รีวิวหนัง SENIOR YEAR

รีวิวหนัง SENIOR YEAR

ชื่อเรื่องSENIOR YEAR
เรตติ้ง6
นักแสดงRebel Wilson
จำนวนตอน1.51 ชั่วโมง

รีวิวหนัง SENIOR YEAR

รีวิวหนัง SENIOR YEAR ภาพยนตร์วัยรุ่นต้นทุนต่ำที่ได้เรเบล วิลสันมารับบทนำ ในวงการฮอลลีวู้ดมีนักแสดงมากฝีมือหลายตาหลายคนที่มีภาพลักษณ์ดูเป็นมิตรและเป็นคนสนุกสนานร่าเริง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ชีวิตจริงของพวกเขาจะเป็นอย่างนั้นแต่อย่างใด โดยเฉพาะเรเบล วิลสัน นักแสดงมากฝีมือที่ถึงแม้ว่าจะมีอายุรุ่น 40 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่เธอก็มักจะได้รับบทนำในภาพยนตร์หรือซีรีส์เกี่ยวกับวัยรุ่นมาโดยตลอด ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เธอนั้นเป็นคนหน้าเด็ก มีภาพลักษณ์ที่ดูสดใสและสนุกสนาน เป็นคนที่สามารถสร้างสีสันได้เป็นอย่างดี 

แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่าเธอนั้นต้องเผชิญกับวิกฤตชีวิตอย่างหนักจนทำให้เธอตัดสินใจที่จะลดน้ำหนักตัวเองลงเกือบครึ่งเลยทีเดียว และเธอก็สามารถทำมันได้สำเร็จอย่างงดงามจนตอนนี้เธอกลายมาเป็นนักแสดงที่มีหุ่นดีไม่แพ้ใครเลยทีเดียว หลายคนคาดการณ์เอาไว้ว่าเธอคงจะไม่กลับมาเล่นภาพยนตร์หรือซีรีส์รูปแบบเดิมอีกแล้วด้วยภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไป สุดท้ายแล้วเธอก็ยังคงหนีไม่พ้นภาพยนตร์หรือซีรีส์แนววัยรุ่นอยู่ดี 

อย่างที่เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันในวันนี้เป็นภาพยนตร์แนววัยรุ่นต้นทุนต่ำที่นำแสดงโดยเรเบลนั่นก็คือ SENIOR YEAR แม้ว่าจะได้นักแสดงชื่อดังมารับบทนำแต่ก็ต้องบอกก่อนเลยว่าด้วยความที่มันเป็นภาพยนตร์ต้นทุนต่ำที่ไม่ได้มีอะไรมากมาย ดังนั้นแน่นอนว่ามันทำออกมาได้ตามมาตรฐาน NETFLIX ที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ พลอตเรื่องมีความน่าสนใจแต่กลับไม่สามารถนำเสนอออกมาได้ดีเท่าที่ควร ด้วยความที่มันเป็นการกลับมาของนักแสดงที่เป็นที่ชื่นชอบเชื่อว่ามีหลายคนอยากจะรับชมผลงานของเธออยู่ไม่น้อย วันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูกันว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างไรและคุ้มค่าต่อการรับชมหรือไม่

หนัง netflix แนะนํา 2022

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง SENIOR YEAR

SENIOR YEAR เป็นซีรีส์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของนางเอกสาวผู้เป็นถึงดาวในโรงเรียน HIGH SCHOOL คนหนึ่ง เธอนั้นได้รับการคัดเลือกให้เป็นเชียร์ลีดเดอร์ เป็นคนที่สวยแถมยังมีความสามารถ เธอจึงเป็นที่ชื่นชอบไม่น้อยเลยทีเดียวในโรงเรียน แต่เขาซ้ำกรรมซัดเธอดันเกิดอุบัติเหตุตอนที่ซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ทำให้เธอนั้นพลัดตกลงมาจากที่สูงขณะที่กำลังต่อตัวกัน และมันก็ทำให้เธอนั้นสลบไป 

เธออาการหนักนอนโคม่าอยู่เป็นระยะเวลากว่า 20 ปีเลยทีเดียว หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาเธอก็มีอายุร่วม 40 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลายสิ่งหลายอย่างรอบตัวเธอเปลี่ยนไปแต่เธอนั้นยังคงติดอยู่ในอดีตเมื่อ 20 ปีที่แล้วก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุ ดังนั้นเธอจึงพยายามที่จะสานต่ออดีตของตัวเองด้วยการกลับเข้าไปเรียนในโรงเรียนมัธยมเพื่อให้จบการศึกษาในปีสุดท้าย แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องวุ่นวายตามมามากมาย 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง SENIOR YEAR

SENIOR YEAR เป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อเรื่องค่อนข้างแหวกแนว โดยปกติแล้วมักจะใช้วิธีการนำเสนอโดยการให้ตัวละครย้อนเวลาจากอดีตมาปัจจุบันมากกว่า แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับใช้วิธีการให้ตัวละครป่วยนอนโคม่าติดเตียงไม่ได้สติเป็นเวลากว่า 20 ปีซึ่งถือว่าเป็นการข้ามเวลาที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว 

การเปิดตัวนางเอกที่มีอายุร่วม 40 ปีและกำลังตกยุคได้ที่ ต้องพยายามเรียนรู้โลกใบใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปเล่นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นสังคมรอบข้างหรือแม้แต่เทคโนโลยี เป็นอะไรที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะเราจะได้เห็นตัวละครของเราทำอะไรแบบตกยุคหรือที่เขาไม่นิยมกันแล้วซึ่งสามารถเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงแรก แต่น่าเสียดายที่คนเขียนบทพยายามยัดอะไรเข้ามามากมายจนกลายเป็นว่าเรื่องราวดำเนินไปแบบเลอะเทอะอย่างที่ไม่ควรจะเป็น 

เธอต้องการที่จะสานต่อความฝันในการเป็น PROM QUEEN ที่ไม่เคยได้รับตำแหน่ง มีประเด็นเรื่องกรมเพื่อนแท้ที่เวลาผ่านมาอย่างยาวนานแล้วทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิมหรือไม่ หรือแม้แต่แฟนหนุ่มสุดฮอตที่เคยคบกันตอนนี้ก็ได้แต่งงานกับคู่แข่งของเธอไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มที่เคยหลงรักเธอในอดีตตอนนี้ก็ยังคงตามจีบเธออยู่เหมือนเดิม การพยายามยัดอะไรเข้ามามากมายทำให้ภาพยนตร์ยาวเกือบ 2 ชั่วโมงซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่ค่อนข้างเกินพอดีสำหรับภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ และมันทำให้ไม่สามารถดำเนินเรื่องราวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้สุดสักทาง 

สิ่งที่น่าเสียดายไปมากกว่านั้นก็คือนักแสดงนำอย่างเรเบล วิลสัน เจ้าของบทบาทเด็กมัธยมตลอดกาลแม้ว่าเธอนั้นจะมีอายุกว่า 40 ปีแล้วก็ตาม การกลับมารับบทบาทใหม่หลังจากที่ผ่านเรื่องราวในชีวิตมากมายมันทำให้เธอดูค่อนข้างไม่เข้ากับบทบาทสักเท่าไหร่ ยิ่งหากคุณเป็นคนรับชมภาพยนตร์แบบพากย์ไทยคุณยิ่งรู้สึกได้เลยว่าทุกอย่างดูประดักประเดิดไปหมด 

แต่ถึงอย่างไรก็ยังคงมีสิ่งที่ดีอยู่เช่นเดียวกันอย่างเช่นการพูดถึงประเด็นเรื่อง LGBT ที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นใน 20 ปีที่ผ่านมานี้ การปรับแนวคิดอย่างเช่นท่าเต้นเชียร์ลีดเดอร์ที่ลดท่าเต้นล่อแหลมลง ประเด็นเรื่องการแข่งขันกันในโรงเรียนที่ในยุคนี้ไม่มีแล้ว หรือแม้แต่ประเด็นการโหยหาอดีตที่ไม่มีวันย้อนกลับมา ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับของเรเบลภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดูได้ไม่ได้ถึงขั้นย่ำแย่เกินรับไหว แต่ก็ไม่ได้อยู่ในมาตรฐานที่ดีของนักแสดงสาวแต่อย่างใด 

ตัวอย่างหนัง SENIOR YEAR

รีวิว หนัง SENIOR YEAR บางส่วนจาก beartai

เรียกได้ว่า ‘Senior Year’ หรือ ‘ปีสุดท้าย’ เป็นหนัง Netflix ที่น่าสนใจและแตกต่างอีกเรื่องของปีนี้เลยครับ เพราะว่าตัวหนังตั้งใจและตั้งทรงให้เป็นหนังแนววัยรุ่น หรือแนวไฮสคูลแห่งปี 2022 ที่มีกลิ่นอายคล้ายว่าจะหลุดมาจากยุค 90’s ยังไงยังงั้นแหละ รวมทั้งตัวพล็อตที่ถือว่าน่าสนใจมากทีเดียว และน่าจะเรียกความน่าสนใจสำหรับคนดูที่เคยผ่านวัยว้าวุ่นรุ่นยุค 2000 มาแล้วโดยเฉพาะ

ตัวหนังเรื่องนี้เป็น Netflix Original ผลงานของค่าย ‘Paramount Players’ แม้เรื่องนี้อาจจะไม่ได้ถือว่าหน้าหนังดึงดูดแบบชวนว้าวดัง ๆ แต่ก็ถือว่ายังดีที่ได้นักแสดงอย่าง ‘เรเบิล วิลสัน’ (Rebel Wilson) เจ้าของบท ‘แฟต เอมี’ (Fat Amy) นักร้องสาวอวบสุดฮาในหนังไตรภาค ‘Pitch Perfect’ ที่น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีมารับบทตัวเอกของหนัง และได้ ‘อเล็กซ์ ฮาร์ดแคสเซิล’ (Alex Hardcastle) ผู้กำกับที่เคี่ยวกรำงานกำกับทีวีซีรีส์นับสิบเรื่อง มาชิมลางกำกับภาพยนตร์เรื่องยาวเป็นครั้งแรกอีกด้วย

หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ ‘สเตฟานี คอนเวย์’ (Angourie Rice) สาวน้อยวัย 17 จากออสเตรเลีย ที่ย้ายตาม ‘จิม คอนเวย์’ (Chris Parnell) พ่อของเธอมาอยู่อเมริกาในช่วงปี 2002 เธอไต่ตัวเองขึ้นมาเป็นกัปตันทีมเชียร์ลีดเดอร์ และยังเป็นสาวฮอตที่ได้คบหากับหนุ่มฮอตประจำโรงเรียนอย่าง ‘เบลน’ (Tyler Barnhardt) อีกต่างหาก เธอมีความฝันสูงสุดว่าจะได้กลายเป็นราชินีแห่งงานพรอม (Prom Queen)

แต่แล้ววันหนึ่งในขณะแสดงเชียร์ลีดเดอร์ เธอประสบอุบัติเหตุ ทำให้เธอกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่นานถึง 20 ปี สเตฟานี (Rebel Wilson) ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในปี 2022 ในวัย 37 ปี เธอจึงอยากจะสานฝันด้วยการกลับเข้าไปเรียนไฮสคูลอีกครั้ง เพื่อเรียนต่อปีสุดท้ายให้จบ และเติมเต็มฝันในการเป็นพรอมควีนแห่งปี 2022 ให้ได้ โดยมีเหล่าเพื่อน ๆ อย่าง ‘มาร์ธา’ (Mary Holland) และ ‘เซธ’ (Sam Richardson) คอยช่วยเหลือ

ความน่าสนใจหลักที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็น่าจะเป็นกลิ่นอายของบรรยากาศช่วงปลายยุค 90’s และยุคปี 2000 นี่แหละครับ เป็นหนังที่มีความเป็นสูตรสำเร็จที่มีกลิ่นอายจากหนังไฮสคูลยุค 90’s ทั้ง ‘Mean Girls’ (2004) และ ‘Clueless’ (1995) รวมทั้งยังมีกลิ่นอายไซไฟ ปมของผู้ใหญ่ที่ต้องใช้ชีวิตเด๋อ ๆ ท่ามกลางวัยรุ่นอย่าง ‘Freaky Friday’ (2003) รวมทั้งความเป็นหนังฟีลกู้ดทั้งหลายแหล่ที่เราคุ้นเคยกันดี

beartai

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *