| ชื่อเรื่อง | Peacemaker |
| เรตติ้ง | 8.5 |
| นักแสดง | John Cena,Jennifer Holland |
| จำนวนตอน | 8 ตอน |
รีวิวซีรีส์ Peacemaker HBO MAX
รีวิวซีรีส์ Peacemaker HBO MAX ตัวร้ายจาก Suicide Squad ที่ได้มีซีรีส์เป็นของตัวเอง Suicide Squad เป็นภาพยนตร์รวมเหล่าดาวร้ายจากจักรวาล Dc ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากตั้งแต่ภาคแรกสู่ภาคที่ 3 รวมไปถึงภาคแยกอย่าง Birds Of Prey ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวหนึ่งในตัวร้ายยอดนิยมอย่างฮาร์ลีย์ ควินน์แบบเดี่ยวๆ อีกด้วย แต่ภาพยนตร์จักรวาล Suicide Squad มีสิ่งที่น่าเสียดายอยู่หนึ่งอย่างนั้นก็คือการนำเอาเหล่าดาวร้ายจากจักรวาล Dc มารวมตัวกันหลังจากนั้นก็กระจายบทแบบไม่ทั่วถึง บางตัวละครถูกฆ่าตายแบบไม่น่าจดจำ ทำเอาแฟนๆ คอมมิค Dc หลายคนรู้สึกหัวเสียไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะแต่ละตัวละครในภาพยนตร์นั้นล้วนแล้วแต่มีความน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังของพวกเขาหรือแม้แต่ความสามารถก็ตาม กลายเป็นว่าภาพยนตร์จักรวาลนี้ตั้งใจที่จะขายเหล่าตัวละครที่มีชื่อดังจริงอย่างเช่นฮาร์ลีย์ ควินน์หรือโจ๊กเกอร์
แต่ภาพยนตร์ภาค 2 ในจักรวาลอย่าง The Suicide Squad นั้นไม่ได้ฆ่าตัวละครทิ้งหรือนำเอาตัวละครมาใช้งานแบบทิ้งๆ ขว้างๆ แต่อย่างใด เพราะแต่ละตัวละครนั้นมีบทบาทที่มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องไม่น้อย ที่สำคัญหนึ่งในตัวละครจากภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกหยิบยกนำเอาเรื่องราวของเขามาเล่าในรูปแบบของซีรีส์เดี่ยวของตัวเองอีกด้วยนั่นก็คือ Peacemaker นั่นเอง ที่สำคัญคือเป็นการเล่าเรื่องราวต่อจากภาพยนต์โดยตรงทำให้คนที่ชื่นชอบภาพยนตร์ซีรีส์นี้จะต้องรู้สึกเต็มอิ่มกับการรับชมซีรีส์เรื่องนี้อย่างแน่นอน
ซีรีส์เรื่องนี้ออกฉายใน HBO โดยเป็นการสปินออฟจากภาพยนตร์เรื่อง The Suicide Squad ที่มีการออกฉายในปี 2021 ที่ผ่านมา โดยจะเล่าถึงเรื่องราวของฮีโร่ที่รักสันติภาพแบบเกินความพอดีและต้องมารับงานให้กับทางรัฐบาลต่อจากภารกิจเสี่ยงตายเพื่อแลกกับการที่ตัวเองจะไม่ต้องติดแหงกอยู่ในคุกอีกต่อไป และมันก็จะทำให้เขานั้นได้ทบทวนกับจุดยืนของตัวเองอย่างแท้จริงอีกครั้ง
ก่อนที่จะรับชมซีรีส์เรื่องนี้เราขอแนะนำว่าคุณควรรับชมภาพยนตร์เรื่อง The Suicide Squad มาก่อนจึงจะเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นในซีรีส์เรื่องนี้เนื่องจากมันเป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องกัน โดยจะพาเราไปรับรู้เรื่องราวชีวิตของฮีโร่ตัวร้ายทั้งก่อนและหลังเหตุการณ์ในภาพยนตร์ให้เราได้ทำความรู้จักกับเขามากยิ่งขึ้น
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Peacemaker
Peacemaker เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวหลังจากโครงการสตาร์ฟิชได้จบลงไป ฮีโร่ตัวร้ายอย่าง Peacemaker ได้ถูกปล่อยให้ได้รับอิสระแต่มันไม่ใช่อิสระอย่างแท้จริงแต่อย่างใด เพราะอิสระที่เขาได้รับนั้นอยู่ภายใต้แผนการของอแมนด้าที่เป็นผู้คุมทีม Suicide Squad หญิงแกร่งที่ไม่เคยปล่อยผ่านผลประโยชน์ใดๆก็ตามแม้กระทั่งผลประโยชน์ที่กอบโกยมาจากเหล่านักโทษ
