ชื่อเรื่องSONIC THE HEDGEHOG 2
เรตติ้ง8
นักแสดงJim Carrey,James Marsden
จำนวนตอน2.02 ชั่วโมง

รีวิวหนัง SONIC THE HEDGEHOG 2

รีวิวหนัง SONIC THE HEDGEHOG 2 จากภาพยนตร์ที่มีกระแสต่อต้านอย่างหนักสู่ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม มีภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องที่ต้องการจะท้าทายอาถรรพ์ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากวิดีโอเกมไม่ว่าจะเป็น  RESIDENT EVIL  MONSTER HUNTER  SILENT HILL และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากวิดีโอเกมที่มีเรื่องราวสุดเข้มข้นที่ถูกนำเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ วิดีโอเกมที่เต็มไปด้วยความน่ารักอย่างมาริโอ้หรือโปเกม่อนก็ถูกนำเอามาสร้างด้วยเช่นเดียวกัน บางเรื่องก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในขณะที่บางเรื่องกลับถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตีกลับอย่างหนักหน่วง

อย่างเช่นภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้เป็นภาพยนตร์ภาคต่อจากภาพยนตร์ที่ครั้งหนึ่งเคยมีกระแสต่อต้านอย่างหนักหน่วงแต่ในปัจจุบันนี้มันกลับประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยการนำเอาข้อวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นมาปรับปรุงใหม่จนในตอนนี้มันกลายเป็นภาพยนตร์จากวิดีโอเกมที่สามารถเปิดตัวด้วยรายได้อย่างงดงามนั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง SONIC THE HEDGEHOG 2 

หากคุณยังจำได้ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากเกมอย่าง SONIC ครั้งหนึ่งเคยปล่อยตัวอย่างออกมาและถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเนื่องจากการออกแบบตัวละครทำออกมาได้เยี่ยมแย่ งานคอมพิวเตอร์กราฟิกก็ทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่หลังจากที่มีการปรับปรุงเป็นที่เรียบร้อยแล้วมันก็สามารถทำรายได้ได้อย่างยอดเยี่ยมจนสามารถสร้างภาคต่อออกมาได้สำเร็จ ทำให้มันกลายเป็นภาพยนตร์กึ่งอนิเมชั่นผสมผสานกับ LIVE ACTION ที่ถูกสร้างออกมาแล้วประสบความสำเร็จอย่างงดงามรอดพ้นอาถรรพ์ภาพยนตร์จากเกมได้อย่างน่าเหลือเชื่อ 

สำหรับในภาคนี้จะเล่าถึงเรื่องราวต่อจากในภาคแรก ดังนั้นหากใครที่ยังไม่ได้ดูภาคแรกมาก่อนก็อาจจะทำให้รับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่รู้เรื่องได้ เนื่องจากมันมีเนื้อหาที่เชื่อมโยงกันและต่อเนื่องกันในระยะเวลาที่สั้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นหากใครที่ยังไม่เคยรับชมภาคแรกมาก่อนเราขอแนะนำว่าไม่ควรอ่านแม้กระทั่งเรื่องย่อเพราะมันอาจจะทำให้อรรถรสในการรับชมภาพยนตร์ของคุณต้องเสียไป สำหรับใครที่รับชมภาคแรกมาแล้ววันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับภาพยนตร์ภาค 2 เรื่องนี้ให้มากยิ่งขึ้นกัน

โซนิคเดอะเฮดจ์ฮ็อกภาค 2

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง SONIC THE HEDGEHOG 2

SONIC THE HEDGEHOG 2 จะเล่าถึงเรื่องราวของ SONIC ที่ได้ทำการเนรเทศด็อกเตอร์โรบอตนิกไปอยู่ยังดาวเห็ดได้สำเร็จ หลังจากนั้นเล่นสีฟ้าที่มาพร้อมกับพลังความเร็วของสายฟ้าก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวทอม นายอำเภอประจำเมืองกรีนฮิลล์ และคู่รักอย่างแมดดีย์ เขาได้สนุกสนานกับการแอบเป็นฮีโร่คอยช่วยเหลือผู้คนไปทั่วทั้งโลกแม้ว่าส่วนใหญ่มันจะจบลงแบบไม่ค่อยสวยก็ตาม

แต่ในวันหนึ่งเขาต้องอยู่บ้านตามลำพังเรื่องจากสองสามีภรรยาต้องเดินทางไปร่วมงานแต่งงานของพี่สะใภ้ในฮาวาย ในขณะเดียวกันเองด็อกเตอร์เอกแมนได้ร่วมมือกับนัคเคิลส์ นักรบจากเผ่าอีคิดนาที่ได้รับการขนานนามว่ามีความแข็งแกร่งมากที่สุดบน GALAXY พวกเขาต้องการที่จะแย่งชิงมรกตซึ่งเป็นอัญมณีทรงพลังที่สามารถทำลายล้างอารยธรรมมาเป็นของตัวเองได้สำเร็จอย่างง่ายดาย

ด้วยเหตุนี้ SONIC จึงต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อชิงอัญมณีดังกล่าวมาอยู่กับตัวเองให้สำเร็จก่อนที่มันจะตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดี โดยในครั้งนี้เขาได้รับการช่วยเหลือจากจิ้งจกสองหางอัจฉริยะเทลส์ผู้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ โซนิค พวกเขาจะสามารถหาทางช่วยเหลือโลกใบนี้เอาไว้ได้สำเร็จหรือไม่เราต้องติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์ 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง SONIC THE HEDGEHOG 2

SONIC THE HEDGEHOG 2 เป็นภาพยนตร์ที่หากใครที่เคยรับชมซีรีส์อนิเมชั่นอย่าง SONIC X ในปี 2003 มาก่อนน่าจะรู้สึกคุ้นหูคุ้นตากับเรื่องราวเป็นอย่างดี เพราะมันค่อนข้างคล้ายคลึงกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะประเด็นในการแย่งชิงมรกต ตัวละครบางตัวที่ปรากฏตัวออกมา มันจึงเปรียบเสมือนกับกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ภาพยนตร์ใส่เข้ามาให้เราได้หายคิดถึงอนิเมชั่นยุคเก่า 

สำหรับบรรยากาศในภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีความดูง่าย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถรับชมได้ เน้นความสบาย เดินเรื่องเป็นเส้นตรง เบาสมอง ไม่มีฉากรุนแรงอะไรมากมาย นอกจากนี้ยังนำเอาอีสเตอร์เอ้กภายในเกมหรืออนิเมชั่นยุคเก่าเข้ามาใส่เอาไว้ได้เป็นอย่างดี ใครที่เป็นแฟนคลับ SONIC จะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน แต่ความโดดเด่นของภาคนี้ก็คือความเล่นใหญ่อลังการมากขึ้นกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่ใหญ่โตมากขึ้น งานโปรดักชั่น งานคอมพิวเตอร์กราฟิก เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีขึ้นจากภาคก่อนหลายเท่าเลยทีเดียว ทำให้บรรยากาศของภาพยนตร์เรื่องนี้มีความเป็นภาพยนตร์แนวซุปเปอร์ฮีโร่ไม่น้อยเลยทีเดียว itp slot

ถือว่าเป็นการแก้จุดด้อยของภาพยนตร์ภาคก่อนได้เป็นอย่างดีเนื่องจากในภาคที่แล้วแม้ว่ามันจะสนุกแต่เรื่องราวค่อนข้างจะเล็กและดูมีความเป็นเด็กมากพอสมควร เหมือนกับเรากำลังรับชมอนิเมชั่นธรรมดาทั่วไป แต่การเพิ่มความยิ่งใหญ่ให้กับเรื่องราวทำให้ทั้งตัวละครและเรื่องราวมีพลังมากขึ้น มีความน่าติดตามมากกว่าเดิม 

แต่สิ่งที่น่าเสียดายของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือยังมีบางช่วงที่ใส่บางฉากที่ไม่จำเป็นเข้ามาทำให้ดูน่าเบื่อยืดยาด โชคยังดีที่มีการใส่จุดหักมุมเข้ามาให้เราได้รู้สึกสนุกและตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิม มุขตลกก็ทำออกมาได้ดี คาแรคเตอร์ของตัวละครดูชัดเจนมากขึ้น สามารถสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับมิตรภาพระหว่างเพื่อนรวมไปถึงครอบครัวได้อย่างซาบซึ้งกินใจ 

ตัวอย่างหนัง SONIC THE HEDGEHOG 2

รีวิว หนัง SONIC THE HEDGEHOG 2 บางส่วนจาก beartai

เรียกได้ว่ามาสานต่อความสำเร็จจากภาคที่แล้วแบบรวดเร็ว ไม่ทิ้งช่วงให้รอนาน อย่างกับเจ้าเม่นสายฟ้าออกวิ่งอย่างนั้นแหละ เพราะว่า ‘Sonic The Hedgehog 2’ หรือ ‘โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 2’ นี้ ทิ้งห่างจากภาคแรก ‘Sonic The Hedgehog’ (2020) ภาพยนตร์กึ่งแอนิเมชันแบบไลฟ์แอ็กชัน ที่สร้างมาจากคาแรกเตอร์และเกมในตำนานของค่ายเซกา (Sega) เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้นเอง กลายเป็นหนังสร้างจากเกมไม่กี่เรื่องที่สามารถรอดพ้นอาถรรพ์หนังสร้างจากเกมที่มักจะเห่ยสนิทและเจ๊งยับ จนในที่สุดก็ได้มีโอกาสกลับมาสร้างภาคใหม่อีกครั้ง โดยได้ ‘เจฟฟ์ ฟาวเลอร์’ (Jeff Fowler) ผู้กำกับจากภาคแรก และนักแสดงชุดเดิมจากภาคแรก กลับมาร่วมงานแบบครบทีม

เคล็ดลับความสำเร็จก็น่าจะมาจากการที่ตัวหนังดูสนุก ดูง่าย เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ก็ดูดี แถมยังเอาใจคอเกมด้วยการใส่แฟนเซอร์วิสและ Easter Egg จากเกมมาให้แบบจุก ๆ รวมทั้งการที่พาราเมาต์ พิกเจอร์ส (Paramount Pictures) ยังยอมอัดงบเพิ่ม 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อปรับแก้ดีไซน์เจ้าโซนิคเวอร์ชันแรก ที่โดนแฟน ๆ ถล่มเพราะออกมาทรงประหลาดเกินรับไหว เรียกว่าปรับแก้กันจนในที่สุดก็ออกมาน่ารักน่าชัง และใกล้เคียงกับคาแรกเตอร์ต้นฉบับที่คุ้นเคยมากกว่าที่จะเน้นความสมจริง

แน่นอนว่า เนื้อเรื่องในภาคนี้เองก็จะต่อมาจาก Mid-Credits จากภาคที่แล้วเลยครับ ซึ่งถ้าใครยังไม่ได้ดู อันนี้ผู้เขียนขอเบรกให้หยุดอ่าน แล้วไปหาดูใน Netflix ก่อนได้เลยนะครับ เพราะเนื้อหาค่อนข้างต่อและเชื่อมโยงมาจากภาคแรกพอสมควร ถ้าไม่ดูมาก่อนอาจจะมีงงและโดนสปอยล์ได้ เนื้อหาเริ่มต้นหลังจากที่ ‘โซนิค’ (พากษ์เสียงโดย Ben Schwartz) ได้เนรเทศ ‘ดร. โรบอตนิก’ (Jim Carrey) ไปอยู่ดาวเห็ดได้ในภาคแรก เจ้าเม่นสีฟ้าก็ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของ ‘ทอม’ (James Marsden) นายอำเภอเมืองกรีนฮิลล์ (Green Hills) และคู่รัก ‘แมดดีย์’ (Tika Sumpter) โซนิคกำลังสนุกอยู่กับการแอบเป็นฮีโรฉายเดี่ยวพิทักษ์โลก (ที่สุดท้ายมักจะจบไม่ค่อยสวย)

จนกระทั่งวันหนึ่ง โซนิคต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง เพราะทอมกับแมดดีย์ต้องเดินทางไปงานแต่งงานของ ‘ราเชล’ (Natasha Rothwell) พี่สะใภ้ที่ฮาวาย ในขณะเดียวกันที่ ดร. โรบอตนิก หรือด็อกเตอร์เอกแมน (Doctor Eggman) ก็กำลังวางแผนจับมือกับ ‘นักเคิลส์’ (พากษ์เสียงโดย Idris Elba) นักรบเผ่าอีคิดนาที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่่สุดในกาแล็กซี่ เพื่อแย่งชิงมรกต (Master Emerald) อัญมณีทรงพลังที่มีอำนาจในการทำลายอารยธรรมมาเป็นของตัว โซนิคจึงต้องแย่งชิงมาให้ได้ก่อนที่จะตกไปอยู่ในมือผู้ร้าย โดยมี ‘เทลส์’ (พากษ์เสียงโดย Collen O’Shanussy) จิ้งจอกสองหางสุดอัจฉริยะ แฟนพันธุ์แท้ตัวจริงของโซนิค ร่วมมือในการปกป้องโลกในครั้งนี้ด้วย

ในส่วนของพล็อตเรื่อง ผู้เขียนแอบคิดเอาเองว่า ผู้เขียนบทน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากคอนเซ็ปต์เรื่องราวจากเกม บวกกับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวในแอนิเมชัน ‘Sonic X’ (2003 – 2006) (ฉายทาง Netflix) นะครับ ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า แต่ถ้าใครเคยดูแล้วจะร้องอ๋อเหมือนผู้เขียนแน่นอน เพราะเนื้อเรื่องในอนิเมะบางตอนนั้นมีความคล้ายกับเรื่องราวในหนังพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องราวของการแย่งชิงมรกต และ ‘ตัวละครบางตัว’ ที่โผล่มาในหนังเป็นครั้งแรก ส่วนคนที่ไม่ใช่แฟน ก็น่าจะเป็นเรื่องดีที่ทำให้ได้รู้จักตัวละครใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอีก และผู้เขียนเชื่อว่า ถ้าดูหนังแล้ว น่าจะอยากกลับบ้านไปดู Sonic X ต่อแน่นอน

beartai

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *