ชื่อเรื่อง | Twilight |
เรตติ้ง | 8.0 |
นักแสดง | Kristen Stewart,Robert Pattinson,Taylor Lautner |
จำนวนตอน | 6 |
รีวิวหนัง Twilight Netflix
รีวิวหนัง Twilight Netflix ภาพยนตร์แวมไพร์สุดโรแมนติกทำให้หลายคนติดงอมแงม ถ้าพูดถึงแวมไพร์แล้วหากเราไม่นึกถึงเรื่องราวพลังความสามารถเหนือธรรมชาติและการต่อสู้อีกหนึ่งสิ่งที่เราจะคิดถึงก็คือความโรแมนติกนั่นเองเชื่อว่าทุกคนย่อมเคยผ่านการอ่านเรื่องราวไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนหรือนวนิยายที่เกี่ยวข้องกับความรักของแวมไพร์กันมาแล้วทั้งนั้นเราจะพบว่ามันมีความโรแมนติกเป็นอย่างมากกับการที่พระเอกเป็นแวมไพร์สุดแข็งแกร่งและต้องปกป้องนางเอกที่เป็นมนุษย์ธรรมดาด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นพล็อตโรแมนติก
ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังคงขายได้เสมอมาด้วยเหตุนี้มันจึงไม่น่าแปลกใจนักที่ภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ครั้งหนึ่งหนึ่งเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วมันได้รับความนิยมแบบถล่มทลายจะมีการสร้างภาคต่อออกมาได้หลายต่อหลายภาคนั่นก็คือภาพยนตร์เรื่อง Twilight ภาพยนตร์ที่ทําให้นักแสดงนำหรือนักแสดงที่มีบทโดดเด่นในภาพยนตร์เรื่องนี้แจ้งเกิดกันนับไม่ถ้วนนิยายเรื่องนี้มาก่อนเรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องที่สามารถทำให้ตัวละครที่ไม่ใช่พระเอกนางเอกไม่แพ้กัน
มันเป็นภาพยนตร์ที่สามารถผสมผสานเรื่องราวระหว่างความรักและการต่อสู้ให้เข้ากันได้อย่างกำลังพอดิบพอดีแม้ว่าหลายคนจะมองว่าการแสดงของนางเอกสาวอย่าง Kristen Stewart ในภาพยนตร์เรื่องนี้ออกจะแข็งทอและไม่เหมือนกับที่จินตนาการเอาไว้เวลาที่อ่าน แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่ามันถือเป็นภาพจำของเธอเลยกับการที่เป็นสาวน้อยหน้าตาสวย แต่แปลกแยกและได้ชีวิตชีวาหากคุณเคยอ่านนวนิยายเรื่องนี้มาก่อนแล้วอยากจะลองดูว่าภาพยนตร์ที่สร้างมาจากนวนิยายที่ตนเองรักนั้นจะเป็นอย่างไรเราก็อยากจะแนะนำให้คุณลองรับชม
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Twilight
Twilight เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของเด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งที่มีชื่อเบลล่าเธอเป็นเด็กสาวหน้าตาดี แต่กลับทำตัวแปลกแยกออกจากคนอื่นเธอนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบขรึมและเก็บตัวไม่เหมือนกับผู้หญิงธรรมดาทั่วไปที่ชื่นชอบของสวย ๆ งาม ๆ หรือของที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนั้นส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการที่ครอบครัวของเธอนั้นไม่ค่อยมีความสุขเท่าที่ควรเนื่องจากพ่อและแม่ของเธอนั้นแยกทางกันไม่เพียงเท่านั้นแม่ของเธอได้แต่งงานใหม่
ทำให้เธอนั้นต้องย้ายมาอาศัยอยู่กับพ่อในเมืองเล็ก ๆ อีกด้วยแถมในเมืองแห่งนี้ยังเป็นเมืองฝนตกตลอดทั้งปีจนทำให้ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเดินทางมาเรียนในโรงเรียนชั้นมัธยมปลายของเมืองนี้ยังไม่มีอิดออด แต่อย่างใดเพราะเธอก็รู้ดีว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้ตั้งแต่วันแรกที่เธอเดินทางมาเรียนเธอก็ได้พบเข้ากับเด็กนักเรียนหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งที่มีชื่อว่าเอ็ดเวิร์ดเด็กหนุ่มคนนี้จ้องหน้าเธออย่างเสียมารยาทไม่หยุดมันทำให้เธอรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่พอเมื่อถึงวิชาเรียนเดียวกันพวกเขากลับนั่งใกล้กันอีก แต่พอถึงตอนนั้นเด็กหนุ่มกับทำท่าทางเหมือนกับรังเกียจเธอ
และยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยถึง 1 อาทิตย์เลยทีเดียวเด็กสาวยังคงใช้ชีวิตต่อไปตามปกติอย่างที่ควรจะเป็นจนกระทั่งในวันหนึ่งเธอตกอยู่ในวิกฤตคับขันและได้เด็กหนุ่มมาช่วยเหลือชีวิตเอาไว้มันทำให้เธอต้องตกตะลึงเป็นอย่างมากเพราะการช่วยเหลือของเขาทำให้เธอรู้ในทันทีว่าเขาไม่เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปด้วยเหตุนี้เธอจึงได้พูดคุยกับเขาแบบจริงจังและเขาก็ได้ยอมรับว่าเรานั้นมีความสามารถในการอ่านใจคนอื่น แต่เขานั้นกลับไม่สามารถอ่านใจเธอได้เลยด้วยเหตุนี้ทั้งสองคนจึงเริ่มสนิทสนมกันมากยิ่งขึ้นและทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นไปอีกโดยที่ในตอนแรกเบลล่าไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มหน้าตาดีคนนี้แท้จริงแล้วเขาเป็นแวมไพร์
ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง Twilight
Twilight เป็นภาพยนตร์ที่ในภาคแรกเปิดตัวมาเป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้มีอะไรดูเหมือนว่าจะนำพาไปสู่เรื่องราวการต่อสู้ความแฟนตาซีหรือความอลังการอะไรเลยแม้แต่น้อยทำให้ภาคนี้มันเป็นภาพยนตร์ที่เราสามารถรับชมกันได้แบบสบาย ๆ ไม่มีอะไรหวือหวาที่ทำให้เรานั้นต้องใจเต้นแรงไปมากกว่าประสานความสัมพันธ์กันแบบน่ารักระหว่างพระเอกและนางเอกมันเลยดูเหมือนกับภาพยนตร์รักวัยรุ่นธรรมดาทั่วไป
แม้จะมีความพยายามในการสอดแทรกเรื่องราวดราม่าเข้ามาบ้างเพื่อสร้างสีสันรวมไปถึงการเพิ่มตัวร้ายเข้ามาในเรื่อง แต่กว่าจะมาถึงก็กลางเรื่องไปแล้วโดยรวมถือว่ามันเป็นภาพยนตร์แนวรักโรแมนติกที่จะทำให้เรารู้สึกเขินไปกับตัวละครเอกได้ไม่ยาก แต่อย่างไรก็ตามด้วยความที่แกนเรื่องมันค่อนข้างกลาดเกลื่อนไม่ว่าจะใครก็ทำกันนั่นก็คือการกำหนดเงื่อนไขให้แวมไพร์ไม่อยู่กับมนุษย์ แต่แวมไพร์กับมนุษย์ดันรักกันแล้วทำให้ศัตรูใช้มนุษย์คนนั้นมาเป็นเครื่องมือในการทำร้ายแวมไพร์ทำให้มันสามารถเดาได้แทบจะตลอดทั้งเรื่องและอาจจะสร้างความรู้สึกน่าเบื่อให้กับคุณได้หากคุณเป็นคนที่ไม่ได้ชอบภาพยนตร์แนวโรแมนติกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว