| ชื่อเรื่อง | THE BAD GUYS |
| เรตติ้ง | 7 |
| นักแสดง | – |
| จำนวนตอน | 1.40 ชั่วโมง |
รีวิวอนิเมชั่น THE BAD GUYS
รีวิวอนิเมชั่น THE BAD GUYS ภาพยนตร์อนิเมชั่นที่แฝงแง่คิดเกี่ยวกับการตัดสินคนจากภายนอกเข้ามาได้เป็นอย่างดี ประสาทสัมผัสที่ทำให้มนุษย์ได้พบเจอกับสิ่งต่างๆ รอบตัวเป็นอย่างแรกก็คงจะหนีไม่พ้นดวงตา ก่อนที่เราจะได้กลิ่นหรือได้สัมผัสเรามักจะมองเห็นก่อนอยู่เสมอ มันจึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่กระบวนการคิดของมนุษย์จะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับสิ่งที่เห็นในทันที ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องหรือสมควรทำเลยแม้แต่น้อย มีเหตุการณ์มากมายที่ได้พิสูจน์แล้วว่าบางครั้งการมองเห็นก็ไม่สามารถพิสูจน์ความเป็นจริงของสิ่งเหล่านั้นได้เสมอไป ดังนั้นปัญหาการตัดสินคนจากภายนอกตั้งแต่แรกเห็นจึงเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขตั้งแต่ในยุคประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน
ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีอนิเมชั่นที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานแต่กลับหยิบยกนำเอาประเด็นการตัดสินคนจากภายนอกเข้ามาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวอย่างอนิเมชั่นเรื่อง THE BAD GUYS มันเป็นอนิเมชั่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะหากดูจากรูปภาพมันเป็นอนิเมชั่นที่มีงานภาพเหมาะสำหรับเด็ก แต่ประเด็นที่แฝงเข้ามานั้นเรียกได้ว่าหนักหน่วงไม่น้อยเลยทีเดียว
ดังนั้นจะบอกว่ามันเป็นอนิเมชั่นสำหรับวัยรุ่นไปจนถึงผู้ใหญ่น่าจะถูกต้องมากกว่า เป็นการเปิดโอกาสให้คนที่โตแล้วได้สนุกสนานไปกับการ์ตูนที่เต็มไปด้วยงานภาพที่น่ารักเหมือนกับที่เราเคยรับชมในวัยเด็ก แต่เรื่องราวเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความเข้มข้นที่ท้าทายศีลธรรมเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ดีหรือไม่ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นกัน
ภาพยนตร์ การ์ตูน อนิเมชั่น สนุกๆ น่าดู
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE BAD GUYS
THE BAD GUYS เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่จะเล่าเรื่องราวถึงกลุ่มตัวร้ายประกอบไปด้วยหมาป่าจ่าฝูงซึ่งเป็นกิมมิคหลักของตัวละครร้ายอยู่แล้วอย่างวูล์ฟฟี่ งูที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และความสามารถในการสะเดาะกลอนอย่างสเนค ปลาจากลุ่มน้ำอเมซอนขาลุยที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในน้ำตลอดเวลาอย่างปิรันย่าที่สามารถปล่อยก๊าซเวลาตดได้ ปลาฉลามที่มีความสามารถพิเศษในการปลอมตัวชาร์ค และแมงมุมที่มีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ระดับหาตัวจับยากถึงขั้นเป็นแฮกเกอร์อย่างทารันทูล่า
พวกเขารวมตัวกันออกปล้นทรัพย์ไปทั่วทั้งเมืองและสร้างความเดือดร้อนไปทั่วตามประสาเหล่าวายร้ายที่ถูกกำหนดชะตากรรมให้เป็นตัวป่วน แต่หลังจากที่พวกเขาวางแผนเพื่อปล้นรางวัลโลมาทองคำ พวกเขากลับทำผิดพลาดจนทำให้กลุ่มตัวร้ายดังกล่าวจำเป็นต้องร่วมการทดลองที่จัดขึ้นโดยศาสตราจารย์หนูตะเภาที่มีชื่อว่ามาเลด ศาสตราจารย์ที่ชาวเมืองต่างยกย่องว่าเป็นคนดีและต้องการจะเปลี่ยนวายร้ายให้กลายมาเป็นคนดีด้วยแทนที่พวกเขาจะต้องเข้าไปชดใช้กรรมอยู่ในคุก
แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถไว้ใจได้ทั้งนั้นเหมือนกับชีวิตจริงของพวกเรา เราไม่รู้เลยว่าในความเป็นจริงแล้วใครเป็นคนดี ใครที่เป็นคนร้ายกันแน่ก่อนที่เราจะได้สัมผัสหรือก่อนที่พวกเขาจะเผยธาตุแท้ออกมา ความพยายามเปลี่ยนกลุ่มวัยร้ายให้กลายมาเป็นคนดีจะสามารถทำได้สำเร็จหรือไม่ ต้องติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE BAD GUYS
THE BAD GUYS เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ถ้าเปลี่ยนจากงานภาพอนิเมชั่นเป็นงานภาคคนแสดงแล้วเราก็มันคือภาพยนตร์แนวอาชญากรรมคอมเมดี้ที่ทำเนื้อเรื่องออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าสนใจไปไม่น้อยกว่าใครเลยทีเดียว เพียงแต่การใช้งานภาพอนิเมชั่นเป็นสัตว์สุดน่ารักทำให้มันมีความเบาบางในส่วนของการนำเสนอลง แต่ก็ยังคงแนวคิดความเป็นอนิเมชั่นจากดรีมเวิร์คเช่นเดียวกัน นั่นก็คือการใช้สัตว์ทั้งหลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นคนดีและคนชั่ว
บรรยากาศโดยรวมของภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้จึงมีความเป็น OCEAN 11 ผสมผสานกับ ZOOTOPIA ได้อย่างลงตัว คือมีความเป็นภาพยนตร์แนวอาชญากรรมที่เต็มไปด้วยความตลกและความสนุกสนาน ผสมผสานกับการนำเอาประเด็นทางสังคมมาวิพากษ์ได้อย่างลึกซึ้ง มีจุดหักมุมที่ถ้าพูดไปแล้วภาพยนตร์ไม่สนุกในทันที มุขตลกก็สามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีพิษมีภัยต่อเยาวชน แต่ผู้รับชมที่เป็นผู้ใหญ่แล้วก็ยังรู้สึกสนุกสนานไปกับมุกเหล่านี้ได้อยู่ ส่วนของงานเสียงพากย์ไม่ว่าจะเป็นต้นฉบับภาษาอังกฤษหรือฉบับภาษาไทยก็ตามสามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งคู่
งานภาพของอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็ถือว่าสามารถทำออกมาได้น่าประทับใจเลยทีเดียว การออกแบบมีความน่ารักน่าชัง แม้ว่ามันจะไม่ได้มีความละเอียดสูงเหมือนกับภาพยนตร์จาก DISNEY ขนาดนั้นแต่ก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างสวยงาม มีความน่าสนใจ การออกแบบดูทรงพลัง ช่วยให้การเล่าเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเสียดายของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือการที่เราสามารถเดาจุดจบได้ตั้งแต่ 10 นาทีแรกที่รับชม แม้ว่ามันจะมีจุดหักมุมแต่จุดจบของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ได้เกินจากที่เราจินตนาการได้สักเท่าไหร่นัก ดังนั้นโดยรวมแล้วมันจึงเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นแนวอาชญากรรมคอมเมดี้ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดี สามารถรับชมได้ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ ความสนุกสนานที่ได้ก็จะแตกต่างกันไปแต่ละช่วงวัยแล้วแต่ว่าใครคิดอะไรอยู่ ufawolf
ตัวอย่างอนิเมชั่น THE BAD GUYS
รีวิว อนิเมชั่น THE BAD GUYS บางส่วนจาก beartai
มีเรื่องน่าคิดเกี่ยวกับการทำแอนิเมชันในยุคหลังดิสนีย์ผูกขาดตลาด (ซึ่งปัจจุบันก็ยังครองอยู่เพียงแต่มีผู้เล่นมากขึ้น) คือการเกิดขึ้นมาของแอนิเมชันที่ยั่วล้อขนบต่าง ๆ ที่ดิสนีย์เคยทำไว้โดยเฉพาะการเปิดตัวของค่ายดรีมเวิร์ค (Dreamwork) ที่เลือกเจ้าเชร็ค (Shrek) ยักษ์ตัวเขียวที่ห่างไกลจากภาพเจ้าชายหล่อ ๆ อย่างที่เจ้าตลาดอย่างดิสนีย์เคยทำก็เหมือนการท้าทายบรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองกลาย ๆ ว่ามันจะเป็นแอนิเมชันที่มีความโตขึ้นและไม่เน้นภาพลักษณ์ภายนอกเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้เหล่าหนูน้อยทั้งหลายติดภาพและตัดสินคนแต่ภายนอก
และนับจาก ‘Shrek’ ที่เริ่มเปิดศักราชใหม่ของแอนิเมชันที่เปิดโอกาสให้วัยรุ่นและผู้ใหญ่ได้สนุกกับภาพ 3 มิติบนจอมากขึ้นด้วยเนื้อหาและมุกตลกที่มุ่งสร้างความบันเทิงแล้ว ดรีมเวิร์คได้เดินหน้าสร้างแอนิเมชันมา 41 เรื่องแล้ว (นับถึงปี 2021) และในปี 2022 ดรีมเวิร์คจะมีแอนิเมชันออกฉายอีก 2 เรื่องโดยประเดิมที่ ‘The Bad Guys’ หนังแอนิเมชันรวมมหาวายร้ายในโลกนิทานทั้งหมาป่า งู ปลาปิรันย่าและแมงมุมทารันทูลา (ก่อนจะได้ไปสนุกกับภาคต่อของเจ้าเหมียวจอมโจรจอมใจ ‘Puss in Boots : The Last Wish’ กันปลายปี).
แก๊งแบดกายส์อันประกอบด้วยวูล์ฟฟี หมาป่าจ่าฝูงหัวเสธ สเนค งูจอมสะเดาะตู้เซฟ ปิรันย่า ปลาขาลุยที่สามารถปล่อยก๊าซตอนผายลมได้ ชาร์ค ฉลามนักปลอมตัวและทารันทูลา แมงมุมแฮคเกอร์ พวกเขาออกปล้นและสร้างความเดือดร้อนให้ชาวเมืองตามประสาผู้ร้ายที่ถูกกำหนดเอาไว้ แต่หลังจากแผนปล้นรางวัลโลมาทองคำผิดพลาดเหล่าแบคกายส์จึงจำเป็นต้องเข้าร่วมการทดลองของศาสตราจารย์มาร์มาเลด หนูตะเภาที่ชาวเมืองยกย่องในความดีเพื่อเปลี่ยนวายร้ายอย่างพวกเขาให้กลายเป็นคนพันธุ์ดีแทนการเข้าซังเต แต่แก๊งวายร้ายที่ทั้งชีวิตรู้จักแต่การปล้นและทำคนอื่นเดือดร้อนอย่างพวกเขาจะเปลี่ยนตัวเองได้จริงเหรอ
‘The Bad Guys’ เป็นผลงานกำกับครั้งแรกของ ปิแอร์ เพอริเฟล (Pierre Perifel) ลูกหม้อดรีมเวิร์คที่ผ่านงานแอนิเมเตอร์ใน ‘Kung Fu Panda’ มาแล้วทุกภาคจนไต่เต้าได้กำกับ ‘Bilby’ แอนิเมชันขนาดสั้นให้ดรีมเวิร์คเมื่อปี 2018 โดยได้ อีแทน โคเฮน (Etan Cohen) มือเขียนบทหนังตลกระดับออสการ์ในตำนานอย่าง ‘Tropic Thunder’ มาดัดแปลงบทให้จนกล่าวได้ว่าบทหนังของ ‘The Bad Guys’ มีแนวใกล้เคียงกับหนังคนแสดงอย่างยิ่งโดยไม่ทิ้งจิตวิญญาณของแอนิเมชันดรีมเวิร์คด้วย
กล่าวคือหากไม่นับว่าเรากำลังดูแอนิเมชันแล้ว พลอตหนังของมันคือหนังอาชญากรรมตลกชั้นเยี่ยมได้เลยเพียงแต่ใส่ตัวละครสัตว์ที่มักถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายซึ่งก็ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของแอนิเมชันดรีมเวิร์คมาตลอดอยู่แล้ว เพียงแต่คราวนี้เหมือนเหล่าสัตว์ร้ายสุดเก๋ามาอยู่ในพล็อตเรื่องแบบ ‘Ocean 11’ แล้วเสริมการหักมุมที่เราไม่อาจเล่าต่อได้ แต่หากให้เทียบก็แอบมีส่วนที่วิพากษ์สังคมคล้ายแอนิเมชันค่ายดิสนีย์อย่าง ‘Zootopia’ ไม่น้อยเลยทีเดียว
อีกจุดที่ชอบมากคืองานภาพของแอนิเมชันในยุคที่แอนิเมชันสามมิติต่างแข่งกันเนี้ยบและทำให้มันดูใกล้ความจริงที่สุด ‘The Bad Guys’ กลับหยิบฉวยความเป็นการ์ตูนมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้จะต้องแลกกับความรู้สึกไม่คุ้นเคยจนเกือบมองว่าชุ่ย แต่พอปรับสายตาได้เราจะพบการคิดงานภาพที่ไร้กรอบและช่วยให้แอนิเมชันดูสนุกและเปี่ยมพลังโดยเฉพาะฉากแอ็กชันต่าง ๆ บอกได้เลยว่่ามันเป็นแอนิเมชันไม่กี่เรื่องที่นำเสนอซีนแอ็กชันได้มันสะใจจริง ๆ.
ด้านมุกตลกก็ต้องขอชื่นชมว่าแม้บทหนังจะมีอะไรหมิ่นเหม่มากมายแต่หนังก็ไร้มุกตลกที่มีพิษต่อเยาวชน แต่ยังทำให้วัยรุ่นและผู้ใหญ่หัวเราะกันได้ก๊ากใหญ่ ๆ ด้วยการดำเนินเรื่องและท่าทีเปิ่น ๆ ของตัวละคร ยิ่งเสริมทัพด้วยงานพากย์เสียงที่เปี่ยมชีวิตชีวาก็ยิ่งทำให้หนังดูสนุกขึ้นมาก โดยรอบที่ผมได้ชมเป็นรอบพากย์ไทยบอกได้เลยว่าเสียงน้าติ่ง สุภาพ ไชยวิสุทธิ (เคยพากย์เป็นคริส ทักเกอร์ในหนัง ‘Rush Hour’) ให้เสียงเป็นสเนคได้มีชีวิตชีวาและทำเอากรามค้างจริง ๆ
beartai