ชื่อเรื่องThe Raincoat Killer
เรตติ้ง6.3
นักแสดงKim Hee Sook,Park Myung Sun
จำนวนตอน3 ตอน

รีวิวหนัง The Raincoat Killer Netflix

รีวิวหนัง The Raincoat Killer Netflix สารคดีที่เล่าถึงเรื่องราวฆาตกรต่อเนื่องสุดโหดจากประเทศเกาหลี บน Netflix นั้นไม่ได้มีเพียงแค่ภาพยนตร์หรือซีรีส์ให้เราได้รับชมเท่านั้น แต่ยังมีสารคดีอีกมากมายให้เราได้รับชมเพื่อความสนุกสนานและความรู้มีทั้งสารคดีเกี่ยวกับธรรมชาติสารคดีเกี่ยวกับสัตว์โลกสารคดีเกี่ยวกับอัตชีวประวัติบุคคลสำคัญหรือแม้กระทั่งสารคดีเกี่ยวกับเหตุการณ์สุดสะเทือนใจที่เคยเกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์อย่างเช่นสารคดีที่เราจะมาแนะนำในวันนี้เป็นสารคดีที่เล่าเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องสุดโหดคนหนึ่งจากประเทศเกาหลีที่ก่อเหตุหลายต่อหลายครั้ง

จนชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วทั้งโลกและเป็นที่รู้จักกันในชื่อของฆาตกรเสื้อกันฝนนั่นก็คือสารคดีเรื่อง The Raincoat Killer สารคดีเรื่องนี้ถือว่าสามารถทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียวด้วยรูปแบบการนำเสนอที่แตกต่างออกไปนั่นก็คือใช้วิธีการให้หลายคนจากหลายฝ่ายมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นขนานกันไปและมาบรรจบกันเพื่อตามล่าหาฆาตกรให้สำเร็จฆาตกรต่อเนื่องนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเนื่องจากเขานั้นเป็นฆาตกรต่อเนื่องคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศเกาหลีใต้ยุคใหม่

รูปแบบการสังหารที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมมีการคาดการณ์เอาไว้ว่าเขาอาจจะเคยลงมือฆ่าคนถึง 100 คนเลยทีเดียวเพียง แต่ที่สามารถนับได้นั้นมีเพียงแค่ 21 คนเท่านั้น แต่จำนวนนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นตัวเลขที่มากแล้วสำหรับฆาตกรต่อเนื่องโดยเฉพาะในประเทศที่ไม่ค่อยมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น

เรื่องราวและรูปแบบการถ่ายทอดในสารคดีเรื่อง The Raincoat Killer

The Raincoat Killer จะเล่าถึงเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องคนแรกในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ยุคใหม่เขามีชื่อว่ายองซอลชายหนุ่มที่ภายนอกก็เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปเขาทำงานเป็นศิลปินก่อนจะผันตัวเข้าสู่เส้นทางอาชญากรรมการก่อเหตุฆาตกรรมที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายผิดมนุษย์มนาช่วงเวลาที่เขาก่อเหตุนั้นอยู่ในระหว่างปี 2003 ถึง 2004 วิธีการฆ่าของเขานั้นโหดเหยมเป็นอย่างมากเนื่องจากใช้ค้อนทำมือทุบไปยังเหยื่อจนกว่าจะเสียชีวิต

หลังจากที่เริ่มมีการเสียชีวิตมากยิ่งขึ้นตำรวจก็พยายามหาเบาะแสและสืบคดีเพื่อตามจับคนร้าย แต่ก็ไม่ง่ายเลยแม้แต่น้อยด้วยความชาญฉลาดของเขาทำให้ผู้คนทั้งเมืองหวาดกลัวและตำรวจทั้งกลมต้องปั่นป่วนสารคดีจะเปิดบทสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสืบคดีดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนิติเวชที่ได้เข้าไปทำคดีในย่านคนรวยแล้วมีการเกิดเหตุฆาตกรรมคล้ายกันในกรุงโซลจนทำให้เธอนั้นได้เชื่อมโยงเหตุการณ์จนทราบว่าเป็นฝีมือของฆาตกรคนเดียวกันหลังจากนั้นก็จะมีตัวละครที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมกับเรื่องราวมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นตำรวจสืบสวนสอบสวนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหยื่อ

ก็ตามสารคดีเรื่องนี้จะไม่ได้ดำเนินเรื่องราวเป็นเส้นตรงหรือจำลองเหตุการณ์ให้เราได้เห็นภาพ แต่อย่างใด แต่จะพาเราไปทำความรู้จักกับประเทศเกาหลีใต้ทั้งสังคมและการทำงานของตำรวจโดยจะนำเสนอเรื่องราวขนานกันไปทั้งสองด้านก่อนจะนำมาบรรจบกันที่คดีฆาตกรรมดังกล่าวเพื่อร่วมมือกันหาคนร้ายให้สำเร็จเป็นการตีแผ่สังคมในมุมสีเทาของประเทศเกาหลีใต้เราจะเห็นได้ชัดว่ามีการสัมภาษณ์ประนามไปถึงการทำงานของตำรวจในช่วงเวลานั้นอย่างตรงไปตรงมา

ความรู้สึกหลังรับชมสารคดีเรื่อง The Raincoat Killer

The Raincoat Killer เป็นสารคดีที่ทำออกมาได้ดีจนเต็มไปด้วยความสนุกสนานความตื่นเต้นและความลึกแทบจะไม่แตกต่างอะไรกับการดูซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนหรือแนวอาชญากรรมเลยแม้แต่น้อยสามารถนำเสนอเรื่องราวในรูปแบบใหม่ที่เล่าเรื่องราวขนานกันไปแล้วสามารถนำเอามาบรรจบกันได้แบบกำลังพอดีด้วยตัวเรื่องราวที่น่าสนใจอยู่แล้วเนื่องจากเป็นฆาตกรต่อเนื่องคนแรกในเกาหลีใต้ประกอบกับมีการสัมภาษณ์คนที่มีความเกี่ยวข้องและสามารถตีแผ่สังคมในยุคนั้นออกมาได้อย่างตรงไปตรงมามีเหตุการณ์จำลองประกอบทำให้เรานั้นยิ่งรู้สึกอินไปกับเรื่องราวทั้งหมดได้ไม่ยาก

แต่ส่วนที่น่าเสียดายของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือไม่ได้นำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวฆาตกรที่มีความน่าสนใจเท่าที่ควรส่วนใหญ่แล้วจะเน้นการนำเสนอบทสัมภาษณ์ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่าทำให้ถึงแม้ว่าเราจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตัวฆาตกรมากยิ่งขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกเข้าถึงหรือเข้าใจเขาบ้างขึ้นกว่าเดิม แต่อย่างใดความที่สารคดีไม่ได้พาเราลงลึกไปยังก้นบึ้งของจิตใจฆาตกรและไม่ได้นำเสนอในมุมมองของจิตวิทยารวมไปถึงประวัติส่วนตัวไม่เห็นแม้กระทั่งหน้าของฆาตกรด้วยซ้ำไปทำให้น่าเสียดายเป็นอย่างมากที่เราไม่สามารถวิเคราะห์ต่อได้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงลงมือก่อเหตุถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

แม้ว่าจะเข้าใจได้ว่าเป็นการหลีกเลี่ยงการถูกฟ้องร้องทางกฎหมายก็ตามเนื่องจากฆาตกรดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่ถึงถูกขังในคุกรอวันประหารก็ตามสิ่งที่สามารถทำได้ดีก็คือการสื่ออารมณ์ของผู้ที่มีประสบการณ์จริงที่มาให้สัมภาษณ์ยิ่งเราฟังพวกเขาพูดยิ่งทำให้เรารู้สึกขนลุกมากยิ่งขึ้นไม่เพียงเท่านั้นเรายังจะได้เห็นพัฒนาการของแต่ละคนด้วยว่าพวกเขานั้นเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวได้อย่างไรและมันส่งผลต่อชีวิตพวกเขาอย่างไรบ้างถือเป็นสารคดีแนวความรู้ที่เราสามารถรับชมได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีภาพจากเหตุการณ์จริงหรือฉากโหดร้ายสยองขวัญ แต่อย่างใด

ตัวอย่างหนัง The Raincoat Killer

รีวิว หนัง The Raincoat Killer บางส่วนจาก playinone

The Raincoat Killer ฆาตกรเสื้อกันฝน ล่าฆาตกรต่อเนื่องเกาหลี สารคดีจาก Netflix กับการตามล่าฆาตกรต่อเนื่องคนแรกในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ยุคใหม่ กับการสังหารโหดด้วยค้อนทำมือ ฆ่าคนเท่าที่นับได้กว่า 21 คน และอาจจะเคยลงมือถึง 100 คน สารคดีเรื่องนี้จะพามาดูการทำงานของฝ่ายต่างๆ และตีแผ่เรื่องราวในด้านต่างๆ ของสังคมว่ากว่าที่จะจับฆาตกรคนนี้ได้ ต้องสูญเสียอะไรไปบ้าง

ยูยองชอล หรือ Raincoat Killer ฆาตกรต่อเนื่องที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาหลี ผู้หันเหจากเส้นทางของการเป็นศิลปินสู่อาชญากรรมที่โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ ลงมือก่อเหตุช่วงปี 2003-2004 ในสารคดีชุดนี้ก็จะค่อยๆ เล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ทั้งฝ่ายสืบสวน การตามหาเบาะแส เชื่อมโยงต่างๆ เพื่อจับคนร้าย แต่บอกเลยว่าฆาตกรรายนี้ ทำเอาปั่นป่วนไปทั่วทั้งกรุงโซล

ตัวสารคดีเองจะเริ่มจากการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เช่นฝ่ายนิติเวชหญิง ที่ได้เริ่มเข้าไปทำคดีฆาตกรรมในย่านคนรวย แต่แล้วก็ดันเกิดเหตุฆาตกรรมที่คล้ายๆ กันนี้ไปทั่วทั้งกรุงโซล และจะค่อยๆ มีตัวละครที่เกี่ยวข้องโผล่เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งฝ่ายสืบสวน หรือตัวของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหยื่อ

ในส่วนนี้ ตัวของสารคดีจะไม่ได้ดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง แต่จะค่อยๆ พาเราไปทำความรู้จักกับสังคมของเกาหลี และการทำงานของตรวจสมัยนั้น เหมือนกับนำเสนอสองด้านที่ขนานกันไป จนมันมาบรรจบกันที่คดีที่น่าจะคล้ายคลึงกัน และหลายๆ ฝ่ายก็ต้องร่วมมือกันหาตัวคนร้ายตัวจริงให้ได้

ความน่าสนใจมันอยู่ที่ว่า นอกจากตัวคนร้ายจะเป็นฆาตกรต่อเนื่องคนแรกในเกาหลี เขายังมีวิธีการฆ่าและลงมือได้โหดเหี้ยม ฆ่าไปหลายศพ ในอีกด้านหนึ่งก็เป็นการตีแผ่สังคมในมุมเทาๆ ของเกาหลีในยุคนั้น จากปากของผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดี ทำให้เราได้เห็นมุมมองหลายๆ มุมและพบว่าเขากล้าที่จะนำเสนอ เช่นการสัมภาษณ์นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของเกาหลี ที่ประณามการทำงานของตำรวจในยุคนั้นแบบตรงๆ ว่าไร้น้ำยา หรือการไปสัมภาษณ์ผู้กำกับตำรวจหญิง ที่ดูแลคดีและต้องการจะช่วยเหลือหญิงบริการทางเพศ แต่ต้องมาเจอกับคดีฆาตกรต่อเนื่อง

และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือผู้ให้ข้อมูลสัมภาษณ์ โปรไฟเลอร์คนแรกของเกาหลีใต้ ซึ่งโปรไฟเลอร์นั้น ถ้าเคยดูหนังสืบสวนก็จะคุ้นเคยกันดี คนที่ทำงานตำแหน่งนี้จะทำหน้าที่วิเคราะห์สิ่งต่างๆ เพื่อสร้างโปรไฟล์ที่น่าจะเป็นและตรงกับฆาตกรมากที่สุดจนจับคนร้ายได้ และการทำงานในฐานะโปรไฟเลอคนแรกแห่งเกาหลีใต้ก็น่าสนใจ ในยุคที่เทคโนโลยี กับวัฒนธรรมยังไม่ทันสมัยเท่าปัจจุบัน

นอกจากจะเป็นการสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องฝ่ายต่างๆ เอามาเรียงร้อยกันแบบไม่ได้เป็นเส้นตรงมาก ประกอบกับฉากจำลองที่ทำขึ้นมาใหม่ มันเลยเหมือนกับการที่เราดูซีรีส์แนวสืบสวน ไม่ค่อยรู้สึกว่าเรากำลังดูสารคดีอยู่ แถมจำนวนตอนมีเพียง 3 ตอน เผลอแปบเดียวก็สามารถดูจนจบแล้ว

สิ่งที่ทำได้ดีมากในสารคดีชุดนี้เลยก็คือ การสื่อถึงอารมณ์ของผู้ที่ประสบมาแบบเรียลๆ จนเรารู้สึกขนลุก และยิ่งดูจนจบเราก็จะเห็นถึงพัฒนาการของเจ้าหน้าที่ในเรื่อง อย่างฝ่ายนิติเวชหญิงที่เธอต้องทำการนำนิ้วของศพที่กำลังเละ มาหาลายนิ้วมือ จนในตอนท้ายเธอได้กลายเป็นหัวหน้าหน่วยและผู้เชี่ยวชาญด้านลายมือ หรือตลกร้ายที่เกิดขึ้นกับหัวหน้าหน่วยสืบสวนเคลื่อนที่ที่ตั้งใจทำคดี แต่กลับถูกลดขั้นเพราะสื่อ

กลับกัน ในการนำเสนอทางด้านของฝั่งฆาตกรหรือคดีที่เกิดขึ้น ก็มีความละเอียดและน่าติดตามในระดับหนึ่ง ยิ่งเรารู้เรื่องของฆาตกรคนนี้ยิ่งทำให้คิดว่าน่าเหลือเชื่อ ยังกับเซ็ตฉากในซีรีส์ แต่มันดันเป็นเรื่องจริง แต่ทว่าน่าเสียดายที่ตัวสารคดี ไม่ได้ลงลึกไปถึงก้นบึ้งจิตใจฆาตกร ไม่ได้นำเสนอใแง่ของมุมมองด้านจิตวิทยา หรือประวัติส่วนตัว แถมหน้าของฆาตกรในสารคดียังถูกปิดอีกด้วย คาดว่าสาเหตุที่ต้องทำแบบนี้ เพื่อป้องกันทางด้านการฟ้องร้องทางกฏหมาย เพราะปัจจุบัน ตัวฆาตกรคนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู๋ในคุก รอวันประหารอยู่

รายละเอียดอื่นๆ ที่น่าสนใจของฆาตกร นอกจากจะใช้อาวุธค้อนทำมือ ฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยม ทุบจนสมองไหล หรือการลงมือล่อเหยื่อโสเภณีมาเชือดที่ห้องแล้วหั่นศพ พวกข้อมูลที่ว่าฆาตกรกินเนื้อคน อะไรพวกนี้ กลับไม่ถูกหยิบมานำเสนอเท่าไหร่ ค่อนข้างน่าเสียดาย จะเน้นไปที่อารมณ์ ความรู้สึก และข้อมูลจากคนฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือได้รับผลกระทบกับคดีมากกว่า

เราจะไม่ได้เห็นฉากฆาตกรรมจากเหตุการณ์จริง ไม่มีฉากโหดๆ หรือภาพศพแหวะๆ ถ้าหากใครกังวลเกี่ยวกับฉากพวกนี้ก็สบายใจหายห่วง และเรตผู้ชมของสารคดีชุดนี้อยู๋ที่ 16+ ไม่ได้รุนแรงมาก เพียงแค่มีฉากประกอบให้เข้ากันกับเรื่องราวที่คนต่างๆ เล่าออกมาเท่านั้น แต่แค่นี้มันก็ทำให้เราจิตนาการภาพได้แล้วก็คิดว่า ดีแล้วล่ะที่มันไม่ให้เราได้เห็นฉากพวกนั้น เพราะการลงมือของฆาตกรมันโหดเหี้ยมจริงๆ

playinone

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *