ชื่อเรื่องVagabond
เรตติ้ง8.2
นักแสดงLee Seung-gi,Bae Suzy
จำนวนตอน16 ตอน

รีวิวซีรีส์ Vagabond Netflix

รีวิวซีรีส์ Vagabond Netflix Original จาก Netflix ที่ทุ่มทุนสร้างคุณภาพเทียบกับ Hollywood ปัจจุบันนี้ Netflix ไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มสำหรับการ Streaming สื่อบันเทิงเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นพวกเขานั้นได้พัฒนาไปข้างหน้าด้วยการทำทั้งซีรีส์และภาพยนตร์ Onginal ของตัวเองออกมามากมายซึ่งเรื่องราว Original เหล่านี้มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากตรงที่มันมีไอเดียแปลกใหม่น่าสนใจแตกต่างจากที่เรานั้นเคยรับชมในภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่อายตามแพลตฟอร์มธรรมดาทั่วไปแบบออฟไลน์และล่าสุดพวกเขาได้มีการทุ่มทุนสร้างซีรีส์เรื่องหนึ่งเป็นจำนวนเงินกว่า 656 ล้านบาทเลยทีเดียวนั่นก็คือซีรีส์เรื่อง Vagabond เป็นซีรีส์สัญชาติเกาหลีที่มีคุณภาพสูงระดับ Hollywood

เนื่องจากทุ่มทุนสร้างเป็นเงินจำนวนมากเป็นราม่าซีรีส์ซีซั่นแรกที่ออกฉายทั้งหมดจำนวน 16 ตอนความน่าสนใจของเรื่องนี้ก็คือการให้ตัวละครธรรมดาทั่วไปในสังคมที่เราพบเจอได้ในชีวิตประจำวันเข้าไปมีส่วนพัวพันเกี่ยวกับการคอรัปชั่นระดับชาติแถมมันยังมีส่วนเชื่อมโยงไปยังองค์กรใหญ่ระดับโลกอีกด้วยมันจึงกลายเป็นซีรีส์ดราม่าที่มาพร้อมกับการสืบสวนสอบสวนและการต่อสู้ที่มีความน่าสนใจเพราะมันน่าสงสัยเป็นอย่างมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปนั้นจะสามารถต่อสู้กับอิทธิพลมืดใต้ดินได้อย่างไรในเมื่อตัวเขานั้นแทบจะไม่มีอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว

และประกอบกับการที่มันเป็นเกาหลีทำให้มันเต็มไปด้วยเรื่องราวดราม่าที่เข้มข้นเป็นอย่างมากแม้ว่าเรื่องราวจะมีกลิ่นอายความเน่า แต่โชคดีที่ตัวละครในองนี้ไม่ได้โง่ แต่อย่างใดพวกเขาฉลาดและมีความสามารถแม้ว่ามันจะสามารถเอาชนะได้ยากก็ตามเนื่องจากตัวร้ายมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกลุ้นและเอาใจช่วยตัวละครเอกได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นเรื่องราวของซีรีส์เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกัน

เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง Vagabond

Vagabond เป็นซีรีส์เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่าอัลกอนเขานั้นทำงานเป็นสตั๊ดแมนหนุ่มธรรมดาทั่วไปในวงการบันเทิง แต่เขามีความฝันว่าในวันหนึ่งเขาจะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานจนได้เป็นผู้กำกับคิวบู๊ในที่สุด แต่หลังจากนั้นเส้นทางอาชีพก็ไม่สวยเท่าที่ควรจนเขาตัดสินใจยุติอาชีพสต็นท์แมนมาขับแท็กซี่แทนเพื่อหาเลี้ยงหลานชายที่กำลังเรียนอยู่อย่างซานโดยเขายังโกหกหลานว่าได้ทำอาชีพเดิมอยู่ไม่ได้มาขับแท็กซี่ แต่อย่างใด แต่แล้วในวันหนึ่งหลานชายของเขาก็รับรู้ความจริงเข้าก่อนที่จะเดินทางไปโมร็อกโกเพื่อสาธิตการต่อสู้ยูโตเขาจึงได้ตัดสินใจเก็บของที่อาของเขารักเอาไว้

และอัดคลิปบอกความในใจก่อนจะขึ้นเครื่องบินเดินทางไปยังต่างประเทศเพื่อให้อาของเขาได้รับชม แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อเครื่องบินลำนั้นเกิดระเบิดและตกในบริเวณที่ใกล้กับเมืองโมร็อกโกทุกคนที่เป็นผู้โดยสารบนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมดกว่า 211 ศพรัฐบาลเกาหลีใต้ได้มีการออกมาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและดำเนินการให้ บริษัท ก่อสร้างเครื่องบินทำการรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้กับญาติผู้เสียชีวิตและพาไปญาติผู้เสียชีวิตไปทำพิธีไว้อาลัยถึงเมืองโมร็อกโกการเดินทางในครั้งนี้ทำให้อัลกอนได้รับรู้ความจริงว่าเครื่องบินตกในครั้งนี้ไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ แต่เป็นการก่อการร้ายเนื่องจากมีหนึ่งในผู้โดยสารที่หลานชายถ่ายคลิปวีดีโอติดบนเครื่องบินสามารถรอดชีวิตมาอยู่ในสนามบินได้ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้เดินทางตามหาชายดังกล่าวจนเจอและพยายามค้นหาความจริง

แต่ก็เกิดการต่อสู้ขึ้นจนคนร้ายสามารถหลบหนีไปได้เขาจึงได้พยายามบอกกับญาติผู้เสียชีวิตคนอื่น แต่ไม่มีใครเชื่อเลยเขาจึงได้ไปขอความช่วยเหลือและความรับผิดชอบจัดเจ้าหน้าที่ในสถานทูตที่มีชื่อว่าแฮรี่ให้มาช่วยเขาหาความจริง แต่เขาก็ดันมารู้ทีหลังว่าหญิงสาวคนนี้ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ในสถานทูต แต่เธอเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานข่าวกรองของเกาหลีที่แฝงตัวมาปฏิบัติงานในโมร็อคโคต่างหากหญิงสาวตัดสินใจช่วยงานชายหนุ่มเพื่อค้นหาความจริงและได้รับรู้ว่ามันคือการก่อการร้ายที่ต้องการจะทำลายคู่แข่งในการขายอุปกรณ์การบินและการประมูลเครื่องบินทางทหาร ครั้งใหญ่ในเกาหลีดังนั้นเรื่องนี้จึงมีส่วนพัวพันกับการเมืองด้วยสุดท้ายแล้วเรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตามรับชมกันต่อในซีรีส์

ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง Vagabond

Vagabond เป็นซีรีส์ที่เรียกได้ว่าครบรสชาติสำหรับซีรีส์เกาหลีเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนต่อสู้มันเต็มไปด้วยเรื่องราวความดราม่าการสืบสวนสอบสวนที่เข้มข้นการต่อสู้ที่ดุเดือดมีฉากเกี่ยวกับความรักเข้ามาให้เราได้เห็นเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเน้นเรื่องการสืบสวนสอบสวนมากกว่าตัวละครที่แข็งแกร่งมากที่สุดในเรื่องนี้ก็คือตัวร้ายที่เหมือนว่าจะไม่มีวันเอาชนะได้เลยมันยิ่งทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วยตัวละครหลักมากยิ่งขึ้นไปอีก

ไม่เพียงเท่านั้นดำเนินเรื่องไปมาก็เริ่มมีการหักหลังกันมากยิ่งขึ้นจนทำให้เรื่องสามารถพลิกไปมาได้อย่างยอดเยี่ยมจนเราแทบจะไม่สามารถเดาได้เลยโดยรวมแล้วถือว่าเป็นซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนต่อสู้ที่มีความยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือบุคลิกของพระเอกที่บางครั้งมีความหุนหันพลันแล่นไม่ยั้งคิดจนทำให้มันเกิดเรื่องราววุ่นวายตามมามากมาย แต่ถึงแม้ว่ามันจะสร้างเรื่องวุ่นวายพระเอกของเราก็ยังคงนิสัยแบบเต็มไปเรื่อย ๆ แม้ว่าจะมีการพัฒนาตัวละคร แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นก็สร้างความหงุดหงิดให้ผู้รับชมอย่างเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ตัวอย่างซีรีส์ Vagabond

รีวิว ซีรีส์ Vagabond บางส่วนจาก beartai

สตันท์แมนนามว่า ชาดัลกอน (ลีซึงกิ) ซึ่งได้เข้ามาพัวพันกับโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่มีหลานชายคนเดียวของเขานั่งไปด้วย และจบลงด้วยการพบเจอเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการคอรัปชันระดับชาติ และมีเครือข่ายโยงใยไปยังองค์กรระดับโลกด้วย ในขณะเดียวกัน โกแฮริ (แบซูจี) ลูกสาวคนโตของทหารเรือผู้ล่วงลับ ได้ตัดสินใจทำงานในหน่วยความมั่นคงแห่งชาติ (NIS) ในฐานะหน่วยสืบราชการลับประจำต่างประเทศ เพื่อเลี้ยงดูแม่และพี่น้องของเธอ แม้แฮริฝันที่จะได้ใช้ชีวิตเรียบง่ายในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐธรรมดาก็ตาม แต่ความฝันนั้นก็ถูกท้าทายเมื่อเธอบังเอิญได้พบชาดัลกอนที่กำลังตามหาความจริงในคดีเครื่องบินตก นำมาพาให้ทั้งคู่ระเหเร่ร่อนข้ามประเทศทั้งหนีคนตามฆ่า ทั้งค้นหาผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ในฉากหลังหลายประเทศอย่างเกาหลี โปรตุเกส และโมรอกโค ด้วย ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรื่อง Vagabond หรือ Baegabondeu (배가본드) ซึ่งแปลว่า คนพเนจร

ดราม่าซีรีส์ในซีซันแรกนี้ (ใช่ครับกระแสดีแบบนี้ ไม่จบไวหรอก) มีจำนวน 16 ตอน โดยออกอากาศทางช่อง SBS (Seoul Broadcasting System) ทุกคืนวันศุกร์-เสาร์ เวลา 4 ทุ่มเป็นต้นไป และออกอากาศผ่านทางสตรีมมิงชื่อดังอย่าง เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ในเวลาเดียวกัน ส่งผลปัญหามากมายแก่ผู้ชมอย่างเรา ๆ เพราะต้องตั้งตาคอยดูตอนใหม่มาทุกสัปดาห์เวลา 4 ทุ่มเลย แล้วยิ่งสัปดาห์ไหนทางเกาหลีติดถ่ายทอดสดรายการพิเศษ ชาวเน็ตฟลิกซ์อย่างเราก็ต้องอดดูตามไปด้วย แง่งงง หลังจากดูทรงแบบด่วนรีวิวกับ 2 ตอนแรกไป (อ่านที่นี่) ก็ขอมาฝอยสรุปหลังดูจบทั้ง 16 ตอนกันอีกรอบว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไรบ้าง และคำถามสำคัญหลังจากนี้จะเป็นยังไงบ้างเราจะได้ดูซีซัน 2 กันมั้ย หรือจะจบแบบปล่อยผู้ชม เคว้ง ตามที่ชาวเน็ตเขาแซวกันนะ (ฮา) ส่วนที่ชอบ ซีรีส์เริ่มจากเรื่องของคนตัวเล็ก ๆ ที่ถูกผลักให้ไปอยู่ในสถานการณ์ที่ใหญ่เกินตัว จริง ๆ ก็เกินไปเยอะเลย นึกสภาพคนหาเช้ากินค่ำที่อยู่ดี ๆ จะต้องไปเจอทั้งกลุ่มผู้ก่อการร้าย องค์กรนักฆ่า หน่วยข่าวกรองระดับชาติ ระดับข้ามชาติ แวดวงการเมืองประเทศ การเมืองโลก เชส นี่มันอะไรกันเนี่ย ไอ้หนุ่มดวงซวยคนนี้มีนาม ชาดัลกอน เขามีคาแรกเตอร์แนวมุทะลุ ตรง ซื่อ อ่านง่าย ไม่พลิกแพลง เป็นคาแรกเตอร์แบบที่ไม่น่าอยู่ในหนังแนวสายลับสองหน้าไล่ล่าหักหลังคอร์รัปชันได้เลย แต่เพราะแบบนี้ล่ะเลยทำให้ซีรีส์นี้ดูแตกต่างขึ้นมา เขาเหมือนตะปูที่ตอกลงบนไม้แกะสลักมากลวดลายหลอกตา ทำให้เราติดตามเรื่องราวง่ายเข้าใจได้แม้ไม่ชินกับหนังที่พลิกไปมา

ข้อดีอีกอย่างคือถึงเขาจะเป็นอย่างนี้แต่เขาไม่ได้โง่เป็นพระเอกละครน้ำเน่า ในจุดวิกฤตเขาคือคนที่มักสังเกตความผิดปกติได้ก่อนใคร เขาสงสัยและหาคำตอบแบบไม่ยี่หระต่ออุปสรรคเลย ชอบประโยคที่ประธานาธิบดีพูดกับเขาในตอนสุดท้ายมากว่า “คุณเป็นคนประเภทที่ต่อให้ฟ้าผ่าใส่ก็คงไม่ตาย” ใครดูมาคงรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ สกิลพระเอกโชคช่วยก็มีบ้าง แต่ดูโดยเนื้อตัวละครนี้ก็มีความพยายามมากกว่าใคร ๆ อยู่มาก และนั่นจึงเปิดโอกาสดี ๆ อย่างการรอดชีวิต และได้รับการช่วยเหลือที่ทันเวลาในเหตุการณ์ต่อมา และนั่นมันเลยสมเหตุสมผลพอที่เราจะไม่คอยดูแล้ว เอ๊ะ อยู่เรื่อย ๆ เช่นหนังบางเรื่องเป็น

ส่วนที่ชอบที่สุดของหนังที่ต้องพูดถึง คือการสร้างตัวร้ายในแบบแข็งแกร่งมาก ๆ เอาชนะได้ยากมาก ๆ ตัวตนที่ใหญ่และเป็นเครือข่ายเป็นอะไรที่แค่คิดก็ท้อแท้แล้ว มันคือไม้ซี่งัดไม้ซุงของจริง และต้องบอกว่าเพราะเหล่าตัวร้ายนี่ล่ะคือตัวเอกตัวจริงที่ทำให้ ฮีโรสง่างาม ทำให้ซีรีส์นี้น่าติดตามของจริงเลย การพลิกสถานการณ์ไปมาก็เป็นความเชี่ยวชาญที่ดีของทีมเขียนบทนี้เหมือนกัน ไม่มีมิตรและศัตรูที่ถาวร ทำให้ซีรีส์นี้มันมือมากในการย้ายค่ายเปลี่ยนโปรกันอุตลุด ทำเอาเราต้องรอลุ้นดูว่าใครจะมีไพ่ตายอะไรอีก ใครจะหักหลังใครอีก และใครจะพลิกหน้าเผยเบื้องหลังอีก สนุกมากกก

beartai

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *