ชื่อเรื่อง Cube กล่องเกมมรณะ
เรตติ้ง 6.0
นักแสดง Takumi Saitoh,Masaki Okada
จำนวนตอน 1.48 ชั่วโมง

รีวิวหนัง Cube กล่องเกมมรณะ

รีวิวหนัง Cube กล่องเกมมรณะ ภาพยนตร์รีเมคจากประเทศแคนาดาสู่ประเทศญี่ปุ่น ย้อนกลับไปในยุค 90 มีภาพยนตร์อยู่หนึ่งแบบที่ได้รับความนิยมไม่น้อยนั่นก็คือภาพยนตร์คัลท์ ภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยฉากโหดเลือดสาด เต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล เรื่องราวที่อยากจะเล่ายังไงก็เล่าได้ตามใจผู้กำกับ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีผู้คนชื่นชอบภาพยนตร์แนวนี้ไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะมันเต็มไปด้วยความบ้าระห่ำและไม่สามารถคาดเดาฉากจบได้ 

ในยุคนั้นมีภาพยนตร์อยู่หนึ่งเรื่องที่ได้รับความนิยมในภายหลังนั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง Cube ภาพยนตร์จากประเทศแคนาดาที่ออกฉายในช่วงปลายยุค 90 ตอนที่ออกฉายครั้งแรกมันไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมสักเท่าไหร่แถมยังไม่ใช่ภาพยนตร์แนวตลาดอีกต่างหากทำให้มันไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าที่ควร กว่าที่มันจะกลายมาเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเหมือนกับในทุกวันนี้ก็กินเวลาผ่านไปนับทศวรรษเลยทีเดียว เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาภาพยนตร์แนวนอกกระแสได้รับความนิยมไม่น้อย 

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจะมีการสร้างภาคต่อออกมาถึง 3 ภาคด้วยกัน ไม่เพียงเท่านั้นยังมีการนำเอาไอเดียดังกล่าวไปสร้างเป็นเกมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันอีกด้วย ดังนั้นเราจึงสามารถพูดได้ว่ามันเป็นภาพยนตร์ซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จไม่น้อยอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว 

และด้วยเหตุนี้มันจึงถูกทางประเทศญี่ปุ่นซื้อลิขสิทธิ์มาทำใหม่อีกครั้งในชื่อเดิมนั่นก็คือ Cube กล่องเกมมรณะ หากคุณเป็นแฟนคลับภาพยนตร์จากประเทศญี่ปุ่นก็จะทราบดีว่าญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีความสามารถในการสร้างภาพยนตร์หรือสื่อบันเทิงแนวคัลท์ไม่น้อย มีภาพยนตร์แนวโหดเลือดสาดมากมายที่มาจากประเทศญี่ปุ่นอย่างที่กลายเป็นตำนานก็คือภาพยนตร์เรื่องแบทเทิลรอยัล 

มันจึงทำให้การนำเอาภาพยนตร์กล่าวมารีเมคด้วยประเทศญี่ปุ่นที่มีความชำนาญในการสร้างสื่อบันเทิงแนวนี้อยู่แล้วมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีกว่าพวกเขาจะดัดแปลงหรือสร้างสรรค์ภาพยนตร์ในตำนานเรื่องนี้ออกมาเป็นอย่างไร หากคุณอยากรู้คำตอบก็สามารถเข้าไปรับชมในโรงภาพยนตร์ได้แล้ววันนี้ 

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Cube กล่องเกมมรณะ

Cube กล่องเกมมรณะ เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าเรื่องราวคล้ายคลึงกับต้นฉบับจากแคนาดาไม่น้อย โดยเปิดเรื่องให้เราทำความรู้จักกับชายหญิงทั้งหมด 6 คนซึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พวกเขาฟื้นสติขึ้นมาแล้วพบว่าตนเองนั้นกำลังติดอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมทรงลูกบาศก์ที่แปลกประหลาดไม่เหมือนกับห้องธรรมดาทั่วไป ในห้องนั้นจะมีประตูทั้งหมด 6 ด้านซึ่งจะเชื่อมต่อกับห้องที่มีลักษณะเดียวกันห้องอื่นๆ แบบไม่มีจบสิ้น 

พวกเขาล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ความสับสน และความหวาดกลัว เพราะนอกจากห้องที่พวกเขาอยู่ในตอนแรกห้องอื่นนั้นล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยกับดักที่สุดแสนจะอันตราย มันพร้อมจะปลิดชีวิตพวกเขาได้ภายในเสี้ยววินาที ทางรอดเดียวของพวกเขาก็คือการพยายามร่วมมือการไขปริศนาเพื่อค้นหาทางออกให้สำเร็จ แต่มันก็ไม่ง่ายแบบนั้นเพราะปัญหาต่างก็ดานาเข้ามาหาพวกเขาไม่เว้นว่างในแต่ละนาที 

หาพวกเขาทำไม่สำเร็จสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือการต้องกลายเป็นบุคคลสูญหายติดอยู่ในลูกบาศก์แห่งนี้ไปจนกว่าจะเสียชีวิตลง ท่ามกลางความสิ้นหวังและการเอาตัวรอดมันทำให้แต่ละคนเริ่มเผยสัญชาตญาณดิบของตัวเองออกมา ทั้งความเห็นแก่ตัว ความหวาดกลัวในจิตใจ การใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ พวกเขาจะสามารถผ่านสิ่งเหล่านี้เพื่อเอาตัวรอดออกจากลูกบาศก์มรณะได้สำเร็จหรือไม่ต้องไปติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Cube กล่องเกมมรณะ 

Cube กล่องเกมมรณะ กำกับโดยผู้กำกับรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างยาซูฮิโกะ ชิมิสุ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นภาพยนตร์ใหญ่ระดับบล็อกบัสเตอร์เรื่องแรกที่เขาได้กำกับ และด้วยความที่สเกลของภาพยนตร์เรื่องนี้ใหญ่เป็นอย่างมากทำให้ดูว่ามันจะเกินความสามารถของเขาที่จะรับมือด้วยตัวเอง มันทำให้ภาพรวมของภาพยนตร์ได้รับผลกระทบและออกมาเป็นภาพยนตร์รูปแบบเดิมซ้ำๆ เป็นการรีเมคที่มีความพยายามจะแตกต่างจากต้นฉบับแต่มันกลับมีผลลัพธ์ที่ไม่ได้แตกต่างจากเดิมเท่าที่ควร 

การนำภาพยนตร์เก่ามารีเมคในครั้งนี้ได้มีการนำเอามาประยุกต์ระดับแปลงเรื่องราวใหม่ให้มีความเข้ากับเทคโนโลยีในปัจจุบันมากขึ้น ในส่วนของงานสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าสามารถทำออกมาได้ค่อนข้างดีโดยเฉพาะการดีไซน์ลูกบาศก์ที่มีการเพิ่มลูกเล่นเข้ามาได้อย่างน่าสนใจ แต่สิ่งที่ขาดไปคือความแปลกใหม่และความสดของภาพยนตร์เนื่องจากมันเป็นภาพยนตร์ที่เคยออกฉายมาก่อนอยู่แล้วทำให้ผู้รับชมรู้เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นโดยคร่าว ถามความรู้สึกที่รับชมยังไม่ต่างกันมันเลยทำให้ไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร 

พอประกอบเข้ากับตัวละครที่ไม่ได้มีความน่าสนใจเท่าที่ควรแถมยังมีการใส่ประเด็นเข้ามาแบบเชยๆ ยิ่งทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูธรรมดามากยิ่งขึ้นไปอีก ที่สำคัญคือมันมีตัวละครน่ารำคาญทำให้ภาพยนตร์ดูน่ารำคาญจนผู้รับชมอย่างเราหมดสนุกไปบางอย่างน่าเสียดาย ภาพยนตร์ไม่ได้ดึงดูดให้เรารู้สึกอยากติดตามรับชมเหมือนกับภาพยนตร์ต้นฉบับขนาดนั้น กลายเป็นว่าพอเข้าสู่องค์ 2 ของเรื่องผู้รับชมก็จะเกิดความรู้สึกเบื่อได้ง่ายยกเว้นว่าจะชอบภาพยนตร์แนวนี้จริงๆ gclub888

ตัวอย่างหนัง Cube กล่องเกมมรณะ

รีวิวหนัง Cube กล่องเกมมรณะ บางส่วนจาก trueid

มาถึงยุคนี้ที่วงการหนังญี่ปุ่นจะต้องพยายามดีดตัวเองขึ้นไปอีกระดับ หลังจากที่มีประเด็นถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันไม่น้อย เมื่อถูกนำไปเปรียบเทียบกับวงการหนังและซีรีส์เกาหลีที่ก้าวไปไกลระดับโลก และความพยายามยกระดับอีกครั้งก็น่าจะเกิดขึ้นกับ “CUBE” (กล่องเกมมรณะ) หนังระทึกขวัญไซไฟที่รีเมคสร้างมาจากหนังคัลท์สุดคลาสสิกแห่งยุค 90s แต่ความกล้าที่ไปแตะต้องผลงานระดับอมตะเช่นนี้…จะรุ่งหรือร่วงก็ตั้งอยู่แค่บนเส้นบางๆ เท่านั้น

CUBE กล่องเกมมรณะ เป็นเรื่องราวของคนแปลกหน้าทั้ง 6 คน ฟื้นคืนสติขึ้นมาพบว่าตัวเองติดอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมทรงลูกบาศก์ ซึ่งมีประตูทั้งหกด้านที่นำไปสู่กับดักหฤโหดสุดอันตราย และทางรอดเดียวที่มีคือ ทุกคนต้องร่วมมือกันไขปมปริศนาลึกลับต่างๆ ที่ประดาหน้าเข้ามาแทบทุกนาที เพราะไม่เช่นนั้นพวกเขาทั้ง 6 ชีวิตจะต้องกลายเป็นบุคคลสาบสูญที่ติดอยู่ในลูกบาศก์มรณะแห่งนี้ไปตลอดกาล

นี่คือผลงานใหม่ของผู้กำกับหนุ่มไฟแรง “ยาสุฮิโกะ ชิมิซุ” ที่ถือว่าหนังเรื่องนี้เป็นชิ้นงานระดับบ็อกซ์บัสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เขาทำหนังมา และก็ดูเหมือนว่าสเกลหนังเรื่องนี้จะค่อนข้างใหญ่เกินไปที่เขาจะรับมือได้เพียงลำพัง จึงส่งผลกระทบต่อภาพรวมของทั้งตัวหนังที่กลายเป็นการถ่ายทอดในรูปแบบซ้ำๆ จำเจที่เป็นฉบับรีเมคที่พยายามทำให้แตกต่างแต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมากลับไม่ต่างไปจากเดิมสักเท่าไหร่นัก ต้องสารภาพว่าจำได้แค่ลางๆ กับหนังเรื่อง Cube ต้นฉบับของแคนาดาที่เคยออกฉายไปในช่วงปลายยุค 90s ที่ต้นฉบับหนังเรื่องนั้นก็ไม่ใช่หนังแมสทั่วไปสักเท่าไหร่ เพราะตัวหนังเองก็มีวิธีการสื่อสารและมุมมองที่เอนไปทางหนังนอกกระแสอยู่สักนิด เพียงแต่คอนเซ็ปต์และความคัลท์ของหนังได้ยกระดับให้หนังขึ้นหิ้งกลายเป็นหนังคลาสสิกเรื่องหนึ่งและยังเป็นหนังที่แฟนๆ คิดถึงอยู่เสมอ

แต่เมื่อนำมาดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นหนังญี่ปุ่น องค์ประกอบหลายๆ อย่างได้ถูกนำมาประยุกต์และดัดแปลงใหม่ให้เข้ากับเทคโนโลยีในการทำหนังยุคปัจจุบันให้น่าตื่นตามากยิ่งขึ้น ต้องยอมรับว่างานสร้างของ CUBE ฉบับนี้ค่อนข้างทำออกมาได้ดี แม้จะมีแค่เพียงฉากลูกบาศก์ธรรมดาๆ แต่การดีไซน์และใส่ลูกเล่นเพิ่มเข้ามา ช่วยเติมเต็มความน่าสนใจได้ดีระดับหนึ่ง ถึงกระนั้นแล้ว CUBE กล่องเกมมรณะ ก็ยังไม่ใช่หนังรีเมคที่ทำออกมาได้ดีและยังไม่ใช่หนังที่่น่าประทับใจสักเท่าไหร่ สิ้งแรกที่คิดก็คือไม่น่าเชื่อว่าญี่ปุ่นจะหยิบเอาโครงเรื่องนี้มารีเมคสร้างใหม่ ทั้งที่ในอุตสาหกรรมหนังของตัวเองก็มีศักยภาพเพียงพอที่สามารถสร้างสรรค์หนังแนวๆ นี้ออกมาได้ดีกว่าด้วย เมื่อกลายมาเป็นเนื้อหาสร้างใหม่ จึงกลายเป็นว่าประเด็นต่างๆ ยังไม่เข้มข้นและไม่ถึงกึ๋นเหมือนกันดูหนังญี่ปุ่นปลอมๆ อยู่

แน่นอนว่าพื้นฐานของหนังรีเมค คือความสดและแปลกใหม่แทบจะตัดออกไปได้เลย เพราะผู้ชมน่าจะพอทราบถึงโครงเรื่องคร่าวๆ แล้ว และพอมาในเวอร์ชั่นนี้ก็กลับให้ความรู้สึกที่ไม่ต่าง ถึงขั้นดูธรรมดาไปหน่อยด้วยซ้ำ ความโหดของกล่องเกมมรณะในครั้งนี้ก็ไม่ได้สยดสยองอะไรเท่าไหร่นัก กลายเป็นภาพซ้ำซากที่เคยเห็นมาแล้วทั้งสิ้น สถานการณ์ต่างๆ ก็มาพร้อมสูตรสำเร็จแบบเดิม กลายเป็นหนังที่ดำเนินเรื่องไปแบบแข็งทื่ออย่างน่าเสียดาย ยิ่งมาเผชิญหน้ากับอารมณ์ของคาแรกเตอร์ต่างๆ ที่สถานการณ์บีบคั้นทำให้พวกเขาสติแตกมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้ CUBE กล่องเกมมรณะ กลายเป็นหนังที่ดูเรียบเฉยเข้าไปเรื่อยๆ ประเด็นดราม่าและปมต่างๆ ของตัวละครที่หนังใส่เข้ามานั้น มีแต่ความเชยและไม่ได้รู้สึกว้าวอะไรเลยสักนิด แน่นอนว่าหนังแนวๆ นี้มักจะมีสร้างตัวละครที่น่ารำคาญ ซึ่งในหนังเรื่องนี้ก็ทำได้สำเร็จและดูเหมือนจะน่ารำคาญในทุกๆ ตัวละครเสียด้วยซ้ำ

“มาซากิ สุดะ”, “มาซากิ โอะกาดะ” หรือ “แอนน์ วาตานาเบะ” ต่างเป็นนักแสดงตัวท็อปของวงการ แต่ถูกจับมาใส่อยู่ในหนังแข็งกระด้างเรื่องนี้ ก็กลายเป็นการใส่วัตถุดิบชั้นเลิศลงในหม้อแกงที่รสชาติไม่อร่อยไปอย่างน่าเสียดาย แม้ว่าการแสดงของพวกเขาดีในระดับมาตรฐาน แต่พอออกมาโดยรวมแล้ว การแสดงของพวกเขากลับไม่สามารถช่วยพยุงหนังเรื่องนี้ใดๆ ได้เลย โดยภาพรวมแล้ว CUBE กล่องเกมมรณะ คงจะจัดได้ว่าเป็นฉบับรีเมคค่อนข้างน่าผิดหวัง ถึงแม้ว่าตัวหนังเรื่องนี้จะไม่ได้มีความยาวอะไรมาก แค่ชั่วโมงกว่าๆ แต่ในขณะรับชมอยู่กลับรู้สึกเนิ่นนานยาวไกลเสียเหลือเกิน พร้อมกับฉุกคิดคำถามขึ้นมาอยู่ในหัวบ่อยๆ ว่า “เมื่อไหร่จะจบ?” พร้อมกับก้มส่องนาฬิกาบ่อยครั้ง อาจจะยังไม่ใช่หนังรีเมคที่ทำออกมาได้ดีที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นหนังที่ย่ำแย่อะไรขนาดนั้น เป็นแค่หนังที่พอดูได้ เป็นอาหารจานเดิมที่ทำออกมาเป็นรสชาติใหม่…ที่ไม่ถึงกับอร่อยจนอยากกินอีก

trueid

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *