ชื่อเรื่อง Dota: Dragon’s Blood: Book 2
เรตติ้ง 7.9
นักแสดง
จำนวนตอน 16 ตอน

รีวิวอนิเมชั่น Dota: Dragon’s Blood: Book 2

รีวิวอนิเมชั่น Dota: Dragon’s Blood: Book 2 อนิเมชั่นซีรีส์จากเกมโมบ้ายอดนิยมที่ประสบความสำเร็จจนได้ออกภาค 2 ตามมา ถ้าพูดถึงเกมแนว Moba ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้เราก็คงจะนึกถึง Rov หรือ Lol เนื่องจากมันเป็นเกมที่สามารถเล่นบนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกสบายทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้เล่นได้ค่อนข้างกว้างขวาง โดยเฉพาะเกม Lol ที่สามารถเล่นได้ทั้งบนโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ แต่ในความเป็นจริงแล้วหากพูดถึงเกม Moba ที่อยู่มายาวนานและได้รับความนิยมมากที่สุดอีกหนึ่งเกมก็คงจะหนีไม่พ้น Dota เกมแนวโมบ้าที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานแถมยังมีถึง 2 ภาคแล้วในปัจจุบัน 

ความโดดเด่นของเกมแนว Moba ก็คือการที่มีตัวละครให้เราเลือกมากมายหลากหลายตัว แต่ละตัวละครนั้นก็จะมีการออกแบบและมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป และเพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับเกมมากยิ่งขึ้นเหล่าผู้พัฒนาเกมจึงได้มีการสร้างเรื่องราวให้กับตัวละครเหล่านั้นซึ่งสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ ทำให้เกมแนว Moba ที่ดูเหมือนจะไม่มีเนื้อเรื่องแต่ความจริงแล้วพวกมันมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้นไม่น้อยเลยทีเดียว 

หลังจากที่ League Of Legends ได้มีการสร้างอนิเมชั่นซีรีส์ขึ้นมาเป็นของตัวเองและประสบความสำเร็จอย่างงดงามบน Netflix ล่าสุดทาง Netflix ก็ได้มีการสร้างอนิเมชั่นภาคต่อจากเกม Dota อีกครั้งในชื่อ Dota: Dragon’s Blood: Book 2 หลังจากที่ภาคแรกได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น ได้ทีมงานสร้างชุดเดียวกับ The Witcher Nightmare Of The Wolf มาสร้างสรรค์ผลงานให้เราได้รับชมกัน ดังนั้นหากใครที่เป็นแฟนคลับเกมนี้หรือเคยรับชมซีรีส์ภาคแรกมาก่อนเราขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด 

เรื่องราวในซีรีส์เรื่อง Dota: Dragon’s Blood: Book 2

Dota: Dragon’s Blood: Book 2 เป็นอนิเมชั่นที่จะเล่าถึงเรื่องราวหลังเหตุการณ์ในภาคแรกไม่นานและจะเดินหน้าต่อเลยโดยที่ไม่มีการปูเรื่องราวเบื้องหลังให้เราได้รับรู้อีกต่อไป ดังนั้นหากใครที่ยังไม่เคยดูภาคแรกมาก่อนเราขอแนะนำว่าให้ไปดูก่อนเนื่องจากหากมาดูเลยจะต้องรู้สึกงงอย่างแน่นอนเพราะมันเต็มไปด้วยข้อมูลที่อัดแน่นไว้เพียบ มีเรื่องราวลอร์ของจักรวาล ปริศนาเกี่ยวกับตัวละครมากมายที่เราอยากเห็นหรือเคยสงสัยมาก่อน ในครั้งนี้เราจะได้เห็นและจะได้คลายความสงสัยทั้งหมดไป มีความกล้าที่จะเล่าเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความรุนแรงแบบจัดเต็มไม่ออมมือ เรียกได้ว่าตัวละครอีกภายในภาพนี้แทบจะกลายเป็นตัวประกอบไปเลยทีเดียว 

เนื้อเรื่องที่เล่าถึงนั้นจะเน้นเกี่ยวกับการเมืองในอาณาจักรที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและความดุเดือด มีการเฉลยปมในอดีตของเหล่าตัวละครทั้งหลาย และยังมีการสอดแทรกบทบาทของตัวละครใหม่เข้ามาเพื่อเพิ่มสีสัน มีจุดเปลี่ยนสำคัญและยังจะทำให้เราได้เห็นพัฒนาการของตัวละครที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นไปอีก มีการพัฒนาการเล่าเรื่องราวให้ลุ่มลึกและดูไม่เป็นอนิเมชั่นสูตรสำเร็จจนเกินไป 

โดยจะเล่าถึงเรื่องราวหลังเกิดสงครามในป่าไนท์ซิลเวอร์ที่ได้มีการเตือนไปทั่วทั้งแผ่นดินให้ทุกคนได้รับรู้ถึงความชั่วร้ายของเหล่าอินโวคเกอร์ เอลฟ์ที่มีความต้องการจะสั่งหาเทวีแห่งจันทราอย่างเซเลเมเน่ ทำให้อัศวินมังกรอย่างเดเวียนและเจ้าหญิงมิราน่าต้องถูกแยกออกจากกัน

เดเวียนต้องเผชิญหน้ากับคำถามมากมายรวมไปถึงต้นกำเนิดของเผ่ามังกรที่แท้จริงที่มีความพยายามจะออกไล่ล่าทั้งพลังและคำสาปของตัวเขาใน Dragon Hole ร่วมกับติดฟิมริน เด็กสาวชาวเอลฟ์ที่อนาคตของเธอนั้นอยู่ในกำมือของตนเอง 

ในขณะเดียวกันคนชั่วช้าแห่งที่ราบอย่างเมลิน่า ลูน่าผู้ปฏิเสธที่จะสรรเสริญให้กับเทพีแห่งจันทราพร้อมกับสาวรับใช้มากฝีมือของเธออย่างมาซี่ผู้เป็นใบ้สามารถหนีเอาชีวิตรอดออกมาได้สำเร็จ พวกเธอยังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับสงครามครั้งใหม่ที่ทวีความเลวร้ายมากกว่าเดิม มีเพียงแค่ความศรัทธาและกำลังเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเหลือให้พวกเขาสามารถพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ แต่ภัยคุกคามและแผนการปรับยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อทั้งมนุษย์และเอลฟ์ต่างก็ต่อสู้กันเพื่ออำนาจ มันจึงเป็นคราวของเดเวียนที่จะต้องปลุกพลังเลื่อนมังกรที่หลับไหลซ่อนเร้นอยู่เพื่อพลิกชะตาของโลกใบนี้ให้สำเร็จ 

ความรู้สึกหลังรับชมซีรีส์เรื่อง Dota: Dragon’s Blood: Book 2

Dota: Dragon’s Blood: Book 2 เป็นซีรีส์ที่มีการยกระดับการเล่าเรื่องจากในภาคแรกอย่างเห็นได้ชัดในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นและความกระชับรวดเร็ว ไม่มีการเล่าเรื่องแบบสูตรสำเร็จต่อไปอีกอย่างใด สไตล์งานออกมามีความสวยงามเป็นอย่างมากทั้งในส่วนของการออกแบบและงานคอมพิวเตอร์กราฟิก มิติของตัวละครช่วยให้ตัวละครดูไม่แบนราบทำให้เนื้อเรื่องดูมีความสมจริงมากยิ่งขึ้นไปอีก 

การเล่าเรื่องที่ไม่วนในอ่างทำให้เราสามารถติดตามรับชมได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกเบื่อ ตัวละครแต่ละตัวล้วนแล้วแต่มีความน่าสนใจและมีฉากสำคัญเป็นของตัวเองไม่มากก็น้อย ไม่มีตัวละครไหนที่หายไปแบบดื้อๆ มีการใส่ประเด็นทางการเมืองและสังคมเข้ามาอย่างเข้มข้น ฉากการต่อสู้ทั้งสวยงามและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน มีการเอาใจแฟนเกมด้วยการบอกเล่าความรู้ที่สอดแทรกภายในเกมต้นฉบับมากยิ่งขึ้น มีจังหวะหักมุมจนเราแทบจะไม่สามารถเดาเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้อีก 

แต่จุดด้อยของซีรีส์เรื่องนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากงานคอมพิวเตอร์กราฟิกที่หลายฉากยังดูไม่สมจริงเท่าที่ควรแม้ว่าจะสามารถทำออกมาได้สวยงามก็ตาม การตัดต่อบางส่วนค่อนข้างแปลกประหลาดจนทำให้เนื้อหาไม่เชื่อมต่อกันได้อย่างสมบูรณ์อย่างที่ควรจะเป็น มีการดำเนินเรื่องราวที่ค่อนข้างรวบรัดทำให้ไม่สามารถขยี้อารมณ์ในบางช่วงที่ควรจะขยี้ให้ถึงจึงค่อนข้างน่าเสียดายบางฉากที่ไปไม่สุดทาง บาคาร่า168

ตัวอย่างอนิเมชั่น Dota: Dragon’s Blood: Book 2

รีวิวอนิเมชั่น Dota: Dragon’s Blood: Book 2 บางส่วนจาก playinone

อนิเมชั่นซีรีส์จากเกมดังที่ยกระดับจากซีซั่นก่อนในทุกด้านทั้งสไตล์งาน การเล่าเรื่องที่รวดเร็วเข้มข้นมีฉีกกรอบสูตรสำเร็จ ประเด็นสำคัญ มิติของตัวละครที่ไม่แบนราบ แต่ซีจียังลอยและบางฉากไม่มีการขยี้อารมณ์เหมือนเดิม แต่แฟนเกมจะยิ่งชอบและประทับใจไปกับมัน

DOTA: Dragon’s Blood: Book 2 (DOTA: เลือดมังกร เล่ม 2) อนิเมชั่นซีรีส์ดัดแปลงจากวิดีโอเกมชื่อเดียวกันของ VALVE ร่วมทุนสร้างกับ Netflix Animation และ Studio Mir ที่ฝากผลงานยอดเยี่ยมไว้อย่าง The Witcher Nightmare Of The Wolf กับเรื่องราวดาร์กแฟนตาซีที่สานต่อความเข้มข้นและจุดเปลี่ยนของชะตากรรมแห่งโลก ชะตากรรมที่ทุกตัวละครต้องเผชิญหลังจบซีซั่น 1 สตรีมได้แล้ววันนี้พร้อมเสียงพากย์ไทย

หลังจากสงครามที่ป่าไนท์ซิลเวอร์ที่ได้ส่งคำเตือนให้ทั้งแผ่นดินรับรู้ถึงความชั่วร้ายของอินโวคเกอร์ เอลฟ์ที่ต้องการจะสังหารเซเลเมเน่ เทพีแห่งจันทรา ทำให้เดเวียน อัศวินมังกร และเจ้าหญิงมิราน่าจำต้องถูกแยกจากกัน ในขณะที่เดเวียนต้องเผชิญหน้ากับคำถามและต้นกำเนิดที่แท้จริงของชนเผ่ามังกรที่ออกไล่ล่าพลังและคำสาปของเขาในดราก้อนโฮลล์ร่วมฟิมริน เด็กสาวเอลฟ์ที่มีอนาคตในกำมือเธอ ในขณะที่เมลิน่า ลูน่า คนชั่วช้าแห่งที่ราบ นักรบผู้ปฏิเสธที่จะสรรเสริญเซเลเมเน่ และมาร์ซี่ สาวรับใช้หญิงใบ้มากฝีมือที่หนีรอดมาได้ ยังคงมุ่งมั่นที่จะต่อสู้ในสงครามครั้งใหม่ที่เลวร้ายกว่าที่เธอรู้จักเพื่อบูชา และมีเพียงศรัทธาและกำลังที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้ แต่เมื่อภัยร้ายและแผนการที่ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งมนุษย์และเอลฟ์ต่างห้ำหั่นเพื่ออำนาจ และเมื่อลีน่า จอมสังหารพลังเพลิงเข้ามาเป็นตัวแปรครั้งสำคัญของศึกครั้งนี้ จึงถึงคราวที่เลือดมังกรของเดเวียนและพลังที่หลับใหลและซ่อนเร้นจะพลิกชะตากรรมของทั้งโลกได้ แต่มันจะสามารถเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น หรือทำให้มันแย่ลงมากกว่าเดิม

ต้องบอกก่อนเลยว่า เนื้อเรื่องทิ้งช่วงห่างจากซีซั่นแรกได้ไม่นานและเดินหน้าต่อโดยไม่มาปูเรื่องราวอีกต่อไป เพราะงั้นถ้าใครยังไม่ได้ดูซีซั่นแรก หรือดูแล้วลืมก็คงจะต้องงงแน่ ๆ เพราะมันอัดแน่นข้อมูลเล่าไว้เพียบ ทั้งลอร์ของจักรวาล ทั้งปริศนามากมายของตัวละครที่เราเคยสงสัยหรืออยากเห็น เราก็ได้เห็น อีกทั้งมันยังกล้าที่จะสาดซัดความรุนแรงแบบไม่ยั้งมือ เรียกได้ว่าแม้แต่ตัวเอกก็ยังมีสภาพแทบไม่ต่างอะไรกับตัวประกอบ กับเนื้อเรื่องที่ซีซั่นนี้จะเน้นในเรื่องการเมืองอาณาจักรที่เข้มข้นมาก การเฉลยปมในอดีตของตัวละครหลัก ๆ และสอดแทรกบทบาทของตัวละครใหม่ ๆ จุดเปลี่ยนสำคัญและพัฒนาการตัวละครที่เด่นชัดขึ้น และได้รับการพัฒนาในด้านการเล่าเรื่องให้มีความลุ่มลึกและไม่เป็นสูตรสำเร็จ และเคลียร์ปมสำคัญไปได้สำเร็จและเพิ่มชั้นเชิงในการเล่าทางแฟลชแบ็คที่ดูเสริมเรื่องราวมากกว่าซีซั่นแรก และจัดเต็มฉากแอ็คชั่นแบบจุใจ แต่ข้อเสียก็ยังคงเป็นมันยังคงมีปัญหาในการเล่าเรื่องค่อนข้างรวบรัดขาดการขยี้เรื่องราวหรือฉากต่างที่มันควรจะได้อารมณ์ แถมพล็อตหลักบางจุดที่ควรเป็นจุดสนใจ ก็ยังคงดูโหวง ๆ ดูลอย ๆ ไม่ค่อยหนักแน่นเท่าเส้นเรื่องรองบางอันด้วยซ้ำ แต่ถึงแบบนั้นในภาพรวมมันก็พัฒนาทำได้ดีกว่าซีซั่นแรกจริง ๆ

ตัวละครของเรื่องมีพัฒนาการเป็นของตัวเองและมีมิติเล็กน้อยตามกันไปเมื่อเทียบกับซีซั่นก่อนที่ค่อนข้างแบนราบกลับมีความน่าสนใจไปหมด ไม่ว่าจะเป็น เดเวียน อัศวินมังกรที่ตอนนี้เขาเริ่มเข้ากับตัวเอง มีความกล้า ความมุ่งมั่นและไม่เห็นแก่ตัว พร้อมจะเสียสละทุกอย่าง แต่มาพร้อมด้วยความประมาทแบบที่พวกเขาเป็นประจำ เจ้าหญิงมิราน่าที่กลายเป็นผู้นำกองทัพที่เข้มแข็งและทรงพลังในการตัดสินใจเมื่อเธอได้รับอำนาจที่สูญเสียไปคืนมา ฟิมริน ยังคงออกทำภารกิจเพื่อรับใช้อินโวคเกอร์จอมโฉด ผู้หวังจะสังหารเซเลเมเน่ เทพีแห่งจันทรา แต่ก็ยังไม่เข้าใจในเป้าหมายตัวเอง และคอยสนับสนุนเดเวียน มาร์ซี่สาวใบ้ที่เราได้เห็นอดีตของเธอว่าทำไมเธอถึงเก่งกาจและทำเพื่อมิราน่าขนาดนี้ ถ้าใครชอบเธอก็จะยิ่งประทับใจ แม้บทบาทของเธอจะไม่ได้โชว์แอ็คชั่นจัดเต็มมากเท่าซีซั่นแรก

playinone

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *