ชื่อเรื่อง Below Zero Netflix
เรตติ้ง6.2
นักแสดง Javier GutiérrezKarra ElejaldeLuis Callejo
จำนวนตอน 1.46 ชั่วโมง

รีวิวหนัง Over the moon เนรมิตฝันสู่จันทรา

รีวิวหนัง Over the moon เนรมิตฝันสู่จันทรา ภาพยนตร์อนิเมชั่นการ์ตูนดีๆ ที่ไม่ควรพลาด

Over the moon เนรมิตฝันสู่จันทรา ภาพยนต์อนิเมชั่นแฟนตาซีการ์ตูนของ Netflix กำกับการแสดงโดน เกลนคีน โดยภาพยนต์เรื่องนี้ถูกสร้างโดยเพิร์ลสสตูดิโอ และ Netflix อนิเมชั่น ซึ่งภาพยนต์เรื่องนี้ได้ถูกนำมาเปิดตัวครั้งแรกในเทศกาลภาพยนต์มอนต์แคลร์ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2020 และถูกนำมาฉายใน โรงภาพยนตร์วันที่ 23 ตุลาคม ซึ่งภาพยนต์ซึ่งเวลาในการฉายภาพยนต์เรื่องนี้ใช้เวลาอยู่ 1 ชั่วโมง 45 นาที มีเสียงภาคทั้งภาษาญี่ปุ่น ภาษาไทย และภาษาอังกฤษให้เลือกรับฟัง ซึ่งเรื่องนี้ก็สามารถสร้างรายได้อย่างล้นหลามและได้รับการนำเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในสาขาภาพยนต์อนิเมชั่นยอดเยี่ยมปีที่ 93 รางวัลออสการ์อีกด้วยอีกความพิเศษของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ภาพยนตร์เรื่อง Over the moon  มาจากเรื่องราวของ Audrey Wells ซึ่งเป็นผู้เขียนบทที่มีผลงานมาจาก Under the Tuscan Sun และ The Hate U Give ซึ่งถือว่าเป็นผลงานเขียนผลงานสุดท้ายของเธอก็ว่าได้ เพราะเธอนั้นได้จากไปในวัย 58 ปี โดยภาพยนต์อนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นอนิเมชั่นที่เล่าเรื่องราวตำนานของเทพฉางเอ๋อ ซึ่งเป็นตำนานของเทศกาลการไหว้พระจันทร์ที่แม่ผู้ชอบเล่าเรื่องราวของเทพธิดาบนดวงจันทร์ให้ลูกสาว เฟย เฟย ฟัง ก่อนจากไปก่อนวัยอันควร ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เปรียบสเหมือนตัวแทนควรรักความห่วงใย ความอบอุ่น และอ้อมกอดของบุคคลที่เรารักที่เราได้สูญเสียไป บนดวงโดยจะมาในรูปแบบอนิเมชั่นสีสันสดใส พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนุกชวนให้เราติดตามและหลงใหล

การดำเนินเรื่องราวและความสนุกของหนังเรื่อง Over the moon เนรมิตฝันสู่จันทรา พร้อมทั้งตำนานของฉางเอ๋อ

Over the moon เนรมิตฝันสู่จันทราเป็นการกล่าวถึงหรือเล่าเรื่องราวตำนานของฉางเอ๋อเทพธิดาแห่งดวงจันทร์โดยมีโฮ่วอี้ผู้เป็นสามี ซึ่งโฮ่วอี้และฉางเอ๋อนั้นได้รับคำสั่งจากเง็กเซียนฮ่องเต้ให้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์เพื่อกำจัดสัตว์ร้าย แต่เมื่อกำจัดได้สำเร็จก็ยังคงมีอันตรายที่เกิดขึ้นกับมนุษย์คือ มีพระอาทิตย์ 10 ดวง ทำให้โลดมนุษย์นั้นเกิดความแห้งแล้วทำให้โฮ่วอี้ใช้ธนูฆ่าพระอาทิตย์ไป 9 ดวง เมื่อเรื่องถึงหูเง็กเซียนฮ่องเต้ ทำให้โฮ่วอี้และฉางเอ๋อถูกทำโทษให้เป็นมนุษย์ ไม่ให้กลับไปที่สวรรค์อีก แต่นานวันเข้าฉางเอ๋อไม่สามารถทนใช่ชีวิตลำบากบนโลกมนุษย์ได้ทำให้เธอแอบกินยาวิเศษแล้วขึ้นไปบนพระจันทร์เพียงผู้เดียว ต่อมาโฮ่วอี้ถูกลอบฆ่าทำให้ฉาเอ๋อนั้นต้องอยู่โดดเดียวคนเดียวบนโลกพระจันทร์

เป็นเรื่องราวของ เฟยเฟย เด็กหญิงตัวน้อยที่ชอบฟังเรื่องราวของเทพฉางเอ๋อ เทพธิดาบนดาวพระจันทร์จากแม่ของเธอในทุกคือวันเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ โดยที่บ้านของเธอนั้นเป็นร้านขายขนมไหว้พระจันทร์ โดยตำนานจะกล่าวถึงเทพฉางเอ๋อผู้อยู่บนดวงจันทร์พร้อมกับกระต่างสีหยดที่เธอนั้นได้เลี้ยงไว้ เฝ้ารอคอยชายที่เป็นที่รัก โฮวอี้ อยู่แม้วันเวลาจะผ่านไปหลายพันปี ในเวลาต่อมาแม่ของเธอนั้นได้เสียไป วันเวลาผ่านไปพ่อของเธอนั้นได้พาคนรักใหม่เข้ามาในบ้าน และได้ทำการแนะนำให้เธอได้รู้จักแม่ใหม่ พร้อมกับน้องชายคนใหม่ของเธอที่ชื่อว่า ชิน แต่เธอไม่อาจจะยอมรับความรักครั้งใหม่ของพ่อได้ เธอจึงเลือกที่จะปฏิเสธความหวังดีของพ่อและแม่ใหม่ของเธอและต้องการที่จะเดินทางไปบนดวงจันทร์เพื่อไปพบเทพฉางเอ๋อ เพื่อให้พ่อของเธอนั้นยอมรับว่าความรักนั้นสามารถรอคอยได้เหมือนที่แม่ของเธอนั้นเคยได้เล่าไว้ โดยเธอนั้นได้สร้างจรวดขึ้นมาและพากระต่างของเธอขึ้นไปในจรวดด้วย แต่เธอไม่ได้รู้เลยว่าบนจรวดนั้นมีน้องชาย อย่างชินได้แอบขึ้นมาบนจรวดด้วย และนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวของความสนุกการผจญภัยบนดวงจันทร์ก็ได้เกิดขึ้น

บทสรุปและความสนุกของภาพยนต์เรื่อง Over the moon เนรมิตฝันสู่จันทรา

Over the moon เนรมิตฝันสู่จันทราต้องขอยอมรับความสามารถของผู้กำกับรวมถึงผู้เขียนบทเลยทีเดียวว่าทำภาพยนต์เรื่องนี้ออกมาได้ดีมาก สามารถเอาไปเปรียบเทียบกับอนิเมชั่นระดับดิสนีย์ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นลายเส้นบนภาพวาด สีบนภาพยนต์ ที่มีความสดใสและความชัด เพลงประกอบภาพยนตร์ที่เพราะมากฟังติดหูตั้งแต่ครั้งแรก การเล่าเรื่องราวของเทพฉางเอ๋อในแบบยุคปัจจุบันที่ถือว่าทำการบ้านได้ดีเป็นการเล่าเรื่องราวที่ดัดแปลงออกมาได้อย่างน่าสนใจแฝงไปด้วยแง่คิดมากมาย มีระบบภาพแบบ Dolby Vision ที่โดดเด่นสีสันตื่นตา เป็นงานภาพ 3D ที่โดดเด่นด้านการดีไซน์เป็นอย่างมาก การเล่าเรื่องราวมีความลื่นไหลชวนให้ติดตาม และความเป็นกลิ่นอายของการตูนดิสนีย์ถือว่ามีความคล้ายกันเป็นอย่างมาก ข้อเสียคงเป็นความสัมพันธ์ของตัวละครยังนำเสนอออกมาได้ไม่ดีพอ มุกบางมุกในบทบางตอนค่อนข้างแป๊ก เนื้อเรื่องจบง่ายไปหน่อย ไม่ค่อยให้ความรู้สึกแปลกใหม่ เช่นความรู้สึกของความสัมพันธ์ระหว่างชินและเฟยเฟย ที่ควรจะมีให้เห็นมากกว่านี้ว่าทำไมน้องชายต่างแม่ถึงได้รักและชอบเธอขนาดนั้น แต่ถือก็ถือได้ว่าภาพยนต์อนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด และไม่ผิดหวังแน่นอน

ตัวอย่างหนัง Over the moon เนรมิตฝันสู่จันทรา

รีวิว หนัง Over the moon เนรมิตฝันสู่จันทรา จาก beartai

เป็นที่รู้กันดีว่าเดือนตุลาคมของทุกปีจะเป็นช่วงของเทศกาลไหว้พระจันทร์ และเหมือนกับประเพณีส่วนใหญ่ที่มักมีตำนานหรือเรื่องเล่าที่อยู่เบื้องหลังแต่น้อยคนนักจะรู้ ซึ่ง Netflix ก็ได้หยิบตำนานของเทพีฉางเอ๋อที่รอคนรักบนดวงจันทร์มาบอกเล่าในรูปแบบของอนิเมชันสีสันสดใสมาลงสตรีมมิงส่งท้ายเดือนตุลาคมปีนี้กัน

โดยหนังจะเล่าถึง เฟยเฟย เด็กสาวที่สูญเสียแม่และพ่อของเธอกำลังจะเริ่มความสัมพันธ์ครั้งใหม่พร้อมการมาถึงของ ชิน หนุ่มน้อยตัวแสบผู้มาพร้อมกบ ด้วยความไม่ถูกชะตากันและในคืนหนึ่งที่โต๊ะอาหารของครอบครัวเธอได้มีปากเสียงกับญาติที่มาท้าทายให้เธอพิสูจน์ว่าเทพีฉางเอ๋อมีตัวตนอยู่จริงทำให้ เฟยเฟย ตัดสินใจสร้างจรวดเพื่อพาเธอไปยังดวงจันทร์เพื่อหาหลักฐานการมีตัวตนของฉางเอ๋อ

แต่ที่เธอไ่ม่คาดคิดก็คือเมื่อพบเทพีฉางเอ๋อแล้วนางกลับไม่ได้เป็นอย่างที่ึคิดและเพื่อให้ได้กลับบ้าน เฟยเฟย และ ชิน พร้อมเจ้ากบ และกระต่ายอย่างบันจี้จำต้องหาของขวัญให้เทพีฉางเอ๋อก่อนจะติดอยู่บนดวงจันทร์ที่กำลังจะดับเพราะความเสียใจของนางไปตลอดกาล

จากเนื้อเรื่องจะเห็นว่าแม้ Over the moon จะนำตำนานประเพณีไหว้พระจันทร์มาทำแต่มันกลับเข้าใจดัดแปลงโดยสอดแทรกเอาเรื่องราวของครอบครัวมาใส่ได้อย่างลงตัว แถมคุณภาพของทั้งบทและภาพก็ยังเชื่อใจได้ด้วยฝีมือของ เกล็น คีน ที่เคยทำแอนิเมชันระดับออสการ์อย่าง Dear Basketball เมื่อปี 2017 และผ่านงานหนังของวอล์ตดิสนีย์มานับไม่ถ้วนจึงกลายร่างตำนานจีน ๆ สู่แอนิเมชันมิวสิคัลที่ให้คุณภาพไม่อายหนังโรงเลยทีเดียว

โดยเฉพาะงานภาพต้องบอกว่านี่เป็น แอนิเมชัน 3D ที่โดดเด่นด้านดีไซน์มากตั้งแต่คาแรกเตอร์ที่พยายามคิดดีไซน์จากชาติพันธุ์ทั้งลักษณะตา รูปทรงและสีผิวที่ใกล้เคียงคนจีนจริง ๆ ทั้งตาชั้นเดียวและคิ้วที่ดูหนาดกดำไปจนถึงลักษณะของสัตว์ที่อ้างอิงจากความเชื่อปีนักษัตรได้อย่างมีชีวิตชีวาและที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ระบบภาพ Dolby Vision ที่กล้าพูดได้เลยว่าบ้านใครซื้อทีวีที่มี Dolby Vision หรือแม้แต่ HDR 10+ นี่คือเปิดลองทีวีได้เลยครับ สวยสดงดงามมาก ๆ

ส่วนตัวเรื่องก็เล่าได้ไหลลื่นดี มีมุกตลกที่ได้ผลเป็นส่วนใหญ่และคาแรกเตอร์กระต่ายอย่างเจ้าบันจี้ก็น่ารักน่ากอดดี ส่วนเทพีฉางเอ๋ออย่างบอกว่านางแซ่บมาก แซ่บระดับที่เชื่อว่า กะเทยได้ดูคงยกให้เป็นแม่แน่นอนผนวกกับเพลงที่นางร้องเปิดตัวด้วยแล้วนี่ขอบอกว่าเปรี้ยวเยี่ยวราดมากแม่ ! ส่วนเพลงอื่น ๆ ก็อยู่ในเกณฑ์ดีนะครับแม้ส่วนตัวจะรู้สึกว่ายังไม่ลื่นไหลหรือชวนร้องตามแบบการ์ตูนดิสนีย์ก็เถอะ

สรุปแล้วถือว่าดีเกินคาดเลยครับสำหรับแอนิเมชันเรื่องนี้ เหมาะสำหรับเปิดดูเพื่อให้ลูกหลานได้ศึกษาที่มาของประเพณีไหว้พระจันทร์ที่เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักแค่ขนมไหว้พระจันทร์นั่นแหละ และมันยังให้ข้อคิดดี ๆ เรื่องการทำใจยอมรับความสูญเสียและอยู่กับปัจจุบันซึ่งแอนิเมชันก็พูดถึงเรื่องนี้ได้ลึกซึ้งทีเดียวครับ

beartai

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *