| ชื่อเรื่อง | The Batman |
| เรตติ้ง | 9.5 |
| นักแสดง | Robert Pattinson,Zoë Kravitz |
| จำนวนตอน | 2.56 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง The Batman
รีวิวหนัง The Batman การกลับมาอีกครั้งของอัศวินรัตติกาลฆ่าไม่ตาย ภาพยนตร์แนวซุปเปอร์ฮีโร่หากสร้างขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จก็จะมีการสร้างต่อออกมาเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่ถ้าไม่ประสบความสำเร็จสักครั้งนึงการจะเอากลับมาสร้างใหม่นั้นถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เพราะซุปเปอร์ฮีโร่มีตัวตนที่จดจำได้ง่าย การจะลบภาพลักษณ์ในภาพยนตร์ที่ทำออกมาได้ไม่ค่อยดีจึงกลายเป็นเรื่องยาก แต่ไม่ใช่สำหรับอัศวินรัตติกาลอย่าง Batman แต่อย่างใด เพราะถึงแม้ว่าจะมีบางครั้งที่ภาพยนตร์ Batman จะไม่ประสบความสำเร็จและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบแต่สุดท้ายแล้วเราก็จะเห็นภาพยนตร์เกี่ยวกับอัศวินคนนี้ออกมาอยู่เสมอ
และในปีนี้ก็มีภาพยนตร์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Batman ออกมาอีกครั้งในชื่อ The Batman ภาพยนตร์ที่ออกฉายในวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นความยาวมหากาพย์เลยทีเดียวสำหรับภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่สัก 1 เรื่อง แต่หลังจากออกฉายในโรงภาพยนตร์แล้วกระแสตอบรับส่วนใหญ่กลับออกมาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำได้ดีจนผู้รับชมแทบไม่รู้สึกเลยว่าเวลาผ่านไป 3 ชั่วโมงเรียบร้อยแล้ว
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านมุมของตัวละคร Batman อย่าง Bruce Wayne ในการทำภารกิจแรกก่อนที่มันจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้กับความอยุติธรรมและเหล่าร้ายในเมืองก๊อตแทมเพื่อนำพาความสงบสุขกลับคืนสู่เมืองแห่งนี้อีกครั้ง โดยในครั้งนี้ทั้งผู้กำกับและผู้เขียนบทมีความต้องการที่จะเน้นหนักไปที่ตัวละคร Bruce Wayne มากกว่า Batman เพราะพวกเขาไม่ต้องการให้ Bruce เป็นเพียงแค่ตัวละครร้องในขณะที่ Batman เป็นตัวละครหลักแต่อย่างใด ถือว่าเป็นการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะถึงแม้ว่าทั้งสองจะเป็นคนเดียวกันแต่บทบาทและหน้าที่ของทั้งสองต่างกันอย่างสิ้นเชิงและภาพยนตร์ส่วนใหญ่ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Batman ก็ไม่ค่อยลงลึกไปที่ตัวละคร Bruce Wayne สักเท่าไหร่
รีวิว The Batman
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง The Batman
The Batman เป็นการเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับอัศวินรัตติกาลอย่าง Batman ผ่านตัวละครอย่าง Bruce Wayne โดยภาพยนตร์จะพาเราไปรับชมเหตุการณ์ฆาตกรรมของเหยื่อรายแรกที่เป็นนายกรัฐมนตรีประจำเมืองก๊อตแทม หลังจากนั้นก็ได้เกิดเหตุฆาตกรรมตามมาซึ่งแต่ละเหตุการณ์นั้นล้วนแล้วแต่เป็นปริศนาและมีคำถามสำคัญที่ถูกทิ้งไว้โดยฆาตกรต่อเนื่องอย่างเดอะ ริดเลอร์ ฆาตกรที่จัดการเฉพาะผู้มีอำนาจและนักการเมืองในเมืองก๊อตแทมเท่านั้น
ทุกครั้งที่เกิดเหตุฆาตกรรมจะมีข้อความระบุไว้บนจ่าหน้าซองถึง Batman อยู่เสมอ Bruce Wayne ที่อยู่ภายใต้หน้ากากของอัศวินรัตติกาลได้เรียนรู้ว่าอดีตของพ่อแม่เขาที่เป็นคนน่ายกย่องอาจถูกทำให้แปดเปื้อนจากบาปจนทำให้กระแท่นเดินไปสู่หนทางที่มืดมน เต็มไปด้วยการฉ้อโกงจนไม่เหลือแสงสว่างอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขปริศนาและหาคำตอบให้ได้ว่าฆาตกรต่อเนื่องคนนี้เป็นใครกันแน่และต้องทำให้ได้ก่อนที่เป้าหมายของมันจะสำเร็จอีกด้วย
ในขณะเดียวกันเอง Bruce Wayne ในหน้ากากของ Batmanก็ได้รู้จักกับหญิงสาวที่มีชื่อว่าเซลิน่า นักย่องเบาพราวเสน่ห์ที่เปรียบเสมือนกับกุญแจไขความลับดำมืดของเมืองก๊อตแทมให้สำเร็จ สุดท้ายแล้วขอจะสามารถทำภารกิจได้สำเร็จหรือไม่ และเขาจะได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์ในครั้งนี้บ้างต้องไปติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง The Batman
The Batman เป็นภาพยนตร์ที่มีจุดเด่นตรงที่มีการใส่ความสมจริงเข้ามาโดยเฉพาะเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ใครเป็นแฟน Batman จะรู้ดีว่าตำรวจไม่ค่อยชอบเขาสักเท่าไหร่ นั่นก็เป็นเพราะว่าฮีโร่รัตติกาลผู้นี้ทำตัวเหมือนกับศาลเตี้ย และหากมีคนเป็นศาลเตี้ยในเมืองตำรวจที่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมายก็จะถูกมองว่าไม่มีประโยชน์ แถมเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับคนในเครื่องแบบซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวเหม็นเน่าจนมันขยับขยายกลายเป็นการต่อสู้กับระบบขึ้นมา การปรากฏตัวของฆาตกรต่อเนื่องจึงเหมือนกับการชำแหละความโสโครกในเมืองก๊อตแทมที่ถูกปกปิดเอาไว้มานานให้ปรากฏขึ้นสู่สายตาของประชาชน
แต่ละตัวละครทั้งที่มีบทบาทและมีบทบาทไม่มากทำให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นถูกอำนาจฤทธิ์รอนโอกาสและสิทธิมากแค่ไหน นอกจากนี้บางคนยังกลายเป็นผลผลิตจากระบบอุปถัมภ์ที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนานในเมืองก๊อตแทมอีกด้วย การไขปริศนาคดีฆาตกรรมของเหยื่อแต่ละคนจึงไม่ใช่ภารกิจในการออกปกป้องเหยื่ออีกต่อไป แต่มันเป็นเหมือนกับการเล่นเกมไขปริศนาเพื่อค้นหาความจริงมากกว่าทำให้ภาพยนตร์มีความตื่นเต้นระทึกขวัญมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังคงมีจุดด้อยอยู่เช่นเดียวกัน ด้วยความยาวถึง 3 ชั่วโมงถึงแม้ว่าจะสนุกมากแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าคุณพลาดลุกเข้าห้องน้ำเมื่อไหร่กลับมาชมอาจจะพลาดฉากสำคัญไปที่ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติต่อเรื่องราวที่เหลือได้ นอกจากนี้หากคุณไม่ได้อยู่ในโรงภาพยนตร์เพื่อรับชมเอ็นเครดิตจะเป็นอะไรที่น่าเสียดายเป็นอย่างมากเพราะมันทำออกมาได้สมกันรอคอยมากที่สุด โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็นภาพยนตร์ Batman ที่ทำออกมาได้แปลกใหม่และน่าสนใจ เรื่องราวมีความสมจริง นักแสดงอย่างโรเบิร์ต แพททินสันก็สามารถแสดงบทบาทของ Bruce Wayne ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมควรค่าแก่การรับชม สล็อต เว็บใหญ่ pg
ตัวอย่างหนัง The Batman
รีวิว หนัง The Batman บางส่วนจาก playinone
แบทแมนเวอร์ชั่นที่ดาร์คที่สุด มืดหม่นที่สุด จริงจังเรื่องความสมจริงที่สุด ด้วยความเป็นหนังฟิล์มนัวร์อาชญากรรมโดยตรง ที่มาพร้อมงานคุณภาพสูงในทุกด้าน องค์ประกอบทุกอย่างคือเข้มข้นดีมากในแนวทางนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเหมาะกับผู้ชมกลุ่มแฟนแบทแมนแท้ๆ โดยตรงมากกว่าผู้ชมกลุ่มแมสโดยทั่วไปที่อาจจะไม่ว้าวอะไรกับหนังแบทแมนที่ไม่ได้เน้นฉากแอ็กชั่นอัดความบันเทิงแบบที่ผ่านมา
The Batman ผลงานรีเมคทำใหม่อีกครั้งโดย ผู้กำกับ แมตต์ รีฟส์ ที่พาคนดูไปพบกับแบทแมนแบบหนังฟิล์มนัวร์อาชญากรรมที่กับความสมจริงของเรื่องราวต่างออกไปจากแบทแมนเวอร์ชั่นที่ผ่านมาทั้งหมด
แบทแมนเวอร์ชั่นผู้กำกับ แมตต์ รีฟส์ ที่มาในแนวสืบสวนอาชญากรรมฟิล์มนัวร์แตกต่างออกไปจากเวอร์ชั่นที่เคยทำมาทั้งหมด ซึ่งการเปลี่ยนแนวทางแบบนี้เป็นเรื่องปกติของแบทแมนที่มีรีเมคออกมาเรื่อยๆ ตามวิสัยทัศน์ของผู้กำกับแต่ละคน แน่นอนว่าเวอร์ชั่นที่โด่งดังขนถึงขั้นขึ้นหิ้งที่สุดก็เป็นของผู้กำกับโนแลน ซึ่งผลงานที่ออกมากลายเป็นงานมาตรฐานสูงมาก จนทำให้แบทแมนหลังจากนั้นยิ่งถูกเปรียบเทียบและทำยากขึ้นมาก อย่างของแบทแมนเบนในจัสติกลีกอาจจะไม่นับรวมเพราะไม่ได้มีเรื่องราวของตัวเอง แต่สำหรับเวอร์ชั่นนี้เป็นเรื่องราวเดี่ยวของแบทแมน แน่นอนว่าต้องถูกตั้งความคาดหวังไว้สูงมาก จนกลายเป็นหนังที่คนในเว็บ imdb รอคอยมากอันดับ 2 ของปีนี้ ซึ่งผู้เขียนเองก็เป็นแฟนแบทแมนมาตลอด และก็ตั้งตารอคอยภาคนี้อยู่เช่นกัน
แบทแมนเวอร์ชั่นนี้มีธีมชัดเจนว่าต้องการเล่าเรื่องราวสืบสวนแท้ๆ แบบในคอมมิคดั้งเดิม ซึ่งก็กลายมาเป็นแนวฟิล์มนัวร์อาชญากรรมที่มีองค์ประกอบทุกอย่างแบบที่แนวนี้ทำกันมาก่อน อย่างภาพสีเหลืองส้ม ฉากเมืองที่มีฝนตกอยู่แทบจะตลอดเวลา ตัวละครข้าราชการเต็มไปด้วยการทุจริต ไม่ก็สีเทาๆ กันแทบทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอกอย่างแบทแมนก็นับรวมอยู่ด้วย ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้มันช่วยผลักดันให้เรื่องราวดูดาร์คเคร่งเครียดเพิ่มขึ้นมากกว่าเวอร์ชั่นที่ผ่านมาๆ ที่ปกติแบทแมนเองก็ค่อนข้างดาร์คอยู่แล้ว แต่เวอร์ชั่นนี้น่าจะถือว่าไปจนสุดทางของแนวดาร์คแบบที่แบทแมนดั้งเดิมเป็นแล้ว และก็ยังอยู่ในขอบเขตเรต PG13 เด็กดูได้ คือถ้าจะดาร์คกว่านี้ก็ต้องหลุดจากเรตนี้ไป แต่จากที่รับชมคิดว่านี่ก็เหมาะสมดีอยู่แล้ว ถ้าขนาดเห็นเลือดหรือฉากแหวะคงไม่ใช่ แบทแมนยังไงก็ยังอยู่ในกรอบไม่ฆ่าคน และเวอร์ชั่นนี้ก็ยังคงรักษาจุดนี้ไว้อยู่เช่นเดิม (ยกเว้นแบทเบนที่นอกกรอบไป)
เวอร์ชั่นนี้โฟกัสเรื่องราวว่าแบทแมนคือฮีโร่ศาลเตี้ยที่ใช้ความแค้นจัดการอาชญากรให้เกิดความกลัว โดยสปอร์ตไลท์แบทแมนปกติจะเป็นการเรียกตัว แต่ภาคนี้มีส่วนขยายความเพิ่มว่านี่คือสัญลักษณ์ที่ส่งขึ้นบนฟ้าให้อาชญากรที่เห็นเกรงกลัวแบทแมน และไม่ใช่แค่อาชญากรที่เกรงกลัว แต่ผู้คนในก็อตแธมก็ไม่ได้ปลื้มกับตัวประหลาดแบบแบทแมน เพราะมันแสดงให้เห็นว่าตำรวจทำหน้าที่หย่อนยานแค่ไหนถึงมีไอ้บ้าใส่ชุดค้างคาวแบบนี้มาเป็นศาลเตี้ย ซึ่งตำรวจเองก็ไม่ได้รู้สึกเป็นมิตรกับแบทแมนอะไรด้วย แต่ภาคนี้แบทแมนเองต้องทำงานควบคู่กับตำรวจ โดยมีสารวัตรกอร์ดอนเพียงคนเดียวที่คอยปกป้องเขา และให้มาดูหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุได้ ซึ่งจะต่างจากเวอร์ชั่นก่อนๆ ไปเลย ดังนั้นเราจะได้เห็นแบทแมนทำงานแบบนักสืบแท้ๆ มีการวิเคราะห์หลักฐานโดยละเอียด แต่ที่ต่างออกไปคือแบทแมนมีอุปกรณ์ไฮเทคมาช่วยด้วยแค่นั้น แต่ด้วยความที่ธีมเรื่องคือสมจริง อุปกรณ์ไฮเทคของภาคนี้ก็เลยไม่ดูล้ำอะไรมากนัก ซึ่งจุดนี้ถือเป็นข้อดีที่ทำให้เรื่องราวยังอยู่ในกรอบความเป็นจริงไม่เวอร์เกินไป และทำให้ตัวร้ายหลักริดเลอร์ดูสมน้ำสมเนื้อกับแบทแมนเวอร์ชั่นนี้เป็นอย่างมาก
playinone