ชื่อเรื่อง Below Zero Netflix
เรตติ้ง6.2
นักแสดง Javier GutiérrezKarra ElejaldeLuis Callejo
จำนวนตอน 1.46 ชั่วโมง

รีวิวหนัง The white tiger netflix พยัคฆ์ขาวรำพัน

รีวิวหนัง The white tiger netflix พยัคฆ์ขาวรำพัน หนังที่แสดงให้เห็นถึงการแบ่งชนชั้นวรรณะที่ยังคงพบเห็นเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน The white tiger พยัคฆ์ขาวรำพัน ภาพยนตร์อินดียที่ได้รับการดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อดังขายดีของ อราร์วินด์ อดิกา ในชื่อเรื่องเดียวกัน โดยหนังเรื่องนี้ได้ทำการกำกับการแสดงและเขียนบทโดย รามินห์ บาห์รานิ เจ้าของผลงาน Fahrenheit 451 (2018) ที่เคยเข้าชิงรางวัลเอมมี่ไพรม์ไทม์สาขาหนังทีวียอดเยี่ยม นำแสดงโดย Adarsh Gourav, Priyanka Chopra และ ราจคุมมาร์เราซี่งถูกนำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ในปลายปี 2010 โดยขายลิขสิทธิ์ให้กับผู้อำนวยการสร้าง Mukul Deora  ซึ่งได้ถ่ายทำอย่างกว้างขวางทั่วเดลีในเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2019 และได้นำมาฉายต่อที่ลาสเวกัสเมื่อวันที่ 6 มกรา 2564 ถูกนำเข้าฉายโรงภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2564 ซึ่งต่อมาได้ทำสัญญากับทาง Netflix ซึ่งได้เผยแพร่ทั่วโลกในวันที่ 22 มกราคม 2564  โดยหนังจะเป็นการนำเสนอเรื่องสายดาร์กหรือการตีแผ่ด้านมืดของระบบชนชั้นวรรณะในประเทศอินเดียที่ปัจจุบันยังคงมีให้เห็นถึงระบบการแบ่งชนชั้นวรรณะทางสังคมที่ซึ่งอาจจะพูดได้ว่าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยประเทศอินเดียนั้นจะแบ่งชนชั้นของคนรวยคนจนให้เห็นอย่างชัดเจน การใช้ชีวิตของคนรวย คนรวยการคลุมถุงชนของคนรวยที่แต่งงานกับคนรวย การสู้ชีวิตของคนจนที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดในสังคม โดยความยาวของหนังนั้นจะใช้เวลาอยู่ที่ 2 ชั่วโมง 5 นาที  ซึ่งต้องของบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้ได้นำเสนอการใช้ชีวิตของแต่ละชนชั้นในประเทศอินเดียได้เป็นอย่างดี

เรื่องย่อของหนังเรื่อง The white tiger พยัคฆ์ขาวรำพัน

The white tiger พยัคฆ์ขาวรำพัน เป็นการเล่าเรื่องของ พลราม (อาดาร์ชกอราฟ) คขขับรถสุดทะเยอทะยานที่ทำงานเป็นคนขับรถของสองสามีภรรยาชาวเศรษฐีของประเทศอินเดีย สิ่งเขานั้นเกิดจากชนชั้นต่ำจากชนบท ไม่มีความเจริญ ซึ่งเขานั้นเป็นเด็กที่มีความฉลาดและมีความสามารถแต่เพราะด้วยฐานะทางบ้านทำให้เขานั้นไม่ได้เรียนต่อ และได้มาเป็นคนขับรถของเศรษฐี โดยความพยายามไต่เต้าเอาชนะโชคชะตาของเขาทุกวิธีทาง โดยการทำงานของเขานั้นเขาให้ความซื่อสัตย์และภัคดีต่อเจ้านางของเขาจนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้ถูกการกระทำที่ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมากจากเจ้านายของเขา ด้วยความถูกกดขี่และการทารุณที่ขาดความเมตตา ทำให้เขาเริ่มที่จะเรียนรู้ว่า คนเราจะเปลี่ยนวรรณะนั้นสามารถเปลี่ยนได้แค่สองอย่างเท่านั้นคือ เป็นคนรวยหรือไม่ก็เป็นอาชยากรรม ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาเริ่มเรียนรู้และศึกษาวิธีการทำธุรกิจของเจ้านายของเขาและด้วยความฉลาด ความเจ้าเล่ห์ มันสงผลพลักดันให้เขานั้นประสบความสำเร็จได้กลายมาเป็นเจ้าพ่อซิลิกอนวัลเลย์แห่งประเทศอินเดียได้สำเร็จ

บทสรุปความรู้สึกและสิ่งที่ได้หลังจากได้รับชมหนังเรื่อง The white tiger พยัคฆ์ขาวรำพัน

The white tiger พยัคฆ์ขาวรำพันเป็นหนังที่สื่อออกมาให้เห็นได้ชัดถึงสภาพสังคมของประเทศอินเดีย ที่มีการแบ่ง วรรณะ ความเชื่อ จารีต หรือแม้แต่ความเป็นทาสที่ยังคงมีให้เห็นอยู่ในประเทศอินเดีย ซึ่งหนังเรื่องนี้นำเสนออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ประเทศอินเดียนั้นเปรียบเหมือนไก่ในกรงที่ยังคงมีการใช้ ทาสที่เราเคยเห็นในสมัยก่อน ซึ่งหนังเรื่องนี้ให้ข้อคิดต่างๆ ออกมามากมายได้อย่างน่าสนใจมากเลยทีเดียว ซึ่งตอบจบของหยังก็สร้างความสะใจให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี โดยจุดเด่นของหนังเรื่องนี้คงเป็นเพราะหนังเรื่องนี้ถูกนำมาทำเป็นหนังได้จากการดัดแปลงจากหนังสือขายดี โดยเป็นการเล่าเรื่องของยาจกที่สามารถพิชิตเมืองเศรษฐี ซึ่งต้องบอกว่าเพราะเหตุผลนี้ทำให้หนังเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นอย่างมาก

ซึ่งต้องบอกก่อนว่าก่อนจะรับชมหนังเรื่องนี้เราต้องเอาความคิกเก่าๆที่เคยมีสำหรับหนังอินเดียที่คิดว่าหนังเรื่องนี้ต้องมีฉากเต้นรวมกันหรือฉากตอนจบที่จะนำทุกตัวละครมาเต้นรวมกันหมด เพราะหนังเรื่องนี้ได้สร้างขึ้นโดยได้พยายามสื่อให้เห็นถึงมุมด้านมืดของสังคมอินเดีย โดยในเนื้อหาอาจจะมีการจิกกัดความไม่เท่าเทียบของสังคมอินเดีย ซึ่งในเรื่องจะนำเสนอในเรื่องของบท พลราม ที่วัยเด็กนั้นมีความสามารถในการอ่านออกเขียนได้แต่ด้วยฐานะทางบ้านทำให้เขาพลาดโอกาส ซ฿งปัญหานี้เป็นอีกปัญหาที่เกิดขึ้นจริงและยังคงเป็นปัญหาอยู่ในประเทศอินเดีย

ซึ่งตัวหนังนั้นก็ไม่ได้จะตัดสินการกระทำของพลรามอยู่แล้วว่าดีหรือไม่ดี แต่หนังนั้นมุ่มเน้นที่จะพยายามสื่อออกไปให้เห็นว่าเรื่องแบบนี้ยังคงมีให้พบเห็นเป็นอย่างมากในปัจจุบัน และอีกเรื่องที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คงเป็นการนำเสนอความรู้สึกการสื่อเรื่องราวออกมานั้นถือว่าทำได้เป็นอย่างดี แต่ข้อเสียของเรื่องนี้ก็มีให้เห็นมากเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นการตัดบทจบในตอนท้ายที่ดูเหมือนจะจบง่ายและกระชับมากไป การอธิบายปัญหาความซับซ้อนของครอบครัวพลรามที่ไม่ชัดเจน การเล่าเรื่องที่อยู่กึ่งความเป็นจริง ทำให้หนังเรื่องนี้ถือว่าหากเปรียบเทียบถึงข้อดีข้อด้วยแล้วก็ยังคงเป็นหนังอีกเรื่องที่น่าสนใจเป็นอีกหนึ่งเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ตัวอย่างหนัง The white tiger netflix พยัคฆ์ขาวรำพัน

รีวิว หนัง The white tiger netflix พยัคฆ์ขาวรำพัน จาก beartai

เน็ตฟลิกซ์ได้คอนเทนต์เพชรเม็ดงามมาฉายอีกครั้ง กับหนังอินเดียที่ดัดแปลงจากหนังสือขายดีของ อาร์วินด์ อดิกา เรื่อง พยัคฆ์ขาวรำพัน (The White Tiger) โดยได้การกำกับและเขียนบทของ รามิน บาห์รานิ เจ้าของผลงานอย่าง Fahrenheit 451 (2018) ที่เคยเข้าชิงรางวัลเอมมี่ไพรม์ไทม์สาขาหนังทีวียอดเยี่ยมมาแล้ว และนี่ก็เป็นการมาร่วมงานกับเน็ตฟลิกซ์โดยมีโพรดิวเซอร์มือรางวัลอย่าง เอวา ดูเวอร์เนย์ ที่เคยกำกับผลงานชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมมาแล้วกับ Selma (2014) มาช่วยอำนวยการสร้างให้ด้วย แต่เหนือกว่ารายชื่อทีมงานที่น่าสนใจแล้ว ก็คือ หนังเล่าเรื่องสนุกมาก

เรื่องราวของเด็กฉลาดเฉลียว ชนิดที่เรียกว่า 1 ใน 1,000 ซึ่งไม่ต่างจากโอกาสเกิดของเสือขาว เขาเกิดมาในวรรณะต่ำจากย่านชนบทขาดความเจริญ ถูกให้ออกจากโรงเรียนทั้งที่จะได้ทุนไปเรียนต่อเพราะฐานะทางบ้านยากจน มีเจ้าของที่ดินมาเฟียคอยขูดรีดทุกรูปีของคนในหมู่บ้าน แล้วเงินเล็กน้อยที่เหลือรอดมายังบ้านของพลรามก็ยังถูกธรรมเนียมเรื่องย่าเป็นใหญ่คอยขูดรีดจากสมาชิกในบ้านไปอีก เมื่อไม่มีเงิน ย่าก็ขูดรีดโอกาสของพวกลูกหลานในบ้านแทน เฉกเช่นที่พลรามอดเรียนต้องมาใช้แรงงาน และพี่ชายที่เมื่ออายุถึงก็ถูกบังคับแต่งงานเพื่อเอาสินสอดจากบ้านผู้หญิง

การพยายามไต่เต้าเอาชนะโชคชะตาทุกวิถีทางของพลราม (จนบางทีการกระทำเขาก็ดูเทา ๆ) จึงเป็นการต่อสู้กับอุปสรรคของสังคมอินเดีย ทั้งเรื่องวรรณะ ความเชื่อ จารีต และที่สำคัญที่สุดคือความเป็นทาสที่ฝังลึกอยู่ในกมลสันดานของคนจน เช่นเดียวกับที่พลรามเปรียบเปรยว่าหลายครั้งที่คมคาย ทั้งคำพูดที่ว่า อย่าเป็นคนจนในระบบประชาธิปไตย, อินเดียมีแค่ 2 วรรณะคือคนจนกับคนรวย และ คนจนอินเดียเป็นไก่ในกรง ที่ไม่คิดแหกกรงหนี และมีความเป็นทาสที่ยินดีรับใช้นายในทุกโอกาส

พลรามเหมือนระเบิดแสนซื่อที่ยังไร้ดินปืน จนกระทั่งเขาถูกกระทำระยำตำบอนจากคนที่เขาให้ใจที่สุดทั้งเจ้านายหัวฝรั่งผู้เมตตา และครอบครัวที่ผูกพันทางสายเลือด นั่นทำให้เขาพูดว่า ตนเองตรัสรู้ หรือรู้แจ้งเห็นชัดแล้วว่า คนจนจะเปลี่ยนวรรณะเป็นคนรวยได้ก็มีเพียง 2 เส้นทาง ไม่อาชญากรรม ก็การเมือง ซึ่งเราจะได้เป็นประจักษ์พยานการเติมดินปืนใส่หัวพลราม ที่สุดท้ายจะกลายเป็นเจ้าพ่อซิลิกอนวัลเลย์แห่งอินเดีย ตามที่ตัวตนเขาในอนาคตได้บอกผู้ชมมาตั้งแต่ต้นเรื่อง

เอาจริงคือบรรยากาศเนื้อเรื่องและโพรดักชันต่าง ๆ ชวนนึกถึงหนังออสการ์อย่าง Slumdog Millionaire (2008) ของ แดนนี่ บอยล์ อยู่ไม่น้อยเลย และก็พอให้หายลงแดงได้ไม่น้อยเลยทีเดียวด้วย แต่บรรยากาศที่ว่าก็คล้ายสลัมด็อกฯ แค่ครึ่งเรื่องแรก โดยตัดความแฟนซีโรแมนติกออก เหลือเพียงตลกร้ายและการเสียดสีอย่างเมามัน

ก่อนจะกลายเป็นคัมมิงออฟเอจแบบเรียล ๆ ในครึ่งหลัง ที่เราจะเห็นการก่อกำเนิดของเสือขาวที่เหี้ยมโหดพอจะรับมือโลกที่เลวร้ายได้ทัดเทียมกัน ซึ่งแม้ดาราดัง ๆ อย่าง ปริยังกา โจปรา โจนัส ที่ไปโผล่ในหนังฮอลลีวูดหลายเรื่องแล้วจะเล่นในเรื่องนี้ แต่บอกเลยว่าไม่มีใครแจ้งเกิดเกิน อาดาร์ช กอราฟ พระเอกหน้ามนที่น่าจดจำทั้งลูกเซ่อและลูกเจ้าเล่ห์แต่ก็เกลียดไม่ลง นึกไปถึงครั้ง เดฟ พาเทล ที่ทำสำเร็จโกอินเตอร์มาก่อนหน้านี้ด้วยเลย หนังอาจให้ข้อคิดผ่านตัวละครต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจว่าเราเป็นตัวละครไหนในสังคมนี้อยู่หรือไม่ และหนังก็บันดาลความสะใจในบทสรุปได้อยู่ไม่น้อยทีเดียว

beartai

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *