| ชื่อเรื่อง | TITANS SS3 |
| เรตติ้ง | 7.5 |
| นักแสดง | Brenton Thwaites,Anna Diop |
| จำนวนตอน | 3 ซีซั่น |
รีวิวซีรีส์ TITANS SS3 Netflix
รีวิวซีรีส์ TITANS SS3 Netflix การกลับมาของเหล่าฮีโร่ในเมืองก๊อตแทมที่เต็มไปด้วยดราม่า ถ้าเสน่ห์ของภาพยนตร์ในจักรวาล MARVEL HERO คือความสนุกสนานเฮฮาความที่ดูเหมือนจะจริงจัง แต่ก็ไม่จริงจังเต็มไปด้วยมุกตลกมากมายที่ทำให้เราหัวเราะได้ตลอดการรับชมเสน่ห์ของภาพยนตร์คู่แข่งอย่างจักรวาล DC ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องราวสุดดราม่าและการนำเสนอความดำมืดของเมืองก็อตแทมที่เต็มไปด้วยความวิปลาสด้วยเหตุนี้หากใครที่ชอบภาพยนต์ MARVEL HERO ส่วนใหญ่ก็จะไม่ชอบภาพยนตร์ในจักรวาล DC และคนที่ชื่นชอบเรื่องราวในจักรวาล DC ก็คงจะไม่ชอบภาพยนตร์ในจักรวาล MARVEL HERO เท่าไหร่นักเนื่องจากพวกมันต่างกันอย่างชัดเจนหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบภาพยนตร์ฮีโร่ในจักรวาล DC
และติดตามพวกเขามาโดยตลอดจะรู้ดีว่าฮีโร่ในจักรวาล DC นั้นไม่ได้มีเพียงแค่ฮีโร่ดาวดังอย่าง WONDER WOMAN BATMAN SUPERMAN หรือ THE FLASH แต่อย่างใด แต่ยังมีโรที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มในชื่อไททันส์อีกด้วยสาเหตุที่ทำให้ฮีโร่กลุ่มนี้อาจจะไม่ค่อยได้เป็นที่รู้จักเท่าไหร่นักเนื่องจากพวกเขานั้นถูกเล่าเรื่องราวในลักษณะของซีรีส์ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ออกฉายในโรงทำให้การเป็นที่รู้จักในวงกว้างก็อาจจะไม่ได้เทียบเท่ากับโร่ตัวหลักเหล่านั้นสักเท่าไหร่ แต่พวกเขาก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงามเลยทีเดียวจนปัจจุบันออกมาแล้วทั้งหมดถึง 3 SEASON ด้วยกันอย่างเช่น
ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้นั่นก็คือ TITANS SS3 ซีรีส์ดังกล่าวใน 2 ภาคแรกนั้นเป็น ORIGINAL SERIES บน NETFLIX แต่ในซีซั่น 3 ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้จะย้ายไปฉายบน HBO MAX แทนและยังมีการฉายใน NETFLIX เช่นเดียวกันโดยในภาคนี้จะมีทั้งหมดจำนวน 13 ตอนโดยจะพาเรากลับเข้าสู่เมืองก็อตแทมที่เต็มไปด้วยดราม่ามากมายไม่เพียงเท่านั้นที่น่าสนใจก็คือเราจะได้เห็นตัวร้ายยอดนิยมอย่าง JOKER ในซีรีส์ภาคนี้อีกด้วยใครที่เป็นแฟนคลับเมืองก็อตแทบไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด
เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง TITANS SS3
TITANS SS3 จะเล่าถึงเรื่องราวหลังเหตุการณ์ใน SEASON 2 เป็นระยะเวลาปีกว่า ๆ หลังจากที่พวกเขาต้องเผชิญกับความสูญเสียดอนน่าทรอยไปสมาชิกที่หลงเหลืออยู่บางส่วนนั้นได้แยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเองโดยเฉพาะเรเวนที่ตัดสินใจเดินทางไปยังเกาะเฮมิสร่วมกับนักรบอเมซอนจุดประสงค์ของเธอก็คือการตามหาวิธีการที่จะคืนชีวิตให้กับเพื่อนอย่างตอนน่าให้สำเร็จและเกิดยังต้องการที่จะเรียนรู้พลังเกี่ยวกับตัวเองมากยิ่งขึ้นอีกด้วยในขณะเดียวกันสมาชิกในทีมบางส่วนก็ยังคงเดินหน้ารักษาความสงบให้กับผู้คนต่อไปโดยพวกเขานั้นมีฐานอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโกนำทีมโดยเกรย์สัน
ที่ตอนนี้ยกระดับเป็นไนท์วิ่งจากที่เดิมที่เป็นโรบินอย่างเต็มตัวในช่วงเวลาเดียวกันเจสันหรือโรบินคนที่ 2 ได้แยกตัวออกไปจากทีมเพื่อทำงานให้กับ BATMAN ในเมืองก็อตแทมและมันก็ทำให้เขานั้นได้พบกับโจ๊กเกอร์ตัวร้ายศัตรูคู่กัดตลอดกาลของแบทแมนที่ไม่ว่าจะต่อสู้กันกี่ครั้งก็ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะเขานั้นเต็มไปด้วยความใจร้อนจนพลาดท่าถูกโจ๊กเกอร์สังหารในที่สุดเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นทำให้บรูซเวย์นต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในจิตใจอย่างหนักเกรย์สันรู้สึกเป็นห่วงเป็นอย่างมากเขาจึงตัดสินใจเดินทางมายังเมืองก็อตแทมและได้พบกับเพื่อนเก่าอย่างแบตเกิร์ลหรือบาบาร่ากอร์ดอน
ตอนนี้เธอได้มาเป็นอธิบดีกรมตำรวจท่านพ่อที่เสียชีวิตไปและในระหว่างนั้นชายหนุ่มก็ได้พบกับเรื่องราวที่น่าสงสัยเกิดขึ้นมากมายรวมไปถึงความเปลี่ยนแปลงในเมืองก็อตแทมหลังจากที่แบทแมนตัดสินใจจากเมืองนี้ไปเมืองก็อตแทมที่ไม่มีแบทแมนอีกต่อไปเต็มไปด้วยความวิปลาสเกินกว่าการแก้ไขเกรย์สันจึงได้ตัดสินใจที่จะเรียกสมาชิกทุกคนมายังเมืองดังกล่าวเพื่อหวังว่าตนเองนั้นจะสามารถกอบกู้สถานการณ์ของเมืองนี้เอาไว้ได้ แต่ดูเหมือนว่าความวิปลาสของเมืองนี้จะกัดกินจิตใจของสมาชิกภายในทีมจนแทบจะสลายไปเกือบทั้งทีมแม้ว่าพวกเขาจะมีพลังวิเศษเหนือมนุษย์ก็ตามสุดท้ายแล้วเรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดตามชมกันต่อในซีรีส์
ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง TITANS SS3
TITANS SS3 ยังคงการนำเสนอเหมือนกับใน 2 วันแรกแบบแทบจะไม่มีผิดเพี้ยนยังคงนำเสนอการรวมตัวกันของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่วัยรุ่นที่มีพลังความสามารถเหนือมนุษย์ แต่ก็ยังคงเป็นมนุษย์ธรรมดาทั่วไปที่ยังต้องเผชิญกับปัญหาชีวิตมากมายที่ทำให้พวกเขานั้นไม่มั่นคงดังนั้นบางอย่างที่พวกเขาตัดสินใจทำลงไปจึงมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นและมันก็มักจะไม่เป็นเหมือนกับที่พวกเขาได้คิดเอาไว้บรรยากาศภายในซีรีส์นั้นจะเต็มไปด้วยความมืดมนตามสไตล์เรื่องราวของฮีโร่ฝั่ง DC ตลอดการเล่าเรื่องเราจะรับรู้ถึงความไม่น่าไว้วางใจความดิบเถื่อนความลึกลับที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางการนำเสนอภาพออกมา
ไม่เว้นแม้กระทั่งในตอนที่ตัวละครเต็มไปด้วยความสุขหรืออยู่ในเหตุการณ์ที่สนุกสนานก็ตามมันทำให้เราไม่ไว้ใจและคิดว่ามันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นอีกแน่นอนจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือการนำเสนอและงานภาพนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีเสน่ห์เป็นอย่างมากนักแสดงแต่ละคนนั้นยังคงสามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้อย่างสมจริงและยอดเยี่ยมใครที่ชื่นชอบแบทแมนจะต้องขึ้นชอบซีรีส์ส์นี้อย่างแน่นอนเพราะมีการไปแตะเรื่องราวของแบทแมนและโจ๊กเกอร์ไม่น้อยเลยทีเดียวมีการนำเอาเหตุการณ์สำคัญของแบทแมนมาขยายเรื่องราวต่อได้อย่างน่าสนใจ
แต่จุดด้อยของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือการใส่ราม่าเข้ามาเยอะกว่าการต่อสู้จนทำให้มันแทบจะเป็นซีรีส์แนวดราม่ามากกว่ารีส์แนวฮีโร่แล้วมีการวนเวียนดราม่าของแต่ละตัวละครมากเกินไปจนทำให้น่าเบื่อไปบางช่วงเช่นเดียวกันศัตรูตัวหลักในภาคนี้มีความน่าสนใจน้อยกว่าใน 2 ภาคที่แล้วอย่างเห็นได้ชัดน่าเสียดายที่องค์ประกอบทุกอย่างนั้นดีหมด แต่กลับไม่สามารถหยิบน่าเอามาใช้ได้ดีเท่าที่ควร
ตัวอย่างซีรีส์ TITANS SS3
รีวิว ซีรีส์ TITANS SS3 บางส่วนจาก playinone
ภาคต่อ Titans DC ที่ดัดแปลงจากผลงานชื่อดังของค่าย WB คราวนี้โยกมาเมืองก็อตแธม แต่เน้นดราม่าเยอะเกินไป บอสหลักดรอปลงกว่าภาคก่อน
Titans ss3 Netflix รีวิว ซีรีส์ การกลับมาของทีมไททันส์ DC เมื่อ ดิ๊ก เกรย์สัน หรือ โรบินที่กลายเป็นไนท์วิงได้รวมทีมเหล่าฮีโร่หนุ่มสาว ออกต่อสู้ปราบเหล่าร้าย คราวนี้เรื่องราวได้ย้ายมาที่เมืองก็อตแธม เมื่อ เจสัน ท็อด หรือโรบินคนที่สองถูกโจ้กเกอร์เล่นงาน และแบทแมนข้ามเส้นแบ่งการฆ่าศัตรูของตนเองทำให้เขาจากไป แล้วมอบภารกิจกอบกู้เมืองก็อตแธมให้กับดิ๊ก ทำให้เขาเรียกสมาชิกทีมไททันส์มาเพื่อช่วยเหลือ แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคาดคิดเลย สำหรับสองซีซันแรกเป็น Original Netflix ส่วนในซีซันสามได้ย้ายไปที่ HBO Max แต่ก็ยังเข้าฉายใน Netflix เช่นกัน ซึ่งซีซันสามก็ออกมาแล้ว 13 ตอนจบ สามารถรับชมได้เลยใน Netflix
เรื่องราวในซีซันสาม เป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาปีกว่าหลังจากความสูญเสียของเหล่าไททันส์ในท้ายซีซันสอง เมื่อทีมต้องเสีย ดอนน่า ทรอย หลังจากนั้นเหล่าสมาชิกทีมไททันส์ที่เหลือบางส่วนก็แยกย้ายกันไปตามเส้นทาง โดยเฉพาะ เรเชล หรือ เรเวน ที่ตัดสินใจออกเดินทางไปที่เกาะเธมิสกีร่าร่วมกับเหล่านักรบอเมซอนเพื่อหาทางคืนชีวิตให้ดอนน่าและเรียนรู้พลังของตนเองเพิ่ม แต่สมาชิกบางส่วนก็ยังคงรวมทีมทำหน้าที่พิทักษ์ความสงบให้ผู้คนอยู่ โดยมีฐานอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก ซึ่งทีมไททันส์ก็ยังคงนำทีมโดย ดิ๊ก เกรย์สัน ที่ยกระดับจาก โรบิน กลายเป็น ไนท์วิง (Nightwing) เต็มตัว
ในขณะเดียวกัน เจสัน ท็อดด์ หรือ โรบินคนที่สอง ก็ได้แยกออกจากทีมไททันส์แล้วกลับไปทำงานให้กับ บรู๊ซ เวย์น หรือ แบทแมน ที่เมืองก็อทแธม ได้ตามรอยเจอโจ้กเกอร์ แต่ด้วยความใจร้อนเขาเลยโดนโจ้กเกอร์สังหาร และสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อจิตใจของบรู๊ซเวย์นอย่างหนัก ฝ่ายดิ๊กซึ่งเป็นห่วงจึงต้องเดินทางกลับมาที่เมืองก็อทแธมและพบกับเพื่อนเก่าอย่าง บาบาร่า กอร์ดอน หรือ แบทเกิร์ล ในอดีต ที่ในตอนนี้กลายเป็นอธิบดีกรมตำรวจแทนพ่อของเธอที่ตายไป แล้วระหว่างนั้นดิ๊กก็ได้พบเรื่องราวน่าสงสัยมากมายกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของเมืองก็อทแธมหลังจากบรู๊ซเวย์นเลือกจากไป
เมื่อเมืองก็อทแธมไม่มีแบทแมนอีกแล้ว ดิ๊กจึงตัดสินใจเรียกสมาชิกทีมไททันส์มาที่เมืองนี้เพื่อหวังจะกู้สถานการณ์ของเมือง แต่ดูเหมือนความจิตวิปลาสของเมืองแห่งนี้จะกัดกินจิตใจของเหล่าสมาชิกทีมไททันส์จนแทบจะทำลายทั้งทีม แม้ว่าแต่ละครจะมีพลังวิเศษแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ก็ตาม
การกลับมาของไททันส์ DC ในซีซันที่สาม ซึ่งยังคงคอนเซปต์หลักเหมือนในสองซีซันแรกอย่างชัดเจน นั่นคือการรวมทีมของเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่วัยรุ่นที่แม้จะมีพลังและความสามารถเหนือมนุษย์ แต่ก็ยังเต็มไปด้วยปัญหาชีวิตที่รุมเร้ามากมาย รวมถึงการลงมือทำสิ่งต่างๆที่มักเต็มไปด้วยข้อผิดพลาดและมักไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ ตัวเรื่องก็ยังคงโทนบรรยากาศมืดหม่น แม้ว่าชุดคอสตูมของเหล่าฮีโร่จะเต็มไปด้วยสีสัน แต่ก็ถูกกลืนไปกับโทนสีเย็นออกหม่นและความดาร์กของเรื่องที่ทำให้เรื่องราวดูมีความดิบ ลึกลับ ไม่น่าไว้ใจ อยู่แทบตลอดทั้งเรื่องราว
แม้แต่ในตอนที่เหล่าตัวละครมีความสุขหรืออยู่ในเหตุการณ์ที่น่ารื่นเริง แต่เราก็ยังอดรู้สึกไม่ได้ว่าจะต้องมีอะไรที่ไม่เข้าท่าเกิดขึ้นอีก ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดแข็งของเรื่องเลยก็ว่าได้ เพราะทำให้ซีรีส์นี้แม้ว่าจะเต็มไปด้วยตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ในชุดคอสตูมตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่มันกลับดูสมจริงอย่างน่าประหลาด ซึ่งอารมณ์นี้ต้องยอมรับว่า ไททันส์ ทำได้เหนือกว่าซีรีส์ซุปเปอร์ฮีโร่เรื่องๆ อื่นของ DC ที่ฉายทางช่อง CW โดยเฉพาะกลุ่มของ Arrowerse ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วมีแค่ซีรีส์ Watchmen เรื่องเดียวที่ทำอารมณ์ส่วนนี้ได้ไม่แพ้กัน
playinone