โดยในครั้งนี้เขาได้รับมอบหมายให้มาสังหารคนที่รัฐบาลต้องการจะปลิดชีวิตแบบที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้เนื่องจากในตอนนี้เขายังมีโทษจำคุกเหลืออยู่ถึง 26 ปีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีระเบิดที่ถูกฝังอยู่ในสมองและระบบติดตามตัวเพื่อป้องกันการหลบหนีที่ติดมาตั้งแต่การทำโปรเจค Suicide Squad อีกต่างหาก ดังนั้นการทำภารกิจนี้จึงกลายเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว นอกจากนี้เขายังได้รับทีมผู้ช่วยจากทางอแมนด้าโดยตรงอีกต่างหากจะบอกว่ามันเป็นการบีบบังคับให้เขาทำภารกิจก็ว่าได้
แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้รู้สึกว่าถูกบังคับขืนใจขนาดนั้นเพราะว่าเขาเองก็ต้องการอิสรภาพอยู่แล้ว โดยภารกิจในครั้งนี้จะใช้โค้ดเนมว่าผีเสื้อเพื่อให้ทุกอย่างดูเหมือนกับคนปกติทั่วไป แต่หลังจากที่เริ่มทำภารกิจไปสักพักฮีโร่ตัวร้ายก็เริ่มที่จะสัมผัสถึงความไม่ชอบมาพากลและมันก็ทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามว่างานในครั้งนี้เขาเป็นเพียงแค่เครื่องมือที่รัฐบาลกำลังหลอกใช้งานหรือไม่
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Peacemaker
Peacemaker เป็นภาพยนตร์ที่ทั้งการกำกับ งานสร้าง และเขียนบทมาจากเจมส์ กันน์ผู้กำกับมากฝีมือที่เคยฝากผลงานในภาพยนตร์เรื่อง The Suicide Squad มาทำหน้าที่โดยตรงทั้งหมดด้วยตัวเอง ดังนั้นซีรีส์เรื่องนี้ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของผู้กำกับไม่ว่าจะเป็นความบ้าระห่ำและความดราม่าแบบจัดเต็ม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะมันตรงตามความเป็นตัวละครของ Peacemaker เป็นอย่างมาก แม้ว่าหลายคนจะมองว่าเขานั้นเหมือนกับกัปตันอเมริกาเวอร์ชั่นบ้าบอ แต่ในความเป็นจริงแล้วขอเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปที่สร้างพละกำลังขึ้นมาด้วยตัวเองและบ้านสันติภาพเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีสกิลในการใช้อาวุธทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้อย่างชำนาญอีกต่างหาก ถ้าเขาไม่แต่งตัวด้วยชุดที่ตลกจนเกินไปและไม่บ้าสันติภาพคงจะเป็นฮีโร่ธรรมดาทั่วไปที่เต็มไปด้วยความสามารถคนหนึ่ง
แม้ว่ามันจะไม่ใช่ซีรีส์ที่ลงทุนสูงอะไรมากมายแถมยังไม่ได้มีการต่อสู้ระดับอลังการ งานสร้างก็ไม่เทียบเท่ากับภาพยนตร์ แต่เนื้อเรื่องกลับเต็มไปด้วยความสนุกสนานและน่าติดตามจนทำให้เรานั้นแทบจะไม่สามารถหยุดรับชมได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเล่าถึงเรื่องราวการใช้ชีวิตของตัวละคร Peacemaker ที่มักจะเจอแต่เรื่องซวยอยู่เสมอและทำให้เราได้หัวเราะ รวมไปถึงการทำภารกิจที่เต็มไปด้วยความได้ระห่ำ ทุกอย่างนั้นผสมกันได้อย่างลงตัว ที่สำคัญคือภารกิจในครั้งนี้ก็ไม่ใช่ภารกิจที่สเกลเล็กแต่อย่างใดแต่เป็นภารกิจที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว บาคาร่าsa
ตัวอย่างซีรีส์ Peacemaker
รีวิว ซีรีส์ Peacemaker บางส่วนจาก playinone
ซีรีส์อาจจะดูไม่ได้บู๊หรือลงทุนสูงอะไรมาก โปรดักชั่นอาจจะดูไม่ใหญ่โตแบบภาพยนตร์ แต่เรื่องก็เดินไปแบบสนุกน่าติดตามตั้งแต่แรกๆ เลย ทั้งการใช้ชีวิตของตัวพีซเมคเกอร์เองที่ขยันเจอเรื่องซวยๆ ให้คนได้ฮา แล้วใน 3 ตอนแรกเองก็มีตัวร้ายออกมาถึง 3 ตัว และภารกิจผีเสื้อในเรื่องก็ไม่ได้เป็นสเกลเล็กๆ ด้วย เรียกว่าเป็นซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ทำออกมาได้น่าติดตามเกินความคาดหวังจากหน้าตาที่เห็นบ๊องๆ มาก
Peacemaker ซีรีส์ HBO สปินออฟต่อจากหนัง The Suicide Squad 2021 ฉบับผู้กำกับ เจมส์ กันน์ เรื่องราวต่อมาของฮีโร่ผู้รักสันติภาพสุดขีด ที่ต้องมารับงานให้รัฐบาลต่อเพื่อแลกกับการไม่ติดคุก และภารกิจนี้ทำให้เขาได้ทบทวนจุดยืนของตัวเองอย่างจริงจัง
ก่อนดูซีรีส์เรื่องนี้ผู้ชมควรต้องดู The Suicide Squad ภาคล่าสุดก่อนถึงจะเข้าใจว่าเรื่องราวในซีรีส์นี้กำลังบอกเล่าตัวตนที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปจากในภาพยนตร์ ซึ่งถ้าใครยังไม่ได้ดูก็สามารถดูได้เลยใน HBO แล้วถึงค่อยมาดูเรื่องนี้เพราะนี่เป็นภาคแยกที่เล่าเรื่องราวต่อจากตอนจบของหนังตรงๆ โดยให้เห็นเรื่องราวชีวิตของพีซเมคเกอร์ทั้งก่อนและหลังจากเหตุการณ์ในหนัง ทำให้ผู้ชมได้รับรู้เรื่องราวของเขามากขึ้น ที่มีทั้งความฮา ห่าม บ้าดีเดือด ปัญญาอ่อน อยู่รวมกันในคนๆ เดียว แบบที่น่าสนใจมากและไม่เหมือนฮีโร่ตัวไหนๆ มาก่อนทั้งใน DC หรือมาร์เวลเองก็ตาม
หลังจากจัดการโปรเจ็กต์สตาร์ฟิชได้ พีชเมคเกอร์ก็ถูกปล่อยให้เป็นอิสระปลอมๆ เพราะสุดท้ายนี่คือการวางแผนของอแมนด้าที่คุมทีม Suicide Squad ให้เขามารับงานฆ่าคนที่รัฐบาลต้องการต่อแบบปฏิเสธไม่ได้ เพราะมีทั้งโทษจำคุกที่เหลืออยู่อีก 26 ปีกับระเบิดที่ถูกฝังในสมองพร้อมระบบติดตามตัวป้องกันการหลบหนี ซึ่งคราวนี้เขามีทีมผู้ช่วยจากอแมนด้ามาโดยตรง ไม่ใช่พวกนักโทษจากคุกเบลรีฟแบบเดิม โดยภารกิจนี้มีชื่อโค๊ดเนมว่า “ผีเสื้อ” ที่ดูเหมือนคนปกติทั่วไป จนพีชเมคเกอร์เองก็ยังลังเลไม่แน่ใจว่างานฆ่าคนครั้งนี้เขาถูกรัฐบาลหลอกใช้หรือไม่
งานสร้าง เขียนบท กำกับ ของเรื่องนี้มาจาก เจมส์ กันน์ โดยตรง ซึ่งทำให้งานซีรีส์ได้ลายเซ็นต์ความบ้าบอ+ดราม่า มาเต็มๆ ซึ่งก็ตรงกับคาแรกเตอร์ตัวละครพีซเมคเกอร์ตรงๆ ที่เจ้าหมอนี่มันเป็นแบบนี้ในตัวอยู่แล้ว ซึ่งมักจะเอากับตันอเมริกสของมาร์เวลมาเทียบว่าเป็นเวอร์ชั่นตลก แต่ความจริงไม่ได้เหมือนหรือใกล้เคียงกันเลย เพราะเขาแค่บ้าสันติภาพ สร้างพละกำลังมาได้ด้วยตัวเอง ไม่ได้ถูกฉีดเซรุ่มพิเศษ แล้วก็มีสกิลพิเศษคือใช้อาวุธทุกอย่างในโลกได้อย่างเชี่ยวชาญ ชุดเครื่องแต่งตัวก็มีจุดเด่นตรงหมวกตลกๆ ที่เหมือนเอากระโถนมาครอบหัว
ซึ่งใน Suicide ไม่ได้มีการอธิบายอะไรไว้ แต่ในซีรีส์เรื่องนี้จะแสดงให้เห็นว่าหมวกนี้ไม่ใช่เครื่องแต่งตัวตลก แต่เป็นหมวกที่มีสกิลฟังก์ชั่นหลากหลายแบบ เป็นอาวุธโจมตีที่ทรงพลังมาก ซึ่งตัวเรื่องจะโชว์ให้ตั้งแต่ช่วงแรกเลย พร้อมกับที่มาที่ไปของหมวกที่มาจากพ่อของเขา เป็นการขยายเรื่องราวของพ่อพีซเมคเกอร์ว่าไม่ธรรมดา ทั้งการที่มีห้องเก็บอาวุธชุดพีซเมคเกอร์สุดไฮเทค และการที่เป็นตัวละครลึกลับที่คนในคุกนับถือในอีกชื่อเรียกหนึ่ง ซึ่งตรงนี้ตัวซีรีส์ยังไม่ได้เล่าออกมาทั้งหมด แต่ก็ทำให้เห็นเลยว่าพ่อของเขาจะมีบทบาทสำคัญต่อไปอีกยาวๆ แน่นอน
playinone