| ชื่อเรื่อง | OUR FATHER |
| เรตติ้ง | 6.5 |
| นักแสดง | Donald Cline |
| จำนวนตอน | 1.37 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง OUR FATHER
รีวิวหนัง OUR FATHER สารคดีที่เล่าเรื่องราวของคนนับสิบที่มีพ่อเป็นสูตินารีเวชคนเดียวกัน มันคงเป็นเรื่องที่สะเทือนใจไม่น้อยเลยทีเดียวหากคุณได้รับรู้ว่าพ่อที่เลี้ยงคุณมาตั้งแต่เด็ก คนที่คุณรักและไว้วางใจมากที่สุดไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของคุณ และสถานการณ์จะย่ำแย่ลงไปอีกหากพ่อที่เลี้ยงคุณมาตั้งแต่ยังเด็กมารับรู้ในภายหลังว่าคุณเองก็ไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของเขาด้วย และมันจะแย่สักเท่าไหร่หากคนเป็นแม่เองก็ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วสามีของตัวเองไม่ใช่พ่อของลูกที่อุ้มท้องมา
เป็นอะไรที่น่าสะสมวัวและสร้างความสะเทือนใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับเหตุการณ์ที่เรากล่าวมาข้างต้น แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ามีนับสิบครอบครัวเลยทีเดียวที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ดังกล่าว และหากคุณอยากรู้ความเป็นมาเป็นไปของเหตุการณ์นี้เราขอแนะนำภาพยนตร์สารคดีเรื่อง OUR FATHER ภาพยนตร์สารคดีบน NETFLIX ที่เล่าถึงเรื่องราวการก่อเหตุอาชญากรรมของสูตินารีเวชผู้หนึ่งที่วิปริตมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนโลกใบนี้ สิ่งที่เขาทำนั้นได้ส่งผลกระทบกับเหยื่อมากมายหลากหลายครอบครัว และมันก็นำมาสู่ปัญหาเกินคาดคิด วิปริตเกินกว่าที่คุณเคยสัมผัสมาอย่างแน่นอน
สารคดีเรื่องนี้เป็นการนำเอาคดีที่เกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้วเกี่ยวกับการผสมเทียมโดยแพทย์สูตินรีเวชคนหนึ่งที่ไม่ปกติ ทำการฉีดน้ำเชื้อของตนเองให้กับหญิงสาวมากมายที่อยากมีลูกน้ำไม่ถ้วนโดยที่พวกเธอไม่รู้เลยว่าอสุจิที่ฝังอยู่ในไข่ของพวกเธอนั้นไม่ใช่ของสามีพวกเธอแต่เป็นของหมอผู้นี้นั่นเอง และมันก็ทำให้เด็กที่เกิดมาในภายหลังนับสิบคนต้องออกมาตามหาสาเหตุของเรื่องราวสุดวิปริตที่เกิดขึ้นแถมยังเป็นสิ่งที่พ่อของพวกเขาทำลงไปด้วยตัวเองอย่างจงใจอีกด้วย บทสรุปของคดีนี้จะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามรับชมกัน
สารคดี netflix แนะนำ 2022
เรื่องราวในภาพยนตร์สารคดีเรื่อง OUR FATHER
OUR FATHER เป็นภาพยนตร์สารคดีที่เล่าถึงนายแพทย์สูตินรีเวชผู้หนึ่งที่มีจิตวิปริต การที่เขาเป็นหมอเฉพาะทางด้านสูตินารีทำให้เขานั้นได้รับคนไข้ที่มีบุตรยากมารักษาด้วยการผสมเทียม เขาได้ทำการแนะนำให้หญิงสาวเหล่านั้นฉีดน้ำเชื้อผสมเทียมเข้าไปแล้วค่อยฝังตัวอ่อนกลับเข้าไปในครรภ์อีกครั้ง แต่แทนที่เขาจะใช้น้ำเชื้ออสุจิของสามีของพวกเธอหรือแม้แต่น้ำเชื้อจากธนาคารอสุจิที่มีผู้บริจาคเขากลับตัดสินใจนำเอาน้ำเชื้ออสุจิของตัวเองไปผสมแทนเสียอย่างนั้น
เขาหลอกลวงคนไข้มากมายหลากหลายครอบครัวว่าใช้น้ำเชื้อที่มีการบริจาคมาโดยปิดบังความจริงที่ว่าตนเองลักลอบแอบเอาน้ำเชื้อของตนเองฉีดเข้าไปในไข่ของหญิงสาวเหล่านั้น ทำให้หญิงสาวนับสิบคนตั้งท้องลูกของเขาโดยที่ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่เด็กจากการผสมเทียมเหล่านั้นได้เกิดและเติบโตขึ้นมาก็มีหญิงสาวคนหนึ่งที่เกิดความสงสัยว่าพ่อของเธอคือใคร เธอจึงได้ตัดสินใจที่จะตรวจดีเอ็นเอเพื่อค้นหาญาติพี่น้อง ซึ่งปกติแล้วการผสมเทียมนั้นเธอจะมีญาติได้ไม่เกินเพียงแค่ 3 คน แต่เธอกลับพบว่ามีคนที่มี DNA ตรงกันกับเธอถึง 8 คนเลยทีเดียว ทำให้เธอได้พบกับผู้เสียหายกลุ่มแรกในที่สุด ด้วยความสงสัยเธอจึงพยายามตามหาความจริงเรื่อยๆ ก่อนจะพบว่าเธอนั้นมีพี่น้องต่างพ่อเป็นจำนวนมากกว่า 10 คนเลยทีเดียว
ความพยายามเอาผิดทางกฎหมายของผู้เป็นพ่อโดยสายเลือดของบรรดาลูกที่เกิดมาโดยไม่ได้รับรู้เลยว่าตนเองมีพ่อเป็นแพทย์สูตินารีเวชสุดวิปริตที่ลักลอบแอบฉีดน้ำเชื้อของตนเองแทนที่จะใช้น้ำเชื้อของผู้บริจาคจึงเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางคำถามเกี่ยวกับศีลธรรมและจริยธรรม
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง OUR FATHER
OUR FATHER เป็นภาพยนตร์สารคดีสั้นๆ ที่เล่าเรื่องราวเพียงแค่ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นแต่กลับเต็มไปด้วยความเข้มข้นและน่าติดตามเป็นอย่างมาก สามารถเล่าเรื่องราวที่ยืดเยื้อกินเวลานานนับ 10 ปีได้อย่างรวดเร็วและไม่มีจุดไหนที่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย สามารถจำลองฉากได้เหมือนจริงโดยร่วมกับนักแสดงและเหยื่อตัวจริงอีกด้วย มันจะมีหลายฉากเลยทีเดียวที่เหมือนกับภาพยนตร์ อธิบายตั้งแต่เริ่มต้นการผสมเทียมที่ได้รับความนิยมในปี 1985 มาจนถึงในปัจจุบัน
ตลอดการเล่าเรื่องราวจะทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วยบรรดาเหยื่อทั้งหลายที่เกิดมาจากพ่อคนเดียวกัน พวกเขาพยายามอย่างหนักไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้คดีหรือแม้แต่ส่งเรื่องให้ผู้สื่อข่าว แต่กลับไม่มีใครสนใจเลยแม้แต่น้อยทั้งที่เป็นเรื่องที่ไม่น่ามองข้าม จนกระทั่งมีสื่อเจ้าหนึ่งตัดสินใจสำรวจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเรื่องราวทั้งหมดก็โด่งดังไปทั่วทั้งโลก มีการขุดคุ้ยเบื้องลึกเบื้องหลังการกระทำความผิดของสูตินรีแพทย์คนดังกล่าว ลามไปจนถึงความเชื่อทางศาสนาและอาการทางจิตของเขาว่าเพราะเหตุใดเขาจึงกระทำการอุกอาจเช่นนี้
ในขณะที่เล่าเรื่องก็จะมีการเปิดเผยตัวเลขผู้เสียหายตั้งแต่น้อยกว่า 10 คนเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนทำให้ผู้รับชมอย่างเรารู้สึกอยากติดตามว่าตัวเลขนี้จะไปหยุดที่เท่าไหร่กันแน่ ซึ่งต้องบอกเลยว่าตัวเลขสูงเกินกว่าที่คุณคาดการณ์เอาไว้อย่างแน่นอน นับเป็นหายนะทาง DNA ของมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง และสุดท้ายเรื่องราวเหล่านี้ก็กลายมาเป็นคดีความบนศาลในที่สุด