ค

มีร์ชา จิอานู อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองโรมาเนียที่กำลังจะมีข่าวดีกับภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์อย่างพอลล่า แต่แล้วข่าวร้ายก็ส่งตรงถึงบ้านเมื่อตำรวจท้องถิ่นได้แจ้งว่าลูกชายของภรรยาเก่าของเขา คอสมิน ที่ไม่ได้คุยหรือติดต่อกันเป็นเวลานานได้หายตัวไประหว่างทริปปีนเขากับแฟนสาวบนภูเขาหิมะที่สวยงามและน่ากลัว เขาจึงต้องละทิ้งทุกอย่างทั้งความสุขและเงินตราเพื่อออกตามหาลูกชายที่เขาหวังว่าจะได้ทำหน้าที่พ่อที่ดีหลังจากที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้ไปสวย นั่นทำให้ชีวิตของเขาได้พัวพันกับ อลิน่า ภรรยาเก่าที่สภาพวิกลจริตอีกครั้งหลังจากไม่ได้เจอเป็นเวลานาน และพยายามจะขอให้เขาตามหาลูก เขาตัดสินใจลงพื้นที่ร่วมกับทีมปีนเขาที่นำโดย คริสเตียน ออกทำภารกิจที่เสี่ยงตายและยากที่ประสบความสำเร็จ ทั้งสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงโอกาสตามหาลูกชายของเขา และค่อย ๆ สร้างรอยร้าวให้กับทีมค้นหามากขึ้น เมื่อความหวังเริ่มเลือนลาง มีร์ชาจึงต้องตัดสินใจว่าความรักของคนเป็นพ่อจะมากพอที่จะสั่นคลอนภูเขาให้เปิดทางเขาไปสู่ความจริง หรือเป็นความสิ้นหวังที่ดำดิ่งและไร้ทางออก

เรื่องราวเริ่มอย่างเรียบง่ายไม่มีอะไรซับซ้อนตัวละครได้รับข่าวที่ชวนช็อคและตัดสินใจลงพื้นที่ช่วยเหลือ แต่ยังไม่ทันที่ที่จะทำภารกิจ เขาต้องเจอกับความคิดเห็นมากมายจากคนรอบ ๆ ที่ทำให้เขาแยกไม่ออกระหว่างความหวังและความเพ้อฝัน ก่อนหนังจะค่อย ๆ เปิดเผยปมตัวละครที่ชวนให้ขบคิดว่าเพราะอะไร และทำไมเขาถึงต้องทุ่มเทเพื่อตามหา แม้จะไม่ชัดเจน แต่ด้วยตัวละครรอบ ๆ ตัวที่พร้อมสนับสนุนเขาและตัวละครที่พร้อมจะขัดขวาง ทั้งธรรมชาติที๋โหดร้ายและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือว่าไม่ได้แตกต่างจากหนังช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่พยายามเล่นเรื่องของดราม่าระทึกทางจิตใจและความรู้สึกที่ซับซ้อนมากกว่าการประเคนใส่ฉากภัยพิบัติหรือความระทึกแบบกายภาพที่แข่งขันกับเงื่อนไขทั้งเวลาและสภาพอากาศ เพราะเอาเข้าจริง หนังให้ความสำคัญกับตัวละครหลักและภูเขาเป็นเหมือนสถานที่ให้ตัวละครได้สำรวจความคิดของตัวละคร ก่อนจะค่อย ๆ ประเคนฉากสะเทือนอารมณ์แบบไม่ฟูมฟายแต่ชวนให้ใจสลาย แม้หนังจะพยายามทำให้สถานการณ์ดูมีความหวัง แต่หนังก็ไม่เคยให้มันจริง ๆ มีแต่จะทำให้เรารู้สึกดิ่งไปพร้อมกับตัวละครกับเรื่องราวที่มีกราฟเดียวคือดราม่าปนขายฝันเหมือนจะเป็นแรงบันดาลใจแต่ทั้งหมดก็เป็นแค่ความว่างแปล่า ซึ่งส่วนนี้ถึงเป็นจุดเด่นมาก เพราะอารมณ์ของตัวละครมันก็จะอึน ๆ ไม่มีความสุข และติดอยู่กับความรู้สึกมากมายที่สลัดไม่ออกแม้กระทั่งหนังจบ

playinone

หารายได้เสริมกับคาสิโนออนไลน์และแทงบอลออนไลน์ที่ดีที่สุด บริการ gclub88888 ฝากถอนรวดเร็ว 24 ชม. ด้วยระบบ ฝากถอนออโต้ เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ ที่ทันสมัยที่สุด มีผู้ใช้งานมากที่สุดในตอนนี้

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *