รีวิวซีรีส์ SERVANT OF THE PEOPLE

รีวิวซีรีส์ SERVANT OF THE PEOPLE

ชื่อเรื่องSERVANT OF THE PEOPLE
เรตติ้ง7.5
นักแสดงVolodymyr Zelenskyy
จำนวนตอน51 ตอน

รีวิวซีรีส์ SERVANT OF THE PEOPLE

รีวิวซีรีส์ SERVANT OF THE PEOPLE ซีรีส์ตลกแนวเสียดสีการเมืองที่รับบทนำโดยประธานาธิบดียูเครน หลายประเทศที่เห็นด้วยกับการโจมตียูเครนของรัสเซียอย่างไม่เป็นธรรมมักจะยกประเด็นเรื่องที่ประธานาธิบดียูเครนคนปัจจุบันครั้งหนึ่งเคยเป็นตัวละครหลักในซีรีส์ซิทคอมที่เต็มไปด้วยความตลกและความสนุกสนานมาพูดถึงอยู่เป็นประจำ ซึ่งเชื่อได้เลยว่าคนเหล่านั้นน่าจะไม่เคยรับชมซีรีส์เรื่องดังกล่าวมาก่อนอย่างแน่นอนเพราะมันไม่ใช่ซีรีส์ซิทคอมสนุกสนานธรรมดาทั่วไป แต่มันยังสอดแทรกประเด็นการเสียดสีการเมืองอย่างเจ็บแสบเข้ามาอีกต่างหาก ทำให้เราสามารถพูดได้อย่างชัดเจนเลยว่าประธานาธิบดียูเครนคนปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงแค่นักแสดงตลกแต่เขามีทัศนคติด้านการเมืองที่ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว 

และซีรีส์เรื่องดังกล่าวก็คือที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้อย่าง SERVANT OF THE PEOPLE มันเป็นซีรีส์ในยูเครนแนวตลกซิทคอมแบบเสียดสีการเมืองอย่างเจ็บแสบ และที่ดีไปกว่านั้นก็คือในตอนนี้เราสามารถรับชมซีรีส์เรื่องนี้ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากทาง NETFLIX ได้ทำการซื้อลิขสิทธิ์มาฉายให้ทุกคนทั่วทั้งโลกได้รับชม หลังจากที่ก่อนหน้านี้เป็นซีรีส์ยูเครนที่หารับชมได้ค่อนข้างยากแถมยังไม่มีการแปลเป็นภาษาต่างๆ ทั่วทั้งโลกอีกด้วย 

แต่สิ่งที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือนักแสดงนำของซีรีส์เรื่องนี้ที่ปัจจุบันเป็นประธานาธิบดียูเครนเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นคือโวโลดีมีร์ เซเลนสกีนั่นเอง โดยในซีรีส์เรื่องนี้เขาได้สวมบทบาทเป็นประธานาธิบดีและในปัจจุบันเขาก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดียูเครนอย่างแท้จริงด้วยคะแนนเสียงแบบถล่มทลาย แม้อยู่ในภาวะสงครามก็ยังคงได้รับความไว้วางใจจากคนในประเทศ สามารถรับมือกับการโจมตีของประเทศรัสเซียได้อย่างยอดเยี่ยม สำหรับใครที่สนใจวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกัน 

ซีรีส์ netflix แนะนํา

เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง SERVANT OF THE PEOPLE

SERVANT OF THE PEOPLE เป็นซีรีส์ที่เล่าถึงเรื่องราวของครูสอนประวัติศาสตร์ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมปลายในโรงเรียนแห่งหนึ่งของยูเครนที่มีชื่อว่าวาซิลี โกโลโบร็อดโก เขาดำเนินชีวิตในแต่ละวันอย่างปกติทั่วไปแม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาส่วนตัวมากมายจนทำให้ต้องหย่ากับภรรยาจนกลายเป็นพ่อหม้าย เขาตั้งใจเอาไว้ว่าจะทำงานเป็นครูสอนประวัติศาสตร์ไปตลอดชีวิต 

แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อครูใหญ่ในโรงเรียนทำบางสิ่งบางอย่างที่เข้าหัวเขาไปจนเขาไม่สามารถยกโทษให้ได้ ด้วยการยกเลิกคลาสเรียนของเขากลางคันแล้วให้นักเรียนทั้งห้องออกไปช่วยเขาหาเสียงทางการเมืองให้กับผู้ลงสมัครประธานาธิบดียูเครนซึ่งเป็นคนที่ครูใหญ่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอดทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง 

เขารู้สึกโกรธเป็นอย่างมากที่ครูใหญ่นำเอาเด็กนักเรียนไปเป็นเครื่องมือทางการเมือง ใช้แรงงานในการหาเสียง ทำให้เขานั้นรู้สึกอัดอั้นตันใจเกี่ยวกับการเมืองในยูเครนเป็นอย่างมาก และเจ้าตัวก็ได้เล่าเรื่องเหล่านี้ให้กับเพื่อนร่วมงานฟังโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีหนึ่งในนักเรียนทำการแอบอัดคลิปของเขาแล้วนำเอาไปลงในโลกออนไลน์เพื่อหวังที่จะประจาน 

พอตื่นเช้าขึ้นมาอีกวันหนึ่งเขาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นไวรัลในอินเทอร์เน็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากการระเบิดอารมณ์พูดเรื่องการเมืองที่เต็มไปด้วยความเจ็บแสบ บอร์ดบริหารโรงเรียนทำการเรียกเขาไปพูดคุยอย่างตึงเครียดหลังจากที่เขาทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่หลังจากที่เขากลับมาที่ห้องก็พบว่าเด็กนักเรียนกลับให้ความเคารพเขาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 

เด็กหลายคนบอกว่าพ่อแม่ของตนเองนั้นรู้สึกปลาบปลื้มขาวที่กล้าพูดความจริงที่น่าเจ็บปวดของการเมืองในยูเครนแบบที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นได้ถึงขนาดนี้ แม้แต่เด็กหัวโจกประจำห้องก็ยังให้ความเคารพเขาด้วยแถมยังเสนอให้เขาลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอีกต่างหาก แน่นอนว่าชายหนุ่มที่ต้องการจะเป็นครูไปตลอดชีวิตไม่สนใจอย่างแน่นอน แต่เด็กก็ตั้งใจหาเงินมาให้อาจารย์ของพวกเขาได้ลงเลือกตั้งจนทำให้เขาไม่มีทางเลือก แถมยังพลิกล็อคสามารถเอาชนะคู่แข่งทางการเมืองได้แบบถล่มทลายจนกลายมาเป็นประธานาธิบดีจริงๆ อีกด้วย 

ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง SERVANT OF THE PEOPLE

SERVANT OF THE PEOPLE จะบอกว่าเป็นซีรีส์ที่ทำออกมาเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกอัดอั้นตันใจทางการเมืองของโวโลดีมีร์ เซเลนสกีก็ว่าได้ เพราะไม่ใช่เขาจะเป็นนักแสดงนำเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นแต่เขายังเป็นผู้กำกับและผู้เขียนบทเองอีกต่างหาก เรียกได้ว่ามีความสามารถรอบด้าน ทำออกมาถึง 3ซีซั่นก็ประสบความสำเร็จทั้งหมด และซีรีส์เรื่องนี้ก็ได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นในการก่อตั้งพรรคการเมืองจนทำให้เขาสามารถคว้าตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2018 ได้สำเร็จด้วยการชนะแบบถล่มทลายเหมือนกับในซีรีส์ไม่มีผิดเพี้ยน

 อย่างไรก็ตามด้วยความที่มันเป็นซีรีส์ฉายทางโทรทัศน์ในยูเครน ฉะนั้นงานสร้างจึงอาจจะไม่ได้ออกมาดูตั้งใจหรือต้องการที่จะทำให้เพียบพร้อมเพื่อต้องการที่จะให้มันโกอินเตอร์ในตอนแรกแต่อย่างใด บรรยากาศของมันจะเหมือนกับละครซิทคอมหลังข่าวธรรมดาทั่วไปที่เราสามารถรับชมได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเครียด 

ประเด็นหลักของซีรีส์เรื่องนี้คือขายความสนุกและความตลกเสียดสีการเมืองที่ดูเหมือนจะเกินจริงไปซักเล็กน้อย แต่ไม่ว่าจะคนชาติไหนก็ตามก็สามารถตลกขบขันไปกับมุกของพวกเขาได้อย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถนำเสนอออกมาได้อย่างสะใจอย่างถึงที่สุดอีกด้วย 

ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้ทำออกมาเพียงแค่ขายขำอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังสอดแทรกประเด็นการเมืองที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นจนทำให้ผู้รับชมรู้สึกว่ามันมีความการเมืองจ๋าซ่อนเอาไว้มากกว่าที่คิด นับว่าเป็นซีรีส์แนวการเมืองอีกเรื่องหนึ่งที่ทำออกมาได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว 

ตัวอย่างซีรีส์ SERVANT OF THE PEOPLE

รีวิว ซีรีส์ SERVANT OF THE PEOPLE บางส่วนจาก playinone

ซีรีส์ตลกเสียดสีการเมืองของประธานาธิบดียูเครนที่ทำให้เขากลายมาเป็นตัวจริงได้อย่างน่าทึ่ง เนื้อเรื่องสนุกตลกฮาไปกับมุกล้อเลียนเสียดสีการเมืองแบบเจ็บๆ ที่มีปัญหาเหมือนกันทั่วโลกแน่นอน ไม่ว่าคุณจะโปรฝั่งไหนก็ดูเรื่องนี้แล้วขำไปกับมุกเหล่านี้ได้ แถมตัวเรื่องยังสอดแทรกความรู้เรื่องการเมืองรัฐสภาประชาธิบไตยมาอย่างจริงจัง มีบทชิงไหวพริบการเมืองที่เข้มข้นรวมอยู่ด้วย อีกทั้งยังสะท้อนความรู้สึกนึกคิดของชาวยูเครนที่มีต่อรัสเซียในหลายแง่มุมออกมาได้ดีมาก เหมาะสำหรับคนสนใจเรื่องราวยูเครนโดยเฉพาะด้วย

SERVANT OF THE PEOPLE เพื่อประชาชนที่รัก ซีรีส์แนวตลกการเมืองของยูเครนที่ Netflix ซื้อมาฉาย เพราะเป็นเรื่องราวของการแสดงเป็นประธานาธิบดียูเครนของ โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ก่อนได้มาเป็นประธานาธิบดีจริง และมีบทบาทที่ทั่วโลกจับตาในสงครามรัสเซียบุกยูเครนในปัจจุบัน เกริ่นก่อนเผื่อใครยังไม่ทราบ ก่อนเป็นประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี เป็นนักแสดงดาราตลกมาก่อน โดยเล่นในซีรีส์ที่ตัวเองสร้างกับบทบาท “วาซิลี โกโลโบร็อดโก” ครูสอนประวัติศาสตร์นักเรียนชั้นมัธยมปลายที่กลายมาเป็นประธานาธิบดีเช่นกัน ซึ่งหลังซีรีส์ได้รับความนิยมอย่างสูงมีทั้งหมด 3 ซีซั่น ทีมงานของซีรีส์เรื่องนี้ก็ก่อตั้งพรรคในชื่อเดียวกับซีรีส์ และตัวเขาก็ได้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2018 แล้วก็ชนะไปอย่างท่วมท้นด้วยคะแนน 73.2 % และวางตัวเป็นนักการเมืองที่ต่อต้านกลุ่มผู้มีอำนาจและปราบการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้ก็เหมือนแผนการหาเสียงล่วงหน้าของเขาดีๆ นี่เอง เพราะทุกอย่างในเรื่องนี้ช่างเหมือนบันไดการก้าวขึ้นสู่อำนาจท้าชนผู้มีอำนาจเบื้องหลังการเมืองอันแสนยาวนานของยูเครน (ในยูเครนเองปัญหาการคอรัปชั่นสูงมาก อยู่อันดับที่ 126 เมื่อเทียบกับไทยอันดับ 101 )

เนื้อหาของซีรีส์ทั้ง 3 ซีซั่นต่อกันหมดเป็นเรื่องเดียวตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีการจบสมบูรณ์ในซีซั่นแล้วขึ้นใหม่ ดังนั้นผู้ชมที่ต้องการชมเรื่องนี้ก็ต้องทำใจก่อนว่าซีรีส์ยาวมากซีซั่น 1-2 มี 23 ตอน เวลาต่อตอนประมาณ 25 นาที ยกเว้นตอนแรกของซีซั่นจะยาวเกือบชั่วโมง ส่วนซีซั่น 3 จะมีแค่ 3 ตอนยาวเกือบชั่วโมงเท่ากัน

ด้วยความที่เรื่องนี้สร้างฉายทางทีวียูเครน ดังนั้นโปรดักชั่นต่างๆ ก็อาจจะไม่ได้เนี๊ยบหรือตั้งใจโกอินเตอร์ในตอนแรก ออกแนวเหมือนละครหลังข่าวจริงๆ แต่ที่เราได้ดูกันก็คงเพราะกระแสสงครามรัสเซียบุกยูเครนที่เกิดขึ้น และ Netflix พึ่งทำซับไทยตามมาในเดือนพฤษภาคม แต่อย่าพึ่งคิดว่าภาพรวมของซีรีส์เรื่องนี้จะไม่สนุก เป็นแค่ละครทีวียูเครน เพราะเอาจริงๆ แล้วอยากให้มองข้ามเรื่องนี้ไป นี่เป็นซีรีส์ตลกที่เน้นขายมุกเสียดสีเหมือนจริงหรือเกินจริงกับการเมือง ซึ่งไม่ว่าคนชาติไหนก็น่าจะขำได้แน่นอนการันตีได้เลย เพราะบทในเรื่องนี้มันสะท้อนภาพการเมืองที่เลวร้ายได้ทุกยุคสมัยไม่มีการเปลี่ยนไปเลย ในเรื่องจึงกำหนดให้พระเอกเป็นครูสอนประวัติศาสตร์ที่เบื่อหน่ายการเมืองสุดๆ จนไม่อยากเลือกใคร แต่แล้วเขาจับพลัดจับพลูได้เป็นประธานาธิบดีเพราะมีนักเรียนแอบถ่ายคลิปลงในยูทูป ในจังหวะที่เขาด่า ผอ. เรื่องการเมืองที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับงานของเขา ด่าลามไปยังนักการเมืองในยูเครนที่เป็นต้นตอของความเลวร้ายต่างๆ อย่างเมามันส์ จนกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ของยูเครนไป แล้วเขาก็โดนเรียกร้องให้ลงสมัครแข่งจนชนะมาได้แบบงงๆ ซึ่งตัวเรื่องเปิดมาตอนแรกก็เข้าสู่จุดนี้ทันที แล้วค่อยแฟลชแบ็คเล่ากลับมาว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมเขาถึงได้มาเป็นตรงนี้ ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องสมมุติแต่ก็ยังอิงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริง และผลลัพธ์เราก็เห็นอยู่ว่าซีรีส์เรื่องนี้ก็พาให้เขาได้มาเป็นประธานาธิบดีจริงๆ ในแบบเดียวกัน

หลักๆ แล้วซีรีส์เดินเรื่องด้วยการที่ตัวเอก วาซิลี โกโลโบร็อดโก ก้าวเข้ามาจัดการปัญหาทุจริตในทุกรูปแบบ ตั้งแต่เรื่องพื้นๆ อย่างถนนพังของบทำใหม่ ซึ่งก็เหมือนกับไทยเด๊ะๆ และซีรีส์ก็เอารูปแบบการทุจริตด้านหลังที่เราคนไทยเองก็รู้กันมาเล่นให้เป็นมุกตลกเฮฮา ที่วาซิลีเองก็ปวดหัวแก้ไม่ได้ อย่างการที่มีหัวคิวกินกันเป็นทอดๆ จากงบสิบล้านกลายเป็นร้อยล้านเพราะสั่งงานผ่านกันหลายทอด แต่ละทอดก็ขอค่าผ่านทางเพิ่มงบกันไปเรื่อยๆ หรือปัญหาพวกผู้ติดตาม สส. ที่ปรึกษา เลขา ที่เป็นตำแหน่งตั้งมาลอยๆ จำนวนเกินจริง กินงบประเทศก็ไม่แตกต่างอะไรจากไทยเลย หรือมีกระทั่งปัญหารถนำขบวนปิดถนนให้นักการเมืองกับเมีย ซึ่งอะไรเหล่านี้ถูกนำมาทำเป็นเรื่องชวนขำได้มากมาย

playinone

รีวิวหนัง/ซีรีส์

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *