ชื่อเรื่องTHE SUMMIT OF THE GODS
เรตติ้ง7.5
นักแสดง
จำนวนตอน1.35 ชั่วโมง

รีวิวอนิเมชั่น THE SUMMIT OF THE GODS Netflix

รีวิวอนิเมชั่น THE SUMMIT OF THE GODS Netflix อนิเมชั่นที่สร้างขึ้นมาเพื่อคารวะแก่เหล่านักปีนเขาทั่วโลก แม้ว่าบนโลกใบนี้จะมีหลายคนเลยทีเดียวที่ต้องยึดติดกับวัฒนธรรมการทำงานที่ถูกฝังกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่มาจนถึงรุ่นเราก็ต้องทำงานเป็นพนักงานเงินเดือน เป็นข้าราชการ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำงานเก็บเงินตามความฝันแบบอเมริกันดรีมเพื่อที่จะสร้างครอบครัว มีบ้าน 1 หลัง มีรถ 1 คัน ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไม่หวือหวา ไม่มีความเสี่ยงอะไร สุดท้ายก็ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของชีวิตกับเงินบำนาญหลังจากที่ตรากตรำทำงานมาเป็นระยะเวลานานหลายสิบปี ค่านิยมเหล่านี้มันทำให้เรานั้นหลงลืมอาชีพที่มีอีกมากมายบนโลกนี้ไปไม่ว่าจะเป็นการเป็นนักท่องเที่ยว นักผจญภัย นักเดินป่า หรือที่เราจะมาพาทุกคนไปรับรู้เรื่องราวของพวกเขาในวันนี้นั่นก็คือนักปีนเขานั่นเอง อาชีพเหล่านี้อาจดูเป็นอาชีพที่ไม่สามารถสร้างรายได้ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วนอกจากมันจะสร้างรายได้ให้กับพวกเขาได้แล้วมันยังทำให้พวกเขากลายเป็นตำนานอีกด้วย THE SUMMIT OF THE GODS จึงเป็นอนิเมชั่นที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคารวะให้แก่นักปีนเขาทั่วทั้งโลก 

ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้ได้หยิบยกนำเอาเรื่องจริงบางส่วนของนักปีนเขาที่มีชีวิตอยู่จริงในประวัติศาสตร์มาดัดแปลงและเล่าเรื่องราวของพวกเขาให้มีความสนุกสนานและลุ้นระทึกมากยิ่งขึ้น เป็นการคารวะเส้นทางชีวิตที่เต็มไปด้วยความท้าทายและความกล้าของพวกเขา มันเป็นอนิเมชั่นจากประเทศญี่ปุ่นที่เราสามารถไว้ใจได้เลยเรื่องคุณภาพทั้งในส่วนของบทบาทและงานภาพโดยจะเล่าถึงเรื่องราวของนักปีนเขาที่ต้องการจะพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดของโลกอย่าง EVEREST ให้สำเร็จ

ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงได้นำเอาประวัติของนักปีนเขาสองคนบางส่วนมาเล่านั่นก็คือฮาเซกาวะ ซูเนโอะและจอร์จ มันโลรี่ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ออกฉายเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ จากนั้นก็จะฉายในโรงภาพยนตร์ของสหรัฐอเมริกาในวันที่ 24 พฤศจิกายน ส่วนผู้รับชมทั่วโลกนั้นสามารถเข้าไปรับชมผ่านเน็ตฟรีได้ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เชื่อได้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องมีรายชื่อเข้าชิงรางวัลใหญ่ในปีนี้อย่างแน่นอน และมีโอกาสสูงมากอีกด้วยที่พวกเขาจะสามารถคว้ารางวัลได้สำเร็จ

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE SUMMIT OF THE GODS

THE SUMMIT OF THE GODS  จะเล่าถึงเรื่องราวของชายหนุ่มนักปีนเขาคนหนึ่งที่มีชื่อว่าจิโร่ เขานั้นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความทะเยอทะยานที่จะขึ้นไปพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกอย่างเทือกเขาเอเวอเรสต์ให้สำเร็จ แต่แล้วในวันหนึ่งเขากลับหายตัวไปอย่างลึกลับโดยที่ไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าเขาเป็นตายร้ายดีอย่างไร หลายปีต่อมาฟูจิตะ นักข่าวสายปีนเขาก็ได้รู้สึกเบื่อหน่ายกับชีวิตขึ้นมาแถมยังรู้สึกเบื่ออาชีพที่จะต้องออกไปเดินทางถ่ายภาพนักปีนเขาในหลายพื้นที่อีกด้วย แต่แล้วเขากลับพบสิ่งที่ไม่คาดฝันเมื่อเขาบังเอิญเจอเข้ากับชายคนหนึ่งที่เขาสงสัยว่าน่าจะเป็นจิโร่ ชายที่ครั้งหนึ่งเคยอยากจะพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์เดินเตร็ดเตร่อยู่ในตรอกแห่งหนึ่งของประเทศเนปาล 

ไม่เพียงเท่านั้นเขายังพบอีกว่าชายคนนั้นมีกล้องโบราณที่เชื่อว่าน่าจะเป็นของจอร์จ มันโลรี่ นักปีนเขาชาวอังกฤษที่มีความเชื่อมั่นว่าจะต้องพิชิตการขึ้นไปสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ให้สำเร็จได้ตั้งแต่ในปี 1924 แต่ก็หายสาบสูญไปอย่างเป็นปริศนาจนทุกคนคาดการณ์เอาไว้ว่าเขานั้นได้เสียชีวิตลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

โดยการเล่าเรื่องราวนั้นจะแบ่งเป็น 2 ส่วนนั่นก็คือการที่นักข่าวสายปีนเขาอย่างฟูจิตะพยายามสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับจิโร่ ชายผู้เต็มไปด้วยไฟแรงและความทะเยอทะยานที่ต้องการจะพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ให้สำเร็จ แต่เขากลับต้องพบกับคู่แข่งที่เขาไม่สามารถเอาชนะได้นั่นก็คือซึเนโอะ นักปีนเขาชาวญี่ปุ่นที่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์และสามารถพิชิตยอดเขาแอลป์ได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วเป็นคนแรกในประเทศญี่ปุ่น และเรื่องราวโศกนาฏกรรมที่ทำให้จิโร่ตัดสินใจที่จะปีนเขาตามลำพังนับแต่นั้นเป็นต้นมา ส่วนอีกเส้นเรื่องนึงคือการที่ฟูจิตะออกตามหาจิโร่เพื่อขอเข้าร่วมทีมในการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์และต้องการจะถ่ายภาพเขาระหว่างการเดินทางไปด้วย โดยพวกเขานั้นได้เลือกเส้นทางที่เป็นไปด้วยความอันตรายที่ไม่เคยมีใครสามารถผ่านไปถึงยอดเขาได้เลยแม้แต่คนเดียว 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE SUMMIT OF THE GODS

THE SUMMIT OF THE GODS เป็นภาพยนตร์ที่หยิบยกนำเอานวนิยายในปี 1998 มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ มันเป็นอนิเมชั่นที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ความเคารพและคารวะต่อนักปีนเขาโดยเฉพาะนักปีนเขาเอเวอเรสต์ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยคนที่พวกเขาจะพูดถึงเป็นพิเศษก็คือจอร์จ มันโลรี่และฮาเสะกาวะ ซูเนโอะ การเล่าถึงเรื่องราวระหว่างจินตนาการและเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงในอดีตของภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าสามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ทุกอย่างดูไหลลื่นไปด้วยกันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ในช่วง 40 นาทีสุดท้ายของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นจุดที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดนั่นก็คือความพยายามในการพิชิตเทือกเขาเอเวอเรสต์โดยไปในเส้นทางสุดอันตรายที่ไม่เคยมีใครไปถึงยอดเขาได้สำเร็จมาก่อน มันเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมายที่ทำให้เรานั้นรู้สึกลุ้นและเอาใจช่วยไปด้วยตลอดการรับชม 

แต่จุดด้อยของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็มีเช่นเดียวกัน ข้อแรกเลยคือมันเต็มไปด้วยความขมขื่นจนไม่เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปี มีการเล่าเรื่องหลอนอดีตไปมาในช่วงแรกที่ค่อนข้างทำให้สับสนเล็กน้อย และที่น่าเสียดายมากที่สุดก็คือการที่ไม่ได้นำเสนอบทสรุปอย่างชัดเจนโดยเฉพาะเรื่องราวของมันโลรี่ ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่ทีมงานไม่ต้องการให้มันไปกระทบกระเทือนกับจิตใจของญาติมันโลรี่เนื่องจากกลุ่มญาติของนักปีนเขาผู้นี้ยังคงมีชีวิตอยู่และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการปีนเขาอยู่อีกด้วย

ตัวอย่างอนิเมชั่น THE SUMMIT OF THE GODS

รีวิว อนิเมชั่น THE SUMMIT OF THE GODS บางส่วนจาก playinone

ภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ดัดแปลงจากเรื่องจริงบางส่วนของเหล่านักปีนเขาที่มีอยู่จริง เสมือนต้องการคารวะเส้นทางชีวิตของพวกเขาเหล่านั้น งานสร้างดีเยี่ยม คู่ควรกับรางวัลใหญ่ของปีนี้มาก

The Summit of the Gods Netflix เหล่าเทพภูผา อนิเมชั่น เล่าเรื่องของเหล่านักปีนเขาที่ต้องการพิชิตเอเวอร์เรสต์ สวยงาม ตระการตา เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นจากทีมสร้างของฝรั่งเศสที่ดัดแปลงจากต้นฉบับมังงะญี่ปุ่นได้สุดยอดมาก

เรื่องยังอ้างอิงประวัติบางส่วนของนักปีนเขาเอเวอร์เรสต์ชื่อดังสองคนคือ จอร์จ มัลโลรี่ และ ฮาเสะกาวะ ซึเนโอะ อนิเมชั่นเรื่องนี้เลยเสมือนเป็นการแสดงความคารวะต่อวิถีชีวิตของเหล่านักปีนเขาในประวัติศาสตร์ทั่วโลก ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงจากการปีนเขาเป็นอาชีพ นักปีนเขาสมัครเล่น หรือนักปีนเขาอีกจำนวนมหาศาลที่เสียชีวิตไปบนภูเขาสูงอันตรายทั่วมุมโลก และแม้แต่คนที่ต้องเสียชีวิตไปก่อนที่จะได้เดินทางไปปีนเขาตามความฝันของพวกเขาเอง

หนังความยาว 1.35 ชม. ฉายครั้งแรกในเทศกาลเมืองคานส์ เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2021 จากนั้นจึงมีการเข้าฉายแบบจำกัดโรงในสหรัฐเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ส่วนผู้ชมทั่วโลกสามารถรับชมได้เลยใน Netflix พร้อมกันตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมานี้ ซึ่งคาดหวังได้เลยว่าหนังจะได้ส่งชื่อเข้าชิงรางวัลใหญ่ด้านอนิเมชั่นของปีนี้แน่นอน แล้วก็มีสิทธิสูงมากที่จะคว้ารางวัลใหญ่ระดับโลกสักอย่างในปีนี้ด้วย

เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของ ฮาบุ จิโร่ นักปีนเขาผู้มีความทะเยอทะยานที่จะพิชิตเขาเอเวอร์เรสต์ที่วันหนึ่งกลับหายตัวไปอย่างปริศนา หลายปีต่อมา ฟุจิตะ นากามาจิ นักข่าวสายปีนเขาที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการออกเดินทางไปถ่ายภาพกลุ่มนักปีนเขาในหลายพื้นที่ กลับบังเอิญพบชายที่เขาสงสัยว่าจะเป็นฮาบุในตรอกแห่งหนึ่งที่เนปาล และพบว่าอีกฝ่ายมีกล้องโบราณที่เชื่อว่าจะเป็นของ จอร์จ มัลโลรี่ นักปีนเขาชาวอังกฤษผู้ตั้งมั่นว่าจะพิชิตเอเวอร์เรสต์ให้ได้ตั้งแต่ปี 1924 แต่แล้วก็หายสาบสูญไป ทำให้ทุกฝ่ายคิดว่าเขาเสียชีวิตไปแล้ว

เรื่องราวเลยจะเล่าเป็นเส้นเรื่องสองส่วน นั่นคือเส้นเรื่องที่ ฟุจิตะต้องการสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับฮาบุ ว่าจากการเป็นนักปีนเขาหนุ่มไฟแรงผู้มีความทระนงตัวอย่างถึงขีดสุด แต่ในระหว่างนั้นกลับต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่ไม่สามารถเอาชนะได้ นั่นคือ ฮาเสะกาวะ ซึเนโอะ ซึ่งเป็นนักปีนเขาชาวญี่ปุ่นที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์และสามารถพิชิตยอดเขาสำคัญขอเทือกเขาแอลป์ได้เป็นคนแรกในญี่ปุ่น และด้วยโศกนาฏกรรมบางอย่างที่เกิดขึ้นก็ทำให้ฮาบุเลือกที่จะปีนเขาเพียงลำพังคนเดียวมาตั้งแต่นั้น

ส่วนอีกเส้นเรื่องคือการที่ ฟุจิตะ ต้องออกตามหาฮาบุเพื่อขอไปร่วมปีนเขาเอเวอร์เรสต์ เพื่อจะถ่ายภาพการเดินทางของเขาไว้ด้วย ซึ่งก็นำไปสู่การผจญภัยเสี่ยงตายในระหว่างการปีนเขาที่พวกเขาเลือกเส้นทางสุดอันตรายที่ยังไม่เคยมีใครผ่านไปได้เพื่อจะไปให้ถึงยอดเขาเอเวอร์เรสต์ นำไปสู่ช่วงเวลาแห่งการลุ้นระทึกในช่วง 40 นาทีสุดท้ายของภาพยนตร์เรื่องนี้

playinone

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *