ชื่อเรื่องTHE SKY IS EVERYWHERE
เรตติ้ง6.0
นักแสดงGrace Kaufman,Jacques Colimon
จำนวนตอน1.43 ชั่วโมง

รีวิวหนัง THE SKY IS EVERYWHERE

รีวิวหนัง THE SKY IS EVERYWHERE ภาพยนตร์แนวโรแมนติกวัยรุ่นที่มีความแตกต่างจากเรื่องอื่น ภาพยนตร์แนวโรแมนติกวัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะถูกค่อนแคะว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้มีแก่นสารอะไรที่น่าสนใจ ส่วนใหญ่แล้วมักเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักวัยรุ่นสูตรสำเร็จที่ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากเรื่องอื่น ถ้าไม่เป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้รับชมแล้วรู้สึกสนุกสนานอบอุ่นหัวใจก็มักจะมาในลักษณะของแนวดราม่าที่รับชมแล้วต้องเสียน้ำตาอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นยังคงมีคนที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวนี้อยู่ไม่น้อยเนื่องจากมันเป็นภาพยนตร์ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย รับชมได้แบบที่ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย แถมยังเป็นเหตุการณ์ที่หลายคนเคยเผชิญมาก่อนจึงสามารถเข้าถึงเรื่องราวและความรู้สึกของตัวละครได้เป็นอย่างดี 

แต่ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่เบื่อภาพยนตร์แนวโรแมนติกวัยรุ่นสูตรสำเร็จเต็มทนแล้วขอแนะนำภาพยนตร์เรื่อง THE SKY IS EVERYWHERE มันเป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกวัยรุ่นที่เล่าถึงเรื่องราวความรักของเด็กวัยรุ่น 2 คนที่มีความแตกต่างจากภาพยนตร์แนวรักวัยรุ่นเรื่องอื่น ตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมง 40 นาทีคุณจะได้สัมผัสกับเรื่องราวที่มีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครแต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายความเป็นภาพยนตร์แนวรักวัยรุ่นอยู่เหมือนเดิม มันดัดแปลงมาจากนวนิยายในชื่อเดียวกันที่ประสบความสำเร็จและเข้าตาผู้ผลิตภาพยนตร์จนถูกนำเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ในที่สุด 

แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะได้ผู้กำกับที่ค่อนข้างไม่เป็นที่รู้จักอย่าง JOSEPHINE DECKER มารับหน้าที่ในการกำกับแต่เขาก็สามารถทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มันไม่ได้เล่าเรื่องราวความรักวัยรุ่นที่สุดแสนจะโรแมนติกและสดใส แต่จะเน้นไปที่วิธีการก้าวข้ามผ่านการสูญเสียคนรักจนทำให้ใจสลายและทำลายชีวิตของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งไปอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้กลิ่นอายของมันจึงไม่ได้เต็มไปด้วยความสุขเพียงอย่างเดียวแต่แทรกซึมมาด้วยความซาบซึ้งและความอบอุ่นหัวใจได้อย่างลงตัว

รีวิวหนังรัก

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง THE SKY IS EVERYWHERE

THE SKY IS EVERYWHERE เป็นภาพยนตร์ที่จะเล่าถึงเรื่องราวของสองพี่น้องที่สนิทสนมกันเหมือนกับเป็นเพื่อนสนิทกันมาอย่างยาวนานอย่างเบย์ลี่และเลนนี่ พวกเธอทั้งสองคนอาศัยอยู่กับยายและลุงที่เลี้ยงพวกเธอมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กเนื่องจากพวกเธอนั้นต้องเสียแม่ไป เลนนี่เป็นเด็กสาวที่มีพรสวรรค์และความสามารถในด้านดนตรีเป็นอย่างมาก ในขณะที่เบย์ลี่มีความสามารถในด้านการแสดงไม่แพ้ใคร ทั้งสองคนแม้ว่าจะไม่มีพ่อแม่แต่พวกเธอนั้นก็ยังคงดำเนินชีวิตไปอย่างมีความสุขและเต็มไปด้วยความฝัน

แต่แล้วในวันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อผู้เป็นพี่สาวเบย์ลี่เกิดหัวใจหยุดเต้นขึ้นมาในขณะที่เธอนั้นกำลังซ้อมละครอยู่ เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ผู้เป็นน้องสาวเลนนี่ต้องใจสลายจากการสูญเสียพี่สาวไปแล้วมันทำให้เธอไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรอีกต่อไป เธอหายไปจากโรงเรียนและหลบหน้าหลบตาผู้คน จมอยู่กับความเศร้าและความทุกข์ที่ต้องสูญเสียพี่สาวเพียงคนเดียวไป

แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเธอเริ่มทำใจได้ก็ได้กลับมายังโรงเรียนอีกครั้งก่อนจะพบกับชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์และความสามารถทางด้านดนตรีเหมือนกันที่มีชื่อว่าโจ และเขาก็ได้กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธออีกครั้ง สุดท้ายแล้วเด็กสาวจะสามารถทำตามความฝันและก้าวข้ามผ่านความเสียใจไปได้หรือไม่ เราต้องติดตามรับชมกันต่อในภาพยนตร์ 

ความรู้สึกหลังรับชมภาพยนตร์เรื่อง THE SKY IS EVERYWHERE

THE SKY IS EVERYWHERE เป็นภาพยนตร์แนวรักวัยรุ่นแต่ก็ไม่ได้ดำเนินเรื่องราวแบบสูตรสำเร็จแต่อย่างใด เปิดตัวมาด้วยการสูญเสียพี่สาวจนทำให้นางเอกของเราต้องทุกข์ทนทรมานอยู่กับความเศร้าที่ต้องสูญเสียพี่สาวที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่ยังเด็ก เธอมีอาการหมกมุ่นจนเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้าเลยทีเดียว ดังนั้นแม้ว่าจะมีเรื่องราวความรักโรแมนติกสอดแทรกเข้ามาบ้างแต่ประเด็นหลักที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการจะสื่อก็คือวัยรุ่นคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับการสูญเสียอย่างไม่ทันได้ทำใจจนทำให้เธอนั้นไม่เหลือที่พึ่งพิงทางจิตใจอีกต่อไปแม้ว่าเธอจะมีครอบครัวอยู่ก็ตาม เนื่องจากเธอโทษว่าทั้งลุงและยายมีส่วนที่ทำให้พี่สาวของเธอต้องจากไป

ดังนั้นในช่วงแรกตัวละครนางเอกของเราจะไม่ค่อยน่ารักสักเท่าไหร่เพราะเธอนั้นเต็มไปด้วยความทุกข์และความโกรธเกรี้ยวจนอาละวาดไปทั่ว แต่หลังจากนั้นภาพยนตร์ก็จะค่อยๆแสดงให้เราได้เห็นถึงพัฒนาการของการก้าวข้ามผ่านความทุกข์ของตัวละครดังกล่าวได้เป็นอย่างดี บรรยากาศภายในเรื่องในช่วงแรกจึงค่อนข้างจะทุกข์ทรมานเลยทีเดียวสำหรับตัวละครเอกของเราและมันก็ทำให้เรารู้สึกไปกับเธอได้ไม่ยากเช่นเดียวกัน

อีกหนึ่งสิ่งที่โดดเด่นนอกจากเรื่องราวและบทของภาพยนตร์แล้วก็คืองานภาพที่สวยเป็นอย่างมาก การออกแบบทั้งฉาก เสื้อผ้าหน้าผม บรรยากาศภายในภาพทุกอย่างสามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี นักแสดงก็สามารถเล่นได้อย่างสมบทบาทแถมยังมีเสน่ห์ที่น่าสนใจอีกด้วย มีการสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับการเติบโตจากวัยรุ่นสู่การเป็นผู้ใหญ่ได้ดี มีเรื่องรักสามเศร้าที่น่าติดตามใส่เข้ามาด้วย 

แต่สิ่งที่น่าเสียดายในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือการที่ไม่ได้เน้นประเด็นเรื่องความสามารถทางดนตรีของตัวละครเอกทั้งสองตัวสักเท่าไหร่ มีจังหวะที่นางเอกเปลี่ยนไปจนดูไม่สมเหตุสมผลเท่าที่ควร บทของนางเอกในช่วงแรกสมจริงจนทำให้ผู้รับชมอย่างเราอาจรู้สึกปวดหัวกับพฤติกรรมของเธอได้ แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นภาพยนตร์แนวรักวัยรุ่นที่ทำออกมาได้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว สล็อตเครดิตฟรีแค่สมัคร

ตัวอย่างหนัง THE SKY IS EVERYWHERE

รีวิว หนัง THE SKY IS EVERYWHERE บางส่วนจาก playinone

หนังรักวัยรุ่นที่เรื่องราวแปลกแตกต่างจากทั่วไปมาก ด้วยการเน้นหนักไปที่อาการซึมเศร้าจมทุกข์ของนางเอกที่ฉุดให้อนาคตทุกอย่างของเธอล่มสลาย พร้อมกับเรื่องราวรักสามเส้าที่ชวนให้คิดเรื่องผิดทางศีลธรรมระดับหนึ่ง แต่ที่เด่นสุดของเรื่องคืองานภาพที่สวยมากจนเหนือกว่าทุกอย่างในเรื่อง ตัวหนังอาจจะไม่ถึงกับสนุกมากเพราะบทของนางเอกทำตัวน่ารำคาญได้สมบทบาทจนน่าหงุดหงิดกับการกระทำของนางตลอดเรื่อง แต่ก็แนะนำให้ลองรับชมกันดูครับ

The Sky Is Everywhere หนังรักวัยรุ่นจากงานสร้างของ apple TV+ ที่เล่าเรื่องราวความรักอันมืดหม่นของสาววัยรุ่นแรกแย้มที่อมทุกข์ไปกับการเสียพี่สาวไป จนทำให้ชีวิตตัวเองดิ่งจมลงไปเรื่อยๆ และละทิ้งพรสวรรค์ด้านดนตรีกับอนาคตของตัวเธอไปจนหมดสิ้น ความยาวหนัง 1 ชั่วโมง 40 นาที

หนังจากนิยายชื่อเดียวกันของนักเขียน Jandy Nelson ซึ่งเป็นผลงานเปิดตัวของเธอ แล้วก็ไปเตะตาเข้ากับสตูดิโอ A24 ที่ทำ Euphoria ซีรีส์วัยรุ่นดังของ HBO ผลงานเรื่องนี้ได้ผู้กำกับ Josephine Decker ที่ค่อนข้างโนเนมมาเป็นผู้สร้าง ซึ่งก็เป็นผลงานแนววัยรุ่นรักที่ไม่ได้โรแมนติกนัก แต่เน้นไปที่เรื่องราวการสูญเสียคนที่รักจนจิตใจพัง จนทำลายชีวิตของสาววัยรุ่นแรกแย้มคนหนึ่งไป เรื่องย่อ เลนนี่กับเบย์ลี่สองพี่น้องที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกันอย่างมาก เธออาศัยอยู่กับลุงกับยายที่เลี้ยงพวกเธอมาหลังแม่ของเธอเสียชีวิตไป เลนนี่มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรี ส่วนเบย์ลี่ถนัดด้านการแสดง ชีวิตของทั้งคู่ดำเนินไปด้วยดี แต่แล้ววันหนึ่งเบย์ลี่พี่สาวก็เกิดหัวใจหยุดเต้นขณะกำลังซ้อมบทละคร นั่นทำให้เลนนี่ใจสลายหายไปจากโรงเรียน และจมดิ่งกับความทุกข์ที่เธอเสียพี่สาวไป จนเมื่อเธอกลับมาเรียนอีกครั้งก็ได้พบกับโจ หนุ่มที่มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีเช่นกันซึ่งนี่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเธออีกครั้ง

หนังเรื่องนี้เป็นหนังรักวัยรุ่นก็จริง แต่ก็ไม่ได้มาตามสูตรหนังวัยรุ่นทั่วไป เพราะเปิดมาก็แหวกแนวให้นางเอกของเราจมทุกข์อยู่การสูญเสียพี่สาวไป ซึ่งอาการหมกหมุ่นทางจิตจนเหมือนเป็นโรคซึมเศร้าของเธอก็คือสิ่งที่เราจะได้พบเจอตลอดการรับชมเรื่องนี้ แม้ว่าจะมีเรื่องรักแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ แต่ประเด็นหลักของเรื่องนี้คือการที่สาววัยรุ่นคนหนึ่งรู้สึกไร้ที่พึ่งพาทางใจ แม้จะมีลุงกับยายเลี้ยงมา แต่เธอกลับโทษว่าทั้งสองคนนี้มีส่วนทำให้พี่สาวของเธอตาย ซึ่งตัวละครของเลนนี่จะเป็นสาวที่ชีวิตจมทุกข์ผสมกับความเกรี้ยวกราดอาละวาดไปทั่วกับทุกคน จนผู้ชมต้องรู้สึกรำคาญคาแรกเตอร์ที่เหมือนผีบ้าของเธอมากพอตัวเลย แต่นั่นก็ทำให้หนังเรื่องนี้มีจุดเด่นแปลกๆ ที่แตกต่างจากหนังวัยรุ่นทั่วไปค่อนข้างมาก

แม้นางเอกจะเป็นแนวร้ายๆ แต่แน่นอนว่านี่ยังเป็นหนังรักอยู่ ในเรื่องเธอจะได้พบกับโจหนุ่มที่มีพรรสวรรค์สาวกรี๊ดทั้งโรงเรียนมาสนใจในตัวเธอ ซึ่งก็เป็นความรักครั้งแรกของเลนนี่ที่เธอเองก็วางตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าผู้ชายพยายามเข้ามาหาเธอเพื่ออะไร ซึ่งถ้ามีแค่โจเรื่องนี้ก็คงธรรมดาไป ตัวเรื่องยังมีโทบี้แฟนของพี่สาวเธอที่ตายไปมาเกี่ยวข้องด้วย แล้วก็กลายเป็นความสัมพันธ์แปลกๆ ที่เหมือนรักสามเส้าก็ไม่ใช่ แต่ก็คล้ายๆ เพราะเรื่องทำให้โทบี้กับเลนนี่คนจิตใจพังๆ สองคนมาเยียวยากันจนเผลอใจมีความสัมพันธ์ทางกายในระดับหนึ่ง ซึ่งก็ไปกระตุ้นความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นของสาวบริสุทธิ์อย่างเล่นนี่ ตัวเรื่องดำเนินไปแบบทั้งสองคนรู้ว่าผิด แต่ก็ห้ามใจไม่ได้ ก็กลายเป็นนางเอกของเรื่องนี้คือสาวนอกจะทำตัวร้ายๆ แล้ว ยังเหมือนเป็นคนโลเลจับปลาสองมือเรื่องความรักอีกด้วย แต่บทก็ไม่ได้ถึงกับทำให้เธอเป็นคนเลวขนาดนั้น เรียกว่ามีการปูที่มาที่ไปในความสัมพันธ์แต่ละครั้งให้คนดูเชื่อว่าเธอทำไปเพราะมีเหตุผลจริงๆ

แม้พล็อตเรื่องจะแปลกจนเป็นจุดเด่นแล้ว แต่ที่เด่นเกินหน้าพล็อตเรื่องก็คืองานภาพที่สวยสุดๆ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับดนตรีด้วยในระดับหนึ่ง อาจจะไม่เยอะมากแค่ก็มีส่วนสำคัญกับเรื่องราว เมื่อตัวหนังถึงฉากที่ต้องใช้ดนตรีเดินเรื่อง ฉากในเรื่องจะถูกเปลี่ยนไปแบบกึ่งๆ แฟนตาซีพร้อมด้วยงานภาพสวยแปลกคล้ายฉากในมิวสิควิดีโอ แต่ก็ไม่ถึงกับตัดภาพไปมาแบบนั้น ซึ่งงานภาพที่ออกมากับฉากดนตรีทุกอย่างคือดีงาม จนถ้าเรื่องนี้ทำแนวดนตรีล้วนๆ ออกมาโดยไม่ได้เน้นปัญหาจมทุกข์ของนางเอกก็อาจจะเป็นหนังแนวดนตรีที่มีฉากสวยที่สุดอันดับต้นๆ ที่มีการสร้างมาเลย และไม่ใช่ฉากดนตรีที่สวย แต่ทุกฉากที่เรื่องราวดำเนินไปก็มีมุมกล้องการถ่ายทำที่สวยงามมากไม่แพ้กัน ยิ่งบ้านของนางเอกอยู่ในป่า ฉากที่ถ่ายออกมาจึงเป็นภาพแนวธรรมชาติสวยๆ ให้ได้ดูกันตลอดเรื่อง

playinone

ยูฟ่าสล็อต

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *