ชื่อเรื่องEncanto
เรตติ้ง7.6
นักแสดง
จำนวนตอน1.42 ชั่วโมง

รีวิวอนิเมชั่น Encanto Disney+Hotstar

รีวิวอนิเมชั่น Encanto Disney+Hotstar ภาพยนตร์อนิเมชั่นจากค่ายดิสนีย์ที่มาพร้อมกับสีสันสดใสและเรื่องราวเวทมนตร์แฟนตาซี ค่ายดิสนีย์นั้นเป็นไข้การ์ตูนที่มีความพยายามอย่างน่านับถือในการนำเสนอเรื่องราวและวัฒนธรรมของหลายชนชาติหลายประเทศทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นอนิเมชั่นของทางดิสนีย์เองที่เล่าเรื่องราวเจ้าหญิงอย่างเช่น moana ซึ่งเป็นชนเผ่า Raya ที่เป็นชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือเจ้าหญิงกับที่เป็นเจ้าหญิงผิวสีคนแรกในครั้งนี้พวกเขาได้ออกมาสร้างการ์ตูนอนิเมชั่นให้เราได้รับชมอีกครั้งโดยจะนำเสนอเรื่องราวและวัฒนธรรมในประเทศโคลัมเบียประเทศที่หลายคนยังไม่ได้รู้จักอย่างลึกซึ้งดีพอเนื่องจากมันอาจจะไม่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยวมากขนาดนั้นในประเทศไทย

และภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนั้นก็คือ Encanto มันมาในรูปแบบของอนิเมชั่น musical ผสมผสานคอมเมดี้ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับเวลารับชมภาพยนตร์เรื่อง Frozen นั่นก็คือมีการดำเนินเรื่องราวและการร้องเพลงเป็นผลงานของค่าย walt disney Studio Motion Pictures ลำดับที่ 60 พอดีภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าสามารถนำเสนอวัฒนธรรมในประเทศโคลัมเบียได้อย่างยอดเยี่ยมตัวละครแต่ละตัวก็มีความน่าสนใจอย่างไรก็ตามมันยังคงมีความเป็นภาพยนตร์อนิเมชันสูตรสำเร็จจาก Disney ดังนั้นถ้าใครชอบก็ชอบไปเลยใครที่ไม่ชอบก็ไม่ชอบไปเลยเช่นเดียวกัน

ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่เหมาะสำหรับการรับชมในคืนคริสต์มาสไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะมันเล่าถึงเรื่องราวดินแดนมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยเวทมนต์เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการออกแบบมาให้สามารถรับชมพร้อมกันได้ทั้งครอบครัวเด็กสามารถรับชมได้อย่างสนุกสนานในขณะที่ผู้ใหญ่เองก็ได้เรื่องเอาไปคบคิดต่อมากมายดังนั้นหากคุณเป็นแฟนสตูดิโอดิสนีย์อยู่แล้วเราขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Encanto

Encanto จะเล่าถึงเรื่องราวดินแดนสุดลึกลับซึ่งเป็นเมืองเวทมนตร์ที่ซุกซ่อนอยู่ในประเทศโคลัมเบียครอบครัวมาติกลเป็นครอบครัวที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้มาอย่างยาวนานทุกคนภายในครอบครัวนั้นจะได้รับพลังพิเศษจากเพียววิเศษแห่งปาฏิหาริย์ที่จะทำให้คนในครอบครัวได้พลังที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากคนอื่นแบบรุ่นสู่รุ่นมีเพียงแค่เด็กสาวคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้รับพลังวิเศษนั่นก็คือมิราเบล แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงเป็นเด็กสาว

ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและไม่เคยหวั่นไหวต่ออุปสรรคแม้ว่าเธอมักจะถูกคนในครอบครัวมองข้ามก็ตามเรื่องไปถึงผู้กุมความลับของพลังวิเศษของบ้านหลังนี้อย่างคุณยายอีกด้วยด้วยความที่คุณยายซึ่งเป็นแกนกลางคอยเชื่อมโยงทุกคนเข้าหากันทำให้ทุกคนในครอบครัวนั้นรักใคร่สามัคคีกันเสมอมา แต่แล้วเมื่อวันการรับพลังของญาติที่สนิทสนมกับเธอเหมือนเป็นน้องชายคนหนึ่งอย่างอันโตนิโอมันก็เกิดเรื่องราวร้ายแรงขึ้นมาจนทำให้ครอบครัวที่เธอรักรวมไปถึงบ้านถูกทำลายลงไปท่ามกลางสายตาของคนในครอบครัวที่มองว่าเธอนั้นเป็นคนเพี้ยน

เด็กสาวเป็นเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่ยังคงยืนหยัดที่จะค้นหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของเธอกันแน่และมันก็พาเธอนั่งนิ่งไปสู่ความลับดำมืดที่ครอบครัวของเธอได้เก็บซ่อนเอาไว้ยิ่งเธอเข้าใกล้มันมากขึ้นเท่าไหร่บ้านหลังนี้ก็ทรุดลงมากขึ้นเท่านั้นและใกล้จะพังทลายลงทุกทีไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้วเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไรและเพราะอะไรครอบครัวของเธอจึงได้รับพลังวิเศษต่อกันมาเป็นรุ่น ๆ หากคุณอยากรู้ก็สามารถไปหาคำตอบได้ในภาพยนตร์

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Encanto

Encanto เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นแนวครอบครัวที่ทำออกมาเพื่อให้ทุกคนได้รับชมพร้อมกันในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าในอเมริกา แต่กว่ามันจะเข้าฉายในประเทศไทยหรือลงใน Disney Plus ก็ลามาจนเลยวันขอบคุณพระเจ้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วดังนั้นเราจึงอยากจะให้ทุกคนได้ลองรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในคืนวันคริสต์มาสซึ่งเป็นคนเทศกาลที่อบอุ่นไม่แพ้กันดูภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์สำหรับเด็กก็จริง แต่ก็ยังคงมีความจริงจังผสมผสานเข้ามาเหมือนกับตอนภาพยนตร์เรื่อง Frozen

แบบไม่มีผิดเพี้ยนด้วยความที่เล่าเรื่องราวสุดแฟนตาซีภายใต้บรรยากาศวัฒนธรรมของโคลัมเบียทำให้งานภาพในภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความสดใสและยังคงความสวยงามตามมาตรฐานของดิสนีย์เอาไว้ได้ตามเดิมมีตัวละครมากมายที่จะทำให้คุณต้องหลงรักได้อย่างน้อย 1 ตัวอารมณ์ครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นความสนุกสนานความตลกความซาบซึ้งและความโศกเศร้าเพลงประกอบสามารถทำได้ดีและนำเสนอวัฒนธรรมออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมในส่วนของจุดด้อยของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการเป็นสูตรสำเร็จที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปของค่ายดิสนีย์ทำให้เราสามารถเอาเรื่องราวได้ค่อนข้างง่ายด้วยตัวละครที่มีเป็นจำนวนมากทำให้การกระจายความสำคัญของแต่ละตัวละคร

ทำได้ไม่ค่อยดีมีการร้องเพลงมากดังนั้นหากคุณไม่ชอบการ์ตูนแนว musical ก็อาจจะรู้สึกรำคาญได้ที่สำคัญคือเพลงที่แปลออกมาเป็นภาษาไทยเรียบร้อยแล้วฟังดูเข้าใจยากจนทำให้เกิดความรู้สึกสับสนและสุดท้ายก็ต้องลงเอยด้วยการไปหาความหมายที่แท้จริงของเพลงบนอินเทอร์เน็ตแทนมันไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ไม่ดีเป็นภาพยนตร์ครอบครัวที่สามารถรับชมได้ทุกคน แต่มันมีความน่าเสียดายตรงที่การบาลานระหว่างการเล่าเรื่องและการร้องเพลงอาจจะยังทำได้ไม่ค่อยดีมีความพยายามที่จะแหวกแนว แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่สามารถออกมาจากสูตรสำเร็จของค่ายได้

ตัวอย่างอนิเมชั่น Encanto

รีวิว หนัง Encanto บางส่วนจาก beartai

หากนับนิ้วเฉพาะภาพยนตร์แอนิเมชันฉบับฉายโรงของวอลต์ ดิสนีย์เพียว ๆ ไม่เกี่ยวกับพิกซาร์ ‘Encanto’ จะตกฟากอยู่ลำดับที่ 60 พอดิบพอดีในระยะเวลา 84 ปีนับตั้งแต่วันฉายของ ‘Snow White and the Seven Dwarfs’ และด้วยกาลเวลาที่ผันผ่านก็ทำให้รูปรอยทั้งงานดีไซน์และไอเดียในการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชันเริ่มเปลี่ยนไปจากแนวสุขนิยมที่สอนใจเด็ก ๆ และกลายเป็นความทรงจำของผู้ใหญ่สู่การพูดถึงสังคมและการเมืองมากขึ้น

นับตั้งแต่ ‘Bambi’ ในปี 1942 ที่พูดถึงสันติภาพในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การท้าทายค่านิยมบิวตีสแตนดาร์ดของสังคมด้วยการเปลี่ยนรูปลักษณ์เจ้าหญิงเป็นชาวแอฟริกัน อเมริกันใน ‘The Princess and the Frog’ (2009) มายันปัญหาสังคมระดับจุลภาคใน ‘Zootopia’ (2016) ไปพร้อม ๆ กับการท้าทายค่านิยมของสังคมเสมอมา แต่กับ ‘Encanto’ แล้วด้วยการวิวัฒน์ของสังคมที่เปิดกว้างจาการแผ้วถางทางของแอนิเมชันรุ่นพี่ประเด็นของมันเลยกลับมาพูดเรื่องครอบครัวอันเป็นวาระแห่งดิสนีย์ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ทิ้งการทิ้งสัญญะว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสังคม

หนังว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัวมาดริกัลครอบครัวชาวโคลอมเบียที่อพยพย้ายถิ่นฐานเพราะไฟสงครามกลางเมืองและในช่วงเวลาที่คุณปู่ของครอบครัวเสียสละชีวิตคุณยายอาบัวล่าได้ค้นพบเทียนมหัศจรรย์ที่ช่วยดลบันดาลบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยมนต์มหัศจรรย์ให้ครอบครัวมาดริกัลมีลูกหลานที่มีพลังพิเศษยกเว้นแต่มิราเบลหลานสาวคนเดียวที่ไม่มีพลังพิเศษใด ๆ แต่แล้ววันหนึ่งขณะทุกคนกำลังเฉลิมฉลองพิธีรับพรได้พลังพิเศษของหลานชายตัวน้อยมิราเบลก็ได้รู้ความจริงว่าเวทมนตร์ที่เหมิือนพรพิเศษของครอบครัวมาดริกัลของเธอกำลังจะหมดลงเธอจึงพยายามทำทุกทางเพื่อกอบกู้ครอบครัวและบ้านของเธอ

หากมองผิวเผิน ‘Encanto’ ก็แทบจะมีพล็อตเรื่องไม่ได้แตกต่างจากแอนิเมชันสไตล์ดิสนีย์เหมือนที่ผ่าน ๆ มาอันว่าด้วยเด็กสาวที่ค้นพบความพิเศษในตัวเองที่ดิสนีย์พยายามจะโปรโมตจุดนี้มาโดยตลอดโดยเฉพาะผลงานระดับปรากฎการณ์โลกอย่าง ‘Frozen’ แต่สิ่งที่ทำให้มันพิเศษขึ้นมาคือการนำเรื่องราวที่คุ้นเคยมาอยู่ในบริบทของสังคมการเมืองของโคลัมเบียหนึ่งในประเทศที่มีความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองจนติดอันดับประเทศที่มีการย้ายถิ่นฐานมากที่สุดในโลก

มันเลยทำให้ภารกิจปกป้องโลกเวทมนตร์ในหนังดูมีความหนักแน่นและในเวลาเดียวกันก็แอบแฝงการสะท้อนความเจ็บปวดของผู้คนอยู่ในทีได้อย่างแยบยลเพราะทั้งภูเขาที่ปิดล้อมและมนตราต่าง ๆ คือการมีเพื่อปกป้องชาวเมืองจากศัตรูที่จะเอาสงครามมาทำลายชีวิตของพวกเขาอีก รวมถึงการที่อาบัวล่าให้ค่ากับพลังพิเศษที่หลาน ๆ จะต้องคอยแก้ไขปัญหาชีวิตให้ชาวเมืองและต้องรักษาภาพลักษณ์ของครอบครัวก็ยังทำให้เห็นถึงการแอบแฝงค่านิยมแบบชาวเบบีบูมเมอร์ที่พยายามตั้งกฎเกณฑ์และกำหนดกรอบให้เยาวชนทำตาม

และหากมองให้ลึกแล้วหนังยังให้ตัวละคร มีราเบล กับ อาบัวล่า ก็ยังเป็นตัวแทนของคนยุคเก่าและยุคใหม่ที่ปะทะความคิดกันอย่างน่าสนใจโดยฝ่ายแรกแทนค่าความคิดเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่ได้สืบทอดคุณสมบัติอะไรจากคนรุ่นเก่าและทีละน้อยเธอยังตั้งคำถามกับค่านิยมที่ฝ่ายหลังพยายามปกป้องและหวงแหนรวมถึงการพิสูจน์ความจริงเรื่องข้อกล่าวหาที่ญาติ ๆ และชาวเมืองกล่าวหาบรูโน่อาที่หาญสาบสูญของเธออีกด้วย ดังนั้นความสนุกอีกอย่างของ ‘Encanto’ ก็คือการค่อย ๆ ถอดตีความความสัมพันธ์และการแฝงการปะทะกันทางความคิดนี่แหละครับ

แต่ก่อนที่ผู้อ่านจะคิดว่า ‘Encanto’ เป็นแอนิเมชันการเมืองเครียด ๆ ผมคงต้องย้ำประโยคหัวเรื่องอีกสักทีเพราะเราเขียนว่า นี่มันแอนิเมชันสอดไส้บรอดเวย์ชัด ๆ ! ใช่ครับ..นี่แหละประเด็นที่เราจะพูดถึงและเน้นย้ำซึ่งหากใครได้ลองหาข้อมูลหนังมาบ้างจะรู้ว่าคนทำเพลงให้แอนิเมชันเรื่องนี้คือ ลิน-มานูเอล มิแรนดา (Lin-Manuel Miranda) ผู้ประพันธ์ดนตรีประกอบละครเวทีอย่าง ‘Hamilton’ (2020) และอยู่เบื้องหลังเพลงประกอบหนังและแอนิเมชันดิสนีย์มากมาย

ซึ่งจุดเด่นในงานของมิแรนดาคืองานเพลงที่เป็นแนวละครเวทีมิวสิคัลชัดเจนกว่าเพลงแอนิเมชันของดิสนีย์ในยุคหลังที่เน้นเป็นเพลงป๊อปเสียมากกว่า ดังนั้นงานเพลงและบทภาพยนตร์ของ ‘Encanto’ เลยทำหน้าที่สอนประสานกันไปในจังหวะของเรื่องราวและท่วงทำนองของบทเพลง ที่สำคัญการที่ได้มิแรนดามาแต่งเพลงให้ยังส่งผลต่อคาแรกเตอร์ในหนังที่สามารถเพิ่มจุดเด่นได้้ด้วยบทเพลงประจำตัว

เพลงในหนังเริ่มด้วยเพลง ‘The Family Madrigal’ ที่บอกความพิเศษของครอบครัวมาดิกรัลได้ครบถ้วนในเพลงเดียว ในขณะที่ต่อมาแต่ละเพลงจะค่อย ๆ เปิดเปลือยความในใจของตัวละครแต่ละตัวออกมาได้อย่างแยบยลและที่สำคัญมันยังทำให้เรื่องเดินหน้าได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็น ‘Waiting on a Miracle’ ที่มิราเบลร้องเพื่อแทนความอัดอั้นในใจ ‘Surface Pressure’ ที่แทนความกดดันของลุยซ่าสาวแกร่งจอมพลังที่มีบีทเก๋ ๆ แต่ทรงพลังไม่หยอก

‘We Don’t Talk About Bruno’ ที่ตัวละครหลาย ๆ ตัวบอกถึงประสบการณ์อันเลวร้ายจากบรูโน่ สมาชิกที่เห็นนิมิตรของครอบครัวแต่ต้องจรลีเพราะอคติที่ผู้คนมีต่อเขาไปจนถึง ‘What Else Can I Do?’ ที่แทนความอัดอั้นของอิซาเบลา สาวสวยผู้สามารถเสกดอกไม้ได้ ซึ่งในภาพรวมต้องบอกว่าเพลงในหนังทำได้ดีเกินคาดจริง ๆ แต่รู้อะไรไหมครับสิ่งที่เกินคาดกว่านั้นคือเสียงพากย์ไทยครับ

ใช่ครับ ผมดู ‘Encanto’ รอบพากย์ไทยที่มีความกังขาก่อนตีตั๋วเข้าดูอย่างยิ่งแต่พอหนังเริ่มเท่านั้นแหละครับบรรดานักพากย์ที่คราวนี้ดิสนีย์ขนเหล่าศิลปินจากแทบทุกเวทีประกวดมาประชันกันซะจนกลายเป็นการอัปสกิลหูทองคำกันซะงั้นโดยผู้ที่รับหน้าที่พากย์เป็นมิราเบลคือคุณจันทร์ ใจแจ่ม วรรณพัฒน์ ที่ทั้งพากย์เสียงได้เปี่ยมอารมณ์และร้องเพลงในทำนองโคลัมเบียนในเนื้อภาษาไทยได้อย่างเฉียบคม และถ้ายังเทพไม่พอผู้มาให้เสียงพากย์อาบัวล่าคือ คุณไก่ อัญชุลีอร บัวแก้วจากเวทีเดอะวอยซ์ที่ก็ทั้งเฉียบและเนี้ยบทุกตัวโน้ต

beartai

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *