ชื่อเรื่อง | Below Zero Netflix |
เรตติ้ง | 6.2 |
นักแสดง | Javier Gutiérrez, Karra Elejalde, Luis Callejo |
จำนวนตอน | 1.46 ชั่วโมง |
รีวิวหนัง Thunder Force ขบวนการฮีโร่ฟาดฟ้า
รีวิวหนัง Thunder Force ขบวนการฮีโร่ฟาดฟ้า ภาพยนตร์แนวซุปเปอร์ฮีโร่หญิงสุดแหวกแนวที่เต็มไปด้วยความตลก หากพูดถึงซุปเปอร์ฮีโร่คนส่วนใหญ่แล้วก็มักจะนึกถึงซุปเปอร์ฮีโร่ฝั่งผู้ชายที่ได้รับความนิยมอย่างเช่น Iron Man Superman Batman กัปตันอเมริกา หรือกลุ่มซุปเปอร์ฮีโร่กลุ่มใหญ่อย่าง x-men ซึ่งก็มีผู้หญิงอยู่ในกลุ่มบ้างเปล่าปลายแต่ก็ไม่มากมายนัก ทำให้เวลาที่เราพูดถึงซุปเปอร์ฮีโร่ที่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นเพศหญิงนั้นคนส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงวันเดอร์วูแมนเพียงแค่คนเดียว
นั่นก็เป็นเพราะว่าเธอนั้นเต็มไปด้วยความสามารถในการต่อสู้แถมยังเป็นคนที่สวยจนน่ามองอย่างไม่ละสายตาอีกด้วย ทำให้ไดอาน่าหรือวันเดอร์วูแมนนั้นกลายเป็นมาตรฐานของซุปเปอร์ฮีโร่ฝั่งผู้หญิงไปในที่สุด แม้ว่าภาพยนตร์ของเธอนั้นจะเพิ่งออกมาเป็นเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น
แต่อย่างไรก็ตามภาพยนตร์แนวซุปเปอร์ฮีโร่ในปัจจุบันนี้มีให้เราได้รับชมเป็นจำนวนมากและด้วยความที่เรื่องราวนั้นก็วนไปวนมาซ้ำเดิมทำให้บางคนนั้นรู้สึกเบื่อหน่าย และมันก็ก่อให้กำเนิดฮีโร่อย่าง Shazam ขึ้นมา ซึ่งเป็นภาพยนตร์ฮีโร่ที่พลิกรูปแบบการทำภาพยนตร์ของฝั่ง DC ไปเลย และมันก็สร้างกระแสฮือฮาได้อย่างยอดเยี่ยม
หากใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์ฮีโร่สายฮาและฮีโร่ฝั่งผู้หญิงแล้วละก็ เราขอแนะนำให้ได้รู้จักกับภาพยนตร์ Original จาก netflix เรื่อง Thunder Force ภาพยนตร์แนวซุปเปอร์ฮีโร่หญิงสุดฮาที่เต็มไปด้วยมุกแป้กมากมาย แต่ด้วยความแป้กของมันนั่นเองที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น
ถือว่าเป็นภาพยนตร์สุดแหวกแนวที่นำเอาเรื่องราวซุปเปอร์ฮีโร่มาเล่าโดยใช้ตัวละครหลักเป็นผู้หญิง 2 คน แถมยังมีการสอดแทรกมุขตลกเข้ามาแบบไม่หยุดหย่อนจนมันกลายเป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นคอมเมดี้เบาสมองที่จะทำให้เราได้ผ่อนคลายขณะรับชม ดังนั้นหากใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวนี้แล้วล่ะก็เราขอแนะนำให้รับชมเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง Thunder Force
Thunder Force จะเล่าถึงโลกที่เต็มไปด้วยผู้ที่มีพลังพิเศษ โดยคนกลุ่มนี้จะถูกเรียกชื่อว่าเครียมส์ พวกเขานั้นไม่ได้เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ตามแบบฉบับภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ทั่วไป แต่พวกเขานั้นเป็นกลุ่มคนที่มีแนวโน้มที่จะก่อเหตุก่อการร้ายและยังทำให้โลกนี้กลายเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยผู้ร้ายที่มีพลังพิเศษมากมาย
หากพูดให้เข้าใจง่ายก็คือคนที่มีพลังพิเศษนั้นกลายเป็นตัวร้ายที่จะเป็นฮีโร่ เอมิลี่เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่จะต้องสูญเสียพ่อแม่ไปเพราะกลุ่มคนเหล่านี้ ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอนั้นมีความมุ่งมั่นที่จะตั้งใจศึกษาและโตมาเป็นนักวิจัยเช่นเดียวกับพ่อแม่ของเธอให้ได้ เพราะเธอนั้นมีเป้าหมายที่จะทำให้มนุษย์ธรรมดาสามารถมีพลังพิเศษได้เช่นเดียวกับวายร้ายและต่อสู้กับพวกมันได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอในวัยเด็กนั้นได้พบเข้ากับลิเดียจนกลายมาเป็นเพื่อนกันในที่สุด โดยเพื่อนของเธอคนนี้เป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความห้าวหาญไม่แพ้กับเด็กผู้ชาย แต่อย่างไรก็ตามทั้งสองคนนั้นก็เกิดความขัดแย้งกันจนทำให้พวกเธอนั้นเลิกติดต่อและคบหากันเป็นเวลายาวนานนับ 20 ปี
แต่แล้วในวันหนึ่งลิเดียนั้นก็ได้มีความคิดที่จะติดต่อให้เอมิลี่มาร่วมงานเลี้ยงรุ่นสักครั้งหลังจากที่เธอไม่เคยมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ด้วยเหตุนี้ทำให้ทั้งสองคนนั้นได้พบเจอกันแบบด้วยความบังเอิญและมันก็ทำให้ลิเดียนั้นได้กลายเป็นมนุษย์ที่มีพลังพิเศษอีกด้วย
โดยพลังของเธอนั้นเป็นพลังที่มีแรงเหนือมนุษย์ทั่วไป ทำให้เธอนั้นต้องร่วมมือกับอดีตเพื่อนที่ต้องการจะต่อสู้กับกลุ่มผู้ร้ายด้วยการนำเอาการทดลองมาทำให้ตนเองมีพลังพิเศษในการล่องหน ทั้งสองคนจึงต้องร่วมมือกันเป็นทีมเพื่อต่อสู้กับกลุ่มผู้ร้ายให้สำเร็จให้ได้
ไม่เพียงเท่านั้นยังจะต้องสานสัมพันธ์และฟื้นฟูมิตรภาพที่ห่างหายไปเป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปีให้กลับมาสนิทสนมกันอีกครั้ง และระยะเวลาที่ห่างหายไปทำให้เอมิลี่นั้นมีลูกสาวชื่อว่าเทรซี่ ทำให้ลิเดียนั้นต้องสานสัมพันธ์กับลูกสาวของเพื่อนรักด้วย ซึ่งมันจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของเธอและเอมิลี่นั้นกลับมาอีกครั้ง
เรื่องราวการต่อสู้ของอดีตเพื่อนทั้งสองคนนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป สุดท้ายแล้วพวกเธอจะสามารถต่อสู้กับกลุ่มผู้ร้ายได้สำเร็จหรือไม่ สามารถติดตามได้เอาใจช่วยพวกเธอได้ในภาพยนตร์
ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่อง Thunder Force
Thunder Force เป็นภาพยนตร์ที่มีมุขตลกสอดแทรกเข้ามาแบบไม่หยุดหย่อนจนทำให้เรานั้นจะได้หัวเราะตลอดการรับชมอย่างแน่นอน มีการเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพและครอบครัวออกมาได้อย่างกลมกล่อมกำลังพอดี ไม่ได้มีการสอดแทรกเรื่องราวดราม่าเข้ามามากจนเกินไปนัก
แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ามันจะเป็นภาพยนตร์แนวซุปเปอร์ฮีโร่ตลกเบาสมองที่ดูแล้วจะเหมาะสำหรับเด็กแต่ความจริงแล้วมุกตลกภายในเรื่องนั้นเป็นมุขตลกสำหรับผู้ใหญ่จำนวนมาก แถมบางครั้งบทยังพยายามยัดเยียดมุขตลกเข้ามามากจนเกินไปจนทำให้บางครั้งมันก็มีมุกแป้กค่อนข้างเยอะ แถมบางมุกนั้นยังชวนสะอิดสะเอียนอีกด้วย
ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีมุกแป้กมากมายแต่ความแป้กของมันนั่นเองที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความฮามากยิ่งขึ้นด้วยตัวของมันเอง ประกอบกับผู้ที่มารับบทนำในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นนักแสดงตลกทำให้คาแรคเตอร์และมุกตลกของพวกเธอนั้นยิ่งส่งให้บทของพวกเธอดูโดดเด่นได้มากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างหนัง Thunder Force ขบวนการฮีโร่ฟาดฟ้า
รีวิว หนัง Thunder Force ขบวนการฮีโร่ฟาดฟ้า จาก playinone
เรื่องนี้เป็นหนังตลกแอ็กชั่นแนวเบาสมองย่อยง่ายตามสูตรที่สร้างมาเหมือนกับต้องการสนองนีดผู้สร้างและนักแสดงเอง เพราะเรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับ Ben Falcone และภรรยาของเขาคือ Melissa McCarthy ซึ่งเป็นนักแสดงตลกหญิงร่างอวบ มารับบทแสดงนำในเรื่องนี้ด้วย
สำหรับตัวหนังก็จะมาในแนวมุกตลกสัปดน เพียงแต่อยู่ในขอบเขตที่แค่เหลื่อมๆจะไปยัง 18+ แต่ก็ยังไปไม่ถึง แล้วบวกกับมุกตลกเฉพาะตัวที่มาในสไตล์ดาราตลกหญิงที่โคตรจะเฉพาะตัวมาก คือถ้าคนเก็ตก็จะฮาหลายฉาก แต่ถ้าไม่ก็จะแป้กกันสุดๆ ไปเลยเหมือนกันครับ (ส่วนตัวผู้เขียนรีวิวเก็ตในหลายฉากมากๆ เลยฮาพอสมควร)
แล้วถึงแม้ว่าจะมาแนวหนังแอ็กชั่นมุกตลกแป้กๆ แบบสัปดน แต่จุดที่หนังทำได้ดีก็มีเหมือนกัน เช่นการที่หนังใช้เวลาต้นเรื่องเพียงแค่ไม่กี่นาที ก็สามารถปูความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนสองคนที่แตกต่างกันสุดขั้วในด้านบุคลิกนิสัย จนคนดูเชื่อได้ว่าทำไมพวกเขาจึงกลายเป็นเพื่อนรักกัน และทำไมพวกเขาถึงขัดแย้งจนแตกคอกันแล้วเลิกติดต่อกันไปกว่ายี่สิบปี
ตรงนี้เชื่อว่าในชีวิตของใครหลายคนก็น่าจะเคยมีเพื่อนสนิทที่คล้ายกันแบบนี้มาก่อน ก็จะรู้สึกอินกับความสัมพันธ์แบบนี้ได้ไม่ยาก รวมถึงการที่เมื่อเวลาผ่านไป ได้กลับมาพบกันอีกครั้งด้วย ต้องชมเลยว่า ถ้าหากนี่ไม่ใช่หนังตลกแอ็กชั่น แต่มันเป็นหนังดราม่าชีวิตตัวละคร เชื่อว่าหนังจะสามารถได้รับคำชมเชยในแง่ของการปูเรื่องและเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่ห่างเหินไปนานในส่วนนี้ได้เลย อีกจุดที่หนังพยายามนำเสนอขึ้นมาก็คือ เรื่องของแม่เลี้ยงเดี่ยว (และเป็นหญิงผิวสี) ในสังคมอเมริกัน ตรงนี้ก็น่าจะเป็นการเรียกคนดูกลุ่มนี้ได้ด้วยเหมือนกัน ที่พยายามจะให้กำลังใจเหล่าผู้หญิงแบบ Single Mom ในยุคนี้
ที่กล่าวมาทั้งหมด คงต้องยกเครดิตให้กับสองนักแสดงนำหญิงทั้ง Melissa McCarthy และ Octavia Spencer ที่เล่นในพาร์ทดราม่าได้ดี จนเราเชื่อได้ลงว่าพวกเขาน่าจะเป็นเพื่อนรักเก่าแก่ที่แยกกันไปนานแล้วจริงๆ
แต่เผอิญว่านี่เป็นหนังตลกแอ็กชั่น แม้ว่าพาร์ทดราม่ามิตรภาพจะทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่เนื้อหาหลักของเรื่องก็อยู่ที่เรื่องราวแบบซุปเปอร์ฮีโร่ และฉากแอ็กชั่นคอเมดี้ ซึ่งแม้ว่าจะทำออกมาได้ฮาอยู่บ้างในบางฉาก แต่ในภาพรวมของหนังก็เต็มไปด้วยการเดินเรื่องแบบตามสูตร รวมถึงมุกตลกหลายอันที่ค่อนข้างเป็นตลกแป้ก ตรงนี้หลายคนอาจจะทนดูไม่ได้จนเลิกดูไปก่อนที่หนังจะเข้าสู่ช่วงการต่อสู้เลยก็น่าจะเป็นไปได้
แล้วรวมถึงการที่ตัวหนังใช้ดาราหญิงตลกร่างอวบ มารับบทนำ และใช้ดาราหญิงผิวสีร่างอวบอีกคนมารับบทตัวรอง ก็อาจจะทำให้คนดูผู้ชายหลายคนไม่ค่อยอยากจะดูมากนัก แต่ถ้าเป็นผู้ชมเป็นผู้หญิง อาจจะรู้สึกอินกับเรื่องราวมิตรภาพของสองตัวละครในช่วงแรกจนสามารถตามดูต่อไปได้ครับ
สำหรับเรื่องราวของพวก เครียมส์ ซึ่งเป็นเหล่าวายร้าย Villian ในเรื่องนี้ที่มีพลังพิเศษ ก็ไม่ค่อยได้ถูกนำเสนอออกมาเท่าไหร่นัก คือตัวร้ายที่ถูกแสดงให้เห็นว่าใช้พลังพิเศษได้ในเรื่องนี้ก็มีบทออกมาอยู่แค่ไม่กี่คน แต่ไม่กี่คนที่ว่านั้นก็ถือว่าเป็นภัยร้ายแรงอยู่เหมือนกัน แล้วหนึ่งในเหล่าตัวร้ายยังได้นักแสดงสาวอย่าง Pom Klementieff ที่โด่งดังจากบทแมนทิสในเรื่อง Guardian of the Galaxy มารับบทตัวร้ายสาวอีกคนในเรื่อง และก็ทำได้ดีครับ กับการเป็นสาวที่ยิงพลังสายฟ้าได้
ส่วนบอสใหญ่ของเรื่องได้นักแสดงที่เรามักเห็นเล่นบทตัวร้ายและตัวรองบ่อยๆเช่น Bobby Canavale มารับบท The King ที่ใช้พลังแบบเดียวกับนางเอก แต่ที่เซอร์ไพร์สคือ นี่เป็นบอสที่ดันมาปล่อยมุกตลกร่วมกับ Jason Bateman ที่รับบท The Crab ซึ่งถือว่าเป็นผู้ใช้พลังพิเศษที่สุดพิสดารคือมือก้ามปู แล้วไอ้การรับส่งมุกของทั้งสองคนนี้กลับทำได้ดีซะยิ่งกว่าการเป็นบอสที่โชว์พลังอะไรมากมายด้วย เรียกว่ามุกตลกฝั่งตัวร้ายคือจุดหนึ่งที่ทำได้ดีกว่าที่คิด ซึ่งเป็นตลกเฉพาะตัวแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นใครทำเท่าไหร่ครับ ในขณะที่ฉากแอ็กชั่น ก็ถือว่าใช้ CG อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้เด่นแต่ก็ไม่ได้แย่ และฉากบู๊ในช่วงท้ายก็ทำได้เพลินๆดี
ในภาพรวมแล้วเป็นหนังตลกซุปเปอร์ฮีโร่ชูมิตรภาพพลังหญิง กับมุกตลกแป้กๆ ที่ก็พอดูให้ตลกได้ ถ้าเก็ตครับ
playinone