ชื่อเรื่องASAKUSA KID
เรตติ้ง7.1
นักแสดง
จำนวนตอน2.02 ชั่วโมง

รีวิวหนัง ASAKUSA KID Netflix

รีวิวหนัง ASAKUSA KID Netflix ภาพยนตร์ดราม่าชีวประวัติของดาวตลกในญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมบน NETFLIX บางครั้งภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมบน NETFLIX นั้นก็ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เราคาดคิดแต่อย่างใด เราอาจจะเข้าใจว่าภาพยนตร์แนวตลาดอย่างเช่นภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ แนวต่อสู้ แนวสยองขวัญ อาจจะได้รับความนิยมจนเข้าไปติด 1 ใน 10 อันดับยอดนิยมบน NETFLIX แต่ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้มันไม่ได้เป็นภาพยนตร์ในแนวนั้นเลยแต่อย่างใดเพราะมันเป็นการเล่าถึงเรื่องราวชีวประวัติที่เต็มไปด้วยความราม่าแม้ว่าตัวละครของเรานั้นจะเป็นถึงดาวตลกที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์และมีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่นก็ตาม เรื่องราวของเขานั้นไม่ได้ตลกเหมือนกับสิ่งที่เขาพยายามจะสื่อออกมาเลยแม้แต่น้อยแต่มันก็ยังคงเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความอบอุ่นหัวใจอยู่ดี นั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง ASAKUSA KID

อาจเป็นเพราะความครบรถที่มีทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นความสนุกสนานหรือความดราม่าทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นประสบความสำเร็จอย่างงดงามบน NETFLIX จนติดอันดับภาพยนตร์ยอดนิยมได้สำเร็จในที่สุด โดยภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวนั้นจะพาเราไปรับรู้เรื่องราวชีวประวัติของคิตะโน ะทาเคชิ หากคุณเคยรับชมรายการญี่ปุ่นมาก่อนน่าจะรู้จักเขาดีในฐานะของดารานักแสดงตลกที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์และมีชื่อเสียง เขาไม่ได้มีเพียงแค่ความสามารถในด้านการเล่นตลกเท่านั้นแต่ยังเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ได้อีกด้วย 

ใครที่กำลังกังวลว่าเราไม่ได้รู้จักทาเคชิในชีวิตจริงเวลาที่ไปรับชมแล้วจะรู้สึกไปตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์หรือไม่ ขอรับรองได้เลยว่าถึงคุณจะไม่รู้จักก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยแม้แต่น้อย เพราะเรื่องราวที่เล่านั้นจะเน้นหนักไปที่ชีวิตของอาจารย์ของเขาอย่างฟุคามิ เซ็นซาบุโร่มากกว่า ดังนั้นหากใครที่กำลังหาภาพยนตร์รับชมในเวลาว่างแล้วไม่รู้ว่าจะรับชมภาพยนตร์เรื่องอะไรดี เราก็ขอแนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้เลย 

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง ASAKUSA KID

ASAKUSA KID จะพาเราย้อนกลับไปในประเทศญี่ปุ่นช่วงยุค 60 ในยามที่เต็มไปด้วยความเสื่อมโทรมของโตเกียวอย่างอาซากุสะ คิตาโนะเป็นเด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไปที่ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อทำตามความฝันของตัวเองในการที่จะเป็นนักแสดงตลก และเขานั้นก็ได้รับงานแสดงตลกในโรงละครเปลื้องผ้าและโชว์ตลกในย่านอาซากุสะที่เรียกว่าฟรานซ่า มันทำให้เขาได้พบกับอาจารย์อย่างเซ็นซาบุโร่ที่มีความชำนาญและความเชี่ยวชาญในการเล่นตลกเป็นอย่างมาก เขาได้ทำการฝากตัวกับอาจารย์ผู้นี้และผู้เป็นอาจารย์ก็ได้ให้ลูกศิษย์ของตนเองนั้นนำเอากรอบความคิดในการเป็นนักแสดงตลกตอนที่อยู่บนเวทีมาใช้เวลาอยู่ในชีวิตประจำวันด้วย แม้ว่าเซ็นซาบุโร่นั้นจะเป็นชายที่อยู่ในโรงละครเปลื้องผ้าแต่แท้จริงแล้วขอเป็นตลกระดับปรมาจารย์ที่อยู่เบื้องหลังของนักแสดงตลกที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นหลายคนเลยทีเดียว

KITANO นั้นตั้งใจและมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักภายใต้การดูแลของอาจารย์เพื่อฝึกฝีมือและทำตามความฝันในการเป็นนักแสดงตลกที่ประสบความสำเร็จให้ได้ แต่เมื่อเขาได้รับชมโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นการแสดงตลกแบบสดในโรงละครก็เสื่อมความนิยมลงไป สุดท้ายเขาจึงจำเป็นต้องเลือกเส้นทางใหม่และต้องแยกจากอาจารย์ของตัวเอง สุดท้ายแล้วเส้นทางของเขานั้นจะดำเนินต่อไปอย่างไรและอาจารย์ของเขานั้นจะมีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับเขาอย่างไรอีกบ้างต้องไปติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง ASAKUSA KID

ASAKUSA KID เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวชีวประวัติของดาวตลกที่มีชีวิตอยู่จริงในประเทศญี่ปุ่นอย่างคิตาโนะ เขานั้นได้ถ่ายทอดเรื่องราวความทรงจำของเขาที่ได้เข้าไปสนิทสนมกับปรมาจารตลกในญี่ปุ่นจนทำให้เขาได้มีวันนี้ขึ้นมา เรื่องราวเส้นทางชีวิตการเป็นตลกของเขานั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมายตั้งแต่ต้องนอนในห้องแต่งตัวเพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า การขาดทุนของโรงละคร เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ เรื่องราวเหล่านี้หากคุณอ่อนไหวรับรองเลยว่าคุณจะต้องเสียน้ำตาให้กับความดราม่าของภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน 

จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการนำเอาบันทึกความทรงจำของดาวตลกชื่อดังในญี่ปุ่นมาบอกเล่าเป็นชีวประวัติได้อย่างสนุกสนานและอบอุ่นหัวใจ มุกตลกจะเป็นมุกจากประเทศญี่ปุ่นแต่ก็ทำให้ผู้รับชมในต่างประเทศอย่างเรารู้สึกตลกไปด้วยได้ มีการใส่เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ที่ทำให้เราต้องน้ำตาร่วง สามารถถ่ายทอดประวัติการเปลี่ยนแปลงในวงการตลกของญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี คิตาโนะตัวจริงได้เข้ามาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ส่วนนักแสดงที่รับบทเป็นคิตาโนะเองก็ทำได้เหมือนตัวจริงอย่างยอดเยี่ยม แต่ส่วนของจุดด้อยก็มีเช่นเดียวกันคือการตัดเรื่องราวตัวละครบางตัวแบบไม่มีบทสรุปให้เราทราบเลยว่าพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง และเรื่องราวที่เล่านั้นมีเพียงบางส่วนที่จะเล่าถึงคิตาโนะ ไม่ได้เล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบแต่อย่างใดทำให้มันมีการเล่าเรื่องราวที่รวบรัดไปบ้าง 

แต่โดยรวมแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังสามารถสร้างความสนุกสนานและความซาบซึ้งให้กับเราได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่ดี ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การรับชมเราแนะนำว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เหมาะสำหรับการรับชมไม่น้อยเลยทีเดียว 

ตัวอย่างหนัง ASAKUSA KID

รีวิว หนัง ASAKUSA KID บางส่วนจาก playinone

หนังดราม่าชีวประวัติจากญี่ปุ่นที่เน็ตฟลิกซ์สร้างออกมาได้อย่างดีงามมาก ด้วยเรื่องราวตลกปนเศร้าที่บาลานซ์ทั้งสองอย่างได้ดีตลอดเรื่อง การันตีเลยว่าผู้ชมต้องขำกับมุกตลกญีปุ่นโบราณๆ ในเรื่องได้แน่นอน แถมตามด้วยอาการน้ำตาซึมจากความประทับใจที่เรื่องนี้มอบให้ไปพร้อมกันด้วยครับ

Asakusa Kid เด็กอาซากุสะ หนังญี่ปุ่น Original Netflix หนังชีวประวัติของ คิตาโนะ ทาเคชิ ดาวตลกที่มีชื่อเสียงและมีพรสวรรค์หลายด้านของญี่ปุ่น เป็นการเล่าเรื่องจุดเริ่มต้นการเดินทางสายตลกของเขาที่ผูกพันกับอาจารย์ ฟุคามิ เซ็นซาบุโร่  นักแสดงตลกในโรงละครเปลื้องผ้าในอาซากุสะ ที่กลายมาเป็นความทรงจำไม่เคยลืมเลือนของเขา

ผลงานนี้เป็นภาพยนตร์ ที่สร้างจากบันทึกความทรงจำของคิตาโนะเรื่อง Asakusa Kid  โดยคิตาโนะ ทาเคชิ หรือ “บีท ทาเคชิ” เป็นดาวตลกที่มีชื่อเสียงและมีพรสวรรค์หลายด้านรวมถึงเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่ใครๆ ในญี่ปุ่นต่างก็รู้จักดี โดยเป็นเรื่องราวก่อนเข้าสู่วงการของเขา ในฐานะลูกศิษย์ของดาวตลกชื่อดังจากย่านอาซากุสะ แต่ไม่ใช่เรื่องราวชีวประวัติทั้งหมดของเขา เป็นเพียงเสี้ยวส่วนหนึ่งของความทรงจำร่วมกับอาจารย์คนนี้เท่านั้น

เรื่องนี้ดำเนินเรื่องในช่วงกลางทศวรรษที่ 1960 ในอาซากุสะซึ่งเป็นย่านที่ค่อนข้างเสื่อมทรามของโตเกียว หลังลาออกจากมหาวิทยาลัย คิตาโนะ ไปตามฝันเป็นตลก เขาได้งานที่ฟรานซ่า ซึ่งเป็นโรงละครเปลื้องผ้าและโชว์ตลกในอาซากุสะ  จากนั้นไม่นานเขาก็ได้สั่งสมประสบการณ์จากดาวตลกในตำนานอย่างฟุคามิ เซ็นซาบุโร่  ผู้บอกให้ลูกศิษย์ของเขาหัดนำกรอบความคิดของนักแสดงตลกเวลาอยู่บนเวทีไปใช้ในชีวิตประจำวันด้วย  (ฟุคามิ เซ็นซาบุโร่ คือ ตลกระดับปรมาจารย์ผู้อยู่เบื้องหลังนักแสดงตลกที่มีชื่อเสียงหลายคน)  คิตาโนะทำงานอย่างหนักภายใต้การดูแลของฟุคามิเพื่อฝึกปรือฝีมือ และบรรลุความฝันที่จะได้เป็นนักแสดงตลกที่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม เมื่อการรับชมโทรทัศน์เป็นที่นิยมมากขึ้น การแสดงตลกแบบสดจึงค่อยๆ หมดความนิยมไป เขาจึงต้องเจำใจเลือกเส้นทางใหม่แยกทางจากอาจารย์ของตัวเอง

ตัวหนังถึงแม้ผู้ชมจะไม่รู้จัก คิตาโนะ ทาเคชิ หรือ “บีท ทาเคชิ” เลยก็ยังสามารถรับชมได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ เพราะที่จริงเรื่องราวค่อนข้างจะเทน้ำหนักให้กับชีวิตของอาจารย์ของเขา ฟุคามิ เซ็นซาบุโร่ มากกว่า ซึ่งตัวเรื่องเขียนจากความทรงจำที่เขาได้ไปคลุกคลีสนิทสนมกับอาจารย์ในฐานะเด็กกดลิฟต์ ก่อนจะพยายามฝึกฝนจนอาจารย์ยอมรับ ซึ่งก็เหมือนอาจารย์มองเขาในวัยหนุ่มขาดว่าคนนี้จะกลายเป็นตลกชื่อดังในอนาคต ซึ่งการที่อาจารย์มองขาดก็ทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่มีอะไรร่วมกันมากกว่าแค่ศิษย์กับอาจารย์ ในหนังแทบจะทำให้เราคิดว่าอาจารย์มองเขาเป็นเด็กน้อยหรือลูกคนหนึ่งที่ต้องพยายามช่วยอุ้มชูให้มากที่สุด อย่างจ่ายค่าเช่าห้องให้เขาไม่ต้องนอนในห้องแต่งตัวของโรงละคร หรือการยอมทนขาดทุนกับโรงละครแห่งนี้เพื่อให้ทาเคชิมีงานทำ ซึ่งนักแสดงอย่าง “โย โออิซุมิ” ผู้รับบทนี้ก็แสดงได้กินใจมาก สอดรับกับ “ยูยะ ยากิระ” ที่แสดงเป็นทาเคชิได้อย่างลงตัวเป็นธรรมชาติเหมือนตัวจริงมาก แม้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะมีจุดที่ต้องแยกจากกัน แต่หนังก็ยังโฟกัสตัวอาจารย์ต่อไป แสดงให้เห็นว่าแม้ศิษย์แยกทางไปแล้ว แต่อาจารย์ก็ไม่เคยลืมลูกศิษย์คนนี้เลย ซึ่งดราม่าความสัมพันธ์นี้ทำได้ถึง และมีช่วงที่ลึกซึ้งกินใจมากพอดูเหมือนกัน ใครที่อ่อนไหวมากก็อาจจะเสียน้ำตาได้เลย

แต่หนังก็ไม่ได้มีแต่ดราม่าเป็นจุดขายหลัก หนังยังจับจุดเอาเรื่องตลกตั้งแต่การแสดงในโรงละครของทั้งคู่ จนมาถึงการแยกทางออกไปเล่นมันไซ (ตลกแบบคู่ไมโครโฟน) ซึ่งทำให้เราเห็นการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยของวงการตลกในญี่ปุ่น ซึ่งก็น่าจะคล้ายคลึงกันทั่วโลก ซึ่งเนื้อหาในส่วนนี้ก็นำเสนอมุกตลกในแต่ละยุคพร้อมกันไปด้วย อย่างอาจารย์ของทาเคชิที่ไม่เอาการเล่นตลกจากการทำหน้าตาให้ตลก คนดูต้องเคารพแล้วหัวเราะตลกจากมุกที่ยิงออกไป หรืออย่างทาเคชิที่แรกๆ ก็ยิงมุกแป๊กไม่ผ่าน จนมาตอนหลังยอมก้าวข้ามเส้นตลกไปถึงเรื่องสีผิวการเหยียดแบบขำๆ ก็ทำให้เริ่มโด่งดังมีชื่อเสียง แต่ก็ไปเจอโลกของตลกในวงการทีวีที่ต้องห้ามมุกแนวนี้จนแทบไปไม่เป็น แต่เนื้อหาทั้งหมดของช่วงเหล่านี้ไม่ได้เป็นไปในแบบเครียดเลยแม้แต่น้อย กลับเต็มไปด้วยฉากยิงมุกตลกที่คนดูต้องหลุดขำตามได้จริงๆ จนกลายเป็นช่วงที่คอนทราสตัดกันกับดราม่าความสัมพันธ์เศร้าของทั้งๆ คู่แบบที่กล่าวไปด้านบน

playinone

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *