ชื่อเรื่องWHAT IF…?
เรตติ้ง7.7
นักแสดงChadwick Boseman,Sebastian Stan,Mark Ruffalo
จำนวนตอน18 ตอน

รีวิวหนัง WHAT IF…? Disney+Hotstar

รีวิวหนัง WHAT IF…? Disney+Hotstar จะเป็นอย่างไรหากจักรวาล Marvel ไม่ได้เป็นเหมือนที่เราคิด จักรวาลฮีโร่มาร์เวลนั้นถือว่าเป็นจักรวาลที่ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว มีทั้งภาพยนตร์และซีรีส์ มีทั้งภาคหลักและภาคแยก ทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหรือหากเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ ขึ้นมาแล้วสถานการณ์ในจักรวาลนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างไรบ้าง หากใครที่ติดตามเรื่องราวใน Marvel มาตั้งแต่ต้นสมัยซีรีส์เรื่อง Agent of Shield ตลอดมาจนถึงภาพยนตร์ภาคหลักในปัจจุบันล่าสุดอย่าง Spider Man no way Home เราจะพบว่าเรื่องราวนั้นค่อนข้างที่จะมีการแบ่งแยกเวลาเป็นจักรวาลแยกออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด หลังจากนี้เราพูดได้เลยว่าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ในจักรวาลฮีโร่มาร์เวล 

และหากคุณอยากรู้ว่าถ้าหากสถานการณ์ไม่ได้เป็นเหมือนกับที่เรารับชมมาในสื่อทั้งภาคหลักและภาคแยกเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรเราขอแนะนำให้ลองรับขมอนิเมชั่นซีรีส์เรื่อง WHAT IF…? เป็นอนิเมชั่นภาคแยกที่จะสามารถตอบคำถามที่เราอยากรู้ได้มากมายแถมมันอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินเรื่องราวในภาคหลักอีกด้วย

แม้ว่ามันจะดูเหมือนอนิเมชั่นที่ถูกสร้างออกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเหล่าแฟนคลับ Marvel แต่ความจริงแล้วเนื้อเรื่องในอนิเมชั่นซีรีส์เรื่องนี้นั้นจะอ้างอิงตามหนังสือการ์ตูนใน Marvel Comic ทั้งหมดและถูกนักเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่อยู่ในจักรวาล Marvel อีกด้วย ที่น่าสนใจเป็นมากกว่านั้นก็คือมันเป็นซีรีส์อนิเมชั่นเรื่องแรกของค่าย Marvel โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นจะนับตั้งแต่หลังจากซีรีส์เรื่องโลกิในปี 2019 ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับมาเวลแล้วต้องการจะเปิดโลกมัลติเวิลด์เราขอแนะนำให้รับชมอนิเมชั่นเรื่องนี้เลย รับรองว่าคุณจะเข้าใจเรื่องพหุจักรวาลมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน 

เรื่องราวในอนิเมชั่นซีรีส์เรื่อง WHAT IF…?

WHAT IF…? เป็นอนิเมชั่นซีรีส์ที่จะถูกแบ่งออกเป็นตอนๆ อย่างเช่นตอนแรกมีชื่อเรื่องว่า What If… Captain Carter Were The First Avenger? จะเป็นอย่างไรหากกัปตันคาร์เตอร์ได้เป็นหนึ่งในทีมอเวนเจอร์ชุดแรก หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อกัปตันคาร์เตอร์ แต่ถ้าพูดถึงเพ็กกี้ คาร์เตอร์ทุกคนจะต้องจำได้อย่างแน่นอนเพราะเธอนั้นเป็นตัวละครที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในจักรวาลเนื้อเรื่องของกัปตันอเมริกา โดยจะเล่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรหากกัปตันอเมริกานั้นไม่ใช่สตีฟโรเจอร์แต่เป็นคาร์เตอร์แทน โลกใบนี้จะเป็นอย่างไรเมื่อซุปเปอร์ฮีโร่คนแรกของอเมริกานั้นเป็นผู้หญิง และมันจะนำพามาซึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญที่กระทบต่อเส้นเรื่องทั้งหมดต่อมาหรือไม่

ตอนที่ 2 คือ What If… T’Challa Became a Star-Lord จะเป็นอย่างไรหากกษัตริย์ทีชาล่าแห่งวากานด้ากลายเป็นสตาร์ลอร์ด เรียกได้ว่าเนื้อเรื่องจะต้องพะรุงพะรังพันกันแบบไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแน่นอน แต่เพราะมันเป็นเรื่องราวในพหุจักรวาลอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น โดยจะเล่าถึงเรื่องราวของกษัตริย์ทีชาล่าสมัยยังคงเป็นรัชทายาทและอยากออกสำรวจโลกแต่ดันต้องเปลี่ยนไปสำรวจอวกาศแทนเนื่องจากยอนดูในทีมราเวนเจอร์ทำผิดพลาดลักพาตัวเขามา หลังจากนั้นอีก 20 ปีเขาก็ได้กลายเป็นสตาร์ลอร์ดแทน 

และตอนที่ 3 อย่าง What If… the World Lost Its Mightiest Heroes? โดยจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่ทีมอเวนเจอร์นั้นถูกฆาตกรรมทีละคนไม่เว้นแม้กระทั่งเทพเจ้าธอร์ คนที่ต้องรับบทหนักในเรื่องนี้คือนาตาชาหรือแบล็ควิโดว์ที่จะต้องพยายามตามหาตัวฆาตกรให้สำเร็จก่อนที่โลกใบนี้จะถูกยึดครอง 

ความรู้สึกหลังรับชมอนิเมชั่นซีรีส์เรื่อง WHAT IF…?

WHAT IF…? แฟนอนิเมชั่นซีรีส์ที่วังตอนนั้นก็เหมือนกับทำออกมาเพื่อเอาใจแฟนคลับแต่บางตอนนั้นก็ทำออกมาเพื่อสะท้อนให้เราได้เห็นว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปเพียงเล็กน้อยจะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ให้กับเรื่องราวที่ตามมาในอนาคตได้อย่างไรบ้าง ต้องยอมรับเลยว่ามันเป็นอนิเมชั่นซีรีส์ที่มีแนวคิดอันชาญฉลาดเป็นอย่างมากเพราะมันสามารถแตกแขนงเรื่องราวออกไปได้แบบไม่มีที่สิ้นสุดและมันก็มีความแปลกใหม่ให้เรารู้สึกอยากจะรับชมว่าเรื่องราวหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงไปแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง 

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบเกี่ยวกับ Butterfly effect รับรองว่าคุณจะต้องชื่นชอบอนิเมชั่นเรื่องนี้อย่างแน่นอนเพราะมันไม่ได้หลุดกรอบจากคำนี้ไปเลยแม้แต่น้อย แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าอนิเมชั่นซีรีส์เรื่องนี้ยังได้คะแนนไม่เต็ม 10 ก็มาจากส่วนของงานภาพที่เป็นงานผ้าสไตล์อนิเมชั่นอเมริกันที่ค่อนข้างจะมีความแข็งทื่อไม่น้อยเลยทีเดียว ประกอบกับการเล่าเรื่องราวจบในตอนทำให้ความยาวค่อนข้างจำกัดและเรื่องราวก็มักจะถูกเหล้าอย่างรวดเร็วฉับไวมากจนเกินไป

สำหรับใครที่เคยรับชมภาพยนตร์และซีรีส์จักรวาลมาร์เวลมาก่อนเราขอแนะนำให้คุณรับชมอย่างแน่นอนเพราะมันจะช่วยให้คุณเข้าถึงเรื่องราวใน Marvel มากยิ่งขึ้น แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยรับชมภาพยนตร์หรือซีรีส์ในเครือ Marvel มาก่อนเลยก็อาจจะทำให้รู้สึกสับสนกับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นหากคุณไม่เคยรักเธอมาก่อนเราก็อยากจะแนะนำให้ลองไปติดตามรับชมภาพยนตร์ในเครือ Marvel มาให้ครบก่อน รับรองว่าหากคุณรับชมเรื่องราวทั้งหมดในจักรวาล Marvel เป็นที่เรียบร้อยแล้วจะช่วยให้อนิเมชั่นเรื่องนี้มีความสนุกสนานมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว

ตัวอย่างหนัง WHAT IF…?

รีวิว หนัง WHAT IF…? บางส่วนจาก beartai

เนื้อเรื่องของ ‘What If…?’ ในแต่ละตอนจะมีความไม่เชื่อมโยงกันโดยตรง สามารถดูตอนไหนก่อนก็ได้เลือกที่ตัวละครนำในตอนนั้นที่เราถูกใจ (แต่แน่นอนว่าดิสนีย์จะปล่อยให้ชมสัปดาห์ละตอนเรื่อยไปจนครบ 9 ตอน) ที่น่าสนใจคือเรื่องราวสมมติว่าทั้งหมดนี้เป็นไทม์ไลน์ที่แตกแขนงออกจากเส้นเวลาศักดิ์สิทธิ์ หากอ้างตามเนื้อหาในซีรีส์ ‘Loki’ และตามปกติเราจะไม่รู้หรอกว่ามันมีเหตุการณ์เหล่านี้อยู่ จะมีเพียงพวกองค์กรจัดการด้านเวลาที่จะตรวจสอบแล้วเข้าไปจัดการแก้ไข

แต่ในเรื่องนี้จะเป็นการเล่าเรื่องผ่านสายตาของ เดอะ วอตเชอร์ (The Watcher) ที่ให้เสียงพากย์โดย เจฟฟรีย์ ไรต์ (Jeffrey Wright) ซึ่งพวกเดอะ วอตเชอร์นั้นเป็นมนุษย์ต่างดาวผู้เฝ้ามองปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในจักรวาล และมีนโยบายไม่เข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด พวกเขาเคยปรากฏตัวครั้งหนึ่งในฉากสั้น ๆ ของ ‘Guardians of the Galaxy Vol. 2’ (2017) ซึ่งหากจำกันได้ตอนนั้นจะมี สแตน ลี (Stan Lee) ปรากฏตัวในชุดนักบินอวกาศบนดวงจันทร์พูดคุยกับพวกเขาในฐานะ ผู้ให้ข้อมูลแก่เดอะ วอตเชอร์ (Watcher Informant) ด้วย เป็นสาเหตุว่าทำไมชายชรานามสแตน ถึงไปปรากฏตัวในหนังเรื่องต่าง ๆ ของมาร์เวลได้แม้จะต่างยุค ต่างสถานะ หรือแม้แต่ต่างดวงดาวก็ตาม

ด้วยเหตุนี้จึงต้องยอมรับเลยว่า เนื้อหามันออกจะเหมาะกับคนที่เคยดูหนังหรือซีรีส์มาร์เวลในเส้นเวลาหลักมาก่อนแล้ว (และทางทีที่ดีควรจะเคยดูให้ครบทุกเรื่องด้วย) ว่าเมื่อเทียบกับสิ่งที่เคยรู้เคยดูมา อะไรจะเกิดขึ้น? ล่ะ ถ้า…แบบนี้ มันจึงได้ยิ่งสนุกเข้าไปอีก ถ้าตัวละครแบบนี้เปลี่ยนเงื่อนไขและสถานะไป พวกเขาจะเป็นอย่างไร เนื้อเรื่องจะผิดเพี้ยนจากที่เคยดูอย่างไร นี่คือความสนุกของมัน

แต่คราวนี้ถ้าลองคิดในมุมของคนที่ไม่เคยดูหนังหรือซีรีส์มาร์เวลมาก่อนเลย มาดูมันในฐานะแอนิเมชันขนาดสั้นเรื่องหนึ่ง ส่วนตัวก็คิดว่ามันก็ยังสนุกประมาณหนึ่ง เพราะผู้สร้างอย่างผู้กำกับ ไบรอัน แอนดรูว์ส (Bryan Andrews) ที่ทำงานสายศิลป์ในหนังมาอย่างโชกโชน รวมถึง เอ.ซี. แบรดลีย์ (A.C. Bradley) หัวหน้าทีมเขียนบท เลือกการเล่าที่กระชับเข้าใจง่าย และเน้นใช้ความซับซ้อนของตัวละครที่ไม่ได้เข้าใจยากมากเกินไป และยังใช้ฉากแอ็กชันเดินเรื่องเพื่อลดความน่าเบื่อ แต่โดยรวมคนไม่เคยดูมาร์เวลแล้วมาดูเรื่องนี้ความสนุกก็จะดรอปลงไปครึ่ง ๆ เลยทีเดียว

นอกจากนี้จังหวะเล่าเรื่องก็ออกจะเร่งไปสักหน่อยด้วยเวลาต่อตอนที่จำกัด เหตุการณ์เกิดขึ้นแบบฉากชนฉาก ไม่ค่อยมีจังหวะเว้นพักให้ผู้ชมที่ไม่รู้พื้นฐานตัวละครเดิมมาดีได้รู้สึกอินหรือเข้าใจพัฒนาการทางอารมณ์มากนัก แต่สำหรับใครที่เคยดูหนังของตัวละครนั้นมาก่อน ก็จะสามารถไปดึงอารมณ์เทียบเคียงในหนังที่เคยดูมาปรับประสบการณ์แล้วเข้าใจตัวเรื่องได้ทันที ก็จะไม่เป็นปัญหาเลย แถมยังพบความลึกซึ้งซับซ้อนในตัวละครเดิมเข้าไปอีก

ฉากแบบนี้เราเคยรู้สึกแบบนี้กับตัวละครนี้ เมื่อมันเปลี่ยนตัวละครเป็นอีกคน เราจะได้ใช้ความเข้าใจเดิม 2 ชุดมาประยุกต์กับตัวละครตรงหน้าอะไรแบบนั้น อย่างเช่นในตอนแรกนี้ เล่าเรื่องสมมติถ้าใน ‘Captain America: The First Avenger’ (2011) คนที่ได้รับเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์กลายเป็นเอเจนต์คาร์เตอร์แทนจะเป็นอย่างไร เราเอาความรู้สึกของคาร์เตอร์มาผสมกับโรเจอร์ได้ ในขณะเดียวกันที่มันเจ๋งมาก ๆ คือเขาก็ไม่ได้ทิ้งสตีฟ โรเจอร์ ให้ตายหายไปไหน เขายังขอต่อสู้ในแบบฉบับที่อ่อนแอแต่หัวใจใหญ่เกินตัวได้อยู่เช่นกัน หรืออย่างในตอนที่ 2 ตัวละครคุณพ่อจำเป็นอย่าง ยอนดู กับ ธานอส ก็ดูมีมุมให้ค้นหาเพิ่มเติมน่าสนใจไม่แพ้ สตาร์ลอร์ดทีชัลล่าเลย

beartai

ขอแนะนำคาสิโนออนไลน์และแทงบอลออนไลน์ที่ดีที่สุด บริการ Tenfold eggs เกมขูดไข่ ฝากถอนรวดเร็ว 24 ชม. ด้วยระบบ ฝากถอนออโต้ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ ที่ทันสมัยที่สุด มีผู้ใช้งานมากที่สุดในตอนนี้

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *