ชื่อเรื่องWhite House Down
เรตติ้ง6.3
นักแสดงChanning Tatum,Jamie Foxx,Maggie Gyllenhaal
จำนวนตอน2.11 ชั่วโมง

รีวิวหนัง White House Down Netflix

รีวิวหนัง White House Down Netflix ภาพยนตร์แนววินาศกรรมที่จะทำให้คุณต้องหยุดหายใจ ภาพยนตร์แนวก่อวินาศกรรมนั้นเป็นภาพยนตร์ที่หลายคนชื่นชอบไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะความสนุกของภาพยนตร์แนวนี้คือเราจะได้ตื่นเต้นไปกับการเอาใจช่วยทีมปราบวินาศกรรมหรือบางคนก็อาจจะสนุกสนานไปกับการเอาใจช่วยทีมก่อวินาศกรรมด้วยเช่นเดียวกันมันเป็นภาพยนตร์ที่เน้นการชิงไหวชิงพริบและมีการต่อสู้ให้เราได้เห็นบ้างประปรายมันจึงเป็นความสนุกสนานที่องค์ประกอบโดยรวมมีความลงตัวเป็นอย่างมากมีความครบรสทั้งการต่อสู้การใช้สมองเรื่องราวที่เข้มข้นรวมไปถึงความดราม่า

แต่น่าเสียดายที่ภาพยนตร์แนวนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าที่ควรในกลุ่มผู้สร้างเนื่องจากมันมักจะเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในระเบิดภูเขาเผากระท่อมที่จะต้องใช้เงินทุนในการสร้างค่อนข้างสูงเลยทีเดียวดังนั้นหากใครที่ชอบภาพยนต์แนวนี้แล้วเราก็วันนี้เราก็มีมาแนะนำด้วยเช่นเดียวกันนั้นก็คือภาพยนตร์เรื่อง White House Dawn ภาพยนตร์แนวข้อสอบวินาศภัยที่ฉากหลังคือทำเนียบขาวสถานที่ทำงานและพักผ่อนของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่มักจะกลายเป็นเป้าโจมตีของกลุ่มผู้ก่อการร้ายหรือกลุ่มผู้ก่อวินาศกรรมอยู่เป็นประจำ

ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้คือผู้กำกับซึ่งได้ Roland Emmench มานั่งแท่นกำกับด้วยตัวเองอย่างที่เราทราบกันดีว่าผู้กำกับมากฝีมือคนนี้มีความโดดเด่นในการสร้างหนังฟอร์มยักษ์แนวหายนะของโลกไม่ว่าจะเป็น The Day After Tomorrow Godzilla หรือ Independence Day การทำลายข้าวของถือเป็นสิ่งถนัดของผู้กำกับคนนี้ดังนั้นการที่เราจะหันมาทำภาพยนตร์แนวก่อวินาศกรรมไม่ต้องกังวลเลยว่ามันจะเป็นภาพยนตร์เกรด B ต้นทุนต่ำรับรองได้เลยว่าคุณจะได้สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับฉากสุดอลังการทุนสร้างสูงอย่างแน่นอน

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง White House Down

White House Down จะเล่าถึงเรื่องราวของชายที่มีชื่อว่าจอห์นเขานั้นมีความใฝ่ฝันที่จะได้ทำงานเป็นหน่วยอารักขาของประธานาธิบดีที่มีชื่อว่าเจมส์ แต่น่าเสียดายที่วุฒิการศึกษาและประวัติการทำงานของเขาไม่ถึงทำให้เขาไม่สามารถทำงานนี้ได้ไหมว่าเขานั้นจะเป็นคนที่มีความสามารถและไหวพริบดีเลิศเหนือคนอื่นแถมยังเคยผ่านการรบมาด้วย

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากจะทำให้ลูกสาวของเขาที่คลั่งไคล้ประธานาธิบดีเป็นอย่างมากรู้สึกผิดหวังแม้ว่าทั้งคู่จะไม่ค่อยลงรอยกันก็ตามด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะไม่บอกลูกสาวไปว่าเขาไม่ได้รับงานนี้ในขณะเดียวกันนั้นเองก็มีคณะทัวร์เข้ามาเยี่ยมชมทำเนียบขาวทั้งสองพ่อลูกจึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมชมทำเนียบขาวร่วมกับทัวร์กลุ่มนั้นด้วยทุกอย่างเป็นไปอย่างสนุกสนาน

และมีความสุขจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดฝันขึ้นเมื่อมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายบุกเข้ามายึดทำเนียบขาวและมันก็ทำให้จอห์นจำเป็นจะต้องกลายเป็นผู้อารักขาของประธานาธิบดีอย่างจำเป็นนอกจากเขาจะต้องปกป้องคนสำคัญระดับประเทศอย่างประธานาธิบดีแล้วเขายังจะต้องปกป้องลูกสาวที่เขารักจากอันตรายที่พบเจอในครั้งนี้ให้สำเร็จอีกด้วย

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง White House Down

White House Down เป็นภาพยนตร์ที่ช่วงออกฉายนั้นมีกระแสค่อนข้างแรงเลยทีเดียวเนื่องจากชื่อของผู้กำกับอย่าง Roland Emmetrich สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับผู้รับชมได้เป็นอย่างดีว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องเป็นภาพยนตร์คุณภาพฟอร์มยักษ์อย่างแน่นอนซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกผิดหวัง แต่อย่างใดมันเป็นภาพยนตร์แนวก่อวินาศกรรมที่สามารถทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวเต็มไปด้วยฉากการต่อสู้ที่ทำให้เรารู้สึกลุ้นระทึกและสนุกตลอดเวลาจนแทบจะหยุดหายใจเรื่องราวทั้งหมดที่ปูมานั้นก็สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยมและชัดเจนมีที่มาที่ไปมีความสำเร็จสมผลซึ่งส่วนใหญ่แล้วภาพยนตร์แนววินาศกรรมมักจะมาตกม้าตายตรงส่วนของเรื่องราวที่ไม่ได้มีความสำคัญหรือเล่าเรื่องราวข้ามไปข้ามมา

ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้เราได้เห็นความรักระหว่างพ่อลูกอย่างชัดเจนถ้าตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายที่อาจจะทำให้ต้องเสียชีวิตได้เราจะเห็นว่าพ่อคนหนึ่งพยายามทุกวิถีทางที่จะปกป้องลูกที่เขารักเอาไว้ให้สำเร็จแม้ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตามถือว่าเป็นความราม่าที่ใส่เข้ามาได้กำลังพอดีไม่ยัดเยียดหรือฝืนมากจนเกินไปไม่เพียงเท่านั้นภาพยนตร์ยังสอดแทรกมุกตลกเข้ามาได้อย่างกำลังพอดีอีกด้วยช่วยตัดอารมณ์ผู้รับชมได้เป็นอย่างดีมันจึงกลายเป็นภาพยนตร์ที่มีรสชาติค่อนข้างครบถ้วนสมบูรณ์ แต่อย่างไรก็ตามภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีจุดสังเกตอยู่เช่นเดียวกันนั่นก็คือการที่พระเอกของเราอย่างจอห์นแม้ว่าจะมีความสามารถมากมายแถมยังเป็นคนที่เก่งด้านการต่อสู้และเคยผ่านสนามรบมาก่อน

แต่การที่ภาพยนตร์ให้เขาเป็นตัวละครเอกตัวเดียวที่มาต่อสู้กับเหล่ากลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ต้องการจะก่อเหตุวินาศภัยแล้วมันก็ยังดูไม่สมเหตุสมผลเท่าที่ควรและด้วยความที่มันเป็นภาพยนตร์แนวต่อสู้ทำให้ภาพยนตร์จะเล่าเรื่องราวทั้งหมดแบบเส้นตรงแม้ว่าจะมีปริศนาเข้ามาให้เราได้รู้สึกสงสัยบ้าง แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรที่หักมุม แต่อย่างใดเพราะถึงแม้ว่ามันจะหักมุมในตอนท้าย แต่สุดท้ายพอรับชมไปสักพักเราก็รู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวมันจะต้องหักมุมอย่างแน่นอนมันจะมีความเป็นภาพยนตร์แนวต่อสู้สูตรสำเร็จอยู่เล็ก ๆ เหมือนกัน

ตัวอย่างหนัง White House Down

รีวิว หนัง White House Down บางส่วนจาก patsonic

นานมากแล้ว ที่หนังพล็อตคล้ายๆ กันไม่ได้แห่กันออกมาในช่วงใกล้ๆ กันอย่างนี้ ปีนี้ เรามีหนังวินาศกรรมทำเนียบขาวไปแล้วหนึ่งเรื่อง คือ Olympus Has Fallen ของ Antoine Fuqua ที่ฉายกันไปเรียบร้อยเมื่อตอนต้นปี แต่ปลายเดือนสิงหาคมของปี 2556 ก็มีหนังอีกเรื่องที่สร้างมาพร้อมๆ กันแต่เพิ่งจะเข้าฉายอย่าง White House Down ที่มีพล็อตเดียวกันมาเข้าฉายให้พวกเราได้ดู

แม้รายละเอียดปลีกย่อยนั้นจะแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่โดยรวมนั้นก็คือหนังที่ใจความหลักคือเหตุการณ์ที่ทำเนียบขาวถูกถล่มยับ และมีพระเอกเท่านั้นที่ช่วยวิกฤตการณ์นี้เอาไว้ได้ ต่างแค่ครั้งนี้เปลี่ยนผู้ร้ายจากกองกำลังจากชาติคาบสมุทรฝั่งเอเชียเป็นคนอีกกลุ่ม ด้วยลีลาการเล่าเรื่องที่สุดมันแถมนี่เป็นหนังแอ็คชั่นที่ถูกปากถูกคอคนไทยอย่างยิ่ง วันที่ผมไปดูจึงพบคนเต็มโรงเลยทีเดียว

ผลงานของ Roland Emmerich นี่ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่ามักจะเล่นกับหนังฟอร์มยักษ์ประเภทหายนะโลก ไม่ว่าจะ Independence Day, Godzilla, The Day After Tomorrow และ 2012 เมื่อเขาเลือกมาทำหนังถล่มทำเนียบขาว ไม่ต้องห่วงว่าทุนสร้างจะต่ำ เพราะข้อมูลออกมาแล้วว่า “วินาทียึดโลก” เรื่องนี้ใช้ทุนไป 150 ล้านเหรียญด้วยกัน

เรื่องราวของพ่อ (Channing Tatum) ที่ไม่ค่อยลงรอยกับลูก (Joey King) นัก แต่พอจะเห็นทางคืนดีอยู่บ้างตรงที่เห็นว่าลูกคลั่งไคล้ประธานาธิบดี (Jamie Foxx) คนนี้มาก เมื่อมีโอกาสจะได้เข้าทำเนียบขาว เขาจึงอาศัยเส้นสายขอบัตรอีกใบให้ลูกสาวได้เข้าไปด้วย แต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับได้เจอกับวิกฤตการณ์อย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อทำเนียบขาวถูกถล่ม และเขาก็ดันบังเอิญกลายเป็นผู้เดียวที่ได้ช่วยเหลือประธานาธิบดีอย่างใกล้ชิด พร้อมๆ กันไปกับช่วยเหลือลูกสาวของตัวเองด้วย

Joey King แสดงเป็นหนึ่งในห้าลูกสาวของครอบครัวโชคร้ายใน The Conjuring คราวนี้ เธอมาแสดงเป็นลูกคนเดียวของชายผู้ช่วยทำเนียบขาว ซึ่งผู้เขียนบทก็วางให้เธอเป็นส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่อง แม้ว่า เราจะพบว่า เรื่องบางอย่างมันไม่ค่อยจะ make sense นัก แต่ก็ยังคงปฏิเสธไม่ได้เต็มปากนักว่า การดำเนินเรื่องโดยรวมมันดูสนุก มัน ลุ้นได้ดีทีเดียว ขณะที่มุขตลกต่างๆ ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์นัก เพราะมันไม่ค่อยจะทำให้ขำเท่าไหร่นี่แหละ สิ่งที่ ‘วินาทียึดโลก’ ดูจะโดดเด่นกว่าก็ตรงที่พาเราไปเจอกับสถานที่ต่างๆ ภายในทำเนียบขาวได้ละเอียดมากกว่าเท่านั้นเอง

บางคนคงมองว่า “วินาทียึดโลก” เป็นเหมือนหน้า Die Hard ในเวอร์ชั่นทำเนียบขาว แต่ความคิดนี้ก็ไม่ต่างไปจากตอนเราดู “Olympus Has Fallen” เลยนะ

patsonic

ขอแนะนำคาสิโนออนไลน์และแทงบอลออนไลน์ที่ดีที่สุด บริการ Alice Run อลิซรัน เกมวิ่งเก็บลูกอม ฝากถอนรวดเร็ว 24 ชม. ด้วยระบบ ฝากถอนออโต้ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ ที่ทันสมัยที่สุด มีผู้ใช้งานมากที่สุดในตอนนี้

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